Skip to main content

 "อาจารย์ขา หนูกำลังต่อต้านระบบว้ากน้อง แต่หนูทำยังไงหนูก็แพ้"

"ก็คุณมันเสียงส่วนน้อย คุณสู้เสียงส่วนใหญ่ทั้งมหาวิทยาลัยนี้ไม่ได้หรอก""คุณควรวางเฉย หรือไม่ก็บอกให้เพื่อนคุณเปลี่ยนทีละเล็กทีละน้อย"

"แต่หนูก็หวัง ว่าสิ่งที่หนูทำ ที่หนูไม่เห็นด้วยกับระบบว้าก หนูคงจะทำไม่สำเร็จในปีของหนู แต่หนูหวังว่าสิ่งที่หนูทำจะเป็นสิ่งปูทางให้กับคนรุ่นต่อๆไป"

..............เรื่องราวว่าด้วยนักรณรงค์ รับน้องไม่รุนแรงในมหาลัย

จริงอย่างที่พี่สาวคนหนึ่งเคยพูด "แค่เราคิดดีๆ สิ่งดีๆก็จะเข้ามาหาเราเอง" วันนี้ฉันลองคิดดีดูอีกสักวัน เดินๆไป ซุ่มซ่ามอีกแล้ว ทำกระดาษเล็กๆทั้งหลายปลิวว่อนกระจุยกระจายอยู่หน้าคณะ ฉันเลยนั่งก้มเก็บกระโปรงเปิดส่องเห็นกางเกงใน น้องปี1สองสามคนที่ห้อยป้ายชื่ออันเบ้อเร่อก็เดินเข้ามาช่วยเก็บ "พี่คะ หนูช่วย" พอเก็บเสร็จ "อ่ะค่ะ ขอบคุณน้องมากที่มาช่วย พี่แจกให้เลยค่ะ"ฉันยื่นกระดาษนั้นให้น้องๆ คนละสองสามแผ่น "พี่ทำโครงการรณรงค์ พี่แจกให้น้องค่ะ" น้องเอามาเพ่งดูด้วยความงง "เห็นด้วยมากเลยค่ะพี่ หนูเอาค่ะ" ฉันก็เดินๆต่อไป ฉีกแปะ ฉีกแปะ สบายใจ น้องสองสามคนนั้นเดินตามมา "แซ๊บมากเลยอ่ะ แรงดีอ่ะ"

ต่อมา ฉันยืนอยู่ที่ อมช ฉันไม่บอกหรอกว่าฉันทำอะไร แต่แจกให้น้องๆปี1ที่ห้อยป้ายชื่อนั่นแหละ คนชอบบ้างไม่ชอบบ้าง แต่มีนักล่าแม่มดโซตัสมาเพ่งเล็ง ฉันรู้สึกดีใจแฮะ ดีใจอ่ะที่มีหนุ่มๆวิศวะ หนุ่มๆหล่อๆ มายืนเป็นกลุ่มรุมจ้องมองฉัน นานๆทีปีหนจะมีหนุ่มๆเป็นกลุ่มๆมาจ้องมองฉันอย่างนี้ ดีใจอ่ะ ไม่เคยมีหนุ่มเป็นกลุ่มๆมาตั้งใจจ้องแบบนี้เลย

ต่อมา ฉันเก็บงานเศษกระดาษที่มันยับเยิน คนเหยียบคนทำร้ายมัน ถึงมันจะถูกทำร้าย แต่ยิ่งมันยับเยิน มันก็ยิ่งเป็นงานศิลปะประจำตัวฉันที่มีค่ามาก เก็บๆไป "พี่คะ เสียดายที่หนูเพิ่งรู้วันนี้ ไม่งั้นหนูคงไปแล้ว ต่อไปพี่จะจัดงานอะไรอีกมั้ยคะ" งานที่ฉันทำแล้วเงียบเหงาไม่มีคนมา สุดท้ายก็ยังมีคนสนใจมัน "พี่เรียนคณะอะไรคะ" ฉันเล่าให้น้องคณะฉันฟังว่า "พี่ไม่เห็นด้วยกับระบบว้ากค่ะ พี่ก็เคยเป็นปี1เคยรับการว้ากมาก่อน แต่พอพี่จะว้ากเขา พี่ก็ไม่ทำ ปีสุดท้ายที่พี่จะจบ พี่อยากทำกับระบบว้ากที่พี่ไม่เห็นด้วยกับมัน" "หนูเห็นด้วยกับพี่ค่ะ"

ต่อมา ฉันเก็บเศษกระดาษที่แจกคนอื่นเขา ใช่ มันโดนเหยียบ ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ ก็แค่หยิบมันขึ้นมา แล้วก็เอามันไปแปะ ขอให้มันอยู่ที่นี่นานๆ

ฉันเคยไปเสียใจ ว่างานฉันถูกทำลาย "ถูกทำลาย ก็ทำมันขึ้นมาใหม่สิครับ"

