Skip to main content

หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับการรณรงค์ การกระทำที่ไม่รุนแรงต่อเพศหญิง แต่น้อยคนนักจะเข้าใจและเห็นด้วยกับการที่ได้ทราบข่าว การกระทำรุนแรงต่อเพศพิเศษนั่นคือเกย์ หรือกะเทย ที่เกี่ยวข้องกับผองเพื่อนชาวเรา ชาน่าได้อ่านจดหมายฉบับหนึ่งที่ส่งถึงเว็บเกย์โรมีโอ (เว็บไซต์สังคมเกย์ที่ขึ้นชื่อของโลก) โดยคนที่เขียนมาเล่าเป็นเกย์ ที่ออกค่ายอาสากับหมอ เกี่ยวกับโรคเอดส์ ซึ่งมีโอกาสได้ไปหลายประเทศต่าง ๆ ขอแปลจดหมายฉบับนี้เพื่อผู้อ่านค่ะ
\\/--break--\>

 


สวัสดี ผมทำงานกับหมออาสา ที่มีโอกาสได้ไปเยือนหลายประเทศ ทุกที่ที่ผมไป มันเป็นเขตที่ไม่ต้อนรับเกย์และผิดต่อกฎหมาย

ในประเทศกัวเตมาลา เขาจะไม่อนุญาตให้คนที่เป็นเกย์เข้า เพราะถือว่าสังคมเกย์เป็นกลุ่มชนที่ต่ำต้อย ทำให้มีผลกระทบต่อสังคม ส่วนเพศอื่นนั้นมีสิทธิและเสรีภาพอย่างเห็นได้ชัด

ประเทศ คาร์กิสถาน ที่ผมไปเยี่ยมคนคุก ภายในคุกเป็นเหมือนปราสาท โดยให้พวกเกย์อยู่ภายใต้ปราสาทแห่งนี้ ที่เต็มไปด้วยกองขยะ และที่แย่ไปกว่านั้น พวกเกย์จะถูกถอนฟันออกหมดเพื่อเป็นที่ระบายความใคร่ของคนในคุกที่ต้องการ (ผมเข้าใจว่า เวลาสำเร็จความใคร่ทางปากฟันจะได้ไม่ทำร้ายอวัยวะเพศชายของพวกเค้า ซึ่งการร่วมเพศถือเป็นเรื่องปกติในคุกนี้)

ส่วนประเทศเอธิโอเปีย ผมได้พบเกย์สามคน ที่ได้รับโทษเพื่อจำคุก พวกเขาได้รับโทษโดยให้อยู่ในกรงที่ตากแดด ด้วยอุณหภูมิ 55 ดีกรี เป็นเวลาหนึ่งเดือน ผมได้จ่ายเงินร้อยเหรียญเพื่อให้พวกเขาเป็นอิสระ
 

พวกเราจำเป็นต้องเฉลิมฉลองความเป็นอิสระ เสรี แม้จะเป็นเพียงกลุ่มน้อยนักที่จะช่วยกัน แต่การกระทำความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับพวกเราก็เป็นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง


คาร์ลอส

Gays in Prison – An aid worker's view (18 August 2009)

 



ชีวิตของเกย์ กะเทยในเรือนจำนั้น เกิดขึ้นกับทุกประเทศ โดยมีเรื่องจริงที่เกิดขึ้น เมื่อคุกแบ่งเขตกั้นระหว่างชายกับหญิง คุณน่าจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหากชายอยู่กับชายในคืนวันอันหนาวเหน็บและอารมณ์ที่เปล่าเปลี่ยว ธรรมชาติและความใคร่เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ แม้อีกฝ่ายจะไม่อยากสนองนี๊ด แต่สุดท้ายก็ยิ่งกว่า โดนข่มขืน จนบางครั้งเกิดเป็นรักแรกพบกันก็มี หลายคนคงพอจะทราบข่าวเรื่อง “รักเธอที่เรือนจำ” (ชื่อเหมือนนิยายแต่เป็นเรื่องจริงที่ชาน่าแต่งให้) หนุ่มเกย์คนหนึ่งพบรักกับชายในคุก เค้าและเค้า ใช้ชีวิตฉันท์สามีภรรยา “คู่กรรม” กันในเรือนจำ จนวันหนึ่งอีกฝ่ายจำต้องพรากจากกัน เพราะเค้าได้อิสระ หลุดพ้นจากเรือนจำ แต่ด้วยความรักที่โหยหา อาทร อยากกลับไปใช้ชีวิตกับ “เค้า นช. คนเดิม” จึงต้องหาวิธี ด้วยการซื้อยาเสพติด เพื่อจะได้มีโอกาสให้ถูกจับและจะได้ไปกินข้าวแดงในคุก เพื่อโอกาสที่จะได้เจอชายคนที่เค้ารัก แต่สุดท้ายเรื่องราวระหว่างชายสองชายนั้นจะเป็นอย่างไร ชิวิตจริงมันก็ยิ่งกว่านิยาย ชายทั้งสองก็ไม่มีโอกาสได้อยู่ร่วมกัน เพียงแค่พบกันบางช่วงเวลา นี่ล่ะหนอความรักหรือความหลงทำให้คนเราทำทุกอย่างได้ ชื่นชมกับความตั้งใจของเค้าและเค้าจริง ๆ

