คุยกับสาวสวม 'กกน.ธราย อาร์ม’ รณรงค์ปล่อยสมยศ-นักโทษการเมือง

7 March, 2013 - 03:37 -- iskra

เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมามีการรณรงค์เล็กๆ ของสาวๆกลุ่มหนึ่งที่ลุกขึ้นมาถ่ายภาพในชุดที่ท่อนล่างมีเพียงกางเกงใน “ธราย อาร์ม” ซึ่งเป็นกางเกงในที่ผลิตโดยอดีตคนงานไทรอัมพ์ฯ ที่ถูกเลิกจ้างแล้วมาตั้งเป็นสหกรณ์คนงาน โดยสาวๆ กลุ่มดังกล่าวสวม กกน.เหล่านั้น ถ่ายภาพพร้อมข้อความ “No 112” “Free Somyot” และนักโทษการเมือง ที่เรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และนักโทษการเมืองคนอื่นๆ ที่ถูกคุมขังด้วยความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หรือหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ รวมทั้งคดีที่เกี่ยวเนื่องจากการชุมนุม โดยใช่เฟซบุ๊กแฟนเพจ “สำนักพิมพ์หมูหลุม” เป็นช่องทางในการเผยแพร่

อย่างไรก็ตามการรณรงค์ของพวกเธอก็ถูกตั้งคำถามอยู่พอสมควรทั้งความเหมาะสมและการสื่อความที่หลายคนอาจไม่เข้าใจนัยยะของการรณรงค์ ทั้งนี้ ประกายไฟ ได้มีโอกาสคุยกับสาวๆ ที่กลุ่มดังกล่าวเพื่อทำความเข้าใจแอ็คชั่นนี้ เช่น ทำไมต้องสวม กกน.ธรายอาร์ม ในการถ่ายรณรงค์ ทำไมต้องถ่ายแนวเซ็กส์ซี่ คิดว่าเหมาะสม ทำไมเหมือนทำเล่นๆ เป็นต้น

0000

ประกายไฟ : แต่ละคนเป็นใครกันบ้าง?

กอล์ฟ : ตอนนี้ทำงานแล้วคะ ทำกิจกรรมมาหลายรูปแบบทั้งในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เยาวชนที่ได้รับผลกระทบจาก พรก.ฉุกเฉิน ทั้งในภาคอีสานและภาคใต้ คนไร้บ้านที่คลองหลอด ที่คนน่าจะรู้จักมากที่สุดน่าจะเป็นงานด้านละคร ของประกายไฟการละครคะ

มะฟาง : ทำงานแล้วเช่นกันคะ เป็นอดีตนักกิจกรรมแนวชุมชน ที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ช่วยงาน ศูนย์ข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบเหตุสลายชุมนุมเม.ย.-พ.ค.53 (ศปช.) ช่วงที่มีการสลายการชุมนุมทำข้อมูลผู้ที่ได้รับผลกระทบคะ แล้วก็ทำกิจกรรมอยู่กับกอล์ฟในช่วงเวลาที่ว่างคะ

แฟน : ตอนนี้ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยคะ ทำกิจกรรมกับกอล์ฟมาได้ครั้งแรกคือแจกอาหารให้คนไร้บ้าน แล้วก็ทำมาเรื่อยๆ แล้วก็มารับงานเดินแบบในเวทีเสื้อแดงคะ แล้วก็ครั้งนี้เป็นครั้งที่สาม

ลูกปัด : ตอนนี้เรียนอยู่ปี 3 ธรรมศาสตร์ ทำกิจกรรมในมหาลัยเกี่ยวกับการเปิดพื้นที่เสริมในการทำกิจกรรม ทำงานร่วมกับพี่ๆแรงงานกลุ่มย่านรังสิต ลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้บ้าง ครั้งนี้ได้มาช่วยงานเป็นตากล้องด้วยเพราะชอบถ่ายรูปอยู่แล้ว

"...ต้องบอกตามตรงว่าต้องการให้คนสนใจในสิ่งที่เราทำในเรื่องที่เรารณรงค์ ไม่ว่าจะสนใจในเรื่องดีหรือไม่ดีก็ตาม อย่างน้อยขอให้สนใจมันก็บรรลุวัตถุประสงไปหนึ่งอย่างแล้ว เพราะอย่างน้อยเมื่อคนสนใจมันก็จะทำให้เกิดการถกเถียงกันต่อในสังคมได้..." – มะฟาง

ทำไมลุกขึ้นมาทำแบบนี้ ซึ่งส่วนมากคนจะมองว่าการถ่ายรูปแนวนี้แล้วปล่อยในพื้นที่สาธารณะก็เพราะอยากดัง อันนี้เป็นแบบนั้นด้วยหรือไม่ ?

