Skip to main content
 
ชั้น 10 ของอพาร์ทเม้นต์แห่งหนึ่ง 

เด็กหนุ่มอายุ 18 ปี นั่งเล่นคอมพิวเตอร์อยู่คนเดียวบนชั้นนั้น

เด็กหนุ่มเพิ่งเข้าเรียนปี 1 ที่มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง แต่วันนี้เขาขี้เกียจไปเรียน จึงนั่งเล่นคอม แชทคุยกับสาวๆ อยู่ที่บ้าน

พ่อของเขาทำธุรกิจหลายอย่าง ไม่ค่อยมีเวลาอยู่บ้านกับเขา ส่วนแม่ก็แยกทางกับพ่อไปนานแล้ว

รถฟอร์จูนเนอร์ป้ายแดงจอดอยู่ตำแหน่งที่ใกล้ลิฟท์ที่สุด ที่จอดประจำของเขา พ่อซื้อให้เด็กหนุ่มฉลองการเข้าเรียนมหาวิทยาลัย วันนี้มันจอดอยู่เฉยๆ เพราะเด็กหนุ่มไม่อยากใช้งานมันออกไปไหน เขามีเพียงนัดหมายปาร์ตี้รอบดึกกับเพื่อนๆ เท่านั้น 

เป้าหมายของวันนี้มีแค่การใช้เวลาให้หมดไปเรื่อยๆ

เด็กหนุ่มเป็นลูกชายคนเดียวของนักธุรกิจเจ้าของตึก
 
..............
 
ชั้น 4 ของอพาร์ทเม้นต์แห่งเดิม

ในห้องที่เลอะเทอะไม่เป็นระเบียบ เด็กหนุ่มอายุ 18 ปี เร่งรีบเก็บเสื้อเชิ้ตที่ตากอยู่มารีดแบบเท่าที่พอจะทำได้ด้วยตัวคนเดียว เพื่อจะออกไปเรียนให้ทันคาบเช้า 

เด็กหนุ่มเพิ่งเข้าเรียนปี 1 ที่มหาวิทยาลัยเปิดของรัฐ วันนี้เป็นวิชายาก หากเขาไม่ทันเข้าเรียนก็กลัวว่าจะตามคนอื่นไม่ทัน

พ่อของเขาเป็นครูระดับชั้นประถมอยู่ที่จังหวัดชัยภูมิ เงินเก็บจากการทำสวนเล็กๆ ของพ่อจะส่งเขาเรียนมหาวิทยาลัยให้จบ 4 ปี เขาตั้งใจใช้จ่ายอย่างประหยัด แต่บรรยากาศชีวิตที่กรุงเทพก็ไม่ได้เอื้ออำนวยนัก

เด็กหนุ่มกึ่งเดินกึ่งวิ่งผ่านหน้ารถฟอร์จูนเนอร์ป้ายแดงที่จอดอยู่เฉยๆ เขายกกระเป๋าขึ้นเหนือหัวเพื่อบังสายฝนที่เริ่มตกลงมาปรอยๆ 

เป้ามายของวันนี้มีแค่การไปให้ทันเวลา

เด็กหนุ่มเป็นผู้เช่าห้องห้องหนึ่ง
 
...............
 
ชั้น 1 ของอพาร์ทเม้นต์แห่งเดิม

ลานจอดรถที่กว้างขวาง เด็กหนุ่มอายุ 18 ปี นั่งเหม่อลอยมองฝนที่กำลังตกลงมาปรอยๆ อยู่ลำพัง

เด็กหนุ่มมอยากเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเหมือนเพื่อนวัยเดียวกัน แต่หลังจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน เขาก็ต้องออกจากบ้านที่ประเทศลาว เพื่อมาหางานทำในเมืองไทย เขาได้งานที่ต้องทำวันละ 12 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ โดยไม่มีวันหยุด

พ่อของเขาเป็นชาวนา ต้องเก็บเงินรักษาตากับยายที่ป่วย และต้องส่งน้องๆ ไปโรงเรียน

เด็กหนุ่มนั้งอยู่ตรงโต๊ะประจำ ข้างรถฟอร์จูนเนอร์ป้ายแดงที่จอดอยู่เฉยๆ เขานั่งมองดูคนใส่ชุดนักศึกษาเดินผ่านไปผ่านมาตลอดทั้งวัน เมื่อถึงเวลาครบ 12 ชั่วโมงของวันนี้ เขาก็จะได้พักผ่อน เขาเหนื่อยหน่ายกับการมีเวลา 

