Skip to main content
 

หากนี่เป็นสนามรบสักแห่งหนึ่ง รังเล็กๆ ที่สร้างจากไยแมงมุมมองดูคล้ายกับดักขนาดใหญ่ที่สุดในอาณาจักรแห่งนี้ ที่สามารถสร้างความตื่นเต้น วิตก ให้กับศัตรูและเหยื่อได้มาก แถมยังประจานผู้พ่ายแพ้ต่อหน้าประชาชนอย่างเห็นกันโจ้งๆ

ในกับดักนั้นประกอบด้วยสรรพสิ่งที่เป็นซากชีวิต ไม่ว่าจะเป็นตัวหนอน ผีเสื้อ มดแดง มดดำ แมลงวัน พวกมันตายหมดแล้ว เป็นสุสานขนาดใหญ่ที่ห้อยโหนโตงเตงด้วยแรงยึดไยแมงมุม แขวนไว้กับต้นไม้ในเช้าวันหนึ่งของฤดูหนาว

ฉันบอกกับตัวเองว่า นี่มันช่างน่าอัศจรรย์ดีจัง ตอนเด็กๆ ฉันทั้งเกลียดและกลัวแมงมุม ขณะเดียวกันแม่ซึ่งพยายามเอาชนะแมงมุมด้วยการกินมัน ก็สร้างเมนูรสเลิศด้วยการเอาแมงมุมไปย่างไฟ ส่งกลิ่นหอมฉุย ฉันกับพี่สาวลองชิมอย่างกล้าๆ กลัวๆ และในเวลาต่อมา พี่สาวก็บอกว่า นี่เป็นอาหารโปรดอย่างหนึ่งทีเดียว

มันมีรสเค็มๆ มันๆ มีกลิ่นเฉพาะ แต่ใครจะย่างแมงมุมกินได้นั่นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมันเป็นสัตว์มีพิษ บางตัวกินได้ บางตัวก็กินไม่ได้ ถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเขาดูกันยังไง รู้แต่ว่าพอโตมาก็ไม่กล้ากินมันอีกเลย แต่ความเกลียดกลัวก็หายไปด้วยส่วนหนึ่ง

แมงมุมเป็นสัตว์มีพิษ หากเปรียบเทียบโลกใบเล็กในสวนหลังบ้านของฉันเวลานี้ แมงมุมเป็นนักรบผู้สุขุม มีอาวุธที่ร้ายกาจของตัวเอง มีวิธีดำรงอยู่อย่างแฟนตาซีด้วยการสร้างรังของตัวเองใหญ่โตอลังการ ดูเผินๆ แมงมุมไม่พึ่งพาใคร ไม่อาศัยบ้านคนอื่น แต่แท้ที่จริงแมงมุมก็ต้องการหลักพิงพักเป็นกิ่งไม้สักต้นสองต้น พาดไยเข้าไปเกาะเกี่ยว จากนั้นก็ถักทอเปลนอนเป็นรูปทรงเหลี่ยม หนาวมากๆ มันก็เกาะนิ่งอยู่อย่างนั้น นอนรออาหารเป็นแมลงสักตัวที่จะเดินผ่านมา ใช้ฟักไข่ สร้างครอบครัว บางครั้งฉันจึงเห็นแมงมุมตัวเล็กๆ ที่เพิ่งคลอดใหม่กำลังฝึกสร้างรัง

บางครั้ง เจ้าแมงมุมก็มาอาศัยอยู่ในบ้าน บางซอกมุมที่ลับตา มันทำรังอยู่อย่างเงียบๆ แม้กระทั่งในห้องน้ำ ฉันลองปล่อยให้รังนั้นอยู่แบบนั้น  ไม่ไล่ ไม่ทำลาย แต่เฝ้าสังเกต ฉันบอกกับมันว่า เธอเป็นสัตว์ลึกลับ ไม่น่ากลัวแต่น่าเกรงขาม ไหนลองแสดงฤทธิ์เดชให้ดูบ้างสิ แต่จนแล้วจนรอด ฉันเข้าไปใกล้ทีไร มันก็ทำตัวนิ่งๆ เหมือนเดิม และในที่สุดมันคงคิดได้ว่าในห้องน้ำไม่มีตัวอะไรให้กินเอาเสียเลย ก็ย้ายรังหายจากไปเสีย

