Skip to main content
Storytellers
หลังจากที่นอนคิดเกือบทั้งคืนว่าเราจะเก็บกระเป๋าไปพื้นที่เรียนรู้ที่ไหนดี(จากยี่สิบกว่าตัวเลือกที่ทางโครงการ storytellers in journey มีให้) เราก็ได้คำตอบสุดท้ายแล้ว พรุ่งนี้โมจะไปเสน่พ่อง!
Storytellers
           คุณเคยเห็นเวลาที่รถติดหล่มไหม มันคงใช้เวลาอยู่นานเลยนะกว่าจะหลุดพ้นจากหล่มนั้นมาได้ คงต้องใช้ทั้งเวลาทั้งแรงและปัจจัยอีกหลายๆอย่างมากมายในการหลุดออกมา การจากลาจากใครสักคนก็เหมือนกัน ความรู้สึกของการจากลามันก็เหมือนรถที่ติดหล่มที่เมื่อติดลงไปแล้วก็ทำให้ความ
Storytellers
          พบเพื่อลา มาเพื่อจาก ผมลุกจากที่นอนออกมาทำธุระส่วนตัวก็เห็นน้องๆกำลังแต่งตัวถือหนังสือเตรียมตัวกันมาเรียน มันคงเป็นการตื่นมาเรียนที่แต่ละคนดูสดชื่นไม่เหมือนกับตัวเองสมัยเด็กๆที่โรงเรียนไม่ต่างอะไรจากกรงขังที่ตีกรอบสี่เหลี่ยมให้กับเราแต่สำหรับที่นี่โรงเรียนเหมือน
Storytellers
          ความว่างเริ่มเข้ามาในหัวสมองเมื่อผมกลับมาจากการตกปลาได้สักพักหนึ่ง มันส่งเสียงบอกผมว่า “เห้ย!นายต้องหาอะไรทำได้แล้วนะ”พร้อมนึกขึ้นได้ว่า เรานัดคุยกับคุณตาไว้นี่ผมไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปบ้านคุณตา คุณตากำลังสานตะกร้าจากไม้ไผ่ไว้ใช้เองอยู่คุณตาเห็นผมด้วยท่าทางทีใจ รี
Storytellers
          เป็นค่ำคืนที่หัวถึงหมอนแล้วรู้สึกอีกทีคือตอนตื่น ผมตื่นมาอย่างตื่นเต้นเตรียมพร้อมที่จะเดินขึ้นไปดูทะเลหมอกแต่มองออกไปก็เจอแต่ความมืดมิดของค่ำคืนที่ไม่มีไฟฟ้าและก็ไม่เห็นจะมีใครตื่นมากับเรา ในใจตอนนั้นถามว่าให้เดินขึ้นไปคนเดียวกล้าไหม ก็คงตอบอย่างมั่นใจว่าไม่กล้า
Storytellers
          พระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้าเหล่านกกาบินร้องกลับรังก็ได้เวลาที่เรากลับมาที่โรงเรียน เพื่อเตรียมทำกับข้าว ซึ่งก็มีออเดิร์ฟมาเสิร์ฟเราถึงที่ เป็นหัวปลีคลุกเคล้ากับเครื่องปรุง ทอดกรอบๆ พูดแล้วก็อยากทานอีก เพราะรสชาติมันช่างกลมกล่อมลงตัวเป็นอย่างมาก โดยแม่ครัวใหญ่ของอาห
Storytellers
          เรานั่งรอคุณครูซามารับประมาณเกือบๆ 2 ชม.เพราะวันนี้ทางโรงเรียนติดส่งแขกที่เข้ามาบริจาคสิ่งของ แล้วรถของคุณครูก็มาถึงเป็นรถโฟวิลยกสูงคันใหญ่ ที่ขับมาโดยเด็กหนุ่มหน้าตาอย่างกับบอยแบรนด์เกาหลี ผมสวัสดีทักทาย ในใจก็คิดว่าสงสัยครูซาคงให้ลูกศิษย์ขับรถมาแทน แต่ก็ไม่ใช่
Storytellers
          เสียงนาฬิกาปลุกปลุกผมให้ลุกจากที่นอนรีบไปอาบน้ำ ผมสะพายเป้ ออกจากบ้านด้วยอารมณ์เรียบเฉยต่างจากวันก่อนที่อยากไปมากอย่างสิ้นเชิง คงเป็นเพราะบรรยายกาศที่มีฝนตกปรอยๆ และข้อมูลการเดินทางที่มีน้อยมาก มันเลยทำให้ผมไม่ได้คาดหวังอะไรมากจากการเดินทางครั้งนี้ผมนัดเจอกับชาต
Storytellers
หลังจากจบกิจกรรมในวันแรกเราทุกคนต้องนอนค้างด้วยกันและเช้าวันรุ่งขึ้นผมต้องรีบแหกขี้ตาขับรถกลับบ้านเพื่อแต่งตัวไปทำงาน ในขณะที่เพื่อนๆคนอื่นเตรียมตัวออกเดินทางโดยตลอดการเดินทางเราจะใช้ “APP C –Site”เพื่อติดตามเรื่องราวของกันและกัน ความรู้สึกที่เราต้องนั่งหงอยๆทำงานอยู่หน้าคอมทั้งที่เพื่อนคนอื่นออก
Storytellers
          ชีวิตในเมืองเต็มไปด้วยความวุ่นวายเร่งรีบของใครคนหนึ่ง โดยไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วเขาต้องการอะไรจากเมืองกรุงแห่งนี้จนเลื่อนมือถือไปๆมาๆเจอโพสหนึ่ง “เปิดรับเยาวชนนักเล่าเรื่องที่สนใจจะไปเที่ยว!
Storytellers
ก่อนได้ไปลงพื้นที่ที่สะเนพ่องเราได้ไปค่ายนักเล่าเรื่องในที่อื่น(Storytellers in Journey) ที่มูลนิธฺเสฐียรโกเศศ-นาคะประทีปซึ่งทำให้เราได้เจอกับพี่ๆหลายๆคนและทุกๆคนน่ารักมาก แต่ในระยะเวลาที่เราได้อยู่ค่ายนั้นมันมีแค่ 2 วันคือวันที่7-8 พฤศจิกายน พ.ศ.2561 แล้วในตอนนั้นผมก็ยังมีโครงการของผมที่ยังต้องไ