Skip to main content

  • - - - - - - - - - - - - - - -

 

              ( ๑ )     มีข่าวดีมาบอก

 

                              @  วันนี้ วันอาทิตย์   แดดหนาวทอแสง รอดผ่าน   ใบไม้ กิ่งไม้ ในป่าเมือง … ฉัน นั่งรับ   สายลม  แสงแดด บนระเบียงบ้านตึกขาว   เปลือยตีน เปล่า สัมผัส  แผ่นหิน – คอนกรีต ที่ปูพื้น   ฉั น ชอบ เปลือยตีนย่ำดิน เดินดิน มาตั้งแต่เป็นเด็ก ตัว เล็ก ๆ   แล้ว

 

                           วันอาทิตย์นี้ เพื่อนมนุษย์ เงินเดือน ได้หยุดพักผ่อนร่างกาย  ลมหายใจ นั่ง ดื่ม  … ชา  กาแฟ  โอวัลติน   น้ำผลไม้   น้ำมังสะวิรัติ   หรือ แม้กระทั่ง ไวน์ ฯลฯ   นั่ง อ่าน  - เขียน หนังสือ   ดูหนัง   ฟังเพลง   หรือ ทำอะไรก็ได้ ตามใจปรารถนา ฯลฯ   คนมีครอบครัว ก็ ได้อยู่  พร้อมหน้า  พร้อม ตา กัน    กินมื้ออาหารร่วมกัน    พูดคุย เล่าเรื่อง  เย้าหยอก กัน   อาจจะ  ผิ๊ด กั๋น พ่อง ( ทะเลาะกันบ้าง)  ก็เป็นเรื่องธรรมดา  การทะเลาะกัน ก็เป็นอารมณ์หนึ่ง   คุณสมบัติหนึ่ง ของมวลมนุษยชาติ  ha  ha   เพียงแต่ขออย่าวางมวยกัน  ให้  กระจุย   กระเจิด   กระเจิง   กระจัด   กระจาย   ปลิวว่อน   … ข้าวของ  แก้วน้ำ ถ้วยโถ โอชาม   หม้อ   ไห   ตะไหล   ป๊าก ฯลฯ   หรือเอา ขวาน มุย  ไปทุบหม้อข้าวของตัวเอง  ทดแทนความโมโห  หิว    ( เห็นมาหลายรายแล้ว  จะใครที่ไหนเล่า  ก็ พระคุณพ่อ  พระคุณแม่ ของเราๆนั่นแหละ จ้า สมัยเรายังเป็นเด็กๆ  … จำได้  อิ  อิ  แต่ก็ยังดี  ที่ไม่เอา   ฆ้อน  เอาขวานมุย   มาจามใบหน้ากัน… ฮุ๊ยยยย จะดู หวาดเสียว ชะมัดญาติ เลย  เจ้า … หมายเหตุ : พูดเล่นๆกันบ้าง มิได้ ซีเครียด จ้า

 

             แดด   อุ่นอ่อน    สายลมเย็น โชยพัด   ใบไม้ พริ้มพลิ้ว ไหว…  ฉันนั่งอ่านหนังสือพิมพ์   พร้อม จิบ  “น้ำหมัก ”  ( ขอเน้นรับรองว่า  … เป็น น้ำหมัก  จิน  จิน )     พี่สาวซื้อให้ ราคาแพงมาก    พี่รู้ดีว่า  ไอ้น้องคนนอกคอกคน

นี้  มันไม่มีปัญญา ซื้อแน่   ส่วนประกอบของฉลากมี      …ผักคาวตอง (ผักนี้กินมีประโยชน์ รักษาได้ทุกโรค) , พลูคาว, น้ำาตาลทรายแดง  เป็น น้ำหมักที่มีสรรพคุณบำรุงร่างกาย  ตับ ไต  ไส้พุง   ฉันมีปัญหาเรื่องตับก็ต้องหมั่นกินน้ำหมัก!

