Skip to main content

อ่านข้อถกเถียงในประเด็นเรื่องฟรีสปีช เฮทสปีช ความรุนแรง เสรีภาพในการแสดงออก ฯลฯ ของบรรดาปัญญาชนมากมาย แต่ใจกลับย้อนคิดถึงเหตุการณ์หนึ่ง ซึ่งอาจไม่เกี่ยวไม่ข้องกับเหตุการณ์ข้างต้นเลย ก็เลยลองยกมา

......

ผมไม่ค่อยจะซื่อตรงนักกับภาพภายนอกของสิ่งที่ผมเห็น

ตอนเรียนมัธยมต้น มีเพื่อนร่วมรุ่นของผมคนนึงเป็นกระเทย ท่าทางเดินหรือการพูดจาดูกระตุ้งกระติ้งยิ่งกว่าผู้หญิง

มันเป็นเรื่องสนุกมากที่พวกเราได้หยอกแหย่ในสิ่งที่เธอเป็น

ทั้งคำพูดที่ค่อนข้างจะหยาบคาย การแกล้งโดยวิ่งเข้าไปผลัก หรือทำท่าว่าจะผลักแล้วรีบโฉบหนีออกมาตะโกนหรือแสดงท่าทางเสียดเย้ยอยู่ห่างๆ

เย็นวันหนึ่งเหงาๆ เพื่อนกลับบ้านกันหมดแล้ว เห็นเธอเดินตูดบิดมาผมก็เลยเข้าไปแกล้งแหย่เธอเพื่อให้คลายเหงา

ผิดพลาดอย่างรุนแรง จังหวะหนึ่งหลังจากที่ผมพุ่งเข้าโจมตีเธอ(ผมสมมติให้ตัวเองเป็นเครื่องบินรบและเธอเป็นสัตว์ประหลาด) ผมโฉบตัวออกมาหลังจากเอาปลายแขนที่กางออกเหมือนปีกไปโดนร่างกายของเธอได้

เธอเอี้ยวตัวกลับมาคว้าคอเสื้อของผมได้ทัน (สัตว์ประหลาดได้ยื่นกรงเล็บมาคว้าเอาเครื่องบินเอาไว้)

เธอใช้เล็บข่วน เมื่อผมก้มหัวหลบคมเล็บ เธอก็ได้ใช้กำปั้นทุบรัวๆลงมาบนหัวและแผ่นหลังของผม ทุบจนผมเห็นดาว ทุบจนเจ้าของกำปั้นอ่อนแรงผมจึงดิ้นหลุดออกมาได้

ถอยห่างออกมาด้วยความมึนงงและเจ็บระบบแวบหนึ่งผมเหลือบมองไปที่ใบหน้าของเธอ หน้าเธอบิดเบี้ยวแดงกล่ำ น้ำตาเอ่อคลอเบ้าตาของเธอ ครั้งนี้ผมเจ็บตัว มันเป็นครั้งแรกที่ผมพ่ายแพ้สงครามกระจอกที่น่าอับอาย แต่เธอก็ไม่ได้ชนะ สายตาและใบหน้าของเธอไม่ได้แสดงออกถึงอาการของคนมีชัย

หลังจากนั้น ผมถอยห่างจากเธอออกมา ก็เครื่องบินรบมันได้ถูกทุบทำลายลงแล้วนี่ แล้วก็คงจะไม่มีสัตว์ประหลาดตัวไหนที่มันมีน้ำตา

หลังจากนั้นมา ไม่รู้ว่าเพราะพิษกำปั้นหรือว่าน้ำตาของเธอกันแน่ที่มันทำให้ผมไม่มองคนอย่างที่ผมเห็น แต่ทำให้ผมมองคนเป็นสิ่งที่เขาอยากจะเป็น

.....

หมายเหตุ: สเตตัสนี้ผมเขียนไว้นานแล้ว ไปคุ้ยๆออกมาปล่อยของเรียกแขก เรียกตีนในบล็อกกาซีนดู coolcoolcool


:

บล็อกของ gadfly

gadfly
ฟันธง กกต.แค่ปราม หรือให้ลึกกว่านั้นคือรักษาหน้าแสดงอำนาจเหนือชัชชาติแล้วก็จบ 
gadfly
ผมอ่านวรรณกรรมไทยแนวสะท้อนสังคมไม่เยอะนัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันมันไม่ได้ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงชีวิตของผม  ในช่วงวัยแห่งการแสวงหา (ใช้คำว่าแสวงหาแล้วอยากจะอ้วก ถ้าไม่มีเงินค่าอยู่กิน เล่าเรียนจากพ่อและแม่ ก็คงไม่มีโอกาสได้แสวงหาหรอก) มีนักเขียนสองคนที่ผมตามอ่า
gadfly
 ประยุทธ์บอกให้ประชาชนเลี้ยงไก่สองตัวเพื่อกินไข่ แต่สงสัยว่าประยุทธ์เคยเลี้ยงไก่รึเปล่า ไก่ใช่ไก่ทุกตัวที่จะออกไข่ได้ ต้องเป็นไก่แม่สาวที่อายุสี่เดือนขึ้นไปเท่านั้นที่จะสามารถออกไข่ และจะออกไปได้จนอายุประมาณสองปีหรือกว่านั้นเล็กน้อย 
gadfly
 โจน จันได ปราชญ์ชาวบ้าน ต้นแบบการรณรงค์ใช้วิถีชีวิตแบบพอเพียงสุดฮิป ขวัญใจไอดอลของคนชั้นกลาง คนเมืองกลุ่มใหญ่ ถูกพูดถึงอีกครั้งเมื่ออพยพย้ายรกรากลี้ภัยโควิดไปอยู่ศูนย์กลางประเทศทุนนิยมอย่างสหรัฐอเมริกา พูดถึงโจน จันได ก็ต้องพูดถึงบ้านดิน ที่โจนใช้ในการสร้างชื่อใ
gadfly
 พฤษภา 53 เขตอภัยทาน ได้ถูกนักศาสนา นักสันติวิธีผลักดันให้มีขึ้น 4 จุด คือ วัดปทุมฯ บ้านเซเวียร์ สำนักงานกลาง นร.คริสเตียน แล้วก็ รร.
gadfly
เสาร์อาทิตย์ ตั้งใจจะต่อเติมบ้านส่วนที่ทำค้างไว้ให้แล้วเสร็จ ต้องจ้างช่างชาวบ้านและลูกมือเป็น นร ม ปลายมาทำ เพราะงานปูนทำเองไม่ไหวแล้วช่างไม่มา ส่วนลูกมือไปเฝ้าเบ็ดตกปลาที่อ่างเก็บน้ำ เสียเวลารอ เสียหัวสองวันเต็มๆ วันหยุดด้วย
gadfly
กรณีหมุดคณะราษฎรที่ผ่านมาผมโพสต์เฟซบุ๊กเล่นๆ แบบฮาๆ แต่ก็เริ่มรู้สึกว่ามันอาจเป็นปัญหาได้เหมือนกันในเฟซบุ๊ก หลายคนเปรยว่า ที่ผ่านมาหลักฐานวัตถุทางประวัติศาสตร์ในยุคของคณะราษฎรได้ถูกเคลื่อนย้าย ทุบทำลาย หรือลดทอนความหมายคุณค่าทางประวัติศาสตร์ลงไปหลายสิ่งอย่างแล้ว จะฟูมฟายอะไรนักหนา
gadfly
============================ ปากหมาหาเรื่อง บ่นบ้า (อย่าถือสาหาสาระ) ============================