ฉันยังคงเดินต่อมา ใส่เข็มขัดคณะ น้องๆยกมือไหว้เก้ๆกังๆ "ไม่ต้องไหว้พี่ค่ะ" ฉันไม่ได้ภูมิใจที่น้องมาไหว้ด้วยความกลัว ฉันไม่ได้กระหยิ่มยิ้มย่องถูมิใจ"มีคนมายกมือไหว้กู" ฉันไม่ได้ตาขวางใส่น้องๆ ฉันเห็นทุกคนเป็นมิตรของฉัน

และฉันจะทำต่อไป ฉันไม่ยอมแพ้

ที่มาภาพ: ศูนย์เยียวยาแผลใจ ผู้ประสบภัยจากการรับน้อง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

บล็อกของ ยุภาวดี ฑีฆะ

ยุภาวดี ฑีฆะ
คนเราควรเชื่อมั่นในศักยภาพของผู้อื่น  และสิ่งที่คนไทยขาดโคตรๆก็คือ  การเชื่อมั่นในศักยภาพของผู้อื่น 
ยุภาวดี ฑีฆะ
 คงเป็นอีกวันที่ทำผลงานให้กับองคฺ์กรไม่ได้เลย     ชีวิตของเด็กปริญญาตรีจบใหม่ต่างต้องเผชิญกับอุปสรรคนาๆประการ  ทีแรก ฉันก็นึกว่าฉันเป็นคนเดียวที่เป็นเด็กปริญญาตรีที่จบมาก็ลำบาก  เพราะชีวิตในมหาลัยมัวแต่สะดวกสบาย  
ยุภาวดี ฑีฆะ
 วันทำงานโรงงานวันแรกนั่งอบรมไปค่อนวัน ศึกษาเกี่ยวกับทฤษฎี เขาคงปรับความรู้ผู้ใช้แรงงานอย่างพวกเราให้เป็นผู้ใช้แรงงานที่มีความรู้ เพราะมาตรฐานมันเป็นเครือข่ายที่มีหลายประเทศทั่วโลก พวกดิวิชั่นใหญ่ๆมีแต่ชาวต่างประเทศ
ยุภาวดี ฑีฆะ
มิตรสหายท่านหนึ่ง เคยกล่าวกับข้าพเจ้าไว้ว่า พวกที่กบฏอย่างพวกเรานี้ มักมีนิสัยมาตั้งแต่เด็กที่เป็น
ยุภาวดี ฑีฆะ
ในนาม "พรรคสามัญชน" ขอเชิญชวนทุกท่านที่รักแม่น้ำ รักสิ่งแวดล้อม รักทรัพยากรทางทะเล พวกเรามาร่วมใจกันทำแคมเปญ ลอยกระทงอธิษฐานการคัดค้านเขื่อนหลายแห่งเช่น หยุดการสร้างเขื่อนไซยะบุรี เขื่อนแม่ว
ยุภาวดี ฑีฆะ
หนู    ไม่เอาเขื่อน เพื่อนหนู   ไม่เอาเขื่อน พี่น้องของหนู   ไม่เอาเขื่อน รักสิ่งแวดล้อม   ไม่เอาเขื่อน   เขื่อนจ๋า    ทำไมนะต้องทำลายชุมชน
ยุภาวดี ฑีฆะ
  ฉันมีสก็อตเทป ไว้ในมืออยู่เสมอ แปะติดจนตัวเบลอ เดินเกลื่อนกลาดทั่วมอชอ                     
ยุภาวดี ฑีฆะ
เขาพูดกันว่า....“ใครที่ไม่เอาการรับน้อง ก็ออกไปจากมหาลัยนี้ซะ(ออกไปจากคณะนี้ซะ)” “ใครที่ไม่รักพ่อ ก็ออกไปจากประเทศนี้ซะ” เราเห็นอะไรในฐานคิดนี้ หนูเห็นการสร้าง “ความเป็นอื่น”กับคนที่คิดไม่เหมือนตัวเอง และก็ยังไม่เปิดโอกาสให้คนอื่นได้มีพื้นที่แสดงความคิดเห็น
ยุภาวดี ฑีฆะ
 "อาจารย์ขา หนูกำลังต่อต้านระบบว้ากน้อง แต่หนูทำยังไงหนูก็แพ้" "ก็คุณมันเสียงส่วนน้อย คุณสู้เสียงส่วนใหญ่ทั้งมหาวิทยาลัยนี้ไม่ได้หรอก""คุณควรวางเฉย หรือไม่ก็บอกให้เพื่อนคุณเปลี่ยนทีละเล็กทีละน้อย"
ยุภาวดี ฑีฆะ
วันนี้หนูมาศาลจังหวัดลำพูน จริงอย่างที่เพื่อนหนูบอกจริงๆด้วยค่ะ ในขณะที่เด็กมหาวิทยาลัยตีกลองกันดังตุ๊มต๊ามๆ รับน้องกันอย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน และหาได้มีสาระแก่นสารอันใดไม่นอกจากความสนุกเท่านั้น นอกจากสนุกแล้วก็ยังแหกปากด่ากัน รุ่นพี่ด่ารุ่นน้องแ