 

                - - -  หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจรายวัน  ฉบับ  ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๕  Section  “โฟกัส”   พาดหัวข่าวตัวโต …

 

               “ ฟ้อง 2  คอนโด ดัง  บังแดด ”

 

สองคอนโด  คือ …

 

  1. คอนโดโครงการเดอะเซนต์  สุขุมวิทย์
  2. คอนโด แอสปาย ความสูง ๒ ๘ ชั้นมีสองตึก  และอาคารจอดรถสูง อีก  ๙ ชั้น

 

                      ชุมชน ชาวบ้าน ได้รับความเดือดร้อนหลายด้าน  ทำให้ทัศนะวิสัยเลวลง  เป็นทัศนะอุดจาด   และ    บดบังแสงอาทิตย์ ทั้ง ตอนเช้า และตอนเย็น  จะเห็นก็ตอนเที่ยง บ่าย เท่านั้น  ทั้งๆที่แสงอาทิตย์มีคุณค่า  มีประโยชน์ต่อร่างกาย  คือทำให้ไม่เป็นโรคกระดูกพรุน    ทำให้สื้อผ้าตากแห้ง   มนุษย์ ได้ยลชมความงามของพระอาทิตย์ ทั้งยามเช้า ยามเย็น  เต็มเปี่ยมล้นด้วยพลังใจเมื่อได้ยลชม ดาว เดือน ยามราตรี ฯลฯ     … ปัญหาการก่อสร้างมีทั้ง เศษฝุ่นทราย  วัสดุก่อสร้างร่วงหล่นมา บนบ้านเรือน กลางคืนเสียงดัง  ทั้งๆที่ศาลมีคำสั่งไม่ให้สร้างตอนกลางคืน ฯลฯ    ฉั น  เองก็  อยากจะรู้ว่า กรณีนี้ถ้า มีบ้านของคนเหล่านี้ ตั้งอยู่ที่นี่ ก่อนจะมีการก่อสร้างคอนโด เช่น …. บ้านของนายกรัฐมนตรี   … พะ ณะ หัว เจ้า ท่าน คณะรัฐมนตรี  … องคมนตรี … บ้านของ  ผบ.ทบ. … หรือ บ้านของท่านผู้มีบุญบารมี วาสนา สูงส่ง ทั้งหลาย ฯลฯ  เจอเข้าแบบนี้บ้าง พวกท่านจักสำแดงอาการอย่างไร   หรือว่าจักอยู่เฉยๆ   ไม่ว่ากระไร ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน  หรือ ไม่ ก็รีบทำ  ตาขวาง ดวงตาปูดโปน       โมโหโกรธา  ตวาด สั่งให้เลิกสร้าง  ให้ รื้อถอนออกไปเดี๋ยวนี้ !

                     

               - - -  ตอนนี้ชาวชุมชน   กำลังเตรียมยื่นข้อเสนอ ต่อศาลปกครอง เพื่มเติม ขอให้เพิกถอนรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม    (   E. I. A. )  ในทุกประเด็น  และ ขอให้เพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้าง  รวมทั้ง เตรียมยื่นฟ้อง เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตหลักสี่ ในข้อหา ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ! …

 

              นี่ ขนาด คอนโด กำลังก่อสร้างได้   60   เปอร์เซ็นต์ กว่า   นะ     ยังบดบัง แสงแดด  ดาว  เดือน   และทำความเดือดร้อนให้พี่น้องชุมชนชาวบ้าน และ  ถ้า   สร้างเสร็จ  100  เปอร์เซนต์      จะ ขะ ไหน  หนาด  … จะ  ข นา ด ไ ห น ?

