Skip to main content

สำหรับผมและเพื่อนพ้อง “คนเดือนตุลา” จำนวนหนึ่ง รัฐประหาร ๒๒ พ.ค. ที่ผ่านมาเป็นเรื่องน่าเศร้าเสียใจยิ่ง

ไม่คิดว่าหลังผ่านเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงรุนแรงทางการเมืองต่าง ๆ ในชีวิตมา ไม่ว่า ๑๔ ตุลาฯ ๒๕๑๖และ ๖ ตุลาฯ ๒๕๑๙, สงครามประชาชนในเขตชนบทป่าเขา, พฤษภามหาโหด ๒๕๓๕, เมษา-พฤษภาอำมหิต ๒๕๕๓..... บาดแผลร่องรอยความเจ็บปวดสูญเสียระเกะระกะเกลื่อนกลาดสั่งสมทับซ้อนอยู่ในความทรงจำ มากมาย ประเทศไทยอันเป็นที่รักยังต้องเผชิญพบรัฐประหารอีกครั้งหนึ่งในวัยบั้นปลายร่วงโรยของพวกเรา นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายในช่วงชีวิตเราไหม?  ข้างหน้านี้ เราจะไปไหนกัน?

บางขณะจิต ผมก็เหลือบเห็นความสมเหตุสมผลของอารมณ์หลักซึ่งป่าวร้องสนับสนุนโดยโธมัส ฮ๊อบส์ นักปรัชญาการเมืองชาวอังกฤษ (ค.ศ. ๑๕๘๘ – ๑๖๗๙) ผู้ยึดถือหลักปัจเจกนิยมเสรีสุดโต่ง เกลียด สงครามกลางเมืองจนพร้อมหันไปสนับสนุนรัฏฐาธิปัตย์สัมบูรณาญาสิทธิ์หรือ Leviathan เพื่อให้บ้านเมืองสงบ ที่ว่า: 

“รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี”, “บ้านเมืองไม่ใช่ของกูคนเดียว”, และ “ใครรักชาติมาก คนนั้นตายก่อน เพื่อน” แต่เผอิญทำใจไม่ได้  นึกละอายผีเพื่อนและสหายที่เสียสละไป

ระหว่างอึด ๆ อัด ๆ เหงา ๆ เคว้ง ๆ ผมหยิบนิยายสืบสวนสอบสวนชุดที่เพื่อนนักวิชาการชาวเยอรมันผู้เชี่ยวชาญเวียดนามแนะนำให้รู้จักนานแล้วมาอ่านแก้เซ็ง มันเขียนโดยโคลิน คอตเตอริล ครูและนักเขียนนักวาด การ์ตูนชาวอังกฤษที่ย้ายมาตั้งหลักแหล่งอยู่เมืองไทย ที่น่าสนใจคือเขาสมมุตินามตามท้องเรื่องให้ตัวเอก ดร. สิริ ไพบูลย์ เป็นหมอปฏิวัติชาวลาวเรียนจบฝรั่งเศส ที่หลังขบวนการปะเทดลาว “ปลดปล่อย” ราชอาณาจักรลาวได้ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๘ แล้ว เขาก็รับหน้าที่เป็นหมอชันสูตรพลิกศพคนเดียวที่เหลืออยู่ของระบอบใหม่ (เพราะ บรรดาหมอและนักเทคนิควิชาชีพทั้งหลายพากันเผ่นหนีข้ามแม่น้ำโขงไปฝั่งไทยเกือบหมด) และเล่นบทเป็น Jules Maigret สารวัตรนักสืบสวนสอบสวนไขปมคดีฆาตกรรมชาวฝรั่งเศสในนิยายชื่อดังของ Georges Simenon ไปด้วย นิยายชุดนี้อ่านสนุกตรงฉากและท้องเรื่องที่เกิดในลาว  ปัญหาสังคม เศรษฐกิจ การเมืองภายใต้ระบอบคอมมิวนิสต์เกิดใหม่ที่สะท้อนออกมาในนิยาย และบุคลิกภาพอันโดดเด่นของ ดร.สิริตัวเอก ซึ่งแก่หง่อมอายุร่วม ๗๐ ปีแล้ว แต่มีจิตใจอิสระและอารมณ์ขัน กล้าคิดกล้าทำแบบแหกคอกสร้างสรรค์ ไม่ก้มหัวให้อำนาจ บาตรใหญ่ ที่ฉ้อฉลอวดเบ่งข่มเหงรังแก ออกจะเสรีตามอารมณ์ แต่ก็มีมนุษยธรรมและน้ำใจให้ผู้ยากไร้อ่อนแอ เป็นซ้าย อิสระที่รักชาติในพรรค  ตื่นรู้จากมายาคติของลัทธิอุดมการณ์ อกหักกับความเสื่อมถอยหลงอำนาจกลายเป็น ระบบราชการเหินห่างมวลชนและอ่อนข้อให้มหาอำนาจคอมมิวนิสต์ต่างชาติของพรรค แต่ก็ตัดใจทิ้งพรรค ทิ้ง ประเทศชาติและมวลชนคนลาวไม่ลง
 

