Skip to main content

นายยืนยง

 

ชื่อหนังสือ : คนรักผู้โชคร้าย

ผู้แต่ง : อัลแบร์โต โมราเวีย

ผู้แปล : ธนพัฒน์

ประเภท : เรื่องสั้นแปล

จัดพิมพ์โดย : สำนักพิมพ์เคล็ดไทย พิมพ์ครั้งแรก ตุลาคม 2535

 

ในวรรณกรรมหลายเรื่องมีการกล่าวถึงเซ็กส์ในหลายรูปแบบ และหลายเจตนารมต่างกันออกไป และเซ็กส์ในเจตนารมของนักเขียนแต่ละคนก็เป็นเซ็กส์ที่เดินทางมาพร้อมกับความหมาย มีนัยยะสะท้อนไปทั่วทิศทาง ตั้งแต่เซ็กส์ที่มีนัยยะไปถึงเรื่องการเมือง เรื่องการกดขี่ทางเพศ เรื่องการแสวงหาตัวตนภายใน หรือแม้กระทั่งเซ็กส์ที่สะท้อนไปถึงนัยยะทางสังคม แต่เรื่องเซ็กส์เหล่านี้มักไม่มุ่งเน้นที่จะกระตุ้นทางกามารมณ์ และเรามักไม่ขนานนามวรรณกรรมที่กล่าวถึงเซ็กส์อันยอกย้อนซ่อนเงื่อนเหล่านี้ว่า วรรณกรรมแนวอีโรติก

 

คงไม่ต้องกล่าวถึงสังคมการอ่านแบบไทยที่มักเหมารวมเรื่องเซ็กส์ให้เป็นเรื่องลามก ไร้ศีลธรรม ต้องแอบอ่านหรือต้องกลายเป็นหนังสือต้องห้าม เนื่องจากเราจะมาดูกันว่า “เซ็กส์” ในวรรณกรรม โดยเฉพาะผลงานรวมเรื่องสั้น “คนรักผู้โชคร้าย” ของ อัลแบร์โต โมราเวีย เล่มนี้ จะสื่อไปถึงเจตนารมชนิดใด และเป็นไปได้มากน้อยเพียงไร ที่เมื่อวรรณกรรมกล่าวถึงเซ็กส์และบทเข้าพระเข้านางแล้ว จะไม่กระตุ้นให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์คล้อยตามตัวละครในเรื่องได้

 

ก่อนที่จะกล่าวถึงเรื่องสั้นของโมราเวีย ขออ้างถึงทฤษฎีจิตวิเคราะห์ของฟรอยด์ ที่ได้มาจากหนังสือ

ลัทธิมาร์กซ์กับจิตวิเคราะห์” (Marxism and Psycho – Analysis) สีชมพู เป็นผุ้แปลและเรียบเรียง

เป็นหนังสือเก่าที่จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์วลี เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2524 ที่เขียนไว้ว่า

 

เนื้อหาหลักที่สำคัญประการหนึ่งของทฤษฎีจิตวิเคราะห์ก็คือ เบื้องหลังความคิดและการกระทำทุกอย่างที่เราคิดว่ารู้สึกตัวนั้น แท้จริงแล้วล้วนแต่เป็นการทำงานของกระบวนการที่เราไม่สามารถจะรู้สึกตัว (Unconscious process) ซึ่งอยู่ในส่วนของจิตใจที่เราเรียกว่า “จิตใจระดับไร้สำนึก” นั่นเอง

 

