Skip to main content
 


@  ดิบ เถื่อน ป่า เป็นคำที่งดงามมาก  คำว่า ป่าเถื่อน ป่าดิบเถื่อน นั่นคือความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ  มีต้นไม้ ใบหญ้า สรรพสัตว์ สรรพสิ่ง นานาพันธุ์ ฯลฯ ยังประโยชน์ให้มนุษย์ แลเริงรมณ์ยามเดินทางเข้าไปคารวะ ดงป่าเถื่อนดิบ ฯลฯ

-   -   เอาไปใช้ได้อย่างไร? เอาไปใช้เป็นคำด่าว่า เป็นคนเถื่อน คนหยาบช้าได้อย่างไร? คำๆ นี้ใครเป็นคนคิดหว่า? พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานเหรอ? นี่มันเป็นความคิดของข้าราชการศักดินานี่หว่า …

คนเถื่อน ก็คือคนอยู่ดงดอยป่าเขา บริสุทธิ์ งดงาม มีอารยธรรม ไม่ได้ฉ้อฉล คดโกงใคร ไม่ได้คอรัปชั่น ไม่ได้เป็นอภิสิทธิ์ชนที่นั่งอยู่บนคอหลังบ่าไหล่ของประชาชน เสวยสุขเป็นนิรันดร์ และคนเถื่อนดิบป่านี่แหละที่ดูแลป่าเขาให้มีน้ำให้คนในเมืองได้ดื่มกิน ฯลฯ แต่ไอ้พวกทำลายป่า พวกข้าราช นายทุนขุนศึก ศักดินา นี่แหละตัวดี สมัยก่อนโน้นก็อนุญาตให้พวกฝรั่งอังกฤษบริษัทบอร์เนียวมาสัมปทานป่าไม้ที่ภาคเหนือ ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าว่า ฝรั่งเอาท่อนไม้ซุงมโหฬารลอยแม่น้ำปิงไปเจ้าพระยา ตรงสะพานนวรัฐเชียงใหม่ ท่อนซุงเต็มแม่น้ำปิง ชาวบ้านไม่ต้องข้ามขัวเหล็ก(สพานนวรัฐ) แล้ว  
…เดินบนท่อนซุงข้ามไปหลายหน้าที่สันป่าข่อยเลย ดูซิว่ามันจะผลาญป่าไม้สักแค่ไหน  แล้วต่อมาก็ให้นายทุนมาผลาญป่าไม้อีกหลายราย … แล้วมาโทษพี่น้องชนเผ่าในป่าเขาว่าทำลายป่า ขับไล่เขาออกจากป่า กรมป่าไม้และอุทยานแห่งชาตินี่แหละก็ตัวดีนัก ประกาศเขตอุทยานทับที่ทำกินของพี่น้องที่อยู่มานมนาน ขอโทษ … ไอ้หอกหัก    พี่น้องชนเผ่าที่อยู่ป่า เขาก็ต้องทำมาหากิน ทำไร่ปลูกข้าวสิ ถ้าเขาไม่ปลูกข้าวแล้วเขาจะเอาข้าวที่ไหนมาเสวย พี่น้องปกาเกอะญอ (กะเหรี่ยง) เขาทำนาไร่หมุนเวียน กินเนื้อที่หกเจ็ดแห่ง ปีนี้ทำอีกแห่งหนึ่ง ปีหน้าก็เวียนไปอีกแห่งจนครบรอบ ต้นไม้ก็ขึ้นเขียวขจี   เขาแบ่งเป็น… ป่าต้นน้ำ ไม่ไปแตะต้อง … ป่าสะดือ (คือป่าที่เขาเอารกของลูกไปแขวนไว้ ) …และป่าใช้สอย เอามาสร้างบ้านเรือนเท่านั้น เขาไม่ทำลายป่าแบบพวกทุนนิยมสามานย์ดอก  


