Skip to main content

ต่อเนื่องจากบทความที่แล้วในหัวข้อ ความเป็นส่วนตัวของคุณราคาเท่าไหร่ ข้าพเจ้าอยากชวนท่านผู้อ่านคิดต่อไปอีกนิดว่า ท่านจะรู้ได้อย่างไรว่า ข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ที่ท่านเปิดเผยไว้บนพื้นที่ออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเครือข่ายสังคมออนไลน์ (social network sites) ต่างๆ เช่น Facebook และ MySpace จะไม่ทำให้ท่านสูญเสียอะไร หรือเสียใจในอนาคต
\\/--break--\>

เป็นความจริงที่ว่า เราทุกคนย่อมมีความไม่เท่ากัน ในแง่ของความสามารถ ในการตระหนักถึงผลลัพธ์ของการกระทำต่างๆของตนในปัจจุบัน ว่าจะส่งผลอย่างไรต่ออนาคตของตัวเอง ซึ่งความไม่เท่ากันนี้ เกิดขึ้นได้ทั้ง จากการรู้เท่าไม่ถึงการ การขาดความรอบคอบ และเงื่อนไขชีวิตที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
การรู้เท่าไม่ถึงการ หมายถึง ลักษณะการใช้ชีวิตวินาทีต่อวินาที ทุกการตัดสินใจกระทำการใดๆในปัจจุบัน เกิดขึ้นเพื่อตอบสนองสิ่งกระตุ้น สิ่งเร้า และความอยากของตนเอง ในวินาทีที่ต้องตัดสินใจกระทำการนั้นๆ
การขาดความรอบคอบ สะท้อนถึงสภาพของการรู้ตนเอง และตระหนักถึงปัจจัยอื่นๆในระยะยาว มากกว่าเพียงแค่สิ่งกระตุ้นและสิ่งเร้า ในขณะตัดสินกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง หากแต่ไม่อาจตระหนักถึงผลได้ผลเสีย อย่างรอบด้านจากกระทำหนึ่งๆของตน
เงื่อนไขชีวิตที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา หมายถึงสภาวะเงื่อนไขชีวิต ที่ไม่สามารถคาดการณ์หรือกำหนดได้ล่วงหน้า เป็นสภาวะที่เราทุกคนไม่สามารถควบคุมเงื่อนไข ที่จะมีเข้ามาในชีวิตได้ เนื่องจากไม่มีใครสามารถล่วงรู้อนาคตได้อย่างสมบูรณ์ นั่นหมายถึง ของการกระทำในอดีต จะมีผลกระทบกับเงื่อนไขชีวิตในลักษณะนี้ อย่างที่เราไม่ได้คาดหวัง หรืออย่างที่คาดไม่ถึง
เราอาจหลีกเลี่ยง ผลลัพธ์อันไม่พึงประสงค์ ที่เกิดจากการรู้เท่าไม่ถึงการ ได้ง่ายที่สุด หากเรามีสติและคิดให้ถี่ถ้วนมากขึ้น ถึงผลได้ผลเสีย ให้มากกว่าเพียงแค่การตัดสินใจกระทำการ เพียงเพื่อตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นและความอยากของตนในขณะนั้น
การป้องกันผลจากการขาดความรอบคอบ อาจเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายรองลงมา โดยการมีความรู้ความเข้าใจ มากขึ้นถึงสิ่งที่กำลังจะกระทำ รวมถึงการตระหนักถึงเป้าหมายชีวิต ในระยะยาวของตนเองให้มากขึ้น และใช้ทั้งสองสิ่งนี้ประกอบการตัดสินใจกระทำการต่างๆ
แต่สิ่งที่ยากที่จะป้องกัน หรือพูดได้ว่าไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ คือ เงื่อนไขชีวิตที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุม และไม่สามารถคาดการณ์ใดๆล่วงหน้าได้
ผนวกกับคุณสมบัติสำคัญข้อหนึ่งของเทคโนโลยี ICT นั่นคือทำให้ข้อมูลทุกอย่าง สามารถถูกนำกลับมาบริโภคได้อีกครั้ง หรือทำให้ข้อมูลทุกอย่าง อยู่ในรูปแบบที่สามารถเข้าถึงได้ในภายหลัง นั่นยิ่งทำเราทุกคนต้องใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวัง กับการกระทำใดๆในปัจจุบัน เนื่องจากเราทุกคนในปัจจุบัน มีแนวโน้มที่ต้องใช้ชีวิตผ่านเทคโนโลยีต่างๆมากขึ้น