ฟรอยด์อธิบายคุณลักษณะของจิตไร้สำนึกด้วยว่า จิตใจส่วนนี้เป็นแหล่งรวมของความรู้สึกต่าง ๆ ที่เคยเกิดขึ้นครั้งหนึ่งในอดีต แล้วกลับถูกแปรเปลี่ยนให้กลายเป็นเรื่องที่เราไม่อาจจะรู้สึกตัวได้เมื่อกาลเวลาผ่านล่วงเลยไป ด้วยเหตุนี้ฟรอยด์จึงให้น้ำหนักอย่างมากต่อกระบวนการของจิตไร้สำนึกว่า กระบวนการนี้มีบทบาทสำคัญในการหล่อหลอม ดัดแปลงและมีอิทธิพลต่อความคิดและการกระทำทั้งหลายที่อยู่ในระดับจิตสำนึกของคนเรา (สังเกตว่า ฟรอยด์ ใช้คำว่า “จิตใจระดับไร้สำนึก” โดยเลี่ยงไม่ใช้คำว่า “จิตใต้สำนึก” (sub-conscious) เพราะมันส่อถึงจิตใจบางส่วนโดยเฉพาะมากเกินไป และแสดงกิจกรรมทางสมองน้อยเกินไป—จากเชิงอรรถบทที่ 1ข้อ 4)

 

เราต่างรู้แล้วว่า ฟรอยด์ได้ให้น้ำหนักเนื้อหาของสัญชาตญาณทางเพศเป็นพิเศษ มากจนกระทั่งพูดได้ว่าทุกการกระทำและทุกพฤติกรรมของเราล้วนมีสาเหตุมาจากสัญชาตญาณทางเพศทั้งสิ้น ขณะที่ฟรอยด์ได้ให้ทฤษฎีไว้เช่นนั้นในฐานะนักวิชาการ อัลแบร์โต โมราเวีย ในฐานะนักเขียน เขาได้ใช้สัญชาตญาณทางเพศเป็นกระจกสะท้อนให้เห็นถึงยุคสมัยแห่งความไม่แยแส ที่แสดงให้เห็นถึงภาวะวิกฤตทางจิตวิญญาณของมนุษย์ในยุคสมัยของเขา

 

เรื่องสั้นทั้ง 5 เรื่องที่บรรจุในหนังสือเล่มนี้ ต่างแสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมทางเพศที่มีจุดมุ่งหมายอย่างเลื่อนลอย เนื่องจากสอดร้อยเข้ากับจุดมุ่งหมายอันไร้แก่นสารของชีวิต และในความไร้แก่นสารบรรดามีเหล่านั้น โมราเวียได้แสดงทัศนะอย่างเข้มข้นผ่านพฤติกรรมทางเพศ เพื่อเน้นย้ำให้เห็นสภาวะของตัวตนที่ซุกซ่อนอยู่ภายใน

 

ในเรื่องสั้น ชื่อ ฆาตกรรมอำพราง ที่ตัวละครผู้ตกเป็นเหยื่อคือ หญิงวัย 50 เศษผู้ถูกล่อหลอกให้เข้าร่วมในงานเลี้ยงโดยชายหนุ่ม 5 คน ต่างแสร้งเยินยอหล่อนในความสวยงามที่มีอยู่เต็มเปี่ยมแม้วัยจะล่วงเลยมาถึงปูนนี้ ซึ่งตรงข้ามกับความจริงอย่างสิ้นเชิง พวกเขาลวงหล่อนให้มาร่วมดื่มกันลำพังในห้องลับ และพยายามยั่วยวนหล่อนด้วยถ้อยคำลามก สุดท้ายพวกเขาพยายามกระชากชุดราตรีของหล่อนออกเพื่อพวกเขาจะบรรลุถึงความบันเทิงในเกมนี้ หน้า 40 เขียนไว้ว่า

 

สองคนช่วยกันยึดแขนเธอไว้ ขณะที่สามคนที่เหลือช่วยกันดึงชุดเธอลงมาถึงเอง เผยให้เห็นหน้าอกที่เหลืองซีด หย่อนยานเป็นถุง

พระเจ้า หล่อนน่าเกลียดอะไรอย่างนี้” มิเกลลิอุทาน

คนอื่น ๆ กำลังหัวเราะร่าเริง จากการเห็นภาพเปลือยที่ไม่น่าดูและโกรธเกรี้ยว พวกเขากำลังพยายามถอดเสื้อผ้าให้หลุดพ้นจากตะโพกของเธอ

 