 

              . . .     นับว่า เป็น   ข่าวดี  ที่จะเป็น กรณี   คดีตัวอย่าง ให้สาธารณะชนได้รับรู้   รับทราบ ได้เป็นตัวอย่างแก่ ชุมชนอื่นๆ ต่อไป      ฉั น  ถือว่า   เรื่องนี้   เป็นเรื่อง  ที่    ยิ่งใหญ่   มาก  กว่าข่าวการเมือง เฉพาะในส่วนที่เป็น ดราม่า น้ำเน่า อันไม่แตกต่างจากละครน้ำเน่า ในทีวีบางช่อง  และรายการน้ำเน่า อื่นๆ        ไม่ได้เหมารวมหมดนะ จ้า  บางช่องบางรายการ ก็ดี    ส่วนผู้กำกับละคร   ก็กรุณาอย่าไปโกรธ ข้าเจ้าเน้อ  ถ้าโกรธก็ขอโทษด้วย  … ข้าพระพุทธเจ้า คิดเห็นตามความคิดของข้าฯ เอง   อาจไม่มีผิด  ไม่มีถูก ก็ได้

 

                                    - - -   แสงแดด  แห่งดวงตะวันอ้อมข้าว ทอแสงละมุนละไม    โชคดี ที่ ที่นี่ ไม่มีทัศนะอุดจาด ไม่มีตึกคอนโดสูงๆ ใกล้ปริมณฑลแถบนี้  เคยมีเหมือนกันที่พวกนายทุนเจ้าของโครงการจะสร้างคอนโด คิดจะสร้างที่นี้ ทำการโฆษณา  ประชาสัมพันธ์ ปักป้าย ว่าจะสร้าง   แต่ก็สร้างไม่ได้    ป้ายคัดค้าน เต็มพรืด ไปหมด     (เหมือนที่บ้านสะเอียบที่พวกอวิชชาจคิดจะมาสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น! )        เพราะพี่น้องชาวบ้านที่นี่ ไม่เอา จำเป็นต้องถอยกรูดออกไปหลายรายแล้ว   …  แต่ที่ห่างออกไปใกล้ถึงถนนใหญ่ ก็มีการสร้างตึกสูงบ้างแล้ว   พวกนายทุนนี่ เขาขายวิว ทิวทัศน์   ขายธรรมชาติ   เพราะที่นี้  ธรรมชาติงาม เชิงดอยสุเทพ  ต้นไม้ใหญ่น้อย เขียว ชรอุ่ม   มีตึกอยู่ที่สูงๆ จะเห็นเทิอกเขาดอยสุเทพ และเห็นพระธาตุดอยสุเทพ  เป็นสีเงินสีทองอร่าม ยามต้องแสงตะวัน ฯลฯ

 

                         . . .  เสียง   นกเขาชวา ขันแข่งกับนกเขาบ้าน  - - -  นกปิ๊ดต๋าลิว หรือนกปรอดหัวโขนที่คนทางภาคกลาง เรียก    และคนทางภาคใต้ ที่เลี้ยงนกนี้  ว่า “นกกรงหัวจุก” ( ก็เล่นจับน้องนก  มาใส่ กักขังใน  กรง  แบบเห็นแก่ตัว ฟังนกเขาร้อง ให้คนใจบาปฟัง  เพื่อนๆน้องๆที่เลี้ยง นก ปิ๊ดต๋าลิว ได้มาอ่านก็กรุณาอย่าโกรธ อ้ายเน้อ  ที่ว่าเห็นแก่ตัว   อ้ายคิดว่า พวกนี้ เขามีความสุขบนความทุกข์ยากของผู้อื่น เพื่อนสัตว์อื่นที่จับเขามาขังคอก กรง   มันน่าลองให้พวกนี้เป็นนก เป็นสัตว์ดูบ้าง แล้วให้น้องนก น้องสัตว์ที่กลายร่าง เป็นคน แล้วก็จับเอาพวกคนใจบาปนี้มาขังซะบ้าง แล้วจะรู้สึก  ถ้าพูด แบบ ภาษาบู๊ลิ้มก็เป็นแบบ “  ไม่เห็นโลงศพ มิหลั่งน้ำตา”  หรือคำไทยที่ด่าคนว่า    “ไอ้ชาติคางคก   ยางหัวไม่ตก  ก็ไม่รู้สึก! ”      ) …

 

