Skip to main content
ชาน่า
การแสดงความรักและความใคร่ที่ขาดไม่ได้สำหรับชาวเกย์ ส่วนหนึ่งคงหนีไม่พ้นการร่วมเพศ แต่จะเป็นเพศร่วมแบบไหนคงทายได้ไม่ยากนัก  ซึ่งอันที่จริงแล้วก็เป็นธรรมชาติของเกย์ กะเทยที่ต้องใช้ทวารยังหวานอยู่ภายในร่างกายเพื่อประกอบกามกิจ (อยู่บ้าง)  ซึ่งภาระนี้จะตกอยู่กับฝ่ายรับ จนเกย์คิงหลายคนบอกว่า “ผมไม่ชอบรับ ผมชอบรุก เพราะเป็นฝ่ายรับมันเจ๊บบบบ เจ็บ”  ขออนุญาตทำความเข้าใจกับคนที่ยังอ่อนต่อวิชาเกย์ศาสตร์ ว่า ฝ่ายรับคือ ผู้ให้ (ทวารยังหวานอยู่) ส่วนฝ่ายรุกคือผู้กระทำ
ชาน่า
คงไม่มีใครจะกล้าปฎิเสธได้ว่า ความใฝ่ฝันของเกย์กะเทย เก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้าเปอร์เซ็นต์ อยากจะทำหน้าที่ของการประกวดความงาม คุณค่าที่เธอคู่ควร ไม่ว่าจะเป็นเวทีใด ๆ ก็ตามที่จัดขึ้น ตอนเป็นเด็กชายอยู่บ้านนอกคอกนา เคยไปงานฤดูหนาวที่ทางจังหวัดหรืออำเภอเค้าจัดประกวด “นางฟ้าจำแลง” ตอนนั้นด้วยความไร้เดียงสา ใคร่รู้เยี่ยงนัก คำว่านางฟ้าจำแลงคืออะไร พอเติบโตขึ้นจึงเริ่มเข้าใจความหมายและเข้าใจตัวเองมากขึ้น “ฉันอยากเป็นนางฟ้าจำแลงจังเลย” พร่ำบ่นพึมพำในใจคนเดียว เพราะอิชั้นมีแววตั้งแต่จำความได้แล้วล่ะฮะ “โฉมเอย โฉมงาม อร่ามแท้แลอรุณ.......” เพลงที่ใช้ประกวดเมื่อครั้งจำความได้ ทุกครั้งบรรยากาศงานฤดูหนาวพวกเค้าหรือเธอจะสร้างสีสันและบรรยากาศ จนบางครั้งแทบเรียกได้ว่าเรียกเสียงฮือฮามิใช่น้อย พอโตขึ้น มักจะไม่พลาดกับการประกวดนางสาวไทย มิสไทยแลนด์เวิร์ล จนไปถึงระดับโลก มิสยูนิเวิร์ส ซึ่งประเทศไทยของเราก็มีสาวงามที่ได้เวทีนี้มาแล้วสองคน คือคุณอาภัสรา และคุณปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติเป็นอย่างมาก หากมองถึงการประกวดของสาวประเภทสองของบ้านเราและระดับโลกบ้าง ผู้หญิงแท้ๆ ต้องอายและผู้ชายแท้ๆ ต้องตะลึงในความงาม กะเทยไทยก็สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศได้มากเช่นกัน เริ่มตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน ปี 1999 อดีตเด็กปั๊ม คุณโอ๋-ภัทรียา ศิริงามวงศ์ มิสทิฟฟานี่ 1999 และมิสควีนออฟดิ ยูนิเวิร์ส ปีเดียวกัน โดยถือว่าเธอเป็นกะเทยไทยที่สวยระดับโลกคนแรก (น่าเสียดายที่ขณะนี้เธอได้เสียชีวิตด้วยโรคร้ายเมื่อไม่นานมานี้) หลังจากนั้นก็มีน้องปอย ที่ได้มิสเกย์ยูนิเวิร์ส มาครองอย่างสมศักดิ์ศรี และล่าสุด น้องฟิล์มก็ได้รับตำแหน่ง Miss International Queen 2007 มาครอง ที่จัดขึ้น ณ ทิฟฟานี่ พัทยา โดยมีประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ซึ่งได้รับความสนใจจากเกย์ กะเทย ทั่วทุกมุมโลกเข้าประกวด ความงามของเค้าหรือเธอนั้น ต้องยกนิ้วให้ ชะนีไทยหลายคนยอมรับนับถือจริง ๆ ค่ะ การประกวดนางงามที่จัดขึ้นนั้นมีหลากหลายเวทีที่ประชันกันอย่างถึงอกถึงใจ ทั้งระดับโลกและระดับชาวบ้าน ๆ โดยตั้งชื่อตามจุดประสงค์ แม้กระทั่ง ธิดาสวนผึ้ง นางงามไร่สวนผสม นางงามวิ่งไล่ควาย เป็นต้น   ชาน่าอยากกล่าวถึง อีกหนึ่งเวทีที่ประทับใจ เพราะเป็นเวทีที่ไม่เน้นความสวย(ที่สุด) มากนักหากแต่จะวัดกันที่กึ๋น หรือ Talent ความฉลาดไหวพริบ เรียกเสียงฮา