.ว้ากน้อง. อีกปีละ

คนเราควรเชื่อมั่นในศักยภาพของผู้อื่น  และสิ่งที่คนไทยขาดโคตรๆก็คือ  การเชื่อมั่นในศักยภาพของผู้อื่น

 

เหมือนกับที่  รุ่นพี่ว้ากรุ่นน้อง  แสดงให้เห็นว่า  รุ่นพี่ไม่เชื่อมั่นในศักยภาพของรุ่นน้อง   ไม่เชื่อมั่นว่ารุ่นน้องมีความสามารถ  ไม่เชื่อมั่นว่ารุ่นน้องพัฒนาตนด้วยตนเองได้  แต่รุ่นพี่กลับเบ่งอำนาจคอยออกคำสั่ง  ราวกับว่า รุ่นน้องเป็นผู้ไม่มีศักยภาพ คิดเองไม่เป็น

 

ไปเดินดูบรรยากาศของมหาลัยในช่วงนี้   เด็กนักศึกษาห้อยป้ายคล้องคอกันไปหมด   ไอ้ป้ายที่ใหญ่ก็ใหญ่เกิ๊น    ป้ายเหล่านี้ต้องห้อยคล้องคอไว้ทุกที่ ทุกเวลา   ไม่งั้นจะโดนรุ่นพี่ลงโทษในห้องเชียร์แหง     วันดีคืนดีก็จะเห็นรุ่นพี่ทำท่ากร่างใส่รุ่นน้อง  พอรุ่นน้องไม่ยกมือไหว้ รุ่นพี่ก็โกรธอีก โกรธมากๆเลยด้วย   เลยงงว่า อะไรของมัน  พอถามว่าทำไมต้องโกรธ  มันก็ให้เหตุผลง่ายๆว่า  ไม่มีมารยาท  ไม่รู้จักเคารพรุ่นพี่  

 

รุ่นพี่เคารพรุ่นน้องบ้างไหมนะ   แค่สงสัย  คนเราเคารพกันที่อายุหรอ 

 

เดินดูบรรยากาศในมหาลัยอีกครั้ง   เห็นกลุ่มนักศึกษาเดินเข้าแถวเรียงรายเยอะไปหมด   หน้าขบวนถือธงแน่วแน่   มันเหมือนกับภาพนักศึกษาในยุคปัญญาชนตุลา   เหมือนแต่ภาพนะ  แต่เอาเข้าจริงก็ต่างกันลิบลับเลย    นักศึกษาที่นี่...ไม่มีอุดมการณ์อะไร   ธงก็ไม่ใช่ธงปฏิวัติ แต่เป็นธงของคณะ   และนักศึกษาที่นี่...ไม่มีอุดมการณ์เพื่อสังคมใดๆ มีแต่ทำเพื่อพวกพ้องตัวเอง  ทำเพื่อรุ่นพี่และรุ่นน้องของตัวเอง 

 

 

.ว้ากน้อง. อีกปีละ

คนเราควรเชื่อมั่นในศักยภาพของผู้อื่น  และสิ่งที่คนไทยขาดโคตรๆก็คือ  การเชื่อมั่นในศักยภาพของผู้อื่น

 

ป.ตรีไม่มีความหมาย มันเป็นของโหลๆไปแล้ว

 

คงเป็นอีกวันที่ทำผลงานให้กับองคฺ์กรไม่ได้เลย     ชีวิตของเด็กปริญญาตรีจบใหม่ต่างต้องเผชิญกับอุปสรรคนาๆประการ  ทีแรก ฉันก็นึกว่าฉันเป็นคนเดียวที่เป็นเด็กปริญญาตรีที่จบมาก็ลำบาก  เพราะชีวิตในมหาลัยมัวแต่สะดวกสบาย  

ประสบการณ์สาวโรงงาน (ตอนแรกค่ะ)

 

วันทำงานโรงงานวันแรก

นั่งอบรมไปค่อนวัน ศึกษาเกี่ยวกับทฤษฎี เขาคงปรับความรู้ผู้ใช้แรงงานอย่างพวกเราให้เป็นผู้ใช้แรงงานที่มีความรู้ เพราะมาตรฐานมันเป็นเครือข่ายที่มีหลายประเทศทั่วโลก พวกดิวิชั่นใหญ่ๆมีแต่ชาวต่างประเทศ