เจ้าพวกอวิชชา เอ็งทำไม่ไม่แหกตามาดูมาศึกษากะพี่น้องบ้างวะ ดีแต่อยู่บนหอคอยงาช้าง อยู่ในเมือง อยู่ในห้องแอร์ ฯลฯ มันทุเรศหว่ะ (ขอโทษ ขอ สวก (ดุ) นิดหน่อย เพราะมันใจ๋ขึ้น (หมายถึงทนไม่ได้ โกรธ แต่ก็ใจ๋ขึ้นแบบมีเมตตาต่อพวกอมนุษย์อวิชชาทั้งหลายเจ้า)
….พวกพะนะหัวเจ้าทั่น ทั้งหลาย คุณรู้ไหม?   เมื่อก่อนภาคกลาง และกรุงเทพ (ของเทพเจ้าสมมุติ) ก็เป็นป่า แล้วคน มนุษย์ก็ไปบุกเบิก โค่นป่า ทำนาไร่ ถ้าไม่ทำนาไร่แล้วจะเอาอะไรมาแดก (นี่เป็นภาษาลูกทุ่ง สุภาพแล้วเน้อ ไม่ดัดจริต)  แล้วชาวป่าชาวเขาเขาก็ต้องทำนาไร่ซี มิงั้นจะเอาอะไรมาเสวย ถึงบอกว่า พวกข้าราชการ ศักดินา นายทุนขุนศึก  และพวกเผด็จการทุกสายพันธุ์กังฉินนี่แหละคือตัวการทำลายป่าแล้วเสือกไปโทษชาวบ้าน พี่น้องเอ๋ย มีข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์หลายครา พาดหัวข่าว จับมอดไม้ จับชาวบ้านที่ไปรับจ้างพวกนายทุนตัดไม้ จับแต่พวกไพร่ราบ แล้วทำมายยยไม่สืบค้นจับพวกนายทุนใหญ่วะ(เอาล่ะ ของขึ้น ใจ๋ขึ้นอีกแย้ว) ตำรวจเมืองไทยสมมุตินี้เก่งจะตายไป ฉันก็เป็นงง งง ทั่นผู้อ่านงงอะเป่า?   …แล้วกังฉินพันธุ์นี้ก็ขับไล่คนออกจากป่า นี่คือความริยำที่เราต้องเปิดโปงถึงธาตุแท้ให้สาธารณชนและโลกได้รับรู้!

ป่าดงดิบในโลกนี้ ถูกทำลายไปนักแล้ว (โลกก็ร้อนขึ้นทุกทีๆ) พี่น้องชนเผ่าต่างๆ ก็ถูกรุกรานวิถีชีวิตไปทั่ว ทุกทวีป ไม่ว่าจะเป็นป่าอะเมซอน
 อเมริกาใต้ ป่าดิบอินโดนิเซีย ป่าสาละวิน ฯลฯ ล้วนพังพินาศจากชนชั้นปกครอง นายทุน พวกเผด็จการทุกสายพันธุ์ คนพวกนี้แหละที่เราต้องเรียกว่าเป็นคนชั่วช้าสามานย์ มิใช่เป็นคน ดิบ เถื่อนป่า ฯลฯ

- - โยงใย สืบสานมา ไม่ว่าจะเป็นทฤษฎี  Bing   Bang หรือการระเบิดใหญ่ ที่ก่อให้เกิด โลก เอกภพ จักรวาล ฯลฯ   จนกลายมาเป็นดาวโลกสีฟ้าดวงนี้ อันก่อเกิด มนุษย์ สรรพสิ่ง สรรพชีวิต ฯลฯ   เราไม่เคยมีพรมแดนสีผิว เผาพันธุ์ ฯลฯ ทุกสิ่งล้วนเป็นหนึ่งเดียว “ We Are The World “ … แม่น้ำทุกสาย ทะเล ธารใส ป่าทุกป่า ล้วนเป็นหนึ่งเดียว เพียงมนุษย์งี่เง่าอวิชชามาแบ่งแยกกันทีหลัง เป็นประเทศ  พรมแดน สีผิว ฯลฯ เมื่อเป็นฉะนี้ มนุษย์อวิชชาเอ๋ย อย่าฝันถึงศานติภาพเลย มิมีทางเป็นไปได้ Impossible Dream… 

