Skip to main content



1.

ของแท้

ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์

แต่ผมไม่ใช่


2.

ได้มาก็เสียไป

สิ่งสำคัญที่สุดอยู่กับเราชั่วคราว

ผิดกับความอ่อนแอ


3.

ความงามหนึ่ง

ชื่อการพลัดหลง

น่าประทับใจจนอยากเก็บเอาไว้คนเดียว


4.

แดดส่องโต๊ะรับแขกหน้าบ้าน

ตำลึงเลื้อยพันขาเก้าอี้ขึ้นไปงอกงาม

กาน้ำชาฝุ่นเกาะอยู่ในห้องครัวเงียบ


5.

กลิ่นชาใบเตย

ขยายตัวอวลอุ่น

จอกหนึ่งว่าง...จอกหนึ่งพร่อง


บทกวีสั้นๆสามบรรทัด กำกับด้วยหมายเลข 1 2 3 4 5 ตามลำดับ ที่ผมหยิบยกมานำเสนอให้คุณอ่านข้างบนนี้ เป็นบทกวีที่ผมคัดมาจากหน้าแรกๆ ของหนังสือรวมบทกวีที่ชื่อว่า Canto กระแสอักษรเดินทางกลางอากาศ” ของผู้ใช้นามปากกาว่า ชามกลางคืน ที่รวบรวมงานเขียนในรูปแบบนี้ของเขาเอาไว้ในหนังสือเล่มนี้ ตามจำนวนหมายเลขถึง 133 บท


ครับ พวกเขาเรียกบทกวีที่เขียนในรูปแบบนี้ของพวกเขาว่า Canto นั่นคือ แต่ละบทที่จะเป็น Canto นั้น มักจะใช้ถ้อยคำสั้นๆ สื่อสารความรู้สึกประทับใจในฉับพลัน ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกประทับใจที่เกิดจากการคิด หรือจากสิ่งกระทบภายนอกที่พวกเขาได้สัมผัส แล้วนำพลังแห่งความรู้สึกประทับใจนั้นๆ สื่อออกมาเป็นถ้อยคำสั้นๆ สามบรรทัดจบ เท่าที่เขารู้สึกประทับใจในทันทีทันใด

 

การเขียนงานวรรณกรรมด้วยวิธีการแบบนี้ จึงมีลักษณะเด่นชัดอยู่ในตัวของมันเองอยู่ประการหนึ่ง นั่นคือ ไม่ว่าเราจะหยิบออกมาอ่านเมื่อไหร่ ก็จะแลดูสดใหม่อยู่เสมอ และอีกประการหนึ่ง ที่ผมมองเห็นว่าเป็นเสน่ห์อย่างยิ่งของ Canto ไม่ว่าจะเป็น Canto ของ ชามกลางคืน หรือของใครๆ แม้กระทั่งของ ฟ้า พูลวรลักษณ์ ที่เป็นต้นแบบของลัทธิ Canto นั่นคือ พื้นที่ว่างทางความคิด ที่เขาเหลือไว้ให้เราคิดและจินตนาการต่อโดยอิสระอย่างเหลือเฟือ


คุณอาจจะสงสัยว่าพื้นที่ว่างตรงนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร คำตอบง่ายๆ แต่ทำได้ยากก็คือ เกิดจากการลดละตัวตนความเป็นคน – อยากอวดฉลาด ชอบอธิบายและชอบสั่งสอนของคนเขียนไม่ให้มีอยู่ใน Canto นั่นเอง นี่แหละ คือพื้นที่ว่างอันเหลือเฟือที่ Canto เหลือไว้เราเข้าไปมีส่วนร่วมโดยอิสระ


โครงสร้างของ Canto จึงมีทั้งสัดส่วนที่มองเห็นและมองไม่เห็น เช่นเดียวกับภูเขาน้ำแข็งลูกมหึมาที่จมอยู่ใต้ผิวน้ำมหาสมุทร ที่โผล่ส่วนยอดออกมาให้เราเห็นเพียงนิดเดียว เมื่อเทียบกับสัดส่วนทั้งหมดที่จมอยู่ใต้น้ำ Canto ก็เป็นเช่นนั้น ถ้อยคำสั้นๆ ของพวกเขา คือ ส่วนยอดของภูเขาน้ำแข็งที่โผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำ และพื้นที่ว่างทางความคิด...ที่พวกเขาเหลือไว้ให้เราคิดและจินตนาการ คือสัดส่วนอันมหึมาที่ซุกซ่อนอยู่ใต้ผิวน้ำ...