กอล์ฟ : ตอบคำถามที่ว่าอยากดังรึป่าวก่อนนะคะ จริงๆ ถ้าอยากดังเราแก้ผ้าหน้าศาลแล้วก็ชูป้ายน่าจะดังกว่า ดังกว่าเยอะคะ ส่วนทำไมต้องลุกขึ้นมาทำแบบนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเรื่องพี่สมยศที่บางทีก็เป็นกระแสบางทีก็เงียบ คือกอล์ฟเคยคุยกับพี่ๆที่กลุ่ม 24 มิถุนา พี่เค้าบอกว่าอยากให้ประเด็นพวกนี้เคลื่อนไหวอยู่บ้างอย่างน้อยๆ ก็ในเฟชบุ๊ก และวิธีถ่ายรูปลงก็ง่ายและทำได้ตลอดด้วยก็เลยเลือกวิธีนี้ก่อนเป็นอันดับแรก ที่สำคัญคือทุกคนก็ทำเองได้ไม่จำเป็นต้องเป็นพวกเรา แค่ถ่ายรูปแบบที่อยากถ่ายแล้วก็แชร์ ง่ายจะตายไป

มะฟาง:  (หัวเราะ) จริง ๆ ถ้าอยากดังทำอย่างอื่นง่ายกว่านะ อีกอย่างการเป็นคนดังน่าเบื่อจะตายเพระเดี๋ยวคนในสังคมก็จะทำตัวเหมือนเป็นเจ้าชีวิตเรา ทำนั่นก็ผิด ทำนี่ไม่ได้บ้างหละ มันเลยดูน่าเบื่อไง แต่ที่เราลุกขึ้นมาโชว์เรือนร่างเพียงบ้างส่วนนั้น ต้องบอกตามตรงว่าต้องการให้คนสนใจในสิ่งที่เราทำในเรื่องที่เรารณรงค์ ไม่ว่าจะสนใจในเรื่องดีหรือไม่ดีก็ตาม อย่างน้อยขอให้สนใจมันก็บรรลุวัตถุประสงไปหนึ่งอย่างแล้ว เพราะอย่างน้อยเมื่อคนสนใจมันก็จะทำให้เกิดการถกเถียงกันต่อในสังคมได้ และที่สำคัญฟางมองว่าการที่เราทำอะไรก็ตามที่คนอื่นเขามองว่ามันไม่ดี อย่างน้อย ๆ มันก็จะนำไปสู่การพัฒนาได้ คือ ถ้าเราทำออกมาทำแล้วคนอื่นมองว่ามันไม่ดี มันจะส่งผลให้คนที่คิดว่าทำได้ดีกว่าออกมาทำและนำเสนอถึงศักยภาพของตัวเอง นั่นก็แสดงว่ามันกำลังจะเกิดการพัฒนาแล้ว

ลูกปัด : อยากดังเหรอคะ ยังไงดี เอาเป็นตอบว่าถ้าทำแบบนี้มันดังได้จริงก็ดีค่ะ เพราะสิ่งที่เราต้องการสื่อออกไปมันมีคนรับรู้ มีคนว่าบ้าง ชมบ้าง แต่สิ่งที่เขาได้เห็นด้วยมันไม่ใช่แค่รูป เราคิดต่อ หรือให้ถึงที่สุดแล้วทำไปทำต่อ ถือว่าโอเคเลยนะคะ ถ้ามันจะดังแล้วผลกระทบเป็นได้แบบนั้นจริงๆ

แฟน : ไม่ได้อยากดัง แต่อยากที่จะทำในสิ่งที่เราอยากจะทำ อย่างที่พี่มะฟางบอก คนดังน่าเบื่อจะตายค่ะ มันไม่ใช่จุดประสงค์ ในวันข้างหน้าดังไม่ดังไม่รู้ แต่ก็จะทำต่อไปและอาจร้อนแรงแบบเซ็กซี่เปิดอกกระชากใจกว่าเดิมล่ะค่ะ

“..รู้สึกว่าธรายอาร์มไม่ใช่แค่กางเกงใน แต่มันแสดงถึงสัญญะบางอย่างของการต่อสู้ ซึ่งเห็นไหมคะ แค่สงสัยว่าทำไมต้องเป็นกางเกงในของธรายอาร์ม คนที่สงสัยเขาก็ต้องหาเรื่องราวของมันบ้างล่ะค่ะ อย่างน้อยเราก็ได้สื่อเรื่องความไม่เป็นธรรมนอกจากแคมเปญหลักของงานนี้..” - ลูกปัด

ทำไมต้องใส่กางเกงในธรายอาร์ม ?