ก่อนที่หล่อนจะถูกกระชากเสื้อผ้าออก หล่อนกำลังเคลิบเคลิ้มไปว่า ตัวเองนั้นเป็นสตรีเปี่ยมเสน่ห์มากเสียกระทั่งชายหนุ่มทั้งหลายอดใจไม่ไหว หล่อนออกจะเมาสักหน่อย และเมื่อถูกกระตุ้นถูกยั่วยวนด้วยคารมปลิ้นปล้อน หล่อนยิ่งเชื่อมั่นในสรีระของตัวเอง แต่เมื่อพวกเขากระชากเสื้อผ้าหล่อนออก ร่างเปลือยของหล่อนที่เปิดเผยขึ้นนั้น ได้เปิดพื้นที่ให้หล่อนได้ตระหนักถึงความจริงข้อสำคัญของชีวิต และราวกับได้ตื่นขึ้นอีกครั้ง หล่อนคิดหนีไปจากที่นี่ด้วยความอับอาย

 

การเปลื้องเสื้อผ้าให้เห็นถึงเนื้อสรีระที่โมราเวียเขียนขึ้นในเรื่องสั้นนี้ เป็นไปเพื่อแสดงให้เห็นถึงการปอกเปลือกตัวตนของตนเอง ที่แท้แล้วมันคือความเปล่ากลวง น่าอับอาย น่าอดสูเสียจนต้องหนีไปให้พ้น รวมถึงกระบวนการของเกมตุ๋นของหนุ่มทั้งห้าคนนั้น ก็เป็นไปเพื่อสนองตอบความบันเทิงชั่วครู่ยาม และไร้แก่นสารอย่างยิ่ง ทั้งนี้ตัวละครที่เป็นชายหนุ่มทั้งห้าก็ตระหนักในข้อนี้ดี

 

ยังมีเรื่องสั้นอีกเรื่องหนึ่ง ที่กล่าวถึงการเปลื้องผ้าเพื่อนำไปสู่การแสดงให้เห็นถึงสภาวะเปล่ากลวงไร้แก่นสาร นั่นคือ เรื่อง ทางเปลี่ยว

 

ตัวละครหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่เป็นชนชั้นกลาง ซึ่งให้บังเอิญเกิดรถเสียระหว่างทางในเวลามืดค่ำ ชายหนุ่มผู้คอยหาจังหวะแสดงสัญชาตญาณทางเพศกับหญิงสาวได้ชวนหล่อนให้เดินไปด้วยกัน เพื่อขอน้ำสักถังหนึ่งจากกระท่อมชาวนาที่อยู่ไกลออกไปจากถนน เพื่อมาเติมหม้อน้ำรถจะได้เดินทางต่อ

 

เมื่อหญิงสาวอยู่ในกระท่อมชาวนา ขณะชายหนุ่มต้องเดินไปตักน้ำ หล่อนถูกหญิงชาวนาและลูก ๆ ผู้อดอยาก ยากจนปล้นเอารองเท้า ถุงน่อง เสื้อคลุม พฤติกรรมนี้แสดงให้เห็นถึงการปลดเปลื้องตัวตนของตนเองที่มีแต่ความไร้แก่นสาร โดยหล่อนไม่รู้เลยว่า ชายหนุ่มที่จ้องหาโอกาสจะจูบหล่อนนั้นก็มีชะตากรรมไม่ต่างกัน เขาถูกปล้นเช่นเดียวกับหล่อน ในหน้า 27 เขียนไว้ว่า

 

ทั้งสองตัวสั่นด้วยความหนาว ความสนใจทั้งหมดพุ่งไปที่การหลีกเลี่ยงกรวดอันแหลมคมและโคลนหนา พวกเขาไม่ได้สังเกตว่า ได้มาถึงสุดทางเดินแล้ว

 

จากประโยคย่อหน้าดังกล่าว โมราเวียได้แสดงให้เห็นอีกว่า แม้กระทั่งตัวตนของตนเองได้ถูกปอกเปลือกออกจากสิ้นจนพบแต่ความเปล่ากลวงแล้วนั้น เรายังไม่อาจจะมีแก่นสารขึ้นมาได้ เนื่องจากเราไม่รู้ตัวเลยว่าได้เดินมาสุดทางแล้ว

 

