Skip to main content

 

"จงจำไว้ว่า ปัญหาไม่ใช่การคอร์รัปชั่นหรือความละโมบ ปัญหามันคือระบบ มันทำให้คุณจำต้องคอร์รัปชั่นถึงจะอยู่รอด จงระวังไม่ใช่แค่ศัตรู แต่ระวังพวกมิตรเทียมๆ ที่กำลังทำให้กระบวนการประท้วงนี้เจือจางลง เช่นเดียวกับที่คุณมีกาแฟที่ไร้คาเฟอีน เบียร์ที่ปราศจากแอลกอฮอล์ ไอศกรีมไม่มีไขมัน พวกเขากำลังจะเปลี่ยนการประท้วงของพวกคุณให้กลายเป็นการประท้วงทางศีลธรรมที่ไร้พิษภัย มันคือกระบวนการสกัดคาเฟอีน แต่เหตุผลที่เราอยู่ที่นี่คือเราพอแล้วกับโลก ที่เรารู้สึกดีกับการรีไซเคิลกระป๋องโค้ก การบริจาคเงินสองสามเหรียญกับการกุศล" Slovoj Zizek  9 ตุลา 54 @ Occupy Wall Street[1]

 

วันนี้ถือเป็นวันสุดท้ายของการรณรงค์บอยคอตสินค้า ‘ซีพี-เซเว่นฯ’ จากวันที่ 7 ถึง 11 พ.ค.58 เพื่อต่อต้านการผูกขาดของบริษัทยักษ์ ใหญ่ด้านการเกษตรและอาหาร ซึ่งขณะนี้ได้ขยายกิจการ มีอำนาจเหนือตลาด

ผมขอนำสเตตัสที่โพสต์ไว่ก่อนหน้านี้(6 พ.ค.58) มาปรับปรุงและเผยแพร่ต่อในนี้ เพื่อยืนยันจุดยืนผมว่า ไม่สนับสนุนการสู้โดยการบอยคอตสินค้า ไม่ว่าจะ เซเว่นฯ ซีพี หรือว่าอะไร เพราะ ซีพี ไม่ได้มีแต่เจ้าสัว เพราะถ้าไม่มี ซีพี โดยระบบที่เป็นอยู่ก็ยังมีธุรกิจอย่าง ซีพี อยู่ดี โดยผมมองว่า

1.     บอยคอตไม่มีพลังจริง : เว็บผู้จัดการออนไลน์[2] ซึ่งเป็นเว็บข่าวสำคัญที่นำมาสู่การปลุกกระแสการบอยคอตครั้งนี้ เมื่อวานที่ผ่านมา(10 พ.ค.58)ยังรายงานข่าวว่า “ประชาชนยังคงใช้บริการร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ตามปกติ แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีกระแสในโซเชียลมีเดียบางกลุ่ม ออกมารณรงค์ไม่ให้สินค้าร้านสะดวกซื้อดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่า มีการลอกเลียนแบบสินค้า และได้ขยายธุรกิจที่อาจส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการรายย่อย”

2.     ‘ซีพี-เซเว่นฯ’ ไม่ได้มีแค่เจ้าสัว : แม้หลายคนมองว่ามันอาจจะเป็นเชิงสัญลักษณ์เพื่อนำไปสู่การตระหนักรู้ของคนต่อปัญหาการทำธุรกิจในแบบซีพี แต่การบอยคอตหากมีพลังจริงๆ ผู้ที่ได้รับผลกระทบก็ไม่ใช่เฉพาะผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจในการทำธุรกิจอยู่ดี หากแต่เป็น พนักงานและ SMEs ที่รับแฟรนไชส์ไปขายด้วย โดยเมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา เพจ CP ALL โพสต์ว่า กว่าครึ่งเป็นแฟรนไชส์ ซึ่งล้วนเป็นผู้ประกอบการรายย่อยของพี่น้องคนไทยทุกภูมิภาค แม้จะมีปรากฏการการเปิดร้านของ CP โดยตรงใกล้กับร้ายของแฟรนไซส์ใกล้กัน แต่การบอยคอยก็ไม่ได้หมายความว่าเหล่า SMEs จะไม่กระทบด้วย

 

 

รู้หรือไม่? ร้าน 7-Eleven กว่าครึ่งเป็นแฟรนไชส์ ซึ่งล้วนเป็นผู้ประกอบการรายย่อยของพี่น้องคนไทยทุกภูมิภาค :)

Posted by CP ALL on 5 พฤษภาคม 2015

 

