Skip to main content

 

การที่แกนนำ นปช. อย่าง ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ และพรรคเพื่อไทย อภิปรายเกี่ยวกับ พรบ. นิรโทษกรรมว่าไม่คลุมถึงผู้ที่ถูกคดี ม.112 นั้นระวังจะหลงกลเดินไปตามแผนของพรรคประชาธิปัตย์

การออกมาต่อต้าน พรบ. นิรโทษกรรมของพรรคประชาธิปัตย์ ทำท่าเอิกเกริกใหญ่โตดูน่ากลัวนั้น แท้จริงเขาต้องการอะไร? ต้องการล้ม พรบ. นิรโทษกรรมจริงหรือ? ทำไมพอเอาเข้าจริง จึงไม่มีคนมาร่วมมากตามที่โฆษณาไว้ ซึ่งการจะเอาคนมาร่วมสัก 4-5 หมื่นคนนั้น ไม่ใช่เรื่องยากเลย สำหรับพรรคประชาธิปัตย์

"นี่เป็นแผนลวง" ทำท่าบุกประตูหน้า แต่แอบเข้าประตูหลังนั่นเอง ประชาธิปัตย์ไม่ได้ต้องการล้ม พรบ. นิรโทษกรรมหรอก แต่โหมประโคมใหญ่โต ขู่ สส. พรรคเพื่อไทย เพื่อไม่ให้นิรโทษกรรม ม.112 นั่นเอง

 

 

ประชาธิปัตย์หวังผลอะไร? ต้องการกดดันพวกถูกคดี ม.112 อย่างนั้นหรือ คำตอบคือ "ไม่ใช่" หรือเพราะจงรักภักดีหรือ ก็ไม่ใช่อีก คำตอบที่ถูกต้องคือ "ตอกลิ่ม สร้างความแตกแยกระหว่างพรรคเพื่อไทย กับคนเสื้อแดงตาสว่าง" นั่นเอง การอภิปรายของ สส. ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ในสภาฯ เข้าทางพรรคประชาธิปัตย์พอดี

ถามว่า เมื่อ พรบ. นิรโทษกรรม ผ่านออกมายกเว้น มา.112 คนเสื้อแดงตาสว่าง จะคิดอย่างไรกับพรรคเพื่อไทยที่เป็นผู้กีดกัน ยิ่งตอนนี้ คนเสื้อแดงประเภท "ตาสว่าง" ไม่ค่อยจะไว้ใจพรรคเพื่อไทย และ นปช. อยู่แล้ว (ดูผลการเลือกตั้งเขตดอนเมืองที่ผ่านมา) คนเสื้อแดงที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยก็ลดจำนวนลง

จากนั้นในอนาคต เมื่อสร้างความแปลกแยกระหว่างคนเสื้อแดง กับพรรคเพื่อไทยได้สำเร็จ ก็จะมีผู้อุดหนุนให้คนเสื้อแดง ตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา เพื่อแย่งคะแนนจากพรรคเพื่อไทย ทราบมาว่า ขณะนี้ มีการเคลื่อนไหวกันอยู่ทางภาคเหนือ และภาคกลางบางจังหวัด นี่คือยุทธศาสตร์ ที่จะเอาชนะพรรคเพื่อไทย เพราะจะเอาพรรคประชาธิปัตย์ชนะพรรคเพื่อไทยนั้นทำไม่ได้ ต้องสร้างพรรคที่มีนโยบาย และทิศทางที่เหนือกว่า เพื่อดึงคะแนนเสียงจากพรรคเพื่อไทย

 

ต้องมองย้อนประวัติศาสตร์ 14 ตุลาคม 2516 เมื่อกลุ่มอำมาตย์ เอาชนะกลุ่ม พลเอกถนอม, ประภาส ทางทหารไม่ได้ ก็สร้างกลุ่มนักศึกษามาโค่นล้มแทน

พรรคเพื่อไทยต้องไม่ให้ภาพออกมาว่า สส. พรรคเพื่อไทย กีดกัน ม.112 แต่ควรให้ภาพออกมาว่า พรรคประชาธิปัตย์ เป็นคนขัดขวางกีดกัน ม.112