                        “  ปิ๊ด  ต๋า  ลิว  …  ปิ๊ด  ต๋า  ลิว   ๆ ๆ ๆ  ”  น้องนกเขาร้องเสียงพริ้งเพราะนัก  ร้องเพลงแข่งกับนกอื่นๆ     นั่น  ผีเสื้อสีเหลืองตัวเล็กๆบอบบาง “ปรบปีก” พริ้มพลิ้วโผ เริงระบำ รำร่อน  ฟ้อน หาอาหาร ตาม กลีบเกสรดอกไม้

 

                 - - -   ฉั น  เปลือยตีน   นั่งบนระเบียงบ้านตึกขาว   รับแสงตะวันยามเช้า   จิบน้ำผึ้งผสมน้ำมะนาว  อ่านหนังสือพิมพ์   ยลชมธรรมชาติรอบข้าง  ฉันชอบเปลือยตีนมาก  มันรู้สึกโปร่งโล่งสบาย       ไปแอ่วร้านผับ”สุดสะแนน”  นั่งโต๊ะ ฉันเป็นต้องสลัดรองเท้าแตะออก นั่งเปลือยตีน สนทนา กิน ดื่ม คุยกะเพื่อนๆน้องๆ  บางคืนเมามาก  จะเข้าไปบรรทม (ก็ที่นั่นแหละ  อ้าย ฮวก  - สุดสะแนน  เจ้าของร้านกรุณาอนุญาตให้คนหนุ่มน้อยนี้  บรรทมทุกครั้ง และ ฉันเองถ้า ควบม้าขาวกลับบ้านตอนดึกๆ ก็กลัวจะถูกดักบังคับให้เป่า เครื่องตรวจแอลลกอร์ออล์  ถ้าถูกปรับก็เป็น  หก เจ็ด พันบาท ไปโน่น (โคตร ปรับโหด   ลดลงหน่อยได้ไหมพี่ตำรวจ จ๋า   สงสารชาวบ้านที่เขาจนเงินบ้างเถิด)  … จะ เข้าไปบรรทม หารองเท้าแตะไม่พบ ก็หาเอาตอนเช้านั่นแหละ จ้า

                              _ _ _  กะ เด่ว  ฉั น   ขอ เปลือยตีนย่างย่ำ ไป คารวะ แม่พระธรณี ซักกะหน่อย… ธาตุดิน ให้คุณค่า ประโยชน์ต่อ มนุษย์ นัก

              เท้า สัมผัส คารวะ ดิน… โ อ     ช่าง เย็น นิ่ง ฉ่ำล้ำลึก นัก  ยามย่ำย่าง สมาธิ เดินจงกรม  บนลานดิน !

 

                                           . . . “ โ อ๊ะ   โ อ๊ะ  ลูก   ไป   ไป    ไปใส่รองเท้า ลูก  อย่าเปลือยตีน  ดินสกปรก  กะเด่ว เชื้อโรค จะ เข้าเท้า ลูก ”  

                     เ รา มัก จะได้ยิน    พระคุณพ่อ พระคุณแม่ สมัยนี้ พูดอย่าง ตกอกตกใจ เมื่อเห็นลูกๆ เปลือยตีน เดินเล่น บนดิน !  … โอ้    เราไปเชื่อ ฝรั่งมังค่า  หรือใคร ที่ไหน  ทำไมหนอในเรื่องนี้ ?      ดิ น     ห ญ้า   นั้นสะอาด มีประโยชน์ มีคุณค่าประโยชน์ต่อมนุษย์ จะตายไป     คนเรา เกิด จาก  ดิ น  น้ำ    ล ม   ไ ฟ   นี่นา…   โอ  เซ … ถ้าบริเวณดินผืน นั้น มีของสกปรก มีของคม  แก้วแตก  หนามแหลมคม ฯลฯ  เราก็ต้องให้ลูกสวมรองเท้าได้   ตอนฉันกะ พี่น้อง ผองเพื่อนๆ อยู่ในวัยเด็ก ก็เปลือยตีน ย่ำเท้า เดินไปไหนมาไหนได้อย่างสบาย   สนุกสนาน ม่วนจะตายไป   ก็ไม่เห็นจะมีเด็กๆ ถึงแก่ความตายเพราะเชื้อโรคเข้าสู่ตีน  ซักกะหน่อย    มีแต่จะทำให้ร่างกายเด็กแข็งแรง สดชื่น  แจ่มใส  มีชีวิต  ชีวา สีสัน  และตอน ช่วงที่ ฉั น   เป็นครูบ้านนอก   เด็กนักเรียนส่วนข้างมาก ก็ไม่ได้ใส่รองเท้ามาโรงเรียน  เปลือยตีน เดินกัน โทง โทง  มาตามคันนาบ้าง  ตามถนน บ้าง  บางเด็กก็มีรองเท้าใส่  แต่มีน้อยมาก   ส่วน ฉัน นี่ถ้าไม่ติดในระบบราชการ ฉัน จะถอดเกือก สอนหนังสือในห้องเลย(ตอนนั้นเป็นครูต้องผูกไท้ ด้วย ร้อนก็ร้อน) หยิบชอล์ค เขียนบนกระดานดำ อย่างสบายอุรา โปร่งโล่งตีน

