Skip to main content

ผมขับรถออกจากบ้าน
คุณแม่จันทร์สม สายธารา เลี้ยวซ้ายปากซอย มุ่งตรงกลับบ้าน อดนึกถึงคำพูดของ พ่อครูคำผาย นุปิง ศิลปินแห่งชาติ ประเภทเพลงพื้นบ้าน-ขับซอ ปี พ.ศ. 2538 ที่ปรากฏในอินเตอร์เน็ต หัวข้อ “ ซอพื้นบ้านล้านนา คุณค่าแห่งดนตรีที่ถูกเมิน”

“ ยุคนี้ไม่ใช่ยุคของซออีกต่อไป ในอดีตซอได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ในหมู่บ้านล้านนาไปที่ไหนๆก็มีซอ ซอสมัยก่อนได้เงินหลักร้อย ซึ่งถือว่าสูงมากในเวลานั้น แตกต่างจากตอนนี้ที่มีเด็กรุ่นใหม่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่สนใจจะเรียนซอกันอย่างจริงจัง กลุ่มคนฟังในปัจจุบัน โดยมากแล้วจะเป็นคนที่อยู่ในวัยกลางคนจนถึงวัยทอง หนุ่มสาวหาได้ยากเต็มที.”

พ่อครูคำผาย ได้พูดต่ออีกว่า
 “ เดี๋ยวนี้เรามียุทธวิธีในการนำซอมาดัดแปลงเป็นเพลงลูกทุ่ง คงคล้ายๆหมอลำซิ่ง ต้องดัดแปลงอย่างนี้ จึงจะเรียกเด็กหนุ่มสาวมาฟังได้ ในจังหวัดเชียงใหม่เอง คนขับซอที่เรียกว่า “จ่างซอ”(จั้งซอ) มีเหลืออยู่ประมาณ 50 คณะ หลายคนต้องเลิกอาชีพเพราะขาดคนสืบทอด เราต้องนำซอมาประยุกต์เข้ากับดนตรีฝรั่ง เพื่อเรียกความสนใจจากกลุ่มคนรุ่นใหม่...ในปัจจุบันมีคนมาจ้างไปแสดงงานหนึ่งรายได้วันละ 20,000-30,000 บาท แต่เมื่อหักค่าใช้จ่ายและต้องเลี้ยงลูกน้องในวงหลายสิบชีวิต ก็แทบจะไม่เหลืออะไร”
 
ผมตื่นจากภวังค์  
ข้างหน้าเป็นภาพของคุณสิงห์คำ   คนขับซอฝ่ายชาย   คุณสิงห์คำกำลังนั่งคุกเข่า   ส่งเสียงขับซออย่างเพลินอารมณ์   มีทั้งเสียงต่ำเสียงสูง   บางตอนเสียงแหลมลึกเข้าไปในคอ แต่เสียงไม่ขาดหาย   ชวนน่าฟังไม่น้อย   มือไม้เคลื่อนไหวสอดรับอารมณ์คนร้อง   ฝ่ายหญิงนั่งพับเพียบเรียบร้อย   เอียงตัวไปมาพร้อมกับปรบมือให้จังหวะ   คอยโอกาสโต้ตอบอย่างรู้เชิงกัน   วันนี้มาซอในงานบวช เริ่มต้นซอจึงต้องกล่าวถึง   ความดีงามการได้บวช
                                                           
สิงห์คำ
                            
                            “...ลำดับทังสาดลำดับทังหมอน       ทังสะลีที่นอนบาตรวีพัดจ้อง
                             แม่ออกสัทธาแต่งดาพร่ำพร้อม       ตราบต่อเท้าของกินครัวทาน
                             มีทังหมอนหกมีทังหมอนผา           สบงลังกาบาตรวีพัดจ้อง
                             แม่ออกสัทธาแต่งดาไว้พร้อม         ทั้งบาตรทังจ้องของกินครัวทาน
                            ว่าขันเข้าแล้งชิ้นแห้งปลาตาย          จักทานไปหานาคานาคหน้อย
                            ที่เอาชื่อเสียงเรียงนามเรียบร้อย       ใส่หื้อนาคหน้อยยังพระนาคนาคา
                            มัดขนคิ้วริ้วติดขนตา                    เหมือนตอกไพคากับไม้ดูกก้าน
                            จะต้องการถามเยิงนานนองชั้น...
 
แจ่มจันทร์
                           “...ว่าเทียนสังฆะตอบคุณขันตั้ง       สมัยก่อนนั้นพ่อไปหาหมอ
                             มายกมายอท้องแม่ของเจ้า           จะเกิดบุตตาในวันนั้นเล่า
                             สมัยหม่าเก่าไปหาหมอตำแย         สมัยโบราณแท้ทักนักหนา
                             บ่มีโรงพยาบาลอย่างอั้น               บ่เหมือนปัจจุบันทุกวันนี้แล้ว
                             สะลีกับหมอนน้องว่าตอบแทนคุณแม่   ว่าตอบแท้ๆยามเมื่อแม่อยู่กำ 
                             เอาสะลีมาพันเธิ้งหลังแม่เจ้า          จนเกิดบุตตาธิดาลูกเต้า
                             อี่พ่อเป็นเจ้าหาสะลีมาพัน             เอาหมอขึ้นหลิ้มเธ้งไว้กลางหลัง
                             แม่เจ้าก็ยันละจะเกิดลูกหล้า          เหมือนกรรมนอนมาลานอลาพี่น้อย...

( คำร้องตั้งแต่ “...ลำดับทังสาดลำดับทังหมอน จนถึง เหมือนกรรมนอนมาลานอลาพี่น้อย...” นำมาจาก อินเตอร์เน็ต ขอขอบคุณด้วยความเคารพยิ่ง)

 

 

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง  เก้าอี้สำหรับนั่งร้องเพลง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง   เช้านี้
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง ตาผมกวาดไปที่ประตูใหญ่,,,
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง   เหตุเกิดกลางคืนวันอาทิตย์
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง  ความขัดแย้งรุนแรง...
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ม็อบกระเทียมปิดถนนเรียกร้องความต้องการ ทำความเดือนร้อนแก่ประชาชนผู้ใช้ถนน ผู้เคารพกฎจราจร เคารพกฎหมายบ้านเมือง ผู้ร้ายล็อกคอพลเมืองดีเป็นตัวประกัน ต่อรองเรียกร้องให้คนอื่นทำตามใจตน นี่เป็นตัวอย่างของบางคนบางกลุ่ม ที่รบกวนความสงบสุขของผู้อื่นโดยผิดกฎหมาย ก่อความเดือนร้อนให้คนดีๆ ผู้ก่อเหตุความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และบางอำเภอในสงขลา วางระเบิด ยิงคนดีๆ ผู้บริสุทธิ์คนทำมาหากิน ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร ทำลายทั้งชีวิตและบ้านเรือนร้านค้า ใช้อาวุธร้ายแรง ยิงคนเหมือนยิงนก คล้ายดังเชือดเป็ดไก่ ไร้ความรู้สึกของวิญญูชน ไม่ถามหรอกทำไมทำเช่นนั้น รู้ดี เพราะเราคิดไม่เหมือนกันนั่นเอง...…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ตอนเช้า