กอล์ฟ : จริงๆถ้าเรารู้จักพี่ยศ(สมยศ พฤกษาเกษมสุข)มาก่อนเราก็จะรู้นะคะว่าแกเป็นนักเคลื่อนไหวเรื่องสหภาพแรงงานช่วยเรื่องประเด็นแรงงานมาเยอะมากๆ พอดีตอนช่วงมัธยมกอล์ฟเข้ามาทำกิจกรรมได้รู้จักพี่ยศแบบไกลๆนะ รู้เรื่องการทำงานของแกจากคำบอกเล่าของพี่ๆ แรงงาน จริงๆเรื่องแรงงานนี่คนอาจจะรู้น้อยกว่าเรื่องที่แกเป็น บก.หนังสือด้วยซ้ำ

และทำไมต้องเป็นธรายอาร์ม ที่เป็นธรายอาร์มก็เพราะว่า ธรายอาร์มเองก็เกิดขึ้นมาจากการต่อสู้ของคนงานไทรอัมที่เราปฏิเสธความเกี่ยวโยงไม่ได้ นอกจากนั้นธรายอาร์มยังเป็นเครื่องหมายเป็นสัญลักษณ์ของเสรีภาพทางการผลิตของคนงาน คนงานสามารถออกมาทำการผลิตเองและขายสินค้าได้เองโดยไม่ต้องพึ่งพานายจ้าง ไม่ต้องเสียส่วนต่างค่าแรงในการผลิตให้นายทุนทั้งหลายมันคือสัญลักษณ์ของเสรีภาพ เสรีภาพของคนงาน แล้วทำไมเราจะเอาเสรีภาพของธรายอาร์มาเป็นสื่อรณรงค์เพื่อเรียกร้องเสรีภาพให้กับพี่สมยศไม่ได้  มันก็เป็นสื่อชั้นดีถึงเสรีภาพของนักโทษการเมือง จริงๆอันนี้อาจจะต้องถามกลับไปว่าทำไมเราจะใช่ธรายอาร์มเป็นสื่อไม่ได้  คนงานถูกกดขี่จากนายจ้าง ประชาชนในประเทศนี้ถูกกดขี่จากระบบอำมาตย์เมื่อคนงานหนึ่งต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งเสรีภาพของตัวเองได้ ทำไมประชาชนทั้งประเทศจะรวมกันสู้ไม่ได้ อาจจะโยงหลายชั้นหน่อย แต่เรามั่นใจว่าถ้าจะต่อสู้เรื่องพี่ยศเรื่องแรงงานนี่สำคัญและมันเป็นมิติการเคลื่อนไหวที่ทำให้ต่างชาติรู้จักแกและออกมาเรียกร้องให้แก

มะฟาง : เพราะว่าธรายอาร์มเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้ หรือหากเราต้องเลือกอะไรซักอย่างที่ต้องมาอยู่บนเรือนร่างในการรณรงค์ในครั้งนี้เราก็จะเลือกะรายอาร์มค่ะ อีกทั้งตอนที่เราคุยกันเรื่องการรณรงค์เรื่องนักโทษการเมืองหรือเรื่องต่าง ๆ ที่เราพอจะทำได้ นั้น วันนั้นจำได้ว่าพี่จิตตราก็อยู่ด้วย และก็นั่งคุยกันเล่น ๆ สนุก ๆ แชร์ความคิดกัน และพี่จิตตราแกก็น่ารักที่ช่วยสนับสนุนความคิดเราด้วยการมีน้ำใจให้เราเอากางเกงในมาใส่ด้วย

ลูกปัด : รู้สึกว่าธรายอาร์มไม่ใช่แค่กางเกงใน แต่มันแสดงถึงสัญญะบางอย่างของการต่อสู้ ซึ่งเห็นไหมคะ แค่สงสัยว่าทำไมต้องเป็นกางเกงในของธรายอาร์ม คนที่สงสัยเขาก็ต้องหาเรื่องราวของมันบ้างล่ะค่ะ อย่างน้อยเราก็ได้สื่อเรื่องความไม่เป็นธรรมนอกจากแคมเปญหลักของงานนี้ แต่ถ้าพูดกันอีกอย่างเรื่องสัญญะการต่อสู้ เราจะใช้อย่างอื่นก็ได้ แต่รู้สึกว่าถ้าเราใช้กางเกงในธรายอาร์ม และมันขายได้ด้วย พี่น้องแรงงานก็จะมีรายได้ โอเค อาจจะมองว่าเป็นการโฆษณาแฝง ไม่ผิดค่ะ แต่ถ้ามันขายได้จริง ก็จะดีใจมากถ้าพี่น้องแรงงานมีรายได้เพิ่ม 

แต่บางคนอาจจะมองว่ามันเหมือนขายกางเกงในมากกว่ารณรงค์?

