Skip to main content
ปัจจุบันความก้าวหน้าทาง ICT อนุญาตให้ประชาชนทุกคน สามารถแสดงออกทางความคิดเห็น ได้อย่างกว้างขวาง ผ่านความหลากหลายของช่องทางการติดต่อสื่อสาร และความอุดมสมบูรณ์ของสื่อ ไม่เพียงเท่านั้น ICT ยังอนุญาตให้เราสามารถ จัดการกับข้อมูลและเนื้อหาของการแสดงออกทางความคิด เพื่อใช้สำหรับการเข้าถึงในวงกว้างโดยผู้คนอื่นต่อไปได้อีกด้วย

ด้วยความสามารถของ ICT ข้างต้น ทำให้ประชาชนเริ่มมองเห็น และตระหนักในศักยภาพ ของการนำICT มาใช้เพื่อสะท้อนสภาพปัญหาที่แต่ละบุคคลประสบ มองหาผู้ร่วมชะตากรรมเดียวกัน และมองหาผู้อื่นที่เต็มใจให้ความช่วยเหลือ เพื่อร่วมคิด แสดงความเห็น ให้คำปรึกษา และช่วยกันหาทางบรรเทาหรือแก้ไขปัญหานั้นๆ และด้วยความช่วยเหลือของอินเตอร์เนต รวมทั้งการกระจายตัวของ ICT อื่นๆ ทำให้กิจกรรมข้างต้นสามารถเกิดขึ้น โดยไม่ถูกจำกัดด้วยท้องถิ่นที่อยู่ หรือแม้แต่ช่วงเวลาแห่งการทำกิจกรรม

ภาพที่เกิดขึ้นคือ ประชาชนสามารถรวมตัว เพื่อดำเนินกิจกรรมร่วมกัน ได้ง่ายขึ้น ถี่ขึ้น ในรูปแบบและเพื่อความต้องการที่หลากหลายขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ภาพดังกล่าว ถูกสะท้อนผ่านปรากฏการณ์ การเกิดขึ้นและขยายตัวอย่างมากมาย ของกลุ่มและสังคมต่างๆ ผ่านทางอินเตอร์เนต เพื่อร่วมกันให้ความช่วยเหลือสมาชิกในกลุ่มหรือสังคมนั้นๆ หรือเพื่อการรวมกลุ่มกันทำกิจกรรมหรือเคลื่อนไหวทางสังคม

โดยกิจกรรมทั้งสองประการข้างต้น มีความสำคัญตรงที่ เป็นสิ่งที่ช่วยสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อ จุดยืนทางความคิด และเป้าหมายของกลุ่มหรือสังคมนั้นๆ

นอกจากนี้ ความน่าสนใจของปรากฎการณ์ข้างต้น อยู่ที่เป้าหมายของการดำเนินกิจกรรมส่วนใหญ่ เป็นการสนองความต้องการทางสังคม ที่ไม่ได้รับการตอบสนองโดยระบบทางสังคม ที่มีอยู่ในปัจจุบัน

ตัวอย่างที่สามารถสะท้อนภาพดังกล่าว ได้เป็นอย่างดี เช่น ปัจจุบัน เมื่อหน่วยงานภาครัฐเลือกปฏิบัติ หรือปล่อยปะละเลย ประชาชนบางกลุ่ม ในการดำเนินโครงการใดโครงการหนึ่ง มีความเป็นไปได้มากขึ้น ที่ประชาชนกลุ่มดังกล่าว จะประสบความสำเร็จ ในการเรียกร้องการมีส่วนร่วม รวมถึงการได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรมมากขึ้น ด้วยเพราะ ICT เป็นเครื่องมือสำคัญที่ทำให้ปรากฏการณ์การรวมตัวของประชาชน เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

จากภาพสะท้อนที่ข้าพเจ้าได้ชี้ให้เห็นเบื้องต้น ความก้าวหน้าทาง ICT ได้ผลักดันให้โลกของเรา ก้าวเข้าสู่ยุคของ "สังคมประชาชน" (Civil Society) คือสังคมที่ประชาชน มีส่วนร่วมโดยตรงกับการดำเนินการต่างๆ ทางสังคมมากขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาประสิทธิภาพการทำงาน ของระบบทางสังคมในปัจจุบัน ทั้งในแง่ของโครงสร้างทางภาครัฐ และระบบตลาดของภาคเอกชน ซึ่งดูเหมือนว่า ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของทุกกลุ่มได้อย่างเพียงพอและเท่าเทียม

ประโยชน์สำคัญที่สุดของ "สังคมประชาชน" คือการให้โอกาสประชาชนทุกกลุ่ม มีที่ยืนในสังคม เพื่อแสดงออกถึงความคิด ความเชื่อ และจุดยืนของตน เพื่อการมีส่วนร่วมในการปรับเปลี่ยนระบบต่างๆทางสังคม ให้รองรับความหลากหลาย และตอบสนองความต้องการของประชาชน ได้ทั่วถึงมากขึ้น

ข้าพเจ้ามองว่าสิ่งนี้คือกุญแจสำคัญที่สุด ในการพัฒนาทางสังคม เพื่อให้สังคมหนึ่งๆเป็นสังคมของประชาชนทุกคน มากกว่าจะเป็นสังคมที่ถูกบงการ หรือทำให้บูดเบี้ยวโดยโครงสร้างสังคมในปัจจุบัน ที่มีความฉ้อฉล และไม่สามารถสะท้อนความต้องการของประชาชนทุกกลุ่ม อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญทางสังคม ที่เกิดขึ้นในยุค "สังคมประชาชน" นี้จะมีแรงขับเคลื่อนของประชาชน เป็นส่วนประกอบสำคัญ เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ถูกผลักดันในลักษณะจากล่างขึ้นบนมากขึ้น มากกว่าที่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญทางสังคม จะถูกผลักดันจากบนลงล่าง โดยโครงสร้างทางสังคมในปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นการเกิดขึ้นของ "นวัตกรรมทางสังคม" (Social Innovation) อย่างแท้จริง

"นวัตกรรมทางสังคม" หมายถึง แนวความคิด กระบวนการ และการดำเนินการ ที่มีเป้าหมายเพื่อนำเสนอความเปลี่ยนแปลงสำคัญ มาสู่โครงสร้าง กลไก หรือระบบความเชื่อทางสังคม เพื่อให้ความต้องการของภาคประชาชน ซึ่งถูกเพิกเฉยโดยโครงสร้างสังคมในปัจจุบัน ได้รับการสนองตอบ

การเกิดขึ้นและขยายตัว ขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร (Non-profit Organisation) องค์กรการกุศล (Charitable Organisation) หรือ บริษัทเพื่อประโยชน์ทางสังคม (Social Enterprise) อย่างกว้างขวางทั่วโลก เช่น Greenpeace และ Fairtrade Foundation ล้วนแต่เป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีว่าทั้ง "สังคมประชาชน" และ "นวัตกรรมทางสังคม" ได้เพิ่มความสำคัญกับการปฏิวัติทางสังคม ในโลกยุคปัจจุบันมากขึ้นทุกที โดยทั้งสองเข้ามาช่วยลดความบูดเบี้ยว และความฉ้อฉลของระบบทางสังคมในปัจจุบัน ทั้งในแง่ของโครงสร้างทางภาครัฐ และระบบตลาดของภาคเอกชน

นี่ยังไม่นับถึงการเคลื่อนไหวทางสังคมต่างๆ ที่ไม่ได้อยู่ในรูปแบบขององค์กร ที่มีการจัดตั้งอย่างเป็นทางการ อีกมากมาย ซึ่งข้าพเจ้าเชื่อว่า ทุกท่านสามารถได้รับรู้หรือมีประสบการณ์ตรง ได้มากขึ้นๆทุกที

อย่างไรก็ดี ข้าพเจ้าขอให้ทุกท่านตระหนักว่า ทุกการเปลี่ยนแปลง นำมาซึ่งความขัดแย้งทางความคิด นำมาซึ่งการเปลี่ยนความสมดุลย์ทางอำนาจ และนำมาซึ่งความท้าทายทางความคิดและความเชื่อ ซึ่งเป็นสังคมต้องการความใจกว้าง และการคิดถึงประโยชน์ส่วนรวม ของประชาชนทุกคนในสังคมเป็นสำคัญ

"สังคมประชาชน" และ "นวัตกรรมทางสังคม" เป็นแนวความคิดและปรากฏการณ์ที่ดี ซึ่งนำความเปลี่ยนแปลงเชิงสร้างสรรค์มาสู่สมาชิกทุกคนในสังคม และต้องการเวลาในการเปลี่ยนแปลง แต่ทั้งนี้ผลลัพธ์ในการนำมาปฏิบัติ ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกและความจริงใจของสมาชิกในสังคมนั้นๆเป็นหลัก

ดังนั้นผลลัพธ์ที่แต่ละสังคมจะได้รับ จากการโอบอุ้บ"นวัตกรรมทางสังคม" และก้าวเข้าสู่ยุค "สังคมประชาชน" ย่อมมีความแตกต่างกันไป และเป็นเครื่องสะท้อนได้อย่างดีว่าสังคมนั้น มีความศิวิไลซ์อย่างไรและแค่ไหน ที่จะอดทนและทำงานร่วมกัน เพื่อผ่านช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง ที่ดูสับสนวุ่นวาย เพื่อไปสู่สังคมที่ประชาชนทุกคนมีส่วนร่วมมากขึ้น

ปรากฏการณ์นี้เป็นอีกเครื่องยืนยันว่า ICT เป็นเพียงแค่เครื่องมือประเภทหนึ่งเท่านั้น ผลลัพธ์ที่เกิดจากการใช้เครื่องมือนั้น อยู่ที่ความเข้าอกเข้าใจในผลกระทบและวิสัยทัศน์ของผู้นำมันไปใช้

ความก้าวหน้าของ ICT ได้นำเรามาสู่เวลาสำคัญแล้วในปัจจุบัน อยู่ที่แต่ละสังคมแล้วว่า จะเห็นช่วงเวลานี้เป็นวิกฤตที่ต้องต่อต้าน หรือเป็นโอกาสที่ต้องโอบอุ้ม

บล็อกของ SenseMaker

SenseMaker
น้ำมาถึงไหนแล้วหว่า...บ้านฉันน้ำจะท่วมมั้ยเนี่ย...จะหาข้อมูลที่จำเป็นได้จากที่ไหนบ้างหว่า...เวลาเดือดร้อนจะต้องแจ้งใคร...ทำไมโทรไป 1111 กด 5 แล้วถามอะไรไปก็ตอบไม่ได้... ........ใครก็ได้ช่วยบอกทีเหอะว่าฉันกับครอบครัวต้องทำยังไงบ้าง.......ข้อมูลประกอบการตัดสินใจอะไรๆก็ไม่มี ที่มีก็ไม่รู้จะเชื่อได้มากขนาดไหน เชื่อได้รึเปล่า.........
SenseMaker
ขอสวัสดีปีใหม่แด่ท่านผู้อ่านทุกท่าน ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยจงอวยพรให้ทุกท่าน สุขกาย สบายใจมีเงินทองใช้ไม่ขาดมือ และมีสติในการดำเนินชีวิตอยู่เสมอ
SenseMaker
  จากที่สัญญาว่าในบทความนี้ ข้าพเจ้าจะมาต่อยอดบทความจากครั้งที่แล้วในหัวข้อ “ความร่ำรวยข้อมูล” ด้วยการวิเคราะห์ความจำเป็น ที่เราจักต้องพัฒนาทั้ง 3 ส่วนประกอบสำคัญ อันได้แก่ ความอุดมทางด้านข้อมูล ความยากง่ายในการเข้าถึงข้อมูล และมุมมองที่มีในการวางแผนโครงสร้างข้อมูลบนเว็บ ไปพร้อมๆกัน เพื่อทำให้ทุกท่านเข้าใจประเด็นดังกล่าวนี้เป็นรูปธรรมมากขึ้น
SenseMaker
เป็นอีกครั้งที่ข้าพเจ้าไม่สามารถส่งบทความเข้ามาได้ตามกำหนด โดยคราวนี้ทิ้งระยะไปนานมาก จนทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกผิดต่อผู้อ่านและผู้บริหาร blogazine เป็นอย่างยิ่ง ข้าพเจ้าต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
SenseMaker
ต่อเนื่องจากบทความที่แล้วในหัวข้อ ความเป็นส่วนตัวของคุณราคาเท่าไหร่ ข้าพเจ้าอยากชวนท่านผู้อ่านคิดต่อไปอีกนิดว่า ท่านจะรู้ได้อย่างไรว่า ข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ที่ท่านเปิดเผยไว้บนพื้นที่ออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเครือข่ายสังคมออนไลน์ (social network sites) ต่างๆ เช่น Facebook และ MySpace จะไม่ทำให้ท่านสูญเสียอะไร หรือเสียใจในอนาคต
SenseMaker
จากบทความที่แล้วในหัวข้อ การจัดระเบียบโลกใหม่ การเมืองไทย และICT ข้าพเจ้าได้ชี้ให้เห็นว่า เพราะความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ICT ในปัจจุบัน ทำให้ความสามารถของมนุษย์ ในการจัดการและจัดเก็บข้อมูล ซึ่งหากอาศัยเพียงประสาทสัมผัสของมนุษย์ จะไม่สามารถเข้าถึงและจัดการได้ และความด้วยความก้าวหน้านี้ ทำให้มนุษย์สามารถเห็นและรับรู้ ในข้อมูลที่เคยยากที่จะเห็นและรับรู้ อีกทั้งยังทำให้เข้าใจในสิ่งที่เคยยากต่อการวิเคราะห์
SenseMaker
ความก้าวหน้าทาง ICT ในปัจจุบัน ช่วยให้เราๆท่านๆ สามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ซึ่งยากที่จะเข้าถึงในอดีต ได้ง่ายขึ้น เช่น ข้อมูลของบุคคลหรือข้อมูลขององค์กรที่เราสนใจ ข้อมูลทางเศรษฐกิจและสังคม ของประเทศใดประเทศหนึ่ง รวมถึงองค์ความรู้ในด้านต่างๆ เป็นต้น
SenseMaker
หลังจากบทความที่เรียกได้ว่า บทบรรณาธิการแรก ได้ชี้แจงเป้าหมายการดำรงอยู่ ของพื้นที่ทางความคิดแห่งนี้ บัดนี้เวลาล่วงเลยมาครึ่งปี โอกาสแห่งการพูดคุย กับท่านผู้อ่านอีกครั้ง ก็มาถึงทุกๆ12 บทความ ที่ได้ทำหน้าที่ของมันผ่านพ้นไป ถือเป็นช่วงเวลาที่ดี ที่ผู้เขียนกับผู้อ่านจะได้แลกเปลี่ยนความคิดกัน เพื่อทำให้พื้นที่แห่งนี้ เป็นประโยชน์กับทุกๆคน อย่างแท้จริงในทัศนะของข้าพเจ้าแล้ว ICT เข้ามามีบทบาท ต่อชีวิตของเราทุกคน ในทุกวันนี้มากขึ้นทุกที แต่ละคนได้รับประโยชน์ ผลกระทบ และผลลัพธ์ ที่แตกต่างกันไป จากการเปลี่ยนแปลงรอบตัว ซึ่งมี ICT เป็นปัจจัยต้นเหตุ
SenseMaker
Peer Review อาจไม่ใช่คำในภาษาอังกฤษ ที่คนส่วนใหญ่ในสังคมคุ้นเคย แต่เป็นคำคุ้นเคยเป็นอย่างดีในสังคมนักวิชาการ อาจารย์ หรือ นักวิจัย เนื่องจากสังคมดังกล่าว มีวัฒนธรรมและกิจกรรมหลัก ในการสร้างองค์ความรู้ใหม่ ด้วยการต่อยอดองค์ความรู้ที่มีอยู่เดิม ผ่านการพัฒนาผลงานวิจัยใหม่ ซึ่งการยอมรับจากสมาชิกในสังคมเดียวกัน มีความสำคัญกับผลงานวิจัยแต่ละชิ้นมาก เนื่องจากไม่ว่าผลงานดังกล่าว จะมีคุณภาพในสายตาผู้พัฒนาเพียงใด แต่หากไม่ได้รับการตอบรับจากสมาชิกในสังคม ผลงานนั้นก็ถือได้ว่า ไม่ได้สร้างคุณค่าให้กับสังคมมากนัก
SenseMaker
ในอดีต การเกิดขึ้นของสังคม มักจะถูกจำกัดด้วยเส้นขอบเขตของเวลาและสถานที่ การเป็นส่วนหนึ่งในสังคม เกิดจากการมีส่วนร่วมอยู่ในเวลาและสถานที่เดียวกัน เช่น การอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน การไปโรงเรียนหรือสถานศึกษาเดียวกัน การทำงานในบริษัทหรือสถานที่ทำงานเดียวกัน หรือ การอยู่ในกลุ่มทำกิจกรรมเดียวกัน เป็นต้นแต่ด้วยความก้าวหน้าของ ICT และการขยายตัวของอินเตอร์เนต ทำให้ในปัจจุบัน การมีและเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ของเราแต่ละคน ไม่ถูกจำกัดโดยสองข้อจำกัดข้างต้น อีกต่อไป และทำให้ในปัจจุบันนั้น เราแต่ละคน มีและเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ที่ถูกสร้างขึ้นบนอินเตอร์เนต เพิ่มมากขึ้นๆทุกที
SenseMaker
  หลังจากหลายบทความในคอลัมน์แห่งนี้ ข้าพเจ้าได้ใช้พูดถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ที่นับวันดูเหมือนว่า "เป็นการยากสำหรับประชาชน ที่จะทำความเข้าใจถึงความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ เพื่อการดำรงชีวิตอย่างเท่าทัน" บทความวันนี้ จึงถูกเขียนขึ้นเพื่อแสดงทัศนะเกี่ยวกับกลไกทางสังคม ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งในปัจจุบัน เพื่อทำหน้าที่คุ้มกันและช่วยเหลือประชาชน ซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบหรือถูกกระทำ จากความเปลี่ยนแปลงทางสังคมเหล่านี้ โดยไม่อาจป้องกันตนเองได้อย่างเท่าทัน หากขาดไปซึ่งกลไกทางสังคมที่จะขอกล่าวถึงในวันนี้เรามาเริ่มทบทวนกันก่อนว่าความเปลี่ยนแปลงทางสังคม ซึ่งถูกกล่าวถึงในคอลัมน์แห่งนี้…
SenseMaker
สุขสันต์ปีใหม่แด่ทุกท่าน ผู้ซึ่งให้เกียรติแวะเวียนเข้ามาอ่านบทความในคอลัมน์แห่งนี้ ทั้งขาประจำและขาจร ขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก จงอำนวยอวยพรให้ทุกท่านมีความสุขกาย สบายใจ และสามารถดำรงชีวิตอย่างมีสติ (และมีสตางค์ใช้อย่างพอเพียง) ข้าพเจ้าขอเริ่มต้นปีใหม่ ด้วยอีกหนึ่งงานเขียนที่มุ่งสื่อสารให้ผู้คนในวงกว้าง ตระหนักถึงผลกระทบที่ ICT มีต่อการดำเนินชีวิตในทุกระดับ เพื่อให้ทุกท่านสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้อย่างเท่าทัน อีกทั้งสามารถประยุกต์ใช้มันอย่างมีประโยชน์