สำหรับตัวฉัน บอกตรงๆ ฉันไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นคนไทยดอก ฉันเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตเล็กๆจ้อยกระจิดริดบน โลก เอกภพ  จักรวาล เท่านั้นเอง เฉกเช่น พาราสิต นก หนู แมลง  แมลงปอ ผีเสื้อ ดอกไม้ หมู หมา กา  ไก่ ช้าง ม้า วัว  ควาย ฯลฯ เท่านั้นเอง  … แต่ที่ฉันจำเป็นต้องให้ถูกเรียกว่า เป็นคนไทย ก็เพราะ ชนชั้นปกครอง พวกอภิสิทธิ์ชน รัฐบาลสมมุติ ประเทศชาติสมมุติ ฯลฯ ทำให้ฉันต้องเป็นคนไทย สัญชาติไทย ฉันก็จำเป็นต้องมีทะเบียนบ้าน มีบัตรประชาชน และถูกกฎหมายกดขี่มาบังคับให้ฉันจำเป็นต้องเป็นคนไทย โดยเผด็จการทุกสายพันธุ์ ฯลฯ    (หมายเหตุ : “พวกล้าหลัง – คลั่งชาติ”    พวกยึดถือสถาบันต่างๆ และพวกคนไทยจ๋า โปรดอย่าได้มาหมั่นไส้ฉัน และคนที่มีความคิดแบบฉัน ที่ไม่ชอบอยู่ในกรอบ คุกคอกกรงขังของใคร ฯลฯ เพราะจิตวิญญาณชีวิตของฉันมิใช่จิตวิญญาณทาสเหมือนพวกเธอ ฉันเองก็หมั่นไส้พวกเธอมนุษย์ผู้เชื่องมานานแล้ว )

“แล้วมึงก็ลาออกจากเป็นคนไทยซีวะ ไปอยู่ที่อื่นซะ”  อาจจะมี “คนล้าหลัง
- คลั่งชาติ”  หลายคนกล่าวผรุสวาทฉัน “ก็กูอยู่ที่นี่มานมนานหลายพันหลายหมื่นปีแล้ว นับแต่โคตรเหง้าเหล่ากอกู กูไม่มีประเทศสมมุติห่าเหวอะไร พวกมึงพวกมนุษย์อวิชชาเองที่โคตร มะแร่ม เสือกมายึดครองล้านนาอิสระของกู พวกมึงใจทาสนั่นแหละที่ต้องถูกเฉดหัวออกไป ไอ้พวกชนชั้นปกครองรุกรานไปทั่วทั้งล้านนา อิสาน ใต้ ฯลฯ (ขอถามว่าทำไมปืนใหญ่ของพี่น้องมุสลิมที่ภาคใต้ ทำไมจึงมาอยู่ที่หน้ากระทรวงกลาโหมได้งัยวะ? ก็พวกมึงไปรุกรานเขาทั้งนั้น ไม่มีทางดอกสามจังหวัดภาคใต้จักสงบ พวกมึงก็อุ้มฆ่าเขาเช่นกัน กูก็ไม่อยากให้มีการฆ่ากันดอกไม่ว่าฝ่ายไหน ถ้าจะให้สงบ พวกมึงต้องคืนอิสรภาพ ให้เขาปกครองตัวเอง” )
ใจจิตวิญญาณอิสระแห่งฉัน ตะโกนกู่ก้องสวนตอบออกไปทันที!

ฉันอยากให้ จิตวิญญาณ ดิบ เถื่อนป่า อันบริสุทธิ์ของโลกชีวิตกลับคืนมา
… แล้วโลกจักมีสันติภาพ และอุดมสมบูรณ์ !

- -    No Border… No Country… No Race etc…
ไร้พรมแดน    ไร้ประเทศ    ไร้ชนชาติ    ไร้สีผิวเผ่าพันธุ์ ฯลฯ

สาธุ อาเมน  อิสลามมาลากุม
ฤดูหนาว, 23 ธันวาคม 2553
ริมฝั่งแม่น้ำของ(โขง),   Tammila Guest House
 
 
 

 

บล็อกของ แสงดาว ศรัทธามั่น

แสงดาว ศรัทธามั่น
 *--*--*{ กาพย์”ลุกขึ้นสู้” }
แสงดาว ศรัทธามั่น
{  กลอนเปล่าอิสรา  }@  ลมหนาวเหนือ พัดโชยมา…ยามต้องไล้ผิวกายร้อนที่รุ่มก็คลายกลิ่นอายเหมันตฤดู …ไม่รู้ลืม @
แสงดาว ศรัทธามั่น
 
แสงดาว ศรัทธามั่น
 ***** --*-- ***** --*-- *****@   “  ฮา  ติง จัง…จังคนมีอำนาจล้นฟ้า  แต่รังแก คนยากไจ้ อำนาจ แบบ ต๋ามใจ๋ เขา “น้องสาว  ผู้ดีงาม ใจงาม ของฉัน  แล ของโลกชีวิต อีกคนหนึ่ง