กอล์ฟ : แล้วทำไมเราจะโฆษณาขายกางเกงในไม่ได้ ถ้ากางเกงในขายได้คนงานก็มีรายได้ ทำไมเราจะช่วยคนงานธรายอาร์มไปพร้อมๆกับรณรงค์เรื่องพี่สมยศและนักโทษการเมืองคนอื่นๆไปพร้อมๆกันไม่ได้ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมจะทำไม่ได้

เพราะถ้าคุณดูแล้วอยากซื้อกางเกงใน คนงานธรายอาร์มก็มีรายได้มีลูกค้าเพิ่ม ถ้าคุณแชร์รูปต่อ คนก็จะเห็นการรณรงค์มากขึ้น เอาเข้าจริงคนจะเห็นเรื่องกางเกงในหรือเรื่องนักโทษการเมืองก็เป็นประโยชน์หมดแหละคะ และเราก็รู้ก่อนนะคะว่าการจะปล่อยภาพออกไปมันจะต้องมีกระแสทั้งทางบวกและทางลบ แต่เราก็ยืนยันว่าเราจะทำคะ

มะฟาง : ไม่ว่าจะมองว่ามันจะเป็นการขายกางเกงใน หรือจะมองว่าเป็นการรณรงค์มันก็ไม่ผิดเพราะมันขึ้นอยู่กับมุมมองของคน และความเข้าใจ เพราะทุกคนมีสิทธิที่จะคิดอะไรก็ได้ แต่ฟางมองว่ายิ่งสิ่งที่เราทำนั้น ทำให้คนอื่นที่กำลังเสพงานเราโดยไม่รู้ตัวคิดได้หลากหลายได้เท่าไหร่ยิ่งดี ยิ่งคิดมากยิ่งมีการไตร่ตรอง ศิลปะไม่ควรที่จะจำกัดความคิดของคนนะ เพียงแต่เราอย่างลืมว่าเราต้องการทำอะไรและต้องการสื่ออะไรก็พอแล้ว

ลูกปัด : ถ้าขายได้จริงก็ดีสิคะ เพราะเท่ากับเราทำได้หลายๆเรื่องในครั้งเดียว โดยเฉพาะกลุ่มที่เขาคิดว่าเราขายกางเกงใน นี่แสดงว่าเขาก็ต้องสนใจและสงสัยระดับหนึ่งแล้วล่ะค่ะ จะดีใจมากถ้ากางเกงในขายได้จริงๆ เพราะพี่น้องแรงานก็จะมีรายได้ด้วย

แฟน : แสดงว่ากลุ่มของเรามีคนที่ให้ความสนใจและให้ความสำคัญในสิ่งที่เราทำออกไป อันนี้ก็ห้ามความคิดของใครไม่ได้ค่ะ ขายได้ก็ดีเขาสนับสนุนเรา เราสนับสนุนเขา

แล้วทำไมต้องถ่ายแนวเซ็กซี่ ซึ่งอาจมีบางคนมองว่าไม่เหมาะสม ไปเป็นเรื่องการสื่อเรื่องลามกเรื่องเพศไป มองเรื่องนี้อย่างไร