รวมเรื่องสั้น คนรักผู้โชคร้าย เล่มนี้ ต่างก็ได้บรรจุไว้ซึ่งเรื่องราวคล้าย ๆ กับที่ได้กล่าวมาแล้ว และสำหรับผู้อ่านคนใดที่อ่านแล้วทำให้นึกถึง วรรณกรรมแนวเอ็กซิสเตนเชียลิสท์ หรือ คนนอก ของ ชาร์ตร์ขึ้นมา ในส่วนของคำนำสำนักพิมพ์เขียนไว้ว่า โมราเวียเขียนนวนิยายแนวนี้ก่อนที่ชาร์ตร์จะเขียน La Nausee (อ้วก) เป็นเวลา 9 ปี และก่อน คนนอก 13 ปี นอกจากนี้ โมราเวียยังไม่เคยอ่านทฤษฎีจิตวิเคราะห์ของฟรอยด์อีกด้วย

 

โมราเวียกล่าวว่า แนวคิดที่มีอิทธิพลต่องานเขียนของเขาดูเหมือนจะได้แก่ความสัมพันธ์ของมนุษย์ที่มีต่อความเป็นจริง เขาเชื่อว่า “กามารมณ์เป็นรูปแบบความสัมพันธ์กับความเป็นจริงรูปแบบหนึ่งซึ่งเก่าแก่ที่สุดและไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย”

 

ส่วนสาเหตุที่การอ่านบทเข้าพระเข้านางในวรรณกรรมที่กล่าวถึงเซ็กส์โดยไม่มีรู้สึกว่าถูกกระตุ้นทางเพศนั้น นอกจากจะเป็นเรื่องเฉพาะตัวแล้ว ยังมีการเลือกใช้ภาษาและน้ำเสียงที่นักเขียนใช้ในการนี้อีกด้วย

โมราเวียเป็นนักเขียนที่เลือกจะเลี่ยงถ้อยคำที่ส่อเจตนายั่วยุกามารมณ์ หรือไม่ก็เน้นย้ำให้เกิดอารมณ์ของความเบื่อหน่ายสะอิดสะเอียนมากกว่าจะเป็นอารมณ์รัญจวน เหมือนกับภาพยนตร์ที่ฉายให้เห็นฉากร่วมรักกันอย่างต่อเนื่องยาวนาน จนดูเป็นเรื่องไร้สาระ เฟ้อเฝือน่าเบื่อหน่าย กระทั่งไม่ก่ออารมณ์ทางเพศต่อผู้ชม

อย่างนี้นับเป็นกลวิธีสำคัญอย่างหนึ่งสำหรับนักเขียนที่ใช้ “เซ็กส์” เป็นเครื่องมือในการอธิบายทัศนะของนักเขียนผ่านวรรณกรรมของเขา

 

ใครที่สนใจประวัติของอัลแบร์โต โมราเวีย ขอคัดลอกจากหนังสือเล่มนี้มาให้อ่านกัน

 

อัลแบร์โต โมราเวีย เกิดที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 1907 เมื่ออายุ 9 ขวบ เขาเป็นวัณโรคที่กระดูกขา ต้องเจ็บป่วยทรมานต่อเนื่องกันนานถึง 9 ปี สาเหตุนี้ทำให้เขาเรียนไม่จบชั้นเตรียมอุดม แต่ก็ได้ใช้เวลาให้หมดไปกับการอ่านหนังสือทุกอย่างที่ขวางหน้า เขาเริ่มเขียนหนังสือตั้งแต่อายุ 8-9 ขวบ และฝึกฝนเรื่อยมาจนอายุ 16 ปี เว้นว่างไป 2 ปีในช่วงเข้ารับการรักษาตัวในสถานพักฟื้น พอออกมาก็ลงมือเขียนอย่างจริงจัง

 

Gli indifferenti (1929) นวนิยายเรื่องแรกของเขา ประสบความสำเร็จสูงยิ่ง ได้รับคำชมเชยว่ามีความลุ่มลึกทางจิตวิทยาและสามารถเจาะทะลวงมายาภาพทางโลกออกมาได้อย่างหมดจด

 