 

                คุณพ่อ คุณแม่ทั้งหลายจ้า หาโอกาสให้คุณลูกๆทั้งหลาย ได้มีโอกาส “ตีนติดดิน” บ้างเต๊อะ  และคุณแม่คุณพ่อก็หาโอกาส  ช่วงชิงเวลา เปลือยตีน ลง สัมผัส เหยียบดิน ย่ำหญ้า ผ่องเน้อ  พร้อมกับ แกว่งแขนไปด้วย ฯลฯ  จะได้สดชื่นแจ่มใส แข็งแรง ดีไม่ดี อาจถูกหวยรางวัลที่ ๑ ก็ได้ ใครจะไปรู้  ห้า ห้า… เอ๊ะ นี่มันเกี่ยวกะอะไรกัน ด้วย   อะ ฮับ  ฮะ อ้ายอุ๊ยดาว  อิ อิ…

 

                          - - -  นานมาแล้ว ฉั น   , สุวิชานนท์ (คำ  พอวา )  กับพวก พากันไปลำพูน ไปแอ่ว บ้านร้าน “โขง  - สาละวิน” บ้านร้านอาหารปลอดสารของ “อ้ายยอด … วีระศักดิ์  ยอดระบำ”  และ “พี่อ้อย … กัลยา  ใหญ่ประสาน” อดีตสหายหญิงแห่งดอยเหนือ เช่นเดียวกับ อ้ายยอดฯ ซึ่งเป็นอดีตสหายเขตป่าเขา แม่สะเรียง แม่ฮ่องสอน… พวกเรานั่งบนพื้นหญ้ากลางแจ้ง นั่งสนทนาธรรม กันในทุกเรื่อง การเมือง เศรษฐกิจ สังคม  ความรัก ปรัชญา เพลง   วรรณกรรม  ตลอดจนการดำรงวิถีชีวิต ฯลฯ  กิน ดื่ม  ม่วนกัน… ณ  ครา ช่วงหนึ่ง   เบื้องฟ้าบน  เสียงเครื่องบินก้องคำรามสนั่นหวั่นไหว พวกเราแหงนคอตั้งบ่าดู  เป็นเครื่องบินไอพ่น บินเร็ว กว่าเสียง โฉบผ่านเหนือหัวพวกเราไปอย่างรวดเร็ว

 

                       “  แบบนี้ไม่ได้นะ มลพิษทางอากาศ   มลพิษทางเสียง  นี่มันล่วงละเมิดสิทธิบนท้องฟ้าของเรานี่  ไม่ได้พวกเราต้องฟ้อง  ศาลไทยไม่รับฟ้อง  แม่งงง เอาศาลโลก เล๊ย”   อ้ายยอดเงยหน้าพูดขึ้นมา  พวกเรายิ้ม

 