กอล์ฟ : ต้องถามกลับไปว่า ที่ออกมาวิจารณ์กันนี่เป็นเพราะ “ใครทำ ใครถ่าย” ด้วยรึปล่าว ถ้าเป็นเซเลปทำกันอาจจะไม่มีเสียงวิจารณ์ขนาดนี้ก็ได้ บางทีอาจจะมีแต่เสียงชื่นชมด้วยซ้ำ แต่เพียงเพราะว่าคนที่ออกมาทำตอนนี้มันเป็นคนโนเนมเป็นคนที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก มันก็เลยเป็นประเด็นขึ้นมาว่าพวกนี้อยากดังอยากโชว์รึป่าว แต่การที่เรามาทำตรงนี้มันคือการเปิดพื้นที่ให้คนตัวเล็กๆได้ออกมารณรงค์ด้วยตัวเข้าเองได้ ออกมามีพื้นที่การสื่อสารด้วยกัน เพราะทุกๆคนสามารถนำการรณรงค์ได้ไม่จำเป็นต้องเป็นเซเลปไม่จำเป็นต้องเป็นคนดัง ที่สำคัญคือคุณทำเองได้ แต่คนทั่วไปอาจจะรับไม่ได้เพราะคนทำไม่ใช่คนดัง นี้ก็เป็นคำถามเหมือนกันนะว่าเราติดกรอบการรณรงค์รีป่าวว่าคนนำ คนทำต้องเป็นคนดังเท่านั้น เอาเข้าจริงแล้ววัฒนธรรมแบบนี้มันกลายเป็นสิ่งปิดกั้นการแสดงออกของคนอื่นๆในการเคลื่อนไหวเลยนะ

ส่วนทำไมเราต้องขายความเซ็กซี่ ก็ต้องถามกลับไปว่า แล้วทำไมเราจะขายความเซ็กซี่ไม่ได้ ในเมื่อ มันเป็นเสรีภาพทางการแสดงออกของเราเอง เสรีภาพในการแสดงออกเหล่านี้นี่แหละคือสิ่งที่จะทำให้เราได้นำเสนอออกไป และคุณจะชอบหรือไม่ชอบก็ไม่มีใครว่าอะไร ชอบก็แชร์ไม่ชอบก็ด่าเท่านั้นเอง ไม่ได้บังคับใครดูเลยนะ ที่สำคัญคือมันเป็นการตัดสินใจของเราเองของพวกเราทุกคนว่าเราจะใช้ ตัวเรา ร่างกายของเรา รณรงค์เรื่องนักโทษการเมือง ไม่ใช่แค่พี่สมยศคนเดียวนี่มันแค่เริ่มต้นเท่านั้นเอง

มะฟาง : จริง ๆ เราทำใจไว้แล้วตั้งแต่แรกที่จะทำการรณรงค์แล้วว่าจะต้องเจอทั้งคนวิจารณ์สารพัดอย่าง สิ่งหนึ่งที่เราทำได้คือ ต้องเข้าใจและอดทนให้มาก ยิ่งเราเป็นคนตัวเล็กในสังคมมากเท่าไหร่  เรายิ่งจะโดนวิจารณ์มากเท่านั้น เพราะเขาจะมองว่าเราก็แค่เด็กดูไม่น่าเชื่อถือ ทำอะไรไม่คิดบ้างหละ ถ้าเป็นอย่างนั้นฟางก็ยังดีใจอยู่ถึงจะโดนวิจารณ์ดีหรือไม่ดีก็ตาม เพราะอย่างที่ได้บอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่า การที่เราทำอะไรซักอย่าง ถึงแม้คนอื่นจะมองว่ามันไม่ดี แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เกิดการถกเถียงกัน และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้ การที่เราทำแล้วคนมองว่าทำอะไรไม่คิด มันก็ยังดีกว่าคนที่มัวแต่คิดเยอะ ๆ แล้วไม่ทำอะไรเลยซักอย่างนะคะ

ลูกปัด : แล้วทำไมถึงถ่ายไม่ได้ล่ะคะ คำว่าเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมแล้ว เอาเข้าจริงเส้นมันคลุมเครือมากค่ะ ถามอีกคนเขาอาจบอกว่าโอเครับได้ ไม่เห็นเป็นไร แต่ถามอีกคนเขาก็อาจจะบอกว่ามันไม่เหมาะสม ซึ่งถ้ามันจะสื่อออกไปเป็นเรื่องเพศด้วย อันนี้เราก็โอเคค่ะเพราะถือว่าเป็นต้นทุนที่เราต้องจ่าย ซึ่งอย่างน้อยเราพอใจว่า มันไม่ได้สื่อออกไปแค่เรื่องเพศ แต่เรื่องการณรงค์ของเรามันถูกสื่อออกไปด้วย

แฟน : ชอบค่ะ เชื่อว่าหลายคนก็ชอบคะ ซึ่งมันก็สามารถดึงดูดได้ในทิศทางหนึ่ง แต่คนที่มองในแง่ลามก ก็ขอบคุณที่มองเห็นถึงเสรีภาพในเรื่องเพศ

“..ความสนุกมันจะทำให้คนเข้ามาร่วมกับเราเข้ามาเรียนรู้เรื่องที่เราอยากจะนำเสนอมากขึ้นด้วยซ้ำ..” - กอล์ฟ

มีคนเอามาเปรียบเทียบกับต่างประเทศว่าในต่างประเทศเค้ารณรงค์กันแบบจริงจังด้วยการเปลือยเลย แล้วพวกคุณจริงจังกับมันหรือไม่ ?