การเป็นนักต่อต้านเผด็จการในสมัยมุสโสลินีทำให้เขาถูกหมายหัว จำต้องลดความรุนแรงในงานเขียนหรือเลี่ยงไปใช้นามแฝง ในปี 1943 เขาหลับภัยไปอาศัยอยู่กับชาวนาในชนบทหลายเดือน สำนึกทางสังคมและอิทธิพลความคิดลัทธิมาร์กซ์ซึมซ่านเข้าสู่หน้าวรรณกรรมของเขา เขานำเอาตัวละครที่เป็นชาวและผู้ใช้แรงงานเข้ามาไว้ในนวนิยาย La Romana (1949) ซึ่งได้กลายเป็นหนังสือขายดีในตลาดอังกฤษและอเมริกา (ฉบับภาษาไทยใช้ชื่อ นางกลางโรม แปลโดย เลิศ กำแหงฤทธิ์รงค์)

 

ในช่วงทศวรรษที่ 1950 เขาหันหลังจากลัทธิมาร์กซ์มามองปัญหาสังคมด้วยสายตาของนักวิชาการ ช่วงนี้เขาเขียนเรื่องสั้นดี ๆ ไว้หลายเรื่อง ซึ่งภายหลังนำมารวมไว้ในเล่ม Racconti ramani ฝีมือการเขียนในท่วงทำนองรายงานข่าวและการใช้แก่นเรื่องเดียวกันสร้างตัวละครและสถานการณ์ได้หลากหลาย ทำให้นักวิจารณ์จำนวนมากลงความเห็นพ้องกันว่า ศักยภาพของโมราเวียจะเปล่งพลังสูงสุดออกมาเมื่อเขาเขียนหนังสือภายในกรอบโครงสร้างของเรื่องสั้น

 

โมราเวียเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจในอพาร์ทเมนต์ที่มองออกไปเห็นแม่น้ำไทเบอร์ เมื่อวันที่ 26 กันยายน 1990 สิริอายุได้ 82 ปี.

 

 

