Skip to main content

 

ธีร์ อันมัย  รายงานประจำเดือนกรกฎาคม 2013 จากกองทุนช่วยเหลือครอบครัวผู้ต้องขังคดีการเมืองเสื้อแดงอุบลราชธานี   และเรื่องเร่งด่วนที่ต้องแจ้งให้ประชาชนในประเทศที่กล้าประกาศว่าปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยทราบ !

 

 

รายงานประจำเดือนกรกฎาคม 2013
จากกองทุนช่วยเหลือครอบครัวผู้ต้องขังคดีการเมืองเสื้อแดงอุบลราชธานี

ห่างหายไปนานพอสมควร
การช่วยเหลือผู้ต้องขังคดีการเมืองยังคงช่วยต่อไป
ช่วยโดยที่ผู้ช่วยไม่ได้เหนือกว่า ผู้ถูกช่วยไม่ได้ด้อยกว่า

แต่ช่วยเพราะพวกเขาถูกกระบวนการอยุติธรรมของประเทศนี้พรากคนในครอบครัวของพวกเขาไป 3 ปีแล้ว
ใช่ 3 ปีแล้ว 3 วินาทีก็ยาวนานเกินไปสำหรับการไม่มีอิสรภาพ

ยังมีเงินบริจาคเข้าบัญชีกองทุนอยู่สม่ำเสมอ
ขณะเดียวกันก็มีรายการเบิกจ่ายเพื่อมอบให้ครอบครัวผู้ต้องขังอย่างสม่ำเสมอ
ต้องขอบคุณเสนาะ เจริญพร และกิ่งกาญจน์ สำนวนเย็น
ทั้งสองคนสละเวลาและพลังงานเพื่อการนำส่งเงินช่วยเหลือที่มีผู้บริจาคเข้าบัญชีกองทุน ดังปรากฏในหน้าบัญชีที่แสดงนี้

 


กองทุนช่วยเหลือครอบครัวผู้ต้องขังคดีการเมืองเสื้อแดงมีเรื่องจะเรียนให้มิตรสหายทั้งหลายทราบว่า
มีการเปลี่ยนแปลงผู้รับเงินช่วยเหลือ
คือ เปลี่ยนจากการช่วยเหลือ "พ่อคำพลอย นะมี"
เป็นการช่วยเหลือ "พ่อสุพจน์ ดวงงาม"

 


เหตุที่ต้องเปลี่ยนแปลง
เนื่องจาก "พ่อคำพลอย" เพิ่งได้รับเงินเยียวยาจากกองทุนยุติธรรมเมื่อเดือนกรกฏาคม 2013 ที่ผ่านมา

ส่วน "พ่อสุพจน์" ซึ่งถูกยกฟ้องหลังจากถูกขังฟรีอยู่ในคุก 1 ปีที่เรือนจำกลางอุบลราชธานี
ตอนนี้ มีอาการป่วยและไม่สามารถทำงานได้
ขณะที่การเยียวยาจากกองทุนยุติธรรมก็ยังไม่มีวี่แววแต่อย่างใด

และเรื่องนี้
เราได้แจ้งให้ทั้งพ่อคำพลอยและพ่อสุพจน์ทราบเงื่อนไขแล้ว



และสืบเนื่องจากการจ่ายเงินเยียวยาของกองทุนยุติธรรมเมื่อต้นเดือนกรกฏาคมที่ผ่่านมา
ผู้ที่ได้รับเงินเยียวยาจำนวน 4 คน ได้แก่
นายบุญเหรียญ ลิลา นายถาวร แสนทวีสุข นายคำพลอย นะมี และนายธนูศิลป์ ธนูทอง
พวกเขาได้มอบเงินคนละ 10,000 บาท
ให้กับญาติผู้ต้องขังที่ยังอยู่ในเรือนจำพิเศษหลักสี่
ขณะที่นายพงษ์ศักดิ์ อรอินทร์ได้โอนเงินเข้าบัญชีกองทุนฯจำนวน 9,950 บาท