กอล์ฟ : ต้องถามกลับไปว่า คุณเอาอะไรมาวัดว่ามันคือการทำเล่นๆและมันจำเป็นหรอคะว่าการรณรงค์ทางการเมืองอะไรก็แล้วแต่ต้องซีเรียส หรอคะ เราทำแบบนี้เพื่อสลัดกรอบการรณรงค์แบบเก่าๆ ที่ดูซีเรียส ดราม่าออกไป จริงๆเรื่องพวกนี้มันทำให้สนุกมากได้ ความสนุกมันจะทำให้คนเข้ามาร่วมกับเราเข้ามาเรียนรู้เรื่องที่เราอยากจะนำเสนอมากขึ้นด้วยซ้ำ คือไม่จำเป็นต้องซีเรียส ดราม่า ถือผ้าดำ ประท้วง คิดใหม่ได้แล้วมั้ง

มะฟาง : แค่เราใส่กางเกงในโชว์แค่นี้เรายังโดนวิพากษ์วิจารณ์ขนาดนี้ อย่าได้พูดถึงการเปลือยกายเลยค่ะว่าบ้านเราจะรับได้เพราะถ้าเราไปเปลือยกายจริง ๆ มันยิ่งจะผิดระเบียบวัฒนธรรมอันงามของบ้านเราได้นะคะ เพราะบ้านเรานั้นผู้ดีเยอะ การที่คนอื่นมองว่าเราทำเล่น ๆ นั้น มันเป็นเรื่องที่ดีนะคะ เพราะเราต้องการให้มันออกมาเป็นอย่างนั้น ไม่ต้องการให้ดูซีเรียส และอยากให้เข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะกลุ่มหนุ่มสาวที่มองว่าเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องที่น่าเบื่อ เราอยากให้มันดูไม่น่าเบื่อ ดูไม่เคลียดจนเกินไป ค่ะ

ลูกปัด : (หัวเราะ)เมื่อสักครู่ยังถูกถามเรื่องไม่เหมาะสมอยู่เลย ตอนนี้มาถามว่าเราทำกันเล่นๆอีก ถ้าจะมองว่าทำเล่นๆก็ได้ค่ะ ยิ่งดีด้วย นั่นเพราะเท่ากับว่ามันเป็นเรื่องง่ายๆที่ใครจะทำก็ได้ เพราะในเมื่อคุณบอกว่ามันเป็นเรื่องเล่นๆ แต่ส่วนตัวคิดว่า ถ้ามันเป็นเรื่องเล่นๆจริงคงไม่มีคนออกมาโวยวายขนาดนี้หรอกคะ

แฟน : ถ้าเราทำแบบนั้น เราคงไม่ต้องตอบคำถามข้อแรกของคุณหรอกค่ะ

คิดยังไงกับเรื่องที่มีคนแสดงความคิดเห็นไปในทางคุกคามทางเพศ

กอล์ฟ :  โอ้ เรื่องพวกนี้ห้ามไม่ได้คะอย่างที่บอกเรายอมรับได้ไม่ว่ากัน ใครจะเอาไปชักว่าวก็ไม่ว่ากันคะ

แต่จริงๆแล้วเรา งง กับคนที่ออกมาบอกว่ามันไม่เหมาะสมมากกว่า คือเราไม่เชื่อนะว่าคุณไม่เคยเปิดดูนิตยสารเซ็กซี่ที่มีดารามาถ่ายอวดหุ่นกัน คุณเสพมันอยู่ทุกวัน แล้วทำไมพอเราเอาเครื่องมือทางวัฒนธรรมแบบที่คุณเสพมันทุกวันมารณรงค์เรื่องนักโทษการเมือง ทำไมคุณรับไม่ได้ ตลกนะ เราว่าดีซะอีกถ้าวันนี้คุณได้ดูผู้หญิงแล้วยังได้รณรงค์ทางการเมืองไปด้วยช่วยกันเผยแพร่ไม่ดีกว่าหรอ ตลกมากนะ คือไม่รู้แรงไปรึป่าวนะถ้าจะพูดว่าดัดจริต