บล็อกของ สวนหนังสือ

สวนหนังสือ
 ชื่อหนังสือ : เคล็ดกลอน เคล็ดแห่งอหังการ ผู้เขียน : ประไพ วิเศษธานี จัดพิมพ์โดย : สำนักพิมพ์ทะเลหญ้า พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2536 ไปเจอหนังสือเก่าสภาพดีเล่มหนึ่งเข้าที่ตลาดนัดหนังสือใกล้บ้าน เป็นความถูกใจที่วิเศษสุด เนื่องจากเป็นหนังสือที่คิดว่าหายากแล้ว ไม่เท่านั้นเนื้อหายังเป็นตำราทางการประพันธ์ เหมาะทั้งคนที่เป็นนักเขียนและนักอ่าน นำมาตัดทอนให้อ่านสนุก ๆ เผื่อว่าจะได้ใช้ในคราวบังเอิญ เคล็ดกลอน เคล็ดแห่งอหังการเล่มนี้ ผู้เขียนใช้นามปากกา ประไพ วิเศษธานี ซึ่งไม่เป็นที่คุ้นสักเท่าไร แต่หากบอกว่านามปากกานี้เป็นอีกสมัญญาหนึ่งของนายผี อัศนี พลจันทร ล่ะก็…
สวนหนังสือ
นายยืนยง    ชื่อหนังสือ : อาถรรพ์แห่งพงไพร ผู้เขียน : ดอกเกด ผู้แปล : ศรีสุดา ชมพันธุ์ ประเภท : นวนิยายรางวัลซีไรต์ พิมพ์ครั้งที่ 1 ตุลาคม 2549 จัดพิมพ์โดย : สำนักพิมพ์เสมสิกขาลัย กลับบ้านสวนคราวที่แล้ว ตู้หนังสือยังคงสภาพเดิม ละอองฝุ่นเหมือนได้ห่อหุ้มมันให้พ้นจากสายตาผู้คน ไม่ก็ผู้คนเองต่างหากเล่าที่ห่อหุ้มตัวเองให้พ้นจากหนังสือ นอกจากตู้หนังสือที่เงียบเหงาแล้ว รู้สึกมีสมาชิกใหม่มาเข้าร่วมขบวนความเหงาอีกสามสิบกว่าเล่ม น่าจะเป็นของน้องสาวที่ขนเอามาฝากไว้ ฉันจึงจัดเรียงมันใหม่ในตู้ใบเล็กที่วางอยู่ข้างกัน ดูเป็นบ้านที่หนังสือเข้าครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่…
สวนหนังสือ
นายยืนยง ชื่อหนังสือ : เจ้าหญิงน้อย (A Little Princess) ผู้เขียน : ฟรานเซส ฮอดจ์สัน เบอร์เน็ตต์ (Frances Hodgson Burnett) ผู้แปล : เนื่องน้อย ศรัทธา ประเภท : วรรณกรรมเยาวชน พิมพ์ครั้งที่ 3 กรกฎาคม 2545 จัดพิมพ์โดย : แพรวเยาวชน ปีกลายที่ผ่านมา มีหนังสือขายดีติดอันดับเล่มหนึ่งที่สร้างกระแสให้เกิดการเขียนหนังสืออธิบาย เพื่อตอบสนองความสนใจผู้อ่านต่อเนื่องอีกหลายเล่ม ทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิเคราะห์เอย ด้านมายาจิตเอย ทำให้หลายคนหันมาสนใจเรื่องความคิดเป็นจริงเป็นจัง หนังสือเล่มดังกล่าวนั่นคงไม่เกินเลยความคาดหมาย มันคือ เดอะซีเคร็ต ใครเคยอ่านบ้าง?…
สวนหนังสือ
นายยืนยง ผู้เขียน : เรวัตร์ พันธุ์พิพัฒน์ ประเภท : รวมเรื่องสั้น พิมพ์ครั้งที่ 1 สิงหาคม 2551 จัดพิมพ์โดย : สำนักพิมพ์ในดวงใจ ชวนอ่านเรื่องสั้นมหัศจรรย์ ปลายกันยายนจนถึงต้นเดือนตุลาคมปีนี้ ข่าวสารที่ได้รับค่อนไปทางรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตสถาบันการเงินของสหรัฐที่ส่อเค้าว่าจะลุกลามไปทั่วโลก ทั้งตลาดเงิน ตลาดทุน หุ้นร่วงรูดเป็นประวัติการณ์ ชวนให้บรรดานักเก็งกำไรอกสั่นขวัญแขวน ไม่กี่วันจากนั้น รัฐบาลที่นำโดย นายกรัฐมนตรี นายสมชาย วงค์สวัสดิ์ ซึ่งนั่งอยู่ในตำแหน่งได้ไม่กี่วัน ก็ได้ใช้อำนาจทำร้ายประชาชนอย่างไร้ยางอาย ตลอดวันที่ 7 ตุลาคม 2551…