มีคนบอกว่าแมงมุมไม่ใช่แมลง เพราะมันมี 8 ขา ไม่ได้มี 6 ขาเหมือนแมลงตัวอื่นๆ นอกจากนี้แมงมุมไม่มีปีก มันบินไม่ได้ และแมงมุมก็ไม่มีกระดูกสันหลัง วิธีการสร้างรังอันแยบยลแล้วรอกินอาหารอย่างเดียว คิดๆ ไปแล้วก็เท่ดีเหมือนกัน ไม่ต้องตะเลงออกไปรบราฆ่าฟัน เชือดเฉือนยื้อแย่งกันแบบสัตว์ตัวอื่น แต่คิดอีกที วิธีการเจ้าแมงมุมช่างเหลือร้าย ก็สร้างสะพานให้มดและหนอนเดินข้ามต้นไม้ได้สบายขึ้น หารู้ไม่ว่าพอไต่ๆ ไปสักพัก เจ้าแมงมุมก็ขยับตัวเข้ามาจับตัวไปกินไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว

สัตว์หลายชนิดตกหลุมพรางของแมงมุม เดินทอดน่องสบายใจ พอเข้าใกล้ใจกลางสะพานก็ต้องเสียชีวิตกะทันหัน ส่วนแมลงบางตัวที่บินได้ บางทีก็มองไม่เห็น บินมาติดกับเอาเสียดื้อๆ

บินออกก็ไม่ได้ เดินต่อก็ไม่ไหว กลายเป็นเสบียงที่กักตุนไว้ในตู้เย็นเส้นไยอันนั้นเสีย

เพื่อนของฉันเอ่ยแซวว่า เอาล่ะ ถ่ายรูปเสียให้พอ สังเกตเสียให้พอ ก่อนที่เขาจะทำลายรังรกๆ พวกนั้น ฉันอดคิดไม่ได้ว่า มันจะเสียใจไหม  ที่เราไปทำลายบ้านของมัน มันจะใช้เวลานานแค่ไหน กว่าจะสร้างได้เสร็จ และใช้พลังงานเท่าไหร่

เพื่อนของฉันหัวเราะ แล้วบอกว่า โลกของธรรมชาตินั้นสร้างสมดุลในตัวมันเอง บางครั้งไยแมงมุมก็โดนแดด โดนฝน โดนสายลมพัด ก็ทำเอาบ้านพังได้เหมือนกัน ดังนั้น นอกจากธรรมชาติแล้ว ก็มีแต่มนุษย์เท่านั้น ที่คงเป็นตัวดุร้ายในสายตาของแมงมุม เป็นปีศาจที่สามารถกวาดทุกอย่างให้ราบเรียบได้ในพริบตา

ฉันเอียงคอ เอ่ยถามเพื่อนไปว่า แล้วสำหรับบ้านของมนุษย์เองล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะแดด ลม พายุ อะไรที่เป็นปีศาจสำหรับพวกเรา พอจะทำให้บ้านและชีวิตเราพังได้บ้าง

เพื่อนฉันตอบมาห้วนๆ สั้นๆ เป็นคำตอบที่ธรรมดาสามัญ แต่ครั้งนี้กลับอดไม่ได้ที่จะนิ่งไปอยู่นาน
"ก็มนุษย์ด้วยกันยังไงล่ะ"

.............