                     เรา   คงได้อ่านข่าว และจำกันได้ กรณีการสร้างสนามบินหนองงูเห่า  ก่อนนี้หนองงูเห่าเป็นหนอง แผ่นดินชุ่มน้ำ ( Wet  Land )  อุดมสมบูรณ์ ในความหลากหลายทางชีวภาพ ( Biodiversity ) เต็มไปด้วยพืช ผัก  ปู  ปลา  กุ้ง  หอยงูเงี้ยว เขี้ยวขอ   (  ฟังดูชื่อหนองซี)  … แล้วรัฐฯ ก็สร้าง”สนามบินสุวรรณภูมิ”  กดทับ บดขยี้ หนองงูเห่า โดยมิพึงสงสัยว่าประดา สรรพสัตว์ สรรพสิ่ง  สรรพชีวิต นั้นๆ จักสูญเสีย  เจ็บปวด แค่ไหน?   มลพิษทางเสียงจักทำให้พี่น้องชุมชนที่นั่น แถบนั้น จักทนท้นทุกข์เพียงใด?

 

                                “ ข่าวว่า เมื่อสนามบินสร้างเสร็จใหม่ๆ  มีไส้เดือน กิ้งกือ งูเงี้ยว และสัตว์เลื้อยคลานทุกชนิด คลานยั้วเยี้ย ไปมาบนรันเวย์ ”   เพื่อน กวี นักเขียนคนหนึ่งเล่าให้พวกเราฟัง  พวกเราหัวเราะ แกม สังเวช

 

                                “ ก็ไปรุกรานวิถีชีวิตของเขานี่  ระวังเหอะ  จะเกิด อุบัติเหตุ เครื่องบินจะลื่นถลา เวลาเครื่อง ซิก  แซก บนรันเวย์   เป็นข่าว ขายขี้หน้าไปทั่วโลกแน่”   ฉัน  ทำเป็นขึงขัง   แกล้งเสริมล้อ แกมว่าจะเป็นจริง!... ฉันเองก็ไม่รู้ว่าทุกๆปี ทางรัฐได้จ่ายค่ามลพิษทางเสียงให้แก่พี่น้องชุมชนชาวบ้านไหม?

 

                               - - -  ฉั น คิดว่า   ต้นทุนธรรมชาติที่งดงามทรงคุณค่ามหาศาล ต่อมวลมนุษยชาติบนดาวโลกดวงนี้นั้น เราจะตี ราคา เป็น แค่ “วัตถุ เงินตรา … พระเจ้าองค์ใหม่ของพวกมนุษย์อวิชชา นั้นมิได้ดอก…  ที่ พูด เช่นนี้   มิ ได้   “เว้อร์ ”    เกินไปดอก พี่น้องเอ๋ย…

 

                  ขอบพระคุณ  เสียงร้อง ของพี่น้องชุมชน ประชาชน ในพื้นที่ใจกลาง ศูนย์กลางอำนาจรัฐสมมุติ!

 

                 . . .  ขอบคุณ  - - -   ขอบพระคุณ ! @

-------------------------------------------------------------

อาทิตย์  ๒๔   -   จันทร์  ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ (รจนาเป็นบางช่วง บางเวลา )

 

       ฤดูหนาว(ที่ในเมืองไม่ค่อยหนาวเลย  “ฤา โลก สมัยนี้ มันเอียง?”

                   ล้านนาอิสระ , เจียงใหม่.

 

 

                     

 

บล็อกของ แสงดาว ศรัทธามั่น

แสงดาว ศรัทธามั่น
 *--*--*{ กาพย์”ลุกขึ้นสู้” }
แสงดาว ศรัทธามั่น
{  กลอนเปล่าอิสรา  }@  ลมหนาวเหนือ พัดโชยมา…ยามต้องไล้ผิวกายร้อนที่รุ่มก็คลายกลิ่นอายเหมันตฤดู …ไม่รู้ลืม @
แสงดาว ศรัทธามั่น
 
แสงดาว ศรัทธามั่น
 ***** --*-- ***** --*-- *****@   “  ฮา  ติง จัง…จังคนมีอำนาจล้นฟ้า  แต่รังแก คนยากไจ้ อำนาจ แบบ ต๋ามใจ๋ เขา “น้องสาว  ผู้ดีงาม ใจงาม ของฉัน  แล ของโลกชีวิต อีกคนหนึ่ง