สวนหนังสือ
นายยืนยง นวนิยายเรื่อง : บ้านก้านมะยม สำนักพิมพ์ : นิลุบล ผู้แต่ง : ประภัสสร เสวิกุล อาขยาน เป็นบทท่องจำที่เด็กวัยประถมล้วนมีประสบการณ์ในการท่องจนเสียงแหบแห้งมาบ้างแล้ว ทุกครั้งที่แว่วเสียง ... แมวเอ๋ยแมวเหมียว รูปร่างประเปรียวเป็นนักหนา หรือ มานี มานะ จะปะกระทะ มะระ อะไร จะไป จะดู หรือ บ้าใบ้ถือใยบัว หูตามัวมาใกล้เคียง เล่าท่องอย่าละเลี่ยง ยี่สิบม้วนจำจงดี ฯลฯ เมื่อนั้น..ความรู้สึกจากอดีตเหมือนได้ลอยอ้อยอิ่งออกมาจากความทรงจำ ช่างเป็นภาพแสนอบอุ่น ทั้งรอยยิ้มและไม้เรียวของคุณครู ทั้งเสียงหัวเราะและเสียงกระซิบกระซาบจากเพื่อน ๆ ตัวน้อยในวัยเยาว์ของเรา…
สวนหนังสือ
นายยืนยง ชื่อหนังสือ : แม่ทั้งโลกเป็นเช่นนี้ ผู้เขียน : ชมัยภร แสงกระจ่าง ประเภท : รวมเรื่องสั้น พิมพ์ครั้งที่ 1 มีนาคม 2551 จัดพิมพ์โดย : สำนักพิมพ์ คมบาง เมื่อคืนพายุฝนสาดซัดเข้ามาทั่วทิศทาง กระหน่ำเม็ดราวเป็นคืนแห่งวาตะภัย มันเริ่มตั้งแต่หกทุ่มเศษ และโหมเข้า สาดเข้า ถ้าเป็นหลังคาสังกะสี ฉันคงเจ็บปางตายเพราะฝนเม็ดหนานัก มันพุ่งแรงเหลือเกิน ต่อเนื่องและเยือกฉ่ำ ฉันลุกขึ้นมาเปิดไฟ เผชิญกับความกลัวที่ว่าบ้านจะพังไหม? ตัดเรือน เสา ที่เป็นไม้ (เก่า) ฐานรากที่แช่อยู่ในดินชุ่มฉ่ำ โถ..บ้านชราภาพจะทนทานไปได้กี่น้ำ นั่งอยู่ข้างบนก็รู้หรอกว่า ที่ใต้ถุนนั่น น้ำคงเนืองนอง…
สวนหนังสือ
 นายยืนยง  ชื่อหนังสือ : มาลัยสามชาย ผู้เขียน : ว.วินิจฉัยกุล ประเภท : นวนิยาย พิมพ์ครั้งที่ 1 กรกฎาคม 2550 จัดพิมพ์โดย : บริษัท ศรีสารา จำกัด หนังสือที่ได้รับรางวัลดีเด่นในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ จะส่งผลกระทบหรือสะท้อนนัยยะใดบ้าง เป็นเรื่องที่น่าจับตาอีกเรื่องหนึ่ง แม้รางวัลจะประกาศนานแล้ว แต่เนื้อหาในนวนิยายจะยังคงอยู่กับผู้อ่าน เพราะหนังสือรางวัลทั้งหลายมีผลพวงต่อยอดขายที่กระตือรือร้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะประเภทวรรณกรรม เรื่องสั้น นวนิยาย กวีนิพนธ์ โดยในปีนี้ นวนิยายเรื่อง มาลัยสามชาย ผลงานของ ว.วินิจฉัยกุล ได้รับรางวัลดีเด่น ประจำปี 2551…
สวนหนังสือ
นายยืนยง        ชื่อหนังสือ : อาหารรสวิเศษของคนโบราณ      ผู้เขียน : ประยูร อุลุชาฎะ      ฉบับปรับปรุง : กันยายน 2542      จัดพิมพ์โดย : สำนักพิมพ์แสงแดดใครที่เคยแก่อายุเข้าแล้ว พออากาศไม่เหมาะก็กินอะไรไม่ถูกปาก ลิ้นไม่ทำหน้าที่ซึมซับรสอันโอชาเสียแล้ว อาหารจึงกลายเป็นเรื่องยากประจำวันทีเดียว ไม่เหมือนเด็ก ๆ หรือคนวัยกำลังกินกำลังนอน ที่กินอะไรก็เอร็ดอร่อยไปหมด จนน่าอิจฉา คราวนี้จะพึ่งแม่ครัวประจำตัวก็ไม่เป็นผลแล้ว ต้องหาของแปลกลิ้นมาชุบชูชีวิตชีวาให้กลับคืนมา…
สวนหนังสือ