อยู่ในคุกอย่าเผลอก้มเก็บสบู่เชียวนะแก ไม่งั้นเสร็จโจร โจรปล้นกายในครากำหนัดหนัก …

รายการทีวี ไลฟ์สไตล์เคยถ่ายทำ กะเทย(ชราภาพ)คนหนึ่งที่เค้าใช้ชีวิตอยู่ในคุกมานาน จนเค้าถือว่านั่นล่ะชีวิตของเค้า ด้วยพรสวรรค์และการมองโลกในแง่ดี ใช้ชีวีมีสุขทุกสถานการณ์ ทำให้ กะเทยคนนี้ เป็นที่รักของผองเพื่อนในเรือนจำ เธอเป็นเอ็นเตอร์เทนเนอร์มืออาชีพ ทั้งร้องรำ ทำเพลง เต้นรำ หนำใจคนชม ช่วยผ่อนคลายความเครียดของเพื่อน ๆ ในเรือนจำได้เป็นอย่างดี บอกแล้วว่า “ความดี” ของเค้าก็มีเพื่อสีสันจรรโลงโลก

การกระทำความรุนแรงต่อเพศพิเศษที่พบเห็นทั่วไป ประเด็นหลักใหญ่ ๆ คือการเหยียดเพศ และสังคมของกลุ่มหลากหลายทางเพศ หรือ กลุ่มรักร่วมเพศ โดยบางประเทศถือเป็นกฎหมายที่ออกมาบังคับ เพื่อสังคม ไม่ว่ากลุ่มหลากหลายทางเพศจะทำอะไรก็ถือว่า เป็นสิ่งที่ขัดต่อกฎหมายทั้งสิ้น ดังนั้นความเป็นธรรมจึงหามีไม่ในหมู่ชนชาวเรา

รายการ “ผู้หญิงถึงผู้หญิง” รณรงค์แทบทุกวันเกี่ยวกับ การต่อต้านความรุนแรงต่อสตรีเพศ แต่ด้วยความโชคร้ายและไม่มีใครช่วยเพื่อชาวเรา ที่บังเอิญ (เสียเหลือเกิน) ไม่มีรายการ ผู้หญิงถึงกะเทย หรือ ผู้ชายถึงเกย์ ให้เป็นกระบอกเสียงช่วยรณรงค์เรื่องการต่อต้านความรุนแรงต่อสังคมที่มีต่อชาวรักร่วมเพศ

ก็ได้แต่ภาวนาและอยากเห็นโลก และสังคม ทุกชนชั้นยอมรับ “ความเป็นกลุ่มหลากหลายทางเพศ” ให้มนุษย์ทุกคนมีสิทธิและเสรีภาพเท่าเทียมกัน อย่าได้กีดกันในเรื่องเพศ หรือความชอบทางเพศ แก่กันนักเลย

หรือพวกเราชาวหลากหลายทางเพศ ไม่ได้เป็นมนุษย์รึไง ?

แต่ก็ไม่เป็นไร แม้ความฝันและความจริงมันต่างกันขนาดไหน แต่ความเข้าใจและความพึงพอใจนั้นมันอยู่ที่จิตและวิญญาณ เป็นอะไรก็ได้ ขอให้เป็นคนดี มีสุขทุกวันของโลกมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดา เกิดมาชาติหน้าฟ้าใหม่ คงได้เป็นอะไรที่ตรงกายและใจ ไม่ขัดแย้งทางกายและจิต ที่คิดจะ “เกิด” มาเป็น หากมีโอกาส

 

 

 