เป้าหมายของวันนี้มีแค่ให้เวลาผ่านไปเร็วๆ เท่านั้น

เด็กหนุ่มเป็นรปภ.ของตึก
 
 
 

บล็อกของ นายกรุ้มกริ่ม

นายกรุ้มกริ่ม
  นาทีที่ผมยืนอยู่ข้างเวที ห่างจากจุดที่แสงไฟสารพัดจะสาดส่องเป็นระยะหนึ่งก้าวเต็มๆ ผ้าม่านสีดำผืนบางๆ เท่านั้นที่ทำหน้าที่กั้นระหว่างริมฝีปากของผมกับแสงไฟด้านนอก บริเวณที่ยืนอยู่นั้นปิดมืดหมด มืดสนิทจนมองไม่เห็นแม้แต่คนที่ยืนข้างๆ และความคิดความฝันของตัวเอง ระหว่
นายกรุ้มกริ่ม
  
นายกรุ้มกริ่ม
 ชั้น 10 ของอพาร์ทเม้นต์แห่งหนึ่ง เด็กหนุ่มอายุ 18 ปี นั่งเล่นคอมพิวเตอร์อยู่คนเดียวบนชั้นนั้นเด็กหนุ่มเพิ่งเข้าเรียนปี 1 ที่มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง แต่วันนี้เขาขี้เกียจไปเรียน จึงนั่งเล่นคอม แชทคุยกับสาวๆ อยู่ที่บ้าน
นายกรุ้มกริ่ม
เห็นด้วยกับไอเดียคสช.
นายกรุ้มกริ่ม
 พร่างพรายแสง ดวงดาวน้อยสกาวส่องฟากฟ้าเด่นพราวไกลแสนไกล 22 พฤษภาคม 2558 วันคร
นายกรุ้มกริ่ม
ผมไม่เคยได้ยินชื่อของ “คฑาวุธ” มาก่อนเลย จนกระทั่งวันที่ 10 มิถุนายน 2557  ในเช้าวันที่กำลังยุ่งเหยิงอยู่กับจำนวนคนถูกเรียกและถูกจับโดยคสช.
นายกรุ้มกริ่ม
 ยุคสมัยแห่งความหวาดกลัวการรัฐประหารในประเทศไทยเมื่อ 22 พฤษภาคม 2557 เป็นการยึดอำนาจท่ามกลางบรรยากาศที่ประชาชนตื่นตัวทางการเมืองอย่างสูงสุด จึงคาดหมายได้ว่าแรงต้านจากประชาชนฝ่ายป
นายกรุ้มกริ่ม
17 เมษายน 2557 เป็นวันสุดท้ายที่มีบุคคลอ้างว่าว่าพบเห็นนาย “บิลลี่” หรือพอละจี รักจงเจริญ แกนนำชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย ที่เคลื่อนไหวต่อสู้เรื่องสิทธิที่ทำกินในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน หรือบางคนนิยามว่าเขาคือ “นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน” การหายตัวไปของคนคนหนึ่งที่ตั้งตัวเป็นฝ่
นายกรุ้มกริ่ม
ผมได้ยินชื่อลุงครั้งแรกตามสื่อ ได้อ่านเรื่องราวผ่านๆ ดูคลิปของลุง แต่ไม่ได้ตั้งใจดูนัก ผมได้ยินว่าลุงเป็นนักแปล และเป็นนักเขียนด้วย โดนคดี 112 แต่ไม่รู้ว่าลุงทำอะไร ผมได้ยินคนตั้งฉายาลุงว่า "กึ่งบ้ากึ่งอัจฉริยะ" ผม
นายกรุ้มกริ่ม
 มาเยือนเมือง “สตูล สะอาด สงบ” เป็นครั้งที่สอง หลังจากเมื่อปีกว่าๆ ที่แล้วติดสอยห้อยตามเพื่อน NGO มาดูกิจกรรม “สัญญาประชาคม” ที่คนสตูลร่วมกันแสดงพลังคัดค้านการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกที่ปากบารา แต่ครั้งนี้สดใสกว่าเดิม มาร่วมเป็นพี่เลี้ยงในกิจกรรมที่อาจารย์พานักศึกษาจากม.ทักษิณ มาลง