สำหรับยอดเงินเข้าบัญชี
หากพิจารณาดี ๆ จะพบว่า มียอดเงินเข้าบัญชีเดือนละ 3,210 บาทเสมอทุกเดือน
ทั้งนี้นับตั้งแต่ 14 กุมภาพันธ์ 2013 เป็นต้นมา
ขอให้ความรักงดงามและเบ่งบานในใจเจ้าของยอดเงินบริจาคนนั้น

 


และเมื่อพิจารณาตัวเลขเมื่อ 7 กรกฎาคม 2013 ก็จะพบว่า
มีการเบิกเงิน 14,000 บาท (หนึ่งหมื่นสี่พันบาท)
ซึ่งต่างจากปกติที่เบิกเพียง 12,000 บาท (หนึ่งหมื่นสองพันบาท)
นั้นก็เป็นเพราะว่า เป็นช่วงเวลาที่พ่อสุพจน์ ดวงงาม ล้มป่วยและเพิ่งออกจากโรงพยาบาล
กลุ่มเราจึงได้หารือเพื่อที่จะช่วยเหลือเยียวยา
จึงได้ตัดสินใจนำเงินจากกองทุนไปมอบให้จำนวน 2,000 บาท
ขณะที่ครอบครัวของผู้ต้องขังทั้ง 4 คน ก็ได้รับครอบครัวละ 2,000 บาทตามปกติ
รวมทั้งพ่อคำพลอย นะมีและครอบครัวของเลื่อน ศรีสุโพธิ์ แกนนำชาวบ้านที่สกลนคร

 


นับแต่เดือนนี้เป็นต้นไป
ยอดการเบิกจะเป็น 12,000 บาทเหมือนเดิม
ที่เปลี่ยนไปคือผู้รับเงินจากกองทุน
เปลี่ยนจากพ่อคำพลอย นะมี ซึ่งตอนนี้ตามองไม่เห็นแล้ว
เปลี่ยนเป็นพ่อสุพจน์ ดวงงาม ที่กำลังพักฟื้นจากอาการป่ว
ยอดเงินในบัญชี ณ วันที่ 2 สิงหาคม 2013 คงเหลือ 151,734.87 บาท
(หนึ่งแสนห้าหมื่นหนึ่งพันเจ็ดร้อยสามสิบสี่บาทแปดสิบเจ็ดสตางค์)

 


เงินช่วยเหลือก็จำเป็น
แต่สิ่งจำเป็นเร่งด่วนที่สุดตอนนี้สำหรับครอบครัวผู้ต้องขังก็คือ
คืนพวกเขาให้ครอบครัว
คืนความยุติธรรมให้กับสังคมไทย

การมีนักโทษทางความคิด
การมีนักโทษทางการเมือง แม้เพียงคนเดียวก็มากเกินไป
มากเกินไปสำหรับประเทศที่กล้าประกาศว่าปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย

 


LONG LIVE THE PEOPLE
ประชาชนจงเจริญ

ธีร์ อันมัย

 

 

 

 

บล็อกของ Redfam Fund

Redfam Fund
ไม่ลืม
Redfam Fund
ธี ร์ อันมัย: update ความเคลื่อนไหวประจำเดือนกุมภาพันธ' 57 - See more at: http://blogazine.in.th/blogs/redfam-fund/post/4587#sthash.YZyhBkzE.dpuf 
Redfam Fund
 ...จะต้องใช้เลือด ใช้ชีวิตและอิสรภาพของประชาชนอีกเท่าไรจึงจะพอ
Redfam Fund
อีกหนึ่งชีวิตของนักโทษการเมืองจากอุบลราชธานีที่ได้จากไปในขณะที่ความยุติธรรมยังคงเดินหลงทางและดูเหมือนว่าอาจจะไม่มีวันที่จะไล่ตามทันวันเวลาที่ลดน้อยลงของพวกเขา