บล็อกของ ชาน่า

ชาน่า
  หากใครเคยชมภาพยนตร์ไทยของจีทีเอช โดย บริษัท จอกว้าง ฟิล์ม จำกัด เมื่อปีที่แล้ว “หนีตามกาลิเลโอ” หลายคนคงจะประทับใจเรื่องราวและการต่อสู้ ความน่ารักและการใช้ชีวิตของสองสาวไทยที่ตัดสินใจไปเที่ยวและทำงานต่างประเทศ หนึ่งคนไปเพราะอกหัก อีกหนึ่งไปเพราะสอบตก อยากเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมใหม่  แต่สำหรับฉัน “ชาน่า” หนีไปเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ที่ตัดสินใจบินออกนอกประเทศ ความรู้สึกไม่ได้แตกต่างอะไรไปมากกว่านางเอกของหนังเรื่องนี้นักเลย  สุข เหงา เศร้า คละเคล้ากันไปยิ่งกว่าละครเสียอีก    แต่ชาน่าไม่ใช่นางเอกของเรื่อง แค่เกย์ที่หลายคนรู้จัก บ้างรู้จักฉันดี…
ชาน่า
หลายคนอาจจะเคยสงสัยเหมือนกับชาน่าว่าในสมัยก่อนวิถีชีวิตของเกย์เป็นเยี่ยงไร วันนี้จึงหาคำตอบและเป็นความต้องการทราบส่วนตัวด้วยค่ะ เพราะว่ามีโอกาสได้ดูละครเรื่องสาปภูษา จึงใคร่รู้เยี่ยงนักว่าประวัติความเป็นมาและสังคม กฎระเบียบบ้านเมืองเป็นเช่นใด ข้าใคร่รู้ ณ บัดเดี๋ยวนี้
ชาน่า
  เมื่อช่วงพักร้อนที่ผ่านมา ชาน่าและเพื่อน ๆ ได้พบปะสังสรรค์กันตามประสาเฮฮาปาร์ตี้ เพื่อนๆ ต่างไม่เจอกันมานาน มีทั้งเพื่อนชายจริง หญิงแท้และชาวหลากหลายทางเพศ
ชาน่า
"กระจกจ๋า บอกซาร่าหน่อยนะ ว่าผู้ชายคนเนี้ยะ...ใช่มะ ใช่มะ...." มาแล้ว มาแล้ว มาแล้ว จิ๋ม ซาร่า ท้าสัมผัส... มากับอัลบั้มชุดที่สอง "คนร่วมฝัน"   หากคุณได้ยินเพลงนี้ หลายคนอาจจะสงสัยว่าเป็นหญิงจริงหรือหญิงเทียม ไม่ว่าคุณจะมองผู้หญิงคนนี้อย่างไร ชาน่ามองเธอว่า เธอคือผู้ชายที่กลายเป็นผู้หญิงที่น่าค้นหาอีกคน ข้อความจากเพลง “เกินห้ามใจ” ของนักร้องสาวประเภทสองที่ชื่อจิ๋ม ซาร่า หรือชื่อที่ใช้ในวงการ “สุจินต์รัตน์ ประชาไทย” ผู้ชายทั้งแท่งที่ผันตัวเองให้เป็นผู้หญิงทั้งทิ่ม เธอผู้นี้เป็นคนไทยคนแรกที่กล้าไปผ่าตัดแปลงเพศไกลถึงดินแดนเมืองผู้ดี “อังกฤษ”
ชาน่า
  การมองโลกในแง่ร้าย การมีประสบการณ์ที่โหดร้าย หรืออยู่ในสังคมที่แย่ อาจจะทำให้คนในสังคมนั้นมีพฤติกรรมที่ไม่น่ารัก สังคมที่ไม่มีศีลธรรม สังคมทุนนิยมที่เอาแต่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยช่วยให้คนกลุ่มนั้นมีทัศนคติและพฤติกรรมที่กลุ่มคนดีเค้าไม่ทำกัน วันนี้อยากนำเสนอเหตุการณ์ และ ศัพท์ของเกย์ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับสังคมสีม่วงของเรา ถ้าหากหลีกเลี่ยงได้ สังคมเกย์ไทยจะน่าอยู่อีกเยอะเลยล่ะฮ่ะ
ชาน่า
  เกิดเป็นคนมีชื่อเสียง (.... อือ... อันที่จริงทุกคนล้วนมีชื่อเป็นของตัวเองทั้งน้านนน) ก็ลำบากทำอะไรก็เป็นเป้าสายตาของประชาชี จะกิน ดื่ม ขยับซ้ายก็เป็นข่าว ขยับขวาก็มองต่างมุม โดนรุมทำข่าวอีก เรียกได้ว่าสูญเสียความเป็นส่วนตัวมากทีเดียว เพราะนอกจากจะเป็นเครื่องมือของธุรกิจคนขายข่าว ขายเรื่องราวแล้วยังเป็นเหมือนสินค้าตัวหนึ่งทีเดียวฮ่ะ
ชาน่า
การมองโลกในแง่ดี(เกินไป) การทำดี การให้เพื่อคนที่เรารัก เคยรัก อยากรัก สุดท้ายคนนั้นกลายเป็นคนอื่นคนไกล คนไม่รู้จัก บางครั้งมันก็ยากที่จะสาธยายได้ว่า สิ่งที่เราทำไปนั้นมันเป็นไปทางทิศไหน หรือกว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ สะกดคำว่า ... สายเกินไป “โดน” กับตัวเองแล้วล่ะ