บล็อกของ วาดวลี

วาดวลี
"ได้กินเห็ดถอบหรือยังลูก"คำถามแรกจากหญิงวัยใกล้ชราซึ่งเอื้อนเอ่ยแข่งกับเสียงฝนตกเปาะแปะอยู่นอกชานเรือน เธอเป็นแม่คนที่สองของฉัน ที่รักใคร่เอ็นดูเหมือนแม่แท้ๆ กวักมือเรียกให้ไปช่วยดาขันโตก แม้ฉันจะทำท่าแบ่งรับแบ่งสู้เพราะไปเยือนบ้านเกิดวันนี้ตั้งใจจะไปกินข้าวมื้อกลางวันกับพ่อ แต่ทำยังไงได้ในเมื่ออาหารการกินสำรับเตรียมไว้เพียบพร้อม ฉันนึกถึงคำของแม่แท้ๆ ที่บอกว่าถ้าผู้ใหญ่ชวนทานข้าว ก็อย่าได้ทำให้เขาเสียใจ
วาดวลี
  1."ผมชอบรถคันนั้นจริงๆ"เพื่อนชายวัย 33 ปีของฉันบอก หลังจากนั่งจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่นานหลายชั่วโมง ภาพเวบไซต์แห่งหนึ่งปรากฏภาพรถคันเล็กๆ สีขาวทั้งคัน เป็นรถเฟี๊ยสที่ฉันจำปี พ.ศ.และรุ่นไม่ได้ รู้แต่ว่ามันน่าจะมีอายุเกือบเท่าๆ เขาด้วยซ้ำ
วาดวลี
  ท้องทุ่งแห่งความทรงจำ มีกลิ่นอบอวลด้วยดอกไม้ ทุ่งหญ้า และกลิ่นชื้นของที่ดินริมแม่น้ำ พ่อของฉันตื่นนอนก่อนลูกๆ ในเช้าก่อนวันสงกรานต์ เขาส่งเสียงร้องเอื้อนเอ่ยเป็นทำนองของค่าวซอบนเก้าอี้ไม้ หันหน้าไปหาแม่น้ำและดวงอาทิตย์ ในมือถือกระดาษมีเส้น บรรจุตัวอักษรที่เขาเขียนแต่งขึ้นมาเอง และเนื้อหาในนั้นก็กำลังกล่าวถึงวันคืนของปีเก่าที่ผ่านไปและปีใหม่เมือง ที่กำลังจะมา
วาดวลี
"บนท้องฟ้านั้นมีความจริงอยู่ครึ่งหนึ่ง"  ฉันไม่รู้ว่าจำประโยคนี้มาจากไหน  แล้วก็มีคนเคยเห็นด้วยอย่างปักใจว่าบางทีท้องฟ้าก็โกหกเราได้  สีฟ้าแบบนี้ไม่ควรจะมีฝน  ประกายสีส้มจากดวงตะวันแบบนั้น  มองเผินๆ  คล้ายเตือนว่าพายุจะมา  แต่สุดท้ายก็เหลือแค่อากาศร้อนอบอ้าว
วาดวลี
 