โคลิน คอตเตอริล นักเขียนนิยายสืบสวนสอบสวนและนักวาดการ์ตูนชาวอังกฤษผู้ตั้งภูมิลำเนาอยู่ในไทย กับนิยายเรื่อง “อนาธิปไตยกับหมาแก่” (ค.ศ. ๒๐๐๗) ในชุด ดร. สิริ ไพบูลย์ ของเขา 

ในบทที่ ๑๖ ของนิยายชุด ดร. สิริ ไพบูลย์ เล่มที่ ๔ เรื่อง “อนาธิปไตยกับหมาแก่” ชื่อบทว่า “ลืมดาวเคราะห์ซะ กู้สวนดีกว่า” มีบทสนทนาฉากหนึ่งระหว่าง ดร.สิริ กับ แดง อดีตสหายหญิงใต้การนำของเขาที่กลาย มาเป็นแม่ค้าก๋วยเตี๋ยวรสแซบหลังปลดปล่อยว่า.....

“ฉัน... เธอ... พวกเราทั้งหมดล้วนเป็นฟอสซิลเก่าแก่ ถูกเอาไปเดินขบวนพาเหรดในวันผู้รักชาติ มี เหรียญตราติดเต็มเครื่องแบบผุเปื่อยโกโรโกโสของเรา”

“อ๋อ เข้าใจแล้วค่ะ”

“เธอเข้าใจเหรอ?  งั้นอย่างน้อยฉันก็ไม่ได้พร่ำเพ้ออยู่คนเดียว”

“คุณหมอพร่ำเพ้ออยู่คนเดียวนะคะ  หนูไม่ได้คิดสงสารตัวเองแบบนั้นเลยค่ะ  หนูก็มีเรื่องจะเล่าให้ฟัง เหมือนกันและมันดีกว่าเรื่องที่หมอเล่ามาก  มีเด็กหญิงคนหนึ่งมาช่วยหนูขายก๋วยเตี๋ยวเป็นครั้งคราว  ตอนแรก มาเธออายุได้สักสิบขวบ  พวกเขาไม่ยอมให้เธอเรียนหนังสือต่อเพราะมีระเบียบว่าห้ามตกซ้ำชั้นป. ๑ เกิน ๓ ครั้ง  พวกเขาเห็นตรงกันว่าเธอปัญญาอ่อน สุดท้ายเธอก็เลยลงเอยเตร็ดเตร่ไปมาไม่ได้ทำอะไรอยู่หลายปี  ผู้คนพากันไม่ ใส่ใจไยดีเธอ  เธอก็เป็นแค่เด็กน่ารักคนหนึ่งที่ไม่มีอะไรทำน่ะแหละ  ตอนแรกที่เธอมาที่แผงก๋วยเตี๋ยวนี่ หนูก็ให้ เธอช่วยเสิร์ฟก๋วยเตี๋ยว เลี้ยงดูเธอแล้วเอาเสื้อผ้าใหม่ ๆ ให้  เธอก็เลยกลับมาทุกวัน  หนูเฝ้าดูเธอทำงาน  ว่าเธอ พยายามจัดเรียงถ้วยพริกน้ำตาลให้เป็นแถวเป็นแนวและปัดกวาดเช็ดถูผ้าพลาสติกปูโต๊ะอย่างไร  แล้วหนูก็เลยคิด ขึ้นมาว่าหนูน่าจะสอนเธอให้อ่านหนังสือออกได้