มะฟาง : มันอาจจะเป็นเรื่องที่ดูปกติกับบ้านเรานะกับการที่จะต้องเจอคอมเม้นเรื่องนี้ประเภทนี้แรงๆ ถ้าเอาเข้าจริง ลองนั่งนึกดูเล่น ๆ ว่า วัฒนธรรม คือ สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นทั้งหมด ทั้งการใส่เสื้อผ้า ทั้งเรื่องที่ว่าอันนี้ดีอันนี้ไม่ดี เหมาะสมหรือไม่เหมาะสม ทำได้หรือไม่ได้อะไรประเภทนี้ มนุษย์ก็สร้างขึ้น เมื่อสร้างขึ้นก็กล่อมให้คนเกิดมารุ่นหลัง ๆ เชื่อกันไปตาม ๆ กันว่าอันนี้ควรอันนี้ไม่ควร ดังนั้นการที่มนุษย์ใส่เสื้อผ้าทุกวันนี้ก็เป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นทั้งนั้น แต่บางทีมนุษย์เราอาจจะหลงลืมกันไปว่าอะไรก็ตามที่ถูกสร้างขึ้น มันก็สามารถเปลี่ยนแปลงและแก้ไขได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม จนบางทีกลายเป็นว่าในห้วงของความรู้สึกลึก ๆ มนุษย์เราอาจจะคิดเห็นต่างไปแล้วกับวัฒนธรรมเดิม ๆ แล้วแต่ก็ไม่กล้าฉีกกรอบซะแล้ว  โลกหมุนไปทุกวัน  แต่บางทีวัฒนธรรมบางอย่างมันก็ไม่ยอมหมุนตาม มันก็เลยมักมีอะไรแปลก ๆ เกิดขึ้นบ่อย ๆ แล้วก็มานั่งรำพึงรำพันกัน

ลูกปัด : (หัวเราะ)เฉยๆค่ะ คิดซะในแง่ดีว่า ยิ่งมีมาแสดงความเห็นมาก แสดงความเห็นหลายกระแส แสดงว่าสื่อที่เรารณรงค์นี่ไปทั่วถึงกลุ่มคนหลายประเภทค่ะ อีกอย่าง เราถ่ายกางเกงใน ถ้าไม่มีมาเม้นแบบนั้นก็แปลกแล้วล่ะค่ะ

แฟน : คิดว่ามันเป็นเรื่องปกติค่ะ เพราะก่อนที่จะทำและสื่อออกมาเราก็ต้องพอรู้อยู่ว่าต้องมีทั้งแง่บวกและแง่ลบ

 

แล้วจะทำอะไรต่อไปไหม

กอล์ฟ :  ทำคะ จะยังถ่ายแบบกันต่อไป ตอนนี้มีอาสาสมัครมาหลายคนเหมือนกัน ว่าอยากมาร่วมโปรเจคด้วยกัน และอยากจะบอกว่า บางทีแค่การคิดวิธีการรณรงค์ที่แตกต่างเรายังรับไม่ได้ยังห้ามกันอยู่แบบนี้เราก็ไม่ควรไปเรียกร้องหาเสรีภาพอย่างอื่นคะ แค่เรื่องแค่นี้ก็ยังรับไม่ได้ มันเหมือนตัวเราเองก็ยังไม่ได้หลุดพ้นจากวัฒนธรรมที่ฝ่ายกดขี่สร้างไว้แล้วเราก็เอากรอบวัฒนธรรมอันนั้นมากดคนอื่นอีกที

มะฟาง : ก็ยังจะทำกันต่อนะคะทั้งเรื่องการรณรงค์เรื่องคุณสมยศ และเรื่องอื่น ๆ อย่างที่ได้ตั้งใจกันไว้

ลูกปัด : ทำค่ะ ก็อย่างที่พี่สองคนได้บอกไป แต่ส่วนตัวแล้วไม่อยากให้ทำกันแค่กลุ่มเรา หรือเฉพาะเรื่องนี้เรื่องเดียว สังคมยังมีอีกหลายเรื่องที่ถูกกดเอาไว้