ด้วยปัจจัยทั้งสามประการ รวมเข้ากับ แนวโน้มการใช้ชีวิผ่านเทคโนโลยี ทำให้เราไม่สามารถยืนยันได้ว่า การตัดสินใจกระทำต่างๆในปัจจุบันของเรา จะไม่ทำให้เราต้องสูญเสียอะไร หรือต้องเสียใจในอนาคต เนื่องจากเราทุกคนกำลังสูญเสีย การควบคุมชีวิตของตนเองไปทุกที
เพราะข้อมูลต่างๆจากอดีต มีให้ผู้คนในวงกว้างกว่าที่เคย ได้เข้าถึงอย่างชัดเจน อีกทั้งเราทุกคน ก็ไม่สามารถควบคุมข้อมูลของตนเอง จากการเข้าถึงของผู้อื่น ได้อย่างสมบูรณ์ จึงทำให้การกระทำใดๆของเรา ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ส่งผลต่อชีวิตของเราในอนาคต มากกว่าที่เคยเป็นมา
ตัวอย่างสำคัญที่อย่างนำเสนอ คือ การที่ข้อมูลส่วนตัว ของหัวหน้าองค์กรสายลับคนใหม่ ที่เรียกว่า MI6 ของสหราชอาณาจักร ปรากฏในเครือข่ายสังคมออนไลน์ Facebook (ข้อมูลเพิ่มเติมในภาษาอังกฤษ สามารถหาอ่านได้ที่ http://edition.cnn.com/2009/WORLD/europe/07/05/uk.spy.chief.facebook/index.html?)
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น จากการที่ภรรยาของ ว่าที่หัวหน้า MI6 นำรูปภาพและข้อมูล เกี่ยวกับครอบครัว บ้านพักอาศัย และการเดินทางไปเที่ยวการพักผ่อน มาแบ่งปันไว้บนหน้า Facebook ของตน ก่อนที่สามีของตน จะได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว
แน่นอนว่า ในขณะที่กระทำการดังกล่าว ผู้เป็นภรรยาไม่คิดว่า จะทำให้เกิดผลเสียใดๆตามมา เนื่องจากอาจคิดเพียงว่า อยากจะนำรูปถ่ายและข้อมูล มาแบ่งปันให้คนรู้จักได้ดูกัน
แต่เมื่อในภายหลัง สามีของตนได้รับการแต่งตั้ง ให้ดำรงตำแหน่งสำคัญ จึงทำให้การกระทำดังกล่าว อาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัย กับครอบครัวตน เนื่องจากย่อมเป็นที่คาดหมายได้ว่า การดำรงตำเหน่งสำคัญ ในองค์กรสำคัญดังกล่าว ย่อมทำให้บุคคลนั้นและครอบครัว ตกเป็นเป้าหมายการติดตาม ของผู้คนมากมาย ทั้งที่ปรารถนาดีและไม่ดี
นี่คือตัวอย่างสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า การตัดสินใจกระทำการหนึ่งใด ในขณะใดขณะหนึ่ง แน่นอนว่าการตัดสินใจกระทำในขณะนั้น ย่อมไม่สามารถครอบคลุม ถึงเหตุผลและความจำเป็นต่างๆ ที่อาจมีขึ้นในอนาคตได้ และยิ่งส่งผลรุนแรงขึ้น เมื่อการดำรงชีวิตในปัจจุบัน จำเป็นต้องกระทำผ่านเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น ทำให้ทุกข้อมูล ทุกการกระทำที่ได้ทำไว้ ยิ่งส่งผลต่อชีวิตในอนาคต  อย่างไม่สามารถคาดการณ์ได้ มากขึ้นทุกทีๆ
ในขณะที่ในปัจจุบัน หลายๆท่านคิดใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอินเตอร์เนต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีเครือข่ายสังคมออนไลน์ เพื่อการสร้างโอกาสในชีวิตให้กับตนเอง ผ่านทางการขยายเครือข่ายสังคมของตน ทุกท่านจึงยินดีที่จะนำข้อมูลความเป็นส่วนตัวของตน ขึ้นไปแบ่งปันไว้ทั้งบนอินเตอร์เนต และในเครือข่ายสังคมออนไลน์