“เอาเข้าจริงหนูไม่เคยสอนใครอ่านหนังสือมาก่อนแล้วเธอเองก็หัวช้าเหลือเกิน  เธอจะใช้เวลาเป็นเดือน กว่าจะเรียนรู้อักษรได้ตัวหนึ่ง แล้วเธอก็ลืมมันอีก  แต่เราก็ยืนหยัดทำมันไปเรื่อย ๆ ไม่รีบร้อนอะไร อักษรตัวหนึ่ง แล้วก็อีกตัวหนึ่งแล้วก็อีกตัว  เราเริ่มเรียนกันแบบนี้เมื่อ ๑๖ ปีก่อนและเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเธอก็ได้อ่านหนังสือเล่ม แรกของเธอ  มันเป็นแบบเรียน ป.๒ แต่มันก็เป็นหนังสือที่มีปกและเนื้อใน ๑๐ หน้า  คืนนั้นเธอร้องไห้จนตาบวม นอนไม่หลับ และอ่านมันซ้ำไปมาอยู่ ๑๐ เที่ยว  ในที่สุดเธอก็อ่านมันจนหมดสติไปเมื่อตอนพระอาทิตย์ขึ้น”

“น่าประทับใจมาก”

“โอ๊ย มันยิ่งกว่าน่าประทับใจเยอะทีเดียวนะคะหมอสิริ  มันไม่ได้เปลี่ยนโลกอะไรหรอก  มันก็คงไม่ทำให้ เธอได้งานเป็นผู้อ่านข่าวทางสถานีโฆษณาชวนเชื่ออะไรด้วย  เธอก็ยังคงเสิร์ฟก๋วยเตี๋ยวและเช็ดโต๊ะอยู่เหมือนเดิม นั่นแหละค่ะ  แต่ตอนนี้ข้างในเธอเปลี่ยนไปแล้ว  เธอมีความรักใหม่ในชีวิต  และหนูเป็นคนให้ความรักนั้นกับเธอ  หนูนี่แหละค่ะ  หนูทำทั้งหมดนั้นเอง  และหนูก็ภาคภูมิใจกับมันพอ ๆ กับอะไรก็ตามแต่ที่หนูเคยทำสมัยอยู่ ขบวนการต่อต้านเจ้าอาณานิคมฝรั่งเศส

“เอาล่ะค่ะ หนูจะบอกให้ว่าเรื่องเล่าเรื่องนี้สอนให้รู้ปรัชญาอะไร  คุณหมอจะเลิกราวางมือไปก็ได้นะคะ แต่หนูอยากแนะให้หมอทนต่อไปให้ถึงที่สุด  หมอต้องไม่วัดความสำเร็จของหมอด้วยขนาดหรือปริมาณของ ผลลัพธ์ที่หมอทำให้เกิดขึ้น  หมอต้องคาดประเมินมันจากความแตกต่างที่หมอทำให้เกิดขึ้นกับคนที่หมอทำงาน ด้วย  การนำกองทัพไปชนะสงครามน่ะมันน่าพึงพอใจกว่าการสอนเด็กสี่ขวบให้ขี่จักรยานเป็นขนาดนั้นจริง ๆ เลยหรือคะ?  อายุปูนอย่างเรานี้ หมอควรเลือกทำสิ่งเล็ก ๆ และทำมันให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้มากกว่าค่ะ”

 

-----

หมายเหตุ : บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกใน มติชน สุดสัปดาห์ ฉบับประจำวันที่ 17 - 23 ต.ค.2557 คอลัมน์การเมืองวัฒนธรรม “ลืมดาวเคราะห์ซะ กู้สวนดีกว่า” โดย เกษียร เตชะพีระ