คิดว่าผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจไหม

กอล์ฟ :  ก็ถือว่าน่าพอใจคะ แต่เราเชื่อว่ามันจะดีกว่านี้ไปเรื่อยๆทั้งเรื่องของงานอาร์ตและแนวคิด อย่างที่บอกเราพยายามสลัดกรอบเดิมๆเหมือนเพิ่งลุกออกมาต้องตั้งตัวนานอยู่ แต่บางทีเราก็ชอบความไม่เป็นมืออาชีพนะมันเข้าถึงได้ง่ายกว่าใครๆก็ทำได้ และ ถ้าใครบอกว่าให้เปลี่ยนเถอะ เราไม่เปลี่ยนคะ เพราะการเริ่มต้นทำสิ่งที่ไม่สมบูรณ์มันจะทำให้เกิดการพัฒนา ให้คนอื่นๆนำไปคิดต่อ นำไปทำอย่างอื่นพัฒนามันให้ดีขึ้น คือถ้าคุณไม่ชอบ คุณทำแบบของคุณมาเลย สนุกดีมีหลายๆแบบ นี่แหละ อย่าทำให้มันดราม่านัก

มะฟาง :  การตอบรับก็ดีนะ  เพราะอย่างที่ได้พูดไปก่อนหน้านี้แล้วว่า ไม่ว่าคนจะสนใจในด้านดีหรือไม่ดีก็ตาม แต่เราก็ดีใจเพราะ ถือว่าเขาได้เสพงานเราแล้วโดยไม่รู้ตัวค่ะ

ลูกปัด : ดีว่าโอเคระดับนึงเลยนะคะ ถ้าดูจากกระแสที่ทั้งชมทั้งติเตียน โดยเฉพาะมีคนมาเสนอว่าอยากร่วมกับเราด้วย

แฟน  :นี่เพียงแค่เริ่มต้นก็ถือว่าน่าพอใจเลยล่ะค่ะ

 

พอจะอธิบายแนวคิดแต่ละคนหรือภาพได้ไหมที่ถ่ายออกมา

กอล์ฟ : แนวคิดของแต่ละคนจะต่างกันไปนะคะ อย่างของ แฟน จะเป็นภาพในตู้ซะส่วนใหญ่ เราให้ความหมายของตู้เหมือนที่กักขัง แฟนจึงเป็นเหมือนคนที่อยู่ในคุกแถมยังถูกพันธนาการด้วย ถึงแม้จะออกมาข้างนอกเข้าก็ยังถือเป็นคนที่ถูกจองจำอยู่ดี

ของลูกปัด เป็นภาพใส่หมวกคลุมหน้าหมายถึงคนที่โดนประณามไปแล้วว่าเป็นคนไม่ดี นอกจากจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในระบบยุติธรรมแล้วคนทั่วไปก็ไม่พร้อมจะรับฟังเหมือนนักโทษการเมืองที่ถูกมองว่าพวกนี้ต้องล้มเจ้าจนไม่ฟังเหตุผลอะไรเลย

คนต่อมาคือมะฟาง มะฟางเป็นสื่อของคนที่แค่คิด คิดที่จะช่วยเหลือคนอื่นและได้ลงมือเรียกร้องอย่างรูปที่เอา 112 ทิ้งลงโถส้วม ส่วนกอล์ฟคนสุดท้ายสื่อเรื่องของความสดใสเมื่อเราต่อสู้แล้ว เราจะได้รับชัยชนะอย่างแน่นอนคะ แต่ทุกอย่างต้องใช้เวลาและเราต้องทำงานกันต่อเนื่องค่อยๆพัฒนาวิธีการกันไป

คลิกดูภาพเพิ่มเติม

ระบบเศรษฐกิจแบบมีส่วนร่วม (Participatory Economy)

28 May, 2013 - 17:49 -- iskra

...ข้อเสนอเกี่ยวกับการจัดการสังคมหลังทุนนิยมข้างต้นนี้ถือเป็นเป้าหมายหลัก และเป็นผลผลิตโดยตรงของการเติบโตของขบวนการโลกาภิวัตน์จากรากฐาน ที่พยายามเสนอทางเลือกใหม่ในการพัฒนาท่ามกลางซากปรักหักพังของโลกสังคมนิยม ในทศวรรษ 1990 ที่นักคิดฝ่ายอนุรักษ์นิยมและฝ่ายเสรีนิยมต่างประกาศว่า “เราไม่มีทางเลือกอื่นใดเหลือแล้วนอกจากระบบทุนนิยมกลไกตลาดและระบอบ ประชาธิปไตยแบบเสรีนิยม” แม้ว่าเป้าหมายดังกล่าวจะยังไม่บรรลุ แต่คุณูปการที่สำคัญที่สุดที่ขบวนการโลกาภิวัตน์จากรากฐานได้สร้างไว้ก็คือ ความหวังที่ว่า “โลกใบใหม่เป็นไปได้” ซึ่งเป็นคำขวัญของขบวนการสมัชชาสังคมโลกนับตั้งแต่ ค.ศ.2001 เป็นต้นมา