Skip to main content
ชิ สุวิชาน
มีผู้อาวุโสปกาเกอะญอ                  แห่งหมู่บ้านโขล่ เหม่ ถ่า ผู้ซึ่งไม่มีชื่อเสียงเรืองนาม              เขาคือ พาตี่ ปูนุ ดอกจีมูอยู่กับลูก อยู่กับเมีย                     ตามป่าเขาลำเนาไพรท่ามกลางพืชพันธุ์แมกไม้              ทั้งคน ทั้งป่าและสัตว์ป่าทำไร่หมุนเวียน ทำนา                   มีกระท่อม มีบ้านและมีชุมชน มีพื้นที่ทำกินเลี้ยงชีพ                   ที่มั่นคงชัดเจนชัดเจนในวิถี เลี้ยงลูก เลี้ยงเมีย เลี้ยวตัว            อยู่กินมาหลายชั่วอายุคนมีภูมิปัญญาในการใช้และรักษาป่า   รู้จักใช้ ยาสมุนไพรในยามเจ็บป่วยเขาเป็นผู้มีน้ำใจดี                        เป็นผู้ที่มีพรสวรรค์หลายอย่างจักสาน ทั้งกระบุงและก๋วย             ทำกับดัก ได้กินหนูแล้วแบ่งปัน แต่อยู่มาวันหนึ่ง ฝันร้ายได้มาเยือน  คำสั่งจากทางการมาสู่ยอดดอยให้คนย้ายออกจากถิ่นป่า               ไปอยู่ที่ใหม่ ที่ถูกเตรียมไว้รอนั่น พาตี่ปูนุก็ต้องออกไป               จากถิ่นเกิด บ้านเดิม กลางไพรชุมชนเดิมจะกลายเป็นเพียงอดีต      วิถีเดิมจะกลายเป็นเพียงตำนาน
ชิ สุวิชาน
เพื่อเป็นการรำลึกแห่งการครบรอบการจากไป 1 ปี ทางเครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม ได้มีความประสงค์ในการจัดงานเพื่อรำลึกถึงพาตี่ปุนุ ซึ่งถือเป็นวีรบุรุษในการต่อสู้เพื่อคนอยู่กับป่าคนหนึ่ง โดยเครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม ได้มีการผลิตซีดีเพลงชุดหนึ่ง โดยมีพาตี่อ็อด วิฑูรย์ เป็นผู้ดูแลเนื้อร้องทำนองขับร้อง "ช่วยแต่งเพลง เกี่ยวกับปุนุ ให้หน่อย พาตี่แต่งไม่ทันแล้ว" พาตี่อ็อดมาบอกผม ผมจึงลงมือเขียนเพลงปูนุด้วยความรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ซึ่งเป็นเพลงแรกที่ผมเขียนถึงคนตาย และต้องพูดถึงเหตุการณ์ในการตายของเขาด้วย จึงทำให้ผมนึกถึงบทเพลงคร่ำครวญในงานศพ หรือบทเพลงแห่ศพของคนปกาเกอะญอขึ้นมาทันที