เราล้วนติดอยู่ในกับดักของมายาคติ >>> ป ร เ ม ศ ว ร์ ก า แ ก้ ว

ผมอยากกล่าวถึงพรรคการเมือง
ผมอยากกล่าวถึงพรรคการเมือง……พ ร ร ค ก า ร เ มื อ ง

ในทุกวันนี้ที่พรรคการเมืองเป็นกลไกสำคัญคอยรับใช้และเกื้อหนุนให้ระบบทุนนิยมเคลื่อนตัวไปอย่างโลดแล่น   พรรคการเมืองเหล่านั้นล้วนสร้างภาพบางอย่างขึ้นเพื่อให้ผู้คนหลงอยู่ในวังวนของมายาคติและจงรักภักดีกับนโยบายที่ระบบพรรคการเมืองนั้นๆ นำเสนอ  ซึ่งพรรคการเมืองใดจะเสนอสิ่งใดแนบมานั้นก็สุดแล้วแต่ทิศทางของพรรคการเมืองนั้น

เราอาจพอจะนึกตามได้ว่าภาพบางอย่างนี้เองได้แฝงฝังมายาคติเอาไว้และทำให้ผู้คนต้องลุ่มหลง ปักใจเชื่อ และหวังฝากวิถีชีวิต-อนาคตเอาไว้  ทั้งๆ ที่ สิ่งซึ่งพรรคการเมืองนำเสนอนั้นอาจจะบิดเบือนความหมายโดยตรงและสิ่งนั้นอาจเป็นไปได้ยากก็ตามที
            ยิ่งไปกว่านั้นมายาคติในพรรคการเมืองบางพรรคยังอาจคุกคาม กดทับประชาชนอย่างเราด้วยกลเม็ดเด็ดพรายและวิธีการต่าง ๆ จนประชาชนยอมจำนนอย่างแยบคายด้วย

อย่างไรก็ตาม ในระบอบประชาธิปไตยแบบที่ประเทศของเรากำลังดำรงอยู่ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีสถาบันพรรคการเมืองไว้เป็นธงนำระบบความคิดความเชื่ออยู่ดี    

และเมื่อเป็นเช่นนี้เราที่ต่างล้วนติดอยู่ในกับดักของมายาคติจะถอดสัญญะในมายาคติของพรรคการเมืองเหล่านั้นเพื่อก้าวข้ามไปสู่การปฏิรูปความคิดความเชื่อทางการเมืองได้อย่างไรก็ต้องนึกภาพตามกันไปเพื่อที่จะได้ทำความเข้าใจร่วมกัน 

ทีนี้  แล้วสิ่งใดที่เป็น  ม า ย า ค ติ อั น แ ฝ ง ฝั ง  ม า กั บ พ ร ร ค ก า ร เ มื อ ง บ้างก็ต้องรบกวนให้ผู้อ่านลองตรองกันดู  บางทีเราอาจนั่งทับมันอยู่ก็ได้ 

สำหรับผู้อ่านบางคนที่อาจสงสัยว่าเหตุใดข้อเขียนชิ้นนี้ถึงไม่ลงรายละเอียดชี้ชัด ผมตอบได้ว่าเป็นเพราะผมต้องการแค่กระตุกต่อมคิดก็เท่านั้น

           และเรายังคงต้องรอการปฏิรูปที่เขาคิดว่าดี

กล่าวถึงความขัดแย้งอันเนื่องมาจากการขยายพื้นที่ กรณีการเกิดขึ้นของ ม.ทักษิณ พัทลุง

ภาพรวมของปัญหา

แม้ทรัพยากรธรรมชาติส่วนหนึ่งจะถูกกำหนดให้เป็นทรัพย์สินส่วนรวม (common property) แต่ว่าก็อยู่ภายใต้การควบคุมของหน่วยงานรัฐ และหน่วยงานดังกล่าวสามารถอนุญาตให้หน่วยราชการอื่นนำทรัพยากรดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ได้