ข้าพเจ้าอยากให้ทุกท่านคิดและไตร่ตรอง ถึงสิ่งที่ข้าพเจ้าได้วิพากษ์ไว้ข้างต้น และพึงระลึกเสมอว่า ทุกการกระทำ และทุกข้อมูล ที่ท่านได้นำไปตีแผ่ ผ่านการแบ่งปันรูปและข้อมูล เพื่อให้คนอื่นๆได้รับรู้ บนเครืองข่ายสังคมออนไลน์ หรือ แม้แต่การใช้ชีวิต ที่ท่านได้ดำเนินผ่านเทคโนโลยี ICT และอินเตอร์เนตในปัจจุบัน ได้ทำให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตของท่าน ถูกทำให้อยู่ในลักษณะ ที่เป็นรูปธรรมมากขึ้นกว่าในอดีต ซึ่งทำให้ชีวิตของทุกท่านในอนาคต ได้รับผลกระทบจากการกระทำ ทั้งในอดีดและปัจจุบัน อย่างคาดไม่ถึง อีกทั้งมันยังทำให้ชีวิตของเราทุกคนถูกเฝ้าติดตาม ถูกตรวจสอบ และถูกคุกคาม ได้มากขึ้น
นอกจากการกระทำของเจ้าของข้อมูลเอง จะทำให้เกิดผลกระทบอันไม่คาดหมาย ดังเช่นที่กล่าวมาข้างต้น
ปัจจุบันนี้ ยังมีเทคโนโลยีอีกมายมาย ซึ่งถูกนำมาใช้โดยบุคคลอื่น แต่ทำให้ชีวิตของเราๆท่านๆ ได้รับผลกระทบอันไม่คาดหมาย
โดยเทคโนโลยีเหล่านี้ พยายามเข้าถึงข้อมูลความเป็นส่วนตัวต่างๆของเรา โดยที่เราไม่รู้ตัว หรือไม่ได้รับอนุญาติจากเรา ซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลเหล่านั้น เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวไปสร้างประโยชน์ให้กับบุคคลอื่นๆ เช่น นำไปใช้ประโยชน์ทางการตลาด ให้กับบริษัทโฆษณา เพื่อให้บริษัทดังกล่าวสามารถเลือกโฆษณา ที่ตรงกับนิสัยการใช้งาานอินเตอร์เนต ของเราแต่ละคนได้ (ข้าพเจ้าขอวิพากษ์ถึง เทคโนโลยีเหล่านี้ ในบทความชิ้นถัดไป)
สิ่งที่เกิดขึ้น จากตัวอย่างในย่อหน้าก่อนหน้านี้ คือ การที่ข้อมูลความเป็นส่วนตัวของเรา ถูกนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาติ และอย่างไม่ถูกต้อง เพื่อสร้างประโยชน์ ให้กับบุคคลอื่นๆ ถึงแม้อาจไม่ได้สร้างอันตรายใดๆ ให้กับเจ้าของข้อมูล
แต่ถ้าหากสิ่งที่เกิดขึ้น คือ การที่ข้อมูลความเป็นส่วนตัวเหล่านั้น ถูกนำไปสร้างอันตราย ให้กับเจ้าของข้อมูล เช่นถูกนำไปใช้เพื่อกระทำอาชญากรรมทางการเงิน แล้วโยนความผิดกลับมาให้กับเจ้าของข้อมูลที่แท้จริง หรือถูกนำมาใช้เพื่อติดตามและสร้างอันตราย ให้กับเจ้าตัวและครอบครัว ของเจ้าของข้อมูลเหล่านั้น
หากเป็นเช่นนี้แล้ว คงเป็นหนึ่งผลกระทบอันไม่คาดหมาย ที่น่ากลัวอย่างที่สุด
ข้าพเจ้าหวังว่าบทความชิ้นนี้ จะไม่ทำให้ทุกท่านไม่กล้าใช้ชีวิตออนไลน์อีกต่อไป หากแต่จะทำให้ทุกท่าน ตระหนักถึงความจำเป็น ในการใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง และอย่างเข้าใจ ว่าจะใช้ชีวิตผ่านเทคโนโลยีต่างๆ ในปัจจุบัน ที่มีทั้งคุณประโยชน์มากมาย แต่ก็มีอันตรายอย่างมหาศาล อย่างปลอดภัยได้อย่างไร และจะทำให้ชีวิตของตน อยู่ในการควบคุมของตนเองได้มากขึ้น ได้อย่างไร
ขอให้ทุกท่านใช้ชีวิตผ่านเทคโนโลยี อย่างมีสติและชาญฉลาด
 
หมายเหตุ : ติดตามบทความทั้งหมดได้ที่ www.thesensemaker.org หรือติดต่อข้าพเจ้าได้ที่ sensemaking.writer at gmail dot com
 
 

บล็อกของ SenseMaker

SenseMaker
น้ำมาถึงไหนแล้วหว่า...บ้านฉันน้ำจะท่วมมั้ยเนี่ย...จะหาข้อมูลที่จำเป็นได้จากที่ไหนบ้างหว่า...เวลาเดือดร้อนจะต้องแจ้งใคร...ทำไมโทรไป 1111 กด 5 แล้วถามอะไรไปก็ตอบไม่ได้... ........ใครก็ได้ช่วยบอกทีเหอะว่าฉันกับครอบครัวต้องทำยังไงบ้าง.......ข้อมูลประกอบการตัดสินใจอะไรๆก็ไม่มี ที่มีก็ไม่รู้จะเชื่อได้มากขนาดไหน เชื่อได้รึเปล่า.........