ได้มากยิ่งมีโอกาสมาก เค้าตั้งสโลแกนว่า “ผลัดกันรุก ผลัดกันรับ” หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า Miss AC/DC “Same thing in reverse” สวยเลิศกาม งามปัญญาฉาย ใคร ๆ ก็สมัครได้ และที่สำคัญเวทีนี้จะไม่มีรางวัล มีแต่ชื่อเสียงและเกียรติยศ เพราะรายได้จะนำไปมอบให้กับการกุศลต่าง ๆ เรียกได้ว่า สวยรวยบุญว่างั้นเหอะค่า การประกวด มิสเอซีดีซี นั้นจัดขึ้นทุกปี เริ่มตั้งแต่ปี 2000 จนถึงปีที่ผ่านมา 2007 เป็นเวลาเจ็ดปี ซึ่งได้รับความสนใจจากชาวเรา ทั้งเกย์ และกะเทย มากมาย ภายในงานจะมีคนหลากหลายกลุ่มอาชีพมาร่วมชม โดยซื้อบัตรต่างราคา เพราะรายได้จะนำมอบให้กับการกุศล ล่าสุดปลายปีที่แล้วจัดขึ้นที่ บีอีซีเทโร ฮอลล์ ซึ่งได้ผลการประกวดดังนี้ สาวงามที่ได้ตำแหน่งคือ มิสจามัยก้า รองอันดับ 1 คือ มิสเวียดนาม รองอันดับ 2 มิสสาธารณะรัฐเชค รองอันดับ 3 มิสศรีลังกา และรองอันดับสี่ มิสเดนมาร์ก   นางงามทั้งหลายคือเกย์ กะเทยชาวไทยแท้นี่ล่ะค่ะ แต่ว่าจะได้รับมอบให้เป็นตัวแทนของแต่ละประเทศ เหมือนกับการประกวดนางงามจักรวาล ซึ่งสาวงามแต่ละนางนั้นจะต้องทำการบ้านเตรียมตอบคำถามและแสดงความสามารถให้เหมาะสมได้โล่ห์มากที่สุด ผู้นั้นจะได้รับตำแหน่งไปครอง ใครสนใจปีหน้า ฟ้าใหม่ หรือสิ้นปีนี้คงจะมีการประกวดอีกเป็นแน่แท้ติดตามดูภาพ และความคราวความเคลื่อนไหวได้ที่ www.missacdc.com นะคะ โดยส่วนตัวของชาน่าแล้ว ในชีวิตนี้เป็นเกย์ (ในเวลาทำงานสาวเสิร์ฟ บ๋อยอินเตอร์บนเรือสำราญระดับโลก) เคยเข้าประกวดนางงามบนเรือสำราญหรู หรือรีสอร์ทลอยน้ำระดับโลก จากเพื่อนเกย์ หลายประเทศ เคยได้ตำแหน่ง มิสเกย์เรือสำราญ สองปีซ้อน (Miss Coral Princess 2003, Miss Diamond Princess 2004) และรองอันดับหนึ่ง (The first runner up Miss Grand Princess 2005) ก่อนจะแขวนมงกุฏ “ความรู้สึกตอนนั้น มันเหมือนว่าเราได้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประเทศไทย โดยจัดประกวดบนเวที โรงละครบนเรือสำราญ มีการแสดงโชว์ ซึ่งชาน่าแสดงรำไทย ผสมเพลงสากลในตอนจบ และตอบคำถามจากกรรมการที่ตั้งคำถาม จำได้ว่า ลูกน้องคนทำงานด้วยกันผู้ชายจริง ๆ เค้าน้ำตาร่วงโดยไม่รู้ตัวคงซึ้งถึงความแก่นแก้วแสนซน ความกล้าหาญชาญชัยมั้งคะ จนสุดท้ายผลการประกวด เราได้ตำแหน่ง เข้าใจความรู้สึกของนางงามที่ได้รับรางวัลว่า “กลั้นน้ำตาไม่ไหว” ต้องเอามือกุมจมูกมือปาดน้ำตานิ๊ดสสสส์ นึงพองาม แต่ความรู้สึกตอนนั้นมันอึ้งไปหมดเลยค่ะ นั่นล่ะ “นาทีที่ยิ่งใหญ่” ....” ชาน่าบอกและกล่าวเล่าความรู้สึก แม้คุณจะเคยหรือไม่ในนาทีที่ยิ่งใหญ่นั้น หาได้สำคัญแต่สามัญสำนึก และความสวยงามทั้งหลายไม่ได้มีองค์ประกอบแค่ความสวยแต่รูปกายภายนอกเท่านั้น หากแต่สิ่งสำคัญของคนคนหนึ่งสวยงามทั้ง กาย วาจา ใจ นั้นไซร้เป็นเรื่องสำคัญที่ควรคู่อยู่กับเกย์ กะเทยทั้งไทยและทั่วโลก ขอให้ทุกคนงามอย่างมีคุณค่าในทุกวันเวลานาทีนะเจ้าคะ รักสวยรักงาม จากเกาะ Bonair ของประเทศ เนเธอร์แลนด์ ทะเลแคริบเบี้ยน.... (ปล.ขอขอบคุณภาพประกอบอย่างเป็นทางการฮ่ะ ไทยมิส สยามดารา มิสเลดี้บอย มิสเอซีดีซี)
ชาน่า
ส่งท้ายปลายปี  ความหนาวเข้ามาเยือนเหมือนใจหวิว ