Skip to main content
หญิงสาวผู้มีฐานะดีคนหนึ่ง

เป็นคนที่ชอบตื่นขึ้นมาใส่บาตรพระแต่เช้ามืดทุกวัน จนเป็นกิจวัตร เช้าวันหนึ่ง หลังจากตื่นขึ้นมาใส่บาตรพระเรียบร้อยแล้ว ขณะเดินกลับเข้าประตูรั้วบ้าน เธอก็ได้ยินเสียงร้องครางหงิงๆดังมาจากรั้วข้างประตูด้านใน เมื่อเหลือบตาไปมองดูที่มาของเสียง เธอก็พบกล่องกระดาษแข็งขนาดย่อมใบหนึ่งที่เปิดฝาด้านบนเอาไว้ ซึ่งคงจะมีใครสักคนหนึ่ง เอาลอดรั้วบ้านมาวางไว้ที่นั่น ก่อนที่เธอจะลงจากบ้านออกมาใส่บาตรพระ


เมื่อเดินเข้าไปดู เธอก็พบลูกหมาตัวเล็กๆ หน้าตาน่ารักน่าสงสารตัวหนึ่ง นอนตัวสั่นอยู่ในกล่องกระดาษที่รองไว้ด้วยเศษผ้าเก่าๆ เธอจึงรีบทรุดลงอุ้มมันเอาไว้แนบอก และพบจดหมายฉบับหนึ่งพับวางอยู่ในกล่องกระดาษนั้น เธอจึงหยิบออกมาคลี่อ่านทันที


คุณครับ

ลูกหมาตัวนี้ เป็นลูกหมาที่ผมรักและสงสารมันมาก ผมพบมันเดินสะเปะสะปะอยู่ที่กองขยะข้างถนน เข้าใจว่าคงจะมีคนเอามาปล่อยทิ้งไว้ ผมจึงอุ้มเอามันไปอาบน้ำและเลี้ยงไว้ในกระท่อมสัปรังเคของผม เพราะสงสารมัน แต่ผมก็รู้ตัวดีว่า ผมคงไม่มีปัญญาที่จะเลี้ยงดูมันให้ดียิ่งไปกว่านี้ได้


เพราะผมเป็นคนจนหาเช้ากินค่ำ มีรายได้จำกัดจำเขี่ย มีชีวิตลุ่มๆดอนๆอดๆอยากๆอดมื้อกินมื้อ ถึงแม้ตอนนี้ผมจะพอเลี้ยงดูมันได้ แต่ถ้ามันตัวโตและกินจุมากขึ้น ผมคงไม่สามารถแบ่งข้าวปลาอาหารให้มันกินได้อิ่มทุกวัน แล้วในที่สุดชีวิตของมันก็คงพลอยลำบากไปกับผมด้วย หรือถ้ามันเกิดเจ็บไข้ได้ป่วย ผมก็คงไม่มีปัญญาพามันไปหาหมอ เพราะแม้แต่ตัวผมทุกวันนี้ เวลาเจ็บไข้ได้ป่วย ถ้าหากอาการไม่หนักหนาสาหัสจริงๆ ผมก็มักจะอดทนปล่อยให้มันหายไปเอง เพราะบ่อยครั้ง อย่าว่าแต่ค่าหยูกยาเลย แม้แต่ค่ารถจะออกไปหาหมอก็ยังไม่มี


ผมแอบสังเกตดูคุณมานาน นอกจากคุณจะมีฐานะเป็นผู้มีอันจะกินแล้ว คุณยังเป็นคนใจบุญสุนทานด้วย เพราะผมเห็นคุณตื่นขึ้นมาใส่บาตรพระแต่เช้ามืดทุกวัน ผมจึงขอมอบมันไว้ให้คุณเลี้ยงดู เพราะเชื่อว่าคุณจะต้องเลี้ยงดูมันได้ดีและมีความสุขมากกว่าคนจนๆหาเช้ากินค่ำอย่างผม ที่มีให้มันได้แค่ใจรักและสงสารมัน เท่านั้นเอง


ขอบคุณครับ


..................

 

 

ครับ

เรื่องที่ผมเขียนจากความทรงจำเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ผมได้อ่านมานานแสนนานแล้ว จากจุลสารเล่มเล็กๆของมูลนิธิอะไรสักอย่าง ผมก็จำไม่ได้แล้ว รวมทั้งผู้เขียนด้วย แต่เรื่องนี้กลับฝังลึกอยู่ในใจผมไม่รู้ลืม มีเหตุให้คิดถึงคราวใด ก็นึกถึงเรื่องนี้ได้อย่างแม่นยำในคราวนั้น อาจเป็นเพราะว่าชีวิตของผม เคยพบปะแต่เรื่องรักๆใคร่ๆแบบผูกพันกันเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ แบบละครน้ำเน่าที่น่าขยะแขยงในจอทีวี ชึ่งวันๆไม่เคยคิดอะไร นอกจากคอยหึงหวงตบตีแย่งผัวแย่งเมียกัน ไม่ค่อยมีโอกาสได้พบปะเรื่องรักชั้นดีที่งดงามและสูงส่งแบบนี้ เรื่องนี้จึงอยู่ในใจผมไม่รู้ลืมมาตลอดชีวิต.

 

13 กุมภาพันธ์ 2551

กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่

บล็อกของ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว

ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว  
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
แด่...คนเล็กๆทุกๆคนในสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นคนเสื้อแดง คนเสื้อเหลือง ฯลฯ หรือมิได้เป็นคนเสื้อสีใดๆ ที่ตกเป็นเหยื่อกฎหมายหมิ่นฯ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอำนาจพิเศษกับคนเล็กๆ ที่ขาดอำนาจต่อรองที่เข้มแข็งในการปกป้องและต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมให้แก่ตนเอง และไม่มีใครสามารถที่จะช่วยเหลือพวกเขาได้ แม้แต่รัฐบาลที่พวกเขาหลายคนได้เลือกเข้าไป นั่งอยู่ในรัฐสภา.
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
พุทธภาษิตที่กล่าวว่า “ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม” และ “อำนาจย่อมเป็นใหญ่ในโลก” ประการแรกยังน่าสงสัยว่าเป็นความจริงโดยหรือไม่ แต่ประการที่สองที่กล่าวว่า อำนาจย่อมเป็นใหญ่ในโลก เป็นความจริงตามพุทธภาษิตได้กล่าวเอาไว้อย่างแน่แท้
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
อำนาจ ไม่ว่าอำนาจนั้น จะเป็นอำนาจที่ชอบธรรมหรือไม่ ตราบใดที่อำนาจนั้นยังมีอำนาจอยู่ อำนาจนั้น ย่อมมีอำนาจในการบังคับผู้อยู่ภายใต้อำนาจ ให้เชื่อฟังและปฏิบัติตาม
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ยามเช้า โอ้ ยามเช้าอันมืดมนของข้า ยามเช้าที่ข้ามองไม่เห็นหนทางใดๆ ที่จะนำชีวิตลุล่วงผ่านพ้นวันนี้ไปได้ เพราะข้าได้ใช้ตัวช่วยชีวิตทุกตัว