SenseMaker
ขอสวัสดีปีใหม่แด่ท่านผู้อ่านทุกท่าน ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยจงอวยพรให้ทุกท่าน สุขกาย สบายใจมีเงินทองใช้ไม่ขาดมือ และมีสติในการดำเนินชีวิตอยู่เสมอ
SenseMaker
  จากที่สัญญาว่าในบทความนี้ ข้าพเจ้าจะมาต่อยอดบทความจากครั้งที่แล้วในหัวข้อ “ความร่ำรวยข้อมูล” ด้วยการวิเคราะห์ความจำเป็น ที่เราจักต้องพัฒนาทั้ง 3 ส่วนประกอบสำคัญ อันได้แก่ ความอุดมทางด้านข้อมูล ความยากง่ายในการเข้าถึงข้อมูล และมุมมองที่มีในการวางแผนโครงสร้างข้อมูลบนเว็บ ไปพร้อมๆกัน เพื่อทำให้ทุกท่านเข้าใจประเด็นดังกล่าวนี้เป็นรูปธรรมมากขึ้น
SenseMaker
เป็นอีกครั้งที่ข้าพเจ้าไม่สามารถส่งบทความเข้ามาได้ตามกำหนด โดยคราวนี้ทิ้งระยะไปนานมาก จนทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกผิดต่อผู้อ่านและผู้บริหาร blogazine เป็นอย่างยิ่ง ข้าพเจ้าต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
SenseMaker
ต่อเนื่องจากบทความที่แล้วในหัวข้อ ความเป็นส่วนตัวของคุณราคาเท่าไหร่ ข้าพเจ้าอยากชวนท่านผู้อ่านคิดต่อไปอีกนิดว่า ท่านจะรู้ได้อย่างไรว่า ข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ที่ท่านเปิดเผยไว้บนพื้นที่ออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเครือข่ายสังคมออนไลน์ (social network sites) ต่างๆ เช่น Facebook และ MySpace จะไม่ทำให้ท่านสูญเสียอะไร หรือเสียใจในอนาคต
SenseMaker
จากบทความที่แล้วในหัวข้อ การจัดระเบียบโลกใหม่ การเมืองไทย และICT ข้าพเจ้าได้ชี้ให้เห็นว่า เพราะความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ICT ในปัจจุบัน ทำให้ความสามารถของมนุษย์ ในการจัดการและจัดเก็บข้อมูล ซึ่งหากอาศัยเพียงประสาทสัมผัสของมนุษย์ จะไม่สามารถเข้าถึงและจัดการได้ และความด้วยความก้าวหน้านี้ ทำให้มนุษย์สามารถเห็นและรับรู้ ในข้อมูลที่เคยยากที่จะเห็นและรับรู้ อีกทั้งยังทำให้เข้าใจในสิ่งที่เคยยากต่อการวิเคราะห์
SenseMaker
ความก้าวหน้าทาง ICT ในปัจจุบัน ช่วยให้เราๆท่านๆ สามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ซึ่งยากที่จะเข้าถึงในอดีต ได้ง่ายขึ้น เช่น ข้อมูลของบุคคลหรือข้อมูลขององค์กรที่เราสนใจ ข้อมูลทางเศรษฐกิจและสังคม ของประเทศใดประเทศหนึ่ง รวมถึงองค์ความรู้ในด้านต่างๆ เป็นต้น
SenseMaker
หลังจากบทความที่เรียกได้ว่า บทบรรณาธิการแรก ได้ชี้แจงเป้าหมายการดำรงอยู่ ของพื้นที่ทางความคิดแห่งนี้ บัดนี้เวลาล่วงเลยมาครึ่งปี โอกาสแห่งการพูดคุย กับท่านผู้อ่านอีกครั้ง ก็มาถึงทุกๆ12 บทความ ที่ได้ทำหน้าที่ของมันผ่านพ้นไป ถือเป็นช่วงเวลาที่ดี ที่ผู้เขียนกับผู้อ่านจะได้แลกเปลี่ยนความคิดกัน เพื่อทำให้พื้นที่แห่งนี้ เป็นประโยชน์กับทุกๆคน อย่างแท้จริงในทัศนะของข้าพเจ้าแล้ว ICT เข้ามามีบทบาท ต่อชีวิตของเราทุกคน ในทุกวันนี้มากขึ้นทุกที แต่ละคนได้รับประโยชน์ ผลกระทบ และผลลัพธ์ ที่แตกต่างกันไป จากการเปลี่ยนแปลงรอบตัว ซึ่งมี ICT เป็นปัจจัยต้นเหตุ