วาดวลี
   ๑.หัวเราะกับความแยบยลของชีวิตที่บางครั้งตกหลุมพรางความหยาบกระด้างเมื่อรู้สึกได้กับความละเอียดอ่อนก็เห็นค่าจนไม่อยากจะสูญเสีย
วาดวลี
 ฉันนั่งมองกลีบดอกไม้สีชมพูที่หน้าตาเหมือนๆ กัน ผ่านทางกระจกรถ ขณะคิดในใจว่า เดือนกุมภาพันธ์ที่ฉันรักได้เปลี่ยนไปหมดแล้ว เดือนที่อากาศเย็นแสนทรมานจะค่อยๆ คลายตัวลงเป็นเย็นสบายกำลังดี ดอกไม้สีเหลือง สีขาว สีส้ม และสีชมพูจะบานสะพรั่งเต็มต้น เรียงรายตลอดถนน แสงแดดเช้าและบ่ายนั้นสวยงาม เช่นเดียวกับท้องฟ้าที่โปร่งใส มีก้อนเมฆสีขาวฟูฟ่องลอยไปมาแต่ความเป็นจริงเวลานี้คือวิทยุกำลังประกาศซ้ำๆ เรื่องมลภาวะเป็นพิษเพราะหมอกควัน และเน้นย้ำให้เราป้องกันตัวเองด้วยการสวมหน้ากากป้องกันฝุ่น
วาดวลี
ชายชรายิ้มหวานให้ฉัน ทันทีที่เขารู้สึกว่าตัวเองดีขึ้นแล้ว ยิ้มบนริมฝีปากเบี้ยวๆ หนังตากระตุก ใบหน้าเหี่ยวย่น แต่ฉันรู้สึกได้ในตอนนั้นว่าเป็นยิ้มที่แสนหวานกว่าใครๆ ทีเดียว และเชื่อว่าเป็นยิ้มแรกของวันนี้ก่อนหน้านี้หลายนาที เขาพาตาช้ำๆ ย่างก้าวมาอย่างเซๆ ออกจากห้องพักผู้ป่วยในโรงพยาบาล ตอนที่เจอกันฉันยกมือไหว้ สวมกอดเขาหลวมๆ พาเขาไปนั่งลงตรงระเบียง เขาพยายามสื่อสารทั้งที่อาการไม่หายดีนัก เขาเล่าว่าวันนี้ตื่นแต่เช้ามืดเช่นทุกวัน นึ่งข้าวทิ้งไว้แล้วก็มาบริหารร่างกาย จากนั้นก็วิ่งเหยาะๆ แล้วจบท้ายที่การบริหารอีกรอบ แต่อยู่ๆ แขนขาซีกหนึ่งก็ไม่มีแรง เบานุ่นเหมือนสำลี…
วาดวลี
“จะทำอะไรบ้างคะน้อง...” พี่ช่างผมคนใหม่ยิ้มกริ่ม เมื่อต้อนรับลูกค้าอย่างฉันแล้วพาไปนอนบนเปลสระผมในบ่ายแก่ๆ ของวันหยุด ฉันยิ้มให้เขา หยุดคิดในใจนิดหนึ่ง ก่อนจะตอบไปเบาๆ ว่า “ช่วยตัดเล็มปลายผมแค่นั้นก็พอค่ะ” “แล้วสระกับไดร์ด้วยไหม” ฉันพยักหน้า เธอตอบรับด้วยท่าทางคล่องแคล่ว จากนั้นก็โน้มศีรษะฉันให้ลงพอดีกับอ่าง เปิดน้ำจากสายยางเย็นเจี๊ยบราดรดลงไปบนศีรษะ เธอจับเส้นผมฉันเบาๆ อย่างเกรงใจ แล้วกระซิบมาข้างๆ หู “ถ้าแรงไปก็บอกนะ พี่มักจะเผลอตัว ถ้าไม่ให้นวดหัวก็บอกได้”
วาดวลี
"ยี่เป็ง” เป็นชื่อแมวของฉันเอง ซึ่งตั้งให้แมวตัวสีขาวลายสีเทา ทรงหน้าเหลี่ยม หางกุด ตัวเท่ากำปั้น ที่กระโดดขึ้นมาอยู่บนตักขณะกินจิ้มจุ่มในวันลอยกระทงเมื่อ 2 ปีก่อน และจากนั้นมาอีก 1 ชั่วโมง ฉันก็ถามตัวเองอีกครั้งว่า เราจะมีลูกแมวเลี้ยงเพิ่มอีกหนึ่งตัวหรือนี่ ทั้งที่การมีแมวแสนไฮเปอร์ชื่อ “พี่แม้ว” แค่ตัวเดียวนั้นยังรับมือแทบจะไม่ไหว แต่นั่นเป็นการถามตัวเองเมื่อกลับมาถึงบ้านโดยมียี่เป็งในอ้อมแขน
วาดวลี
ในฐานะที่ต้นพืชต้นนี้ถูกฉันเรียกว่าเป็น “ถั่ววิเศษ” หากมันพูดได้ มันคงสงสัยในตัวฉันว่า จะคอยจับจ้องมันไปถึงไหน ทั้งเช้าทั้งเย็น นอกจากวนเวียนรดน้ำแล้วก็ยังแอบถ่ายรูป สังเกตสังกา พาเพื่อนมาชมแปลงถั่ว เฝ้าจับจ้องแมลงตัวน้อยนิดที่บินมาเกาะ มากัดกิน พลางครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรไม่ให้กิ่งใบของมันเสียหายก่อนเวลาอันสมควร ถั่ววิเศษอาจกำลังสอนฉันว่า อย่าคาดหวังในตัวมันมากเกินไปกระมัง ในแปลงผักแปลงเดียว เมล็ดพันธุ์ที่หยอดหว่านลงไปนั้น กำลังเติบโตได้อย่างแตกต่างกัน บางต้น อวบอิ่ม สีเขียวสด ยืดลำต้นตั้งตรง สูงประมาณ 10 เซนติเมตรได้ ขยายใบเล็กๆ นั้นกลายเป็นใบกว้าง เติบใหญ่อย่างมีสุขภาพดี
วาดวลี
  ปีนี้ฉันได้ของขวัญปีใหม่เป็นเมล็ดถั่วมันเป็นเมล็ดแห้งๆ ที่นอนเรียงตัวอยู่ในฝักสีน้ำตาล ห่อมาในถุงพลาสติกใช้แล้วยับยู่ยี่ คนที่ยื่นให้บอกฉันว่าด้วยแววตาล้อเลียนว่า "มันเป็นถั่ววิเศษ"