ชาน่า
  เคยคิดอยากเขียนนิยาย ที่ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริงเหมือนกัน แต่ฝีมือการเขียนยังไม่เข้าขั้น และที่สำคัญเวลายังไม่เอื้ออำนวย เพราะต้องทำงานเป็นนางแบกโกอินเตอร์ ทำงานทุกวันฮ่ะ (นางแบก คือทำงานอาชีพแบกถาด บนเรือสำราญเจ้าค่ะ) สัปดาห์นี้อยากเขียนเรื่องจริงจากประสบการณ์ของชายคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของชาน่า ที่เค้ากล้าเผยความเป็นเกย์ต่อครอบครัว ความจริงมันไม่เป็นเพียงแค่ความกล้า หากแต่เป็นสถานการณ์พาไป และอยากให้รับรู้ ยามเมื่อถึงเวลา เนื้อเรื่องและเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงจากครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีนครอบครัวหนึ่ง เรียบเรียงโดยชาน่า ล้านนา ค่ะ
ชาน่า
ปีใหม่ก้าวผ่านมาตามวันเวลาของปฎิทิน ที่ถูกกำหนดไว้ วันเดือนปี (ใหม่) เป็นแค่กาลเวลาที่คนเรากำหนด นับจากวันที่ผมลืมตาดูโลก จนถึงวันนี้ วัน เวลา และปีเป็นสิ่งที่กำหนดอายุของคนเรา ใช่มันผ่านไปแล้ว ...ผ่านไปเข้าสู่วัยกลางคน ของคน ๆ หนึ่งที่ยืนหยัดอยู่บนโลกที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปใบนี้ มีหลายสิ่งที่ดีเข้ามา มีหลายคราที่รู้สึกแย่ หลากอารมณ์ที่ตัวเองสัมผัสได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ค้นพบและรับรู้อยู่เสมอคือ... ความเป็นตัวตนที่แท้จริงภายใต้จิตสำนึก  
ชาน่า
หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับการรณรงค์ การกระทำที่ไม่รุนแรงต่อเพศหญิง แต่น้อยคนนักจะเข้าใจและเห็นด้วยกับการที่ได้ทราบข่าว การกระทำรุนแรงต่อเพศพิเศษนั่นคือเกย์ หรือกะเทย ที่เกี่ยวข้องกับผองเพื่อนชาวเรา ชาน่าได้อ่านจดหมายฉบับหนึ่งที่ส่งถึงเว็บเกย์โรมีโอ (เว็บไซต์สังคมเกย์ที่ขึ้นชื่อของโลก) โดยคนที่เขียนมาเล่าเป็นเกย์ ที่ออกค่ายอาสากับหมอ เกี่ยวกับโรคเอดส์ ซึ่งมีโอกาสได้ไปหลายประเทศต่าง ๆ ขอแปลจดหมายฉบับนี้เพื่อผู้อ่านค่ะ
ชาน่า
ชาน่าชอบอ่านทุกอย่างที่ขวางหน้าถ้าหากมีเวลา แต่ถ้าไม่มีเวลามากนักก็เลือกบางเรื่อง ที่สนใจและเกี่ยวข้อง อย่างเรื่องฮา ฮา แม้บางครั้งบอกกับตัวเองว่า “ไร้สาระน่าดู...” แต่ลึก ๆ แล้วเนื้อหาบางส่วนอาจจะให้ความบันเทิงแบบไม่ต้องคิดอะไรมากอย่างเสียไม่ได้ ลองอ่านเรื่องราวที่ชาน่าเรียบเรียงโดยได้พล๊อตเรื่องจาก เมล์ส่งต่อ แต่แต่งเติมเป็นภาษาง่าย ๆ ของชาน่านะฮะ (ดั่งเพื่อนหลายคนตั้งฉายาให้ว่า ชาน่า ปั้นน้ำเป็นตัวจนแข็ง....) ... ด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม น้อง ๆ อายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่อนุญาตให้อ่านนะคะ เป็นคอลัมน์เรต ฉ. เด็กควรอยู่ในความดูแลของผู้ปกครองด้วยค่ะ
ชาน่า
  ชีวิตความรักของเกย์น่ะหรือ... หลายคนผลักดัน ยิ่งดันยิ่งดัก ยิ่งผลักเหมือนยิ่งแบกโลก เคยมีเพื่อนของชาน่าหลายคน บอกว่า ... “ฉันเชื่อเรื่องความรักของเกย์ ...ว่าคือรักนิรันดร์” แต่ “ฉัน” กลับขอค้าน ที่ค้านในที่นี้คือ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล คนที่เชื่ออย่างนั้นหนึ่งในนั้นคือ “ฉันเอง” ชาน่า