Skip to main content

                                                                     จาก 2475 ถึง 14 ตุลา,2516

                                                                           ต้นธารประชาธิปไตย

                                        ¤     เกิดมาเสมอภาคจากครรภ์แม่              เติบใหญ่จวบจนแก่ ชราเฒ่า

                                               เมื่อชีพดับลับสิ้นจากถิ่นเนา               สิ่งใดเล่าเหลืออยู่ ให้ชูชม

  

                                         ¤  นอกเหนือจากศักดิ์ศรีแห่งชีวิต             หวงแหนสิทธิ์เสรีภาพฉาบฉายสม

                                             ปลดแอกออกจากบ่าหนักล้าระทม         เสียงหนึ่งในสังคมมีคนฟัง

 

                                        ¤  จุดประกายจากปีสองสี่เจ็ดห้า               ยกอำนาจปวงประชาเป็นที่ตั้ง

                                             หยุด “ราชาธิปไตย” โดยพลัง              “คณะราษฎร์” ปลูกฝังให้ยั่งยืน

                                   

                              ¤  แต่แล้วเกิดตำนานการต่อสู้                  อำนาจเก่ากับผู้เชิดชูชื่น

                                            ดอกไม้ประชาธิปไตยใต้เงาปืน              รถถังชูธงผืนเผด็จการ

 

                                       ¤   จึง “ตายสิบเกิดแสน” ทั่วแผ่นภพ            ก้าวบนศพ “วีรชน” ผู้กล้าหาญ

                                           “สิบสี่ตุลาหนึ่งหก” คือตำนาน                 ผู้ต่อต้านอำนาจที่ขาดธรรม

 

                                       ¤   จุดประกายไฟใหม่ได้ชุ่มเชื้อ                   ให้เลือดเนื้อ “เสรีภาพ” อาบเย็นฉ่ำ

                                            ปักหมุด “ประชาธิปไตย” ให้จดจำ            สร้างชาติโดยวีรกรรมอันแท้จริง   

 

                                       ¤  ให้เหล่าผู้อยู่หลัง ฝังใจรักษ์                   “ประชาธิปไตย” จำหลักเหนือทุกสิ่ง

                                           “โดยประชา” “เพื่อประชา” ค่าเพริศพริ้ง     เชิดชูยิ่งอำนาจผอง “ของประชา”

 

                                      ¤  หยาดเลือดท่วมปฐพีเอาชีวิต                   เข้าแลกเพื่อเสรีสิทธิ์อันสูงค่า

                                           สยบอำนาจเผด็จการ แตกซ่านซา            ให้โลกขานนามมหาประชาไทย

 

                                      ¤  ตัดอำนาจชั่วช้าเหล่ากาฝาก                     ขุดถอนรากซากเดนหมดลงได้

                                          สร้างต้นธาร “ยุติธรรม” ผ่องอำไพ              สร้าง “ประชาธิปไตย” ให้เป็นจริง

                                                                                                      นทีทอง  สมุทรชลธี                 

บล็อกของ นทีทอง สมุทรชลธี

นทีทอง สมุทรชลธี
                                
นทีทอง สมุทรชลธี
o กวีได้ล้มหายหรือตายจาก หรือปิดฉากสามัญ...สู่ชั้นสูง ดื่มด่ำสรวงสวรรค์ชั้นยางยูง ขาดแรงจูงใจในรสบทกวี o ทิ้งไว้เพียงผลงานกานท์กลอนเก่า เคยปลุกเร้าผู้คนไปทุกที่ ให้กำหมัดหยัดยืนฟื้นเสรี ต่อต้านการกดขี่...ชี้ทางธรรม o “วรรคทอง” เคยฝากไว้ให้แช่มชื่น ปลุกให้ตื่นต่อสู้...ผู้เหยียบย่ำ เสรีภาพ, เสมอภาค
นทีทอง สมุทรชลธี
    เหตุผล          ฤาหนทางประเทศนี้มีปัญหาจำต้องผ่าแผ่นดินออกเป็นสี่
นทีทอง สมุทรชลธี
                                                                     จาก 2475 ถึง 14 ตุลา,2516
นทีทอง สมุทรชลธี
                                  กำสรวล 37 ปี 6 ตุลาฯ
นทีทอง สมุทรชลธี
คำตัดสิน¤    เหลือพื้นที่ช่องว่างระหว่างบรรทัดที่อาจตัดปัญหาหรือถาโถมจากจุดเริ่มจวบวันใกล้รันโรม
นทีทอง สมุทรชลธี
                                รำลึก 24 มิถุนายน 2475
นทีทอง สมุทรชลธี
       แนว (ไม่) ร่วม¤    คิดจะดับไฟใต้ ให้บอก “ถา”
นทีทอง สมุทรชลธี
                                      คารวะ ท่านประธานฯ (2)
นทีทอง สมุทรชลธี
                                     คารวะ ท่านประธานฯ
นทีทอง สมุทรชลธี
"โซ่ตรวนจะล่ามเท้า  แต่ละก้าวจะย่างไป หนทางแม้ห่างไกล  เสรีภาพต้องกลับคืน" จองจำด้วยคาขื่อ     ถืออำนาจบาตรใหญ่ยืน เมินฟังเสียงร้องฝืน   ใช้กฎมืดอันหม่นมัว สวรรค์ไม่มีตา           แต่ใต้ฟ้ายังรวมตัว บ่เกรงและบ่กลัว       ต่ออำนาจที่ขาดธรรม
นทีทอง สมุทรชลธี