SenseMaker
Peer Review อาจไม่ใช่คำในภาษาอังกฤษ ที่คนส่วนใหญ่ในสังคมคุ้นเคย แต่เป็นคำคุ้นเคยเป็นอย่างดีในสังคมนักวิชาการ อาจารย์ หรือ นักวิจัย เนื่องจากสังคมดังกล่าว มีวัฒนธรรมและกิจกรรมหลัก ในการสร้างองค์ความรู้ใหม่ ด้วยการต่อยอดองค์ความรู้ที่มีอยู่เดิม ผ่านการพัฒนาผลงานวิจัยใหม่ ซึ่งการยอมรับจากสมาชิกในสังคมเดียวกัน มีความสำคัญกับผลงานวิจัยแต่ละชิ้นมาก เนื่องจากไม่ว่าผลงานดังกล่าว จะมีคุณภาพในสายตาผู้พัฒนาเพียงใด แต่หากไม่ได้รับการตอบรับจากสมาชิกในสังคม ผลงานนั้นก็ถือได้ว่า ไม่ได้สร้างคุณค่าให้กับสังคมมากนัก
SenseMaker
ในอดีต การเกิดขึ้นของสังคม มักจะถูกจำกัดด้วยเส้นขอบเขตของเวลาและสถานที่ การเป็นส่วนหนึ่งในสังคม เกิดจากการมีส่วนร่วมอยู่ในเวลาและสถานที่เดียวกัน เช่น การอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน การไปโรงเรียนหรือสถานศึกษาเดียวกัน การทำงานในบริษัทหรือสถานที่ทำงานเดียวกัน หรือ การอยู่ในกลุ่มทำกิจกรรมเดียวกัน เป็นต้นแต่ด้วยความก้าวหน้าของ ICT และการขยายตัวของอินเตอร์เนต ทำให้ในปัจจุบัน การมีและเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ของเราแต่ละคน ไม่ถูกจำกัดโดยสองข้อจำกัดข้างต้น อีกต่อไป และทำให้ในปัจจุบันนั้น เราแต่ละคน มีและเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ที่ถูกสร้างขึ้นบนอินเตอร์เนต เพิ่มมากขึ้นๆทุกที
SenseMaker
  หลังจากหลายบทความในคอลัมน์แห่งนี้ ข้าพเจ้าได้ใช้พูดถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ที่นับวันดูเหมือนว่า "เป็นการยากสำหรับประชาชน ที่จะทำความเข้าใจถึงความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ เพื่อการดำรงชีวิตอย่างเท่าทัน" บทความวันนี้ จึงถูกเขียนขึ้นเพื่อแสดงทัศนะเกี่ยวกับกลไกทางสังคม ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งในปัจจุบัน เพื่อทำหน้าที่คุ้มกันและช่วยเหลือประชาชน ซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบหรือถูกกระทำ จากความเปลี่ยนแปลงทางสังคมเหล่านี้ โดยไม่อาจป้องกันตนเองได้อย่างเท่าทัน หากขาดไปซึ่งกลไกทางสังคมที่จะขอกล่าวถึงในวันนี้เรามาเริ่มทบทวนกันก่อนว่าความเปลี่ยนแปลงทางสังคม ซึ่งถูกกล่าวถึงในคอลัมน์แห่งนี้…
SenseMaker
สุขสันต์ปีใหม่แด่ทุกท่าน ผู้ซึ่งให้เกียรติแวะเวียนเข้ามาอ่านบทความในคอลัมน์แห่งนี้ ทั้งขาประจำและขาจร ขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก จงอำนวยอวยพรให้ทุกท่านมีความสุขกาย สบายใจ และสามารถดำรงชีวิตอย่างมีสติ (และมีสตางค์ใช้อย่างพอเพียง) ข้าพเจ้าขอเริ่มต้นปีใหม่ ด้วยอีกหนึ่งงานเขียนที่มุ่งสื่อสารให้ผู้คนในวงกว้าง ตระหนักถึงผลกระทบที่ ICT มีต่อการดำเนินชีวิตในทุกระดับ เพื่อให้ทุกท่านสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้อย่างเท่าทัน อีกทั้งสามารถประยุกต์ใช้มันอย่างมีประโยชน์