ในส่วนของพนักงานของกลุ่มบริษัทนี้ที่ไม่มีอำนาจการตัดสินใจก็มีเป็นแสนคน เฉพาะ ซีพี ออลล์ ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีพี ออลล์[3] กล่าว เมื่อ ก.พ.55 ว่า ซีพี ออลล์ เป็นองค์กรที่มีพนักงานมากที่สุดในประเทศไทย คือมีมากกว่า 100,000 คน

แน่นอนว่าหากการบอยคอตนั้นมีพลัง สร้างผลสะเทือนกับธุรกิจของ ‘ซีพี-เซเว่นฯ’ คนที่ได้นรับผลกระทบย่อมไม่ใช่เฉพาะเจ้าสัวเท่านั้น แต่ยังมีคนที่ไม่ได้มีอำนาจในการตัดสินใจเล่านี้ด้วย

3.     มูลค่าของสินค้า-บริการเกิดมาจากแรงงาน การบอยคอตสินค้าและบริการด้านหนึ่งเท่ากับเป็นการบอยคอตสิ่งที่แรงงานสร้างสรรค์ขึ้นมาด้วย หากดูจากกระแสความไม่พอใจมาจากการทำธุรกิจของเครือนี้ ไม่ว่าจะเป็นการมีอำนาจเหนือตลาด การมีแนวโน้มผูกขาด รูปแบบการดีลแบบเกษตรพันธสัญญา ซึ่งไม่ได้มีปัญหาที่ตัวสินค้าและบริการที่เกิดมาจากมูลค่าเพิ่มที่คนงานได้ผลิตขึ้นมา ทั้งแรงงานในปัจจุบันและแรงงานในอดีตที่ร่วมกันสะสมองค์ความรู้ แม้จะมีสินค้า house band ที่หลายคนไม่พอใจการลอกเลียนแบบ แต่คนงานที่ผลิตก็ไม่ได้มีอำนาจตัดสินใจอยู่ดี ดังนั้นการใช้วิธีการบอยคอตสินค้าและบริการด้านหนึ่งก็กลายเป็นการลงโทษแรงงานด้วย ทั้งที่โดยความสัมพันธ์การผลิตแล้วเขาไม่ได้มีอำนาจในการตัดสินใน

ขณะที่ประเด็นเรื่องลิขสิทธิ์ในสินค้าและบริการ ผมคิดว่าไม่ควรมีลิขสิทธิโดยเฉพาะสินค้าประเภทอาหาร  เพราะการรณรงค์ลิขสิทธิเข้มข้น คนที่เดือกร้อนคือผู้บริโภค เพราะราคามันจะแพง เนื่องจากความสามารถในการกีดกันการเข้าถึงได้ และมันจะนำไปสู่การผูกขาดอีกเช่นกัน ทั้งที่มูลค้าสินค้าและบริการเหล่านั้นล้วนเกิดจากแรงงานที่ร่วมผลิตและสะสมองค์ความรู้ ลองผิดลองถูกมาตั้งแต่ในอดีตจนเกิดการต่อยอดพัฒนามาถึงปัจจุบัน มันจึงควรเป็นกรรมสิทธิส่วนรวม เพื่อลดเงื่อนไขการกีดกันการเข้าถึงสินค้าและบริการเหล่านั้น

4.     ปัญหาอยู่ที่ระบบไม่ใช่ปัจเจคหรือเจ้าสัวคนใดคนหนึ่ง : ปัญหาที่หลายคนกังวลมันเป็นความกลัวเรื่องการผูกขาด และการบริหารจัดการของธุรกิจนี้ เช่น ระบบพันธสัญญา นั่นอยู่ภายใจอำนาจการตัดสินใจของนายทุน ก็ควรเล็งเป้าไปจัดการที่จุดนั้น และเมื่อเราทำกับ CP ก็ต้องทำกับธุรกิจอื่นเสมอหน้ากันด้วย คือไม่ใช่เลือกจัดการ และโดยระบบมันย่อมสร้างธุรกิจแบบนี้ขึ้นมาแน่นอน มันมีแนวโน้มนำไปสู่การผูกขาดอยู่แล้ว อย่างที่ Zizek เคยกล่าวไว้ว่า "จงจำไว้ว่า ปัญหาไม่ใช่การคอร์รัปชั่นหรือความละโมบ ปัญหามันคือระบบ มันทำให้คุณจำต้องคอร์รัปชั่นถึงจะอยู่รอด”

กระแสการประท้วงที่เกิดขึ้นราวกับว่าเรามีนายทุนที่ดีและมีนายทุนที่ไม่ดีหรือสามานย์ ดังนั้นเราควรบอยคอตทุนที่สามานย์ ทั้งที่โดยระบบมันก็จะนำไปสู่การผูกขาดอยู่แล้ว