ถ้าคุณอ่าน Canto บทใดบทหนึ่ง แล้วทำให้คุณสะดุดหยุดคิดอะไรบางอย่าง...นิ่งและนาน นั่นแหละ คุณกำลังพาตัวเองเขาไปอยู่ในพื้นที่ว่างของ Canto บทนั้น และบางที...คุณอาจจะพบคำตอบของชีวิตบางคำตอบที่คุณแสวงหามาจนชั่วชีวิตบนพื้นที่ว่างของ Canto บทนั้น โดยไม่คาดฝัน นี่คือคุณค่าความหมายและความงามของ Canto เท่าที่ผมได้สัมผัส


ชามกลางคืน ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ เป็นนามปากกาของชายหนุ่มวัยสามสิบต้นๆ จากจังหวัดสุพรรณบุรี จำได้คลับคล้ายคลับคลา ว่าเขาเรียนจบปริญญาตรีอะไรสักอย่าง...มาจาก ม.รามคำแหง และจากการรู้จักกันเป็นการส่วนตัว สมัยที่เขาขึ้นมาทำงานหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฉบับหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อ 2-3 ปีก่อน ในฐานะของคนเขียนหนังสือ นอกจากเขาจะเขียนบทกวีในลักษณะนี้แล้ว เขายังเป็นคนเขียนสารคดีที่ชอบขุดค้นหารายละเอียดจากข้อเท็จจริงอย่างถึงแก่น และเป็นนักสัมภาษณ์บุคคล ที่มีดวงตามองเห็นคุณค่าความสำคัญของคนธรรมดาสามัญ - ที่เรามักจะมองไม่เห็น โดยบุคลิกส่วนตัว เขาเป็นคนเปิดเผย จิตใจดี และมีอารมณ์ขันอยู่เป็นเนืองนิตย์


ปัจจุบัน เขาโยกย้ายไปตั้งหลักใหม่อยู่ที่หาดใหญ่ เป็นคนขายผักปลอดสารพิษอยู่ในตลาด ม.ปัตตานี เป็นคนทำหนังสือ ควน ป่า นา เล รายสะดวก ร่วมกับเพื่อนฝูงที่หาดใหญ่ และเป็นพระเอกหนังสั้นเกี่ยวกับธรรมชาติแวดล้อมที่กำกับโดย อาจารย์คำรณ คุณดิลก ที่ผมได้ดูแล้วชอบมากๆ โดยเฉพาะบทบาทอันอบอุ่นของเขาที่มีต่อเด็กนักเรียนชายคนหนึ่ง ที่เขาพยายามปลูกฝังจิตสำนึกให้จักรัก และรู้ถึงคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติที่แวดล้อมบ้านเกิด


ครับ ถ้าคุณสนใจอยากอ่าน Canto กระแสอักษรเดินทางกลางอากาศ ของ ชามกลางคืน โทร.ไปติดต่อถามรายละเอียดและหาซื้อได้ที่ สำนักพิมพ์ ควน ป่า นา เล 081-543-4004 และ 089-478-3136

 

ก่อนจากกัน ผมขอมอบ Canto หมายเลข 128 ที่ผมชอบที่สุดในหนังสือเล่มนี้ของเขาให้คุณ เผื่อคุณจะได้เข้าไปในที่ว่างของ Canto บทนี้ และบรรลุสัจธรรมอะไรบางอย่างที่น่ารักของชีวิต ดังนี้


128.

ข้าเพิ่งรู้

สุราชั้นต่ำรสทราม

ช่างให้รสหวานล้ำ ยามเปลี่ยวใจ.


กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่


**ภาพประกอบโดย เยาวชนรักษ์เหมืองฝาย


บล็อกของ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว

ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว  
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
แด่...คนเล็กๆทุกๆคนในสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นคนเสื้อแดง คนเสื้อเหลือง ฯลฯ หรือมิได้เป็นคนเสื้อสีใดๆ ที่ตกเป็นเหยื่อกฎหมายหมิ่นฯ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอำนาจพิเศษกับคนเล็กๆ ที่ขาดอำนาจต่อรองที่เข้มแข็งในการปกป้องและต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมให้แก่ตนเอง และไม่มีใครสามารถที่จะช่วยเหลือพวกเขาได้ แม้แต่รัฐบาลที่พวกเขาหลายคนได้เลือกเข้าไป นั่งอยู่ในรัฐสภา.
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
พุทธภาษิตที่กล่าวว่า “ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม” และ “อำนาจย่อมเป็นใหญ่ในโลก” ประการแรกยังน่าสงสัยว่าเป็นความจริงโดยหรือไม่ แต่ประการที่สองที่กล่าวว่า อำนาจย่อมเป็นใหญ่ในโลก เป็นความจริงตามพุทธภาษิตได้กล่าวเอาไว้อย่างแน่แท้
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
อำนาจ ไม่ว่าอำนาจนั้น จะเป็นอำนาจที่ชอบธรรมหรือไม่ ตราบใดที่อำนาจนั้นยังมีอำนาจอยู่ อำนาจนั้น ย่อมมีอำนาจในการบังคับผู้อยู่ภายใต้อำนาจ ให้เชื่อฟังและปฏิบัติตาม
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ยามเช้า โอ้ ยามเช้าอันมืดมนของข้า ยามเช้าที่ข้ามองไม่เห็นหนทางใดๆ ที่จะนำชีวิตลุล่วงผ่านพ้นวันนี้ไปได้ เพราะข้าได้ใช้ตัวช่วยชีวิตทุกตัว