บล็อกของ เกษียร เตชะพีระ

เกษียร เตชะพีระ
ปม ‘พล.ท.นันทเดช’ นำเสนอเกรดของ 7 นักศึกษา 'ดาวดิน' ระบุเกรดไม่ดี จวกไม่เคยคิดเรียน ‘เกษียร’ สวนชกเด็กใต้เข็มขัด ชี้ไม่ควรลืมว่า ‘Steve Jobs’ ก็เรียนไม่จบ ระบุสำหรับนักศึกษาที่ทำกิจกรรม การเรียนย่อมได้รับผลกระทบบ้างเป็นธรรมดา
เกษียร เตชะพีระ
ตอบกระทู้พันทิป หลังมีผู้เรียกร้องให้ประเทศไทยยกเลิกการให้ทุนการศึกษาต่างประเทศสำหรับคณะนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ โดยยกตัวอย่าง ‘สมศักดิ์-วรเจตน์’
เกษียร เตชะพีระ
รายงานของ Freedom House ชี้ ปี 2014 เป็น “ปีที่หม่นหมองเป็นพิเศษ” เกิดการปะทุของการก่อการร้ายรุนแรงและยุทธวิธีที่ก้าวร้าวทั่วโลก ระบุตะวันออกกลางสูญเสียเสรีภาพชัดเจนสุด พร้อมฟันธงว่าความผิดพลาดใหญ่ที่สุดที่ระบอบประชาธิปไตยจะทำลงไปคือการยอมรับความคิดว่าไม่มีปัญญาจะทำอะไรได้เมื่อเผชิญกับจอมเผด็จการที่ใช้กำลังหรือข่มขู่คุกคาม กลับเป็นปุถุชนพลเมืองสามัญต่างหากผู้พร้อมจะลุกขึ้นมาท้าทายผู้ปกครองเหล่านี้
เกษียร เตชะพีระ
"มาตรา 10 ของ ร่าง พรบ.คอมพิวเตอร์ฯ ฉบับใหม่ ขยายอำนาจการดักจับ แฮ็กบัญชี ยึดคอมพิวเตอร์ แฮ็กระบบ อันนี้คือขยายอำนาจของเจ้าหน้าที่ จากที่เคยต้องขอหมายศาล พรบ. แก้ใหม่ ไม่ต้องขอหมายศาล ทำได้เลย แล้วคนพวกนี้เป็นใคร ไม่รู้" จอห์น วิญญู กล่าวในรายงานเจาะข่าวตื้น ผมเห็นด้วยกับคุณจอห์น วิญญู และชอสนับสนุนด้วยข้อถกเถียงจากมุมมองหลักนิติธรรม (the rule of law) 
เกษียร เตชะพีระ
พม่าเปลี่ยนแปลงไปหลายอย่างในไม่กี่ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้ผ่อนคลายการจำกัดปิดกั้นสื่อมวลชนลง และปล่อยตัวนักโทษการเมือง การลงทุนต่างชาติเพิ่มพูนขึ้น แต่กลับมีการเปลี่ยนแปลงน้อยมากในกองทัพพม่า ปัจจุบันพม่ากำลังเตรียมการเลือกตั้งในปีใหม่นี้ (ค.ศ. ๒๐๑๕) ทว่าน่าวิตกว่ากระบวนการปฏิรูปกำลังตกอยู่ในสภาพล่อแหลมต่ออันตราย
เกษียร เตชะพีระ
วิพากษ์ข้อเสนอหลักของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยนายกฯ ไม่จำเป็นต้องมาจาก ส.ส.หรือสังกัดพรรคการเมือง, ส.ส. มาจากระบบเลือกตั้งแบบสัดส่วนผสม และส.ว.ไม่เกิน ๒๐๐ คนมาจากการแต่งตั้งและคัดสรร ไม่ใช่มาจากการเลือกตั้งโดยตรง ฯลฯ
เกษียร เตชะพีระ
รายงานล่าสุด ILO ชี้ค่าแรงยังต่ำ ความเหลื่อมล้ำทางรายได้ในโลกยิ่งเพิ่ม, ค่าจ้างประเทศรวยสูงกว่าประเทศจน 3 เท่า, การขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำไม่ทำให้คนตกงานเว้ยเฮ้ย! 
เกษียร เตชะพีระ
ความคิดเห็นต่อเนื่องจากกรณีที่เกิดกระเเสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ ถึงกรณีที่มีนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งเขียนโน้ตถึงอาจารย์ที่ปรึกษาให้ติดต่อกลับ  โดยระบุถึงสิ่งที่สำคัญมากกว่าในความเป็นจริงที่เกิดขึ้น คือ ...
เกษียร เตชะพีระ
ในฐานะที่ "รัฐ" ตามคำนิยามของเวเบอร์ 1. สิทธิผูกขาดเหนือการใช้กำลังทางกายภาพหรือนัยหนึ่งการใช้ความรุนแรง 2. โดยชอบธรรม และ 3 ภายในอาณาเขตหนึ่งๆ
เกษียร เตชะพีระ
ข้อแนะนำถึงคสช.และรัฐบาล. คืนความปกติให้สังคมเศรษฐกิจไทยมากที่สุด ลดมาตรการใช้อำนาจผิดปกติให้เหลือต่ำสุด ความแตกต่างขัดแย้งทางความคิดเห็นและผลประโยชน์ในสังคมพหุนิยมที่มีความแตกต่างหลากหลายเป็นเรื่องปกติ
เกษียร เตชะพีระ
สำหรับผมและเพื่อนพ้อง “คนเดือนตุลา” จำนวนหนึ่ง รัฐประหาร ๒๒ พ.ค. ที่ผ่านมาเป็นเรื่องน่าเศร้าเสียใจยิ่ง