นายยืนยง ชื่อหนังสือ : แม่ใหม่ที่รัก ( Sarah, Plain and Tall ) ผู้เขียน : แพทริเซีย แมคลาแคลน ผู้แปล : เพชรรัตน์ ประเภท : วรรณกรรมเยาวชน พิมพ์ครั้งแรก มีนาคม 2544 จัดพิมพ์โดย : แพรวเยาวชน หากใครเคยพยายามบ่มเพาะให้เด็กมีนิสัยรักหนังสือ รักการอ่าน ย่อมเคยประสบคำถามจากเด็ก ๆ ของท่านทำนองว่า หนังสือจำเป็นกับชีวิตมากปานนั้นหรือ? เราจะตายไหมถ้าไม่อ่านหนังสือ? หรือเราจะมีชีวิตอยู่ได้ โดยที่ไม่อ่านหนังสือจะได้ไหม? กระทั่งบ่อยครั้งผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ ก็อาจหาคำตอบที่สมเหตุสมผลมาตอบอย่างซื่อสัตย์ได้ไม่ง่ายนัก เป็นที่แน่นอนอยู่ว่า ผู้ใหญ่บางคนมีคำตอบในใจอยู่แล้ว ต่างแต่ว่า…
สวนหนังสือ
นายยืนยง ชื่อหนังสือ : ก่อนเริ่มโรงเรียนวิชาหนังสือ (สูจิบัตรในงาน ‘หนังสือ ก่อนและหลังเป็นหนังสือ’ ) จัดพิมพ์โดย : สำนักพิมพ์ผีเสื้อ สัปดาห์ก่อนไปมีปัญหาเรื่องซื้อหนังสือกับพนักงานขายของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ด้วยเพราะหนังสือที่จะซื้อมีราคาไม่เป็นจำนวนถ้วน คือ ราคาขายมีเศษสตางค์ เป็นเงิน 19.50 บาท เครื่องคิดราคาไม่ยอมขายให้เรา ทำเอาพนักงานวิ่งถามหัวหน้ากันจ้าละหวั่น ต้องรอหัวหน้าใหญ่เขามาแก้ไขราคาให้เป็น 20.00 บาทถ้วน เครื่องคิดราคาจึงยอมขายให้เรา เออ..อย่างนี้ก็มีด้วย เดี๋ยวนี้เศษสตางค์มันไร้ค่าจนเป็นแค่สัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์เท่านั้นเอง หนังสือเล่มดังกล่าวนั้น…
สวนหนังสือ
นายยืนยง     ชื่อหนังสือ : ช่อการะเกด 45 (กรกฎาคม – กันยายน 2551) ประเภท : นิตยสารเรื่องสั้นและวรรณกรรมรายสามเดือน บรรณาธิการ : สุชาติ สวัสดิ์ศรี จัดพิมพ์โดย : พิมพ์บูรพา ใครที่เคยติดตามอ่านช่อการะเกด นิตยสารเรื่องสั้นรายไตรมาส เล่มเดียวในประเทศไทยในขณะนี้ ย่อมมีใจรักในงานเขียนเรื่องสั้นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ไม่ว่าผลงานเรื่องสั้นที่ปรากฏ “ผ่านเกิด” ภายใต้รสนิยมบรรณาธิการนาม สุชาติ สวัสดิ์ศรี นั้นจะต้องรสนิยมคนชื่นชอบเรื่องสั้นมากน้อยเพียงใด ก็ไม่ค่อยปรากฏกระแสเสียงวิพากษ์วิจารณ์แต่อย่างใดเลย ทั้งที่ตอนประชาสัมพันธ์เปิดรับต้นฉบับเรื่องสั้น…
สวนหนังสือ
นายยืนยง วันที่ 8 กรกฎาคม 2551 คณะกรรมการคัดเลือกรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ได้พิจารณาคัดเลือกหนังสือรวมเรื่องสั้นที่ส่งประกวด ประจำปี 2551 จำนวน 76 เล่ม มีมติเป็นเอกฉันท์ให้เสนอหนังสือรวมเรื่องสั้น 9 เล่ม ดังนี้   1.ข่าวการหายไปของอาริญาและเรื่องราวอื่น ๆ ของ ศิริวร แก้วกาญจน์ 2.เคหวัตถุ ของ อนุสรณ์ ติปยานนท์ 3.ตามหาชั่วชีวิต ของ ‘เสาวรี’ 4.บริษัทไทยไม่จำกัด ของ สนั่น ชูสกุล 5.ปรารถนาแห่งแสงจันทร์ ของ เงาจันทร์ 6.เราหลงลืมอะไรบางอย่าง ของ วัชระ สัจจะสารสิน 7.เรื่องบางเรื่องเหมาะที่จะเป็นเรื่องจริงมากกว่า ของ…