 

ข้อเสนอของผม หากเราไม่ไปถึงขั้นปฏิวัติสังคม เพื่อทำให้กรรมสิทธิ์กลับคืนมาเป็นของของส่วนรวมของคนงานในฐานะผู้สรรสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าและบริการ เหล่านั้น ก็ต้องหาทางออกเชิงปฏิรูปที่มากกว่าการบอยคอตทุนใดทุนหนึ่ง แต่ต้องปฏิรุปทั้งระบบ เช่น

1.     ขับเคลื่อนให้ พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า 2542 ให้คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ที่ตั้งมาเพื่อกันการผูกขาด มันทำงานได้จริง แม้ที่ผ่านมาจะไม่ฟังก์ชั่น แต่ก็ยังมีเครื่อไม้เครื่องมือที่จัดการเชิงระบบมากกว่าการปลุกกระแสความไม่พอใจปัจเจคหรือกลุ่มปัจเจคจำนวนหนึ่งแล้วอาจเงียบไปเมื่อกระแสลด

2.     สนับสนุนให้คนงานธุรกิจพวกนี้สามรถรวมตัวต่อรอง ตั้งสหภาพแรงงาน รวมทั้งแรงงานในเกษตรพันธสัญญา เพื่อแบ่งปันประโยชน์โภชน์จากมูลค่าเพิ่มที่เขาสร้างสรรขึ้นมา ซึ่งคนงานเหล่านี้ก็เป็นสมาชิกในสัคมเช่นกัน เงินมันก็กลับมาสู่สังคมมากขึ้น มากกว่าไปอยู่ที่เจ้าสัวหรือกลุ่มนายทุน

3.     รัฐก็เก็บภาษีทรัพย์สินทางตรงมากขึ้น  เป็นต้น



[1] เมื่อ 'สลาวอย ชิเชก' มาเยือนขบวนการ 'ยึดครองวอลล์สตรีท' http://prachatai.com/journal/2011/10/37445

[2] ปชช.ยังใช้บริการร้านเซเว่นฯ ปกติ หลังโซเชียลต้านไม่ให้ซื้อสินค้าร้าน http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9580000053128

[3] "ซีพี ออลล์" ประกาศนโยบายและทิศทางองค์กร ประจำปี 2555 http://www.cpall.co.th/News-Center/corporate-news/ข่าวบริษัท/1/ซีพีออลล์-ประกาศนโยบายและทิศทางองค์กรประจำปี2555

 

บล็อกของ เทวฤทธิ์ มณีฉาย

เทวฤทธิ์ มณีฉาย
รายการมีเรื่องมาเล่าตอนนี้ เสนอตอน เปิด 5 ศพ ทหารเกณฑ์ถูกซ้อมตาย  เนื่องจากช่วงนี้เป็นฤดูเกณฑ์ทหาร ซึ่งปีนี้ มีความต้องการทหารกองประจำการ 103,097 นาย ความต้องการนี้เพิ่มขึ้นทุกปี  โดย สิ่งที่มาพร้อมกับการเกณฑ์ทหาร นอกจากสีสันการลุ้นใบดำใบแดง ภาพชายหนุ่มสวยๆ ต่างๆที่ต้องไปเข้าเกณฑ์ทหารแล้ว คือรายชื่อพลทหารที่ถูกซ้อมจนตายหรือบาดเจ็บสาหัส โดยมีเรื่องมาเล่าฯ ตอนนี้จะยกตัวอย่าง พลทหารที่ถูกซ้อมจนตายเท่าที่ปรากฏเป็นข่าวอย่างน้อย 5 ราย ประกอบด้วย พลทหารยุทธกินันท์ บุญเนียม พลทหารวิเชียร เผือกสม พลทหารทรงธรรม หมุดหมัด  พลทหารอภินพ เครือสุข  และ พลทหารสมชาย ศรีเอื้องดอย เป็นต้น
เทวฤทธิ์ มณีฉาย
ข้อถกเถียงว่าด้วยเรื่องของประเด็น 1. สู้หรือซ้อม 2. ชัยภูมิ ไม่ใช่รายแรก เดือนที่แล้วก็มีเหตุวิสามัญแบบนี้ 3. เงินจากขายยาบ้าหรือกาแฟ 4. ขนยาหรือโดนยัด 5. กล้องวงจรปิดดทำไมไม่เปิด 6. ลาหู่ และผลกระทบในช่วงสงครามยาเสพติด-โดนคุกคามหนักถึงชีวิต และ 7. ชาวบ้านกับ จนท. ทะเลาะกันบ่อยจนไม่ไว้วางใจ ตั้งแต่เรื่องที่ทำกินยันโพสต์คลิปในเฟซบุ๊ก
เทวฤทธิ์ มณีฉาย
เปิดข้อมูลอีกด้านก่อนจะปลื้มไปกับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่โชว์ว่าไทยมีระดับความทุกข์ยากต่ำที่สุดในโลก หรือมีความสุขที่สุด 3 ปีซื้อ ขณะที่ปัจจัยที่ใช้วัด อย่าง อัตราการว่างงาน ไทยมีปัญหาในการนับ เพราะทำงานอะไรก็ได้แค่ 1 ชม./สัปดาห์ รวมทั้งเศรษฐกิจนอกระบบเราใหญ่มาก รวมทั้งอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำ กลับเป็นการสะท้อนปัญหาที่จะเป็นเงินฝืด
เทวฤทธิ์ มณีฉาย
มีเรื่องมาเล่า ตอน สนช.โดนประชุมประจำ หรือไม่ควรเข้าประชุมตั้งแต่ต้นด้วยซ้ำ สื่บเนื่องจากเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ ไอลอว์ ได้เปิดเผยผลสำรวจ เกี่ยวกับการเข้าประชุมของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ระยะเวลา 2 รอบ (180 วัน) ของปี 2559  พบว่า สมาชิกอย่างน้อย 7 คน ที่ทำการสำรวจ มาลงมติไม่เกินกว่าหนึ่งในสามของการลงมติในแต่ละรอบ 
เทวฤทธิ์ มณีฉาย
หลังจากเมื่อเดือนที่ผ่านมาประเด็น 'แพะ' หรือความผิดพลาดของกระบวนการยุติธรรมจนนำมาสู่การตัดสินลงโทษผู้บริสุทธิ์ เป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์กันในสังคม รายการ 'มีเรื่อง มาเล่า' ตอนนี้ นำเสนอ '5 ประเด็นคุมกำเนิดคดีแพะ' โดยรวบรวมข้อเสนอเกี่ยวกับการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมเพื่อลดความผิดพลาดของระบบ มาเล่า ได้แก่ การพิจารณาคดีให้ครบองค์คณะ การบันทึกเป็นภาพและเสียงแทนตัวอักษร ปัญหาของระบบกล่าวหาทำจำเลยตกเป็นเบี้ยล่างตั้งแต่ต้น การนำนิติวิทยาศาสตร์มาใช้ควบคู่ และความคืบหน้าของร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย พ.ศ. ... ที่ถูกนำเข้าสู่สภา 
เทวฤทธิ์ มณีฉาย
รายการ 'มีเรื่อง มาเล่า' ตอน ไทยความเหลื่อมล้ำ อันดับ 3 ของโลก คนรวยสุด 10% ครองทรัพย์สิน 79% ของประเทศ และข้อเสนอของ นิธิ คำตอบอยู่ที่การเมือง
เทวฤทธิ์ มณีฉาย
รายการ 'มีเรื่อง มาเล่า' ตอนนี้ นำเสนอ เมื่อดัชนีคอร์รัปชั่นรัฐบาลปราบโกงหล่นฮวบ กับข้อเสนอของ ที่ ศ.ดร.ผาสุก พงษ์ไพจิตร ผู้ศึกษาเรื่องคอรัปชั่นมากว่า 20 ปี มานำเสนอบางช่วงบางตอน ซึ่งศ.ดร.ผาสุได้พูดถึงประเด็นการแก้ปัญหาคอรัปชั่นกับระชาธิปไตยไว้อย่างน่าสนใจ 
เทวฤทธิ์ มณีฉาย
คลิปจากรายการ 'มีเรื่อง มาเล่า' ตอนนี้ เสนอ 6 อันดับ รัฐประหารที่ขอเวลานานทีสุด 
เทวฤทธิ์ มณีฉาย
1. เพื่อไม่ให้เป็นการลงโทษผู้บริสุทธิ์ (ผู้ต้องหายังไม่ถูกพิพากษาถือเป็นผู้บริสุทธิ์) 2. ปิดช่องกลั่นแกล้งโดยผู้มีอำนาจรัฐหรือฝ่ายบริหาร  3. รักษาหลักประกันความยุติธรรม   และ 4. ยังยั้งการบีบให้ผู้ต้องหาเลือกที่จะสารภาพ
เทวฤทธิ์ มณีฉาย
เก็บตกจากงานเสวนา 'เราควรตีความเสียง No vote อย่างไร' อ่านรายละเอียด http://prachatai.org/journal/2016/08/67197