คนเสื้อแดงจะโกรธพรรคประชาธิปัตย์ สส. ณัฐวุฒิ ระวังจะกลายเป็นธีรยุทธ บุญมี ในวันข้างหน้า หนทางยังอีกยาวไกลนัก ตรองดูให้ดี

ธีรยุทธ บุญมี เป็นคนเก่งที่ถูกหลอกใช้โดยไม่รู้สึกตัว จากนั้นถูกทำลาย ต้องหนีเข้าป่า ไปเป็นฝ่ายซ้าย แล้วพ่ายแพ้กลับมาเป็นนักวิเคราะห์สังคม รับใช้อนุรักษ์นิยม ที่เคยไล่ล่าตนในอดีต

เวลานี้ ธีรยุทธ บุญมี หมดสภาพ กลายเป็นพวก "หลงทางชีวิต" ไปเสียแล้ว

 

 

จาก.. ผู้ต้องขังคดี ม.112

8 สิงหาคม 2556

 

บล็อกของ นายหัว ส. และมิตรสหาย

นายหัว ส. และมิตรสหาย
นายหัว ส. และมิตรสหาย
นายหัว ส. และมิตรสหาย
 ติดตามการประชุมนัดแรกของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศไทยที่มีนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้าร่วมเปิดประชุมแล้ว มีความเห็นว่า ผู้ที่เสนอความคิดเห็นตรงกับปัญหาที่สุดคือ คุณครูประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ นอกนั้นล้วนแต่ “ขี่ม้าเลียบค่าย”
นายหัว ส. และมิตรสหาย
การประกาศยุติบทบาทของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เป็นเรื่องเข้าใจว่า เพราะตกอยู่ในสภาพจำยอมจากความพ่ายแพ้ทางยุทธศาสตร์ที่ต้องการให้สังคมไทยหยุดนิ่ง หรือก้าวถอยหลัง ตามอุดมการณ์ของกลุ่มอนุรักษ์นิยม ดังคำประกาศของกลุ่ม “พิทักษ์สยาม” ที่จะแช่แข็งประเทศไทย
นายหัว ส. และมิตรสหาย
 การที่แกนนำ นปช. อย่าง ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ และพรรคเพื่อไทย อภิปรายเกี่ยวกับ พรบ. นิรโทษกรรมว่าไม่คลุมถึงผู้ที่ถูกคดี ม.112 นั้นระวังจะหลงกลเดินไปตามแผนของพรรคประชาธิปัตย์
นายหัว ส. และมิตรสหาย
หมายเหตุ: เรื่องสั้นจากแดนตารางชิ้นนี้ based on true story เป็นคดีประหลาดของชายคนหนึ่งที่ถูกพี่ชายแท้ๆ แจ้งความในคดีร้ายแรงแห่งรัฐ เรื่องสั้นพูดถึงขั้นตอนหนึ่งก่อนที่คดีของเขาจะถูกสั่งฟ้อง เป็นเรื่องเล่าจากห้องสี่เหลี่ยมที่ไม่เคยมีใครล่วงรู้ 
นายหัว ส. และมิตรสหาย
หมายเหตุ: เรื่องสั้นจากแดนตารางชิ้นนี้ based on true story เป็นคดีประหลาดของชายคนหนึ่งที่ถูกพี่ชายแท้ๆ แจ้งความในคดีร้ายแรงแห่งรัฐ เรื่องสั้นพูดถึงขั้นตอนหนึ่งก่อนที่คดีของเขาจะถูกสั่งฟ้อง เป็นเรื่องเล่าจากห้องสี่เหลี่ยมที่ไม่เคยมีใครล่วงรู้ 
นายหัว ส. และมิตรสหาย
  
นายหัว ส. และมิตรสหาย
คำอวยพรที่ล่าช้าจากความขลาดกลัวของผู้หวังดีที่อยู่ในโลกกว้างว่า แม้แต่ความคิด ความรู้สึกและสภาพภายในจากคำบอกเล่าของพวกเขาก็อาจนำผลกระทบที่เลวร้ายยิ่งกว่ามาสู่พวกเขาได้