รักรัก...ฉันมีความรัก
ด้วยแจ้งประจักษ์คุณค่า
ความรักคืออมฤตา
ชุบชูชีวาสดใหม่
หวังหวัง...ฉันมีความหวัง
ทุกครั้งยามล้มเหลวไหล
ความหวังคือพลังใจ
ฉุดล้มลุกได้ทันที
ฝันฝัน...ฉันมีความฝัน
แม้ยามชีพฉันป่นปี้
ความฝันคือสิทธ์เสรี
อย่างถึงที่สุดชีวิต
ความรัก ความหวัง ความฝัน
คือดวงไฟอันศักดิ์สิทธิ์
ให้ความอุ่นเอื้อเชื้อชิด
ชีพอันน้อยนิดบอบบาง
ยามระหกระเหินไป
เผชิญพาลภัยโลกกว้าง
เคว้งคว้างอยู่ในท่ามกลาง
ระหว่างชีวิตและความตาย
รักรัก...ฉันรักฉันหวัง
แม้ไม่จีรังดั่งหมาย
ฝันฝัน...ฉันฝันเพริศพราย
เพื่อทรงกายอยู่สู้โลก.
หมายเหตุ ; ผมตั้งใจว่าจะนำเรื่องเต๋ามาลงอีกสักสองตอน แต่ก็ปรากฏว่ายังหาเวลาเข้าห้องทำงานของตัวเองเพื่อใช้เวลาทำงานให้เต็มที่ไม่ได้ จึงขอนำบทกวีเก่าๆที่ชื่อว่า ไฟชีวิต มาแก้ขัดไปก่อน บทกวีบทนี้ ผมนำมาจากสาระสำคัญของชีวิตในคัมภีร์พระคริสต์ ที่กล่าวว่า สิ่งสำคัญ ที่จะทำให้ชีวิตทางด้านจิตวิญญาณมนุษย์ดำรงอยู่ได้โดยไม่ล้มละลาย คือ ความรัก ความเชื่อ และความศรัทธา และทั้งสามสิ่งนี้ ความรักเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
แต่ผมได้ปรับมาเขียนใหม่ ให้เป็นความรัก ความหวัง และความฝัน เพื่อให้ปุถุชนคนธรรมดาอย่างเราๆท่านๆเข้าใจได้ง่าย โดยถือเอาความรักที่เป็นแก่นสำคัญเป็นตัวตั้ง เพราะผมมองเห็นว่า ตราบใดที่คนเรายังมีความรักอยู่ในหัวใจ ความเชื่อและความศรัทธา จะติดตามมาเองเป็นลูกโซ่
ครับ งานชิ้นนี้ แขกที่มาเยี่ยมบ้านผม เธอเป็นคริสเตียน เธอได้อ่าน และบอกผ่าน แพร จารุ มาบอกผมว่า งานชิ้นนี้ของผมสอดคล้องกับหลักสำคัญของชีวิตในพระคัมภีร์ ผมก็เลยบอกเธอว่า ผมเอามาจากพระคัมภีร์ และนำมาประยุกต์ใหม่ ดังที่บอกกล่าวแก่คุณในที่นี้แหละครับ สำหรับคนที่ชอบเต๋าสำนวนวิพากษ์ของคุณ เกรียงไกร เจริญโท กรุณาอดใจรอตอนต่อไปครับ ขอบคุณครับ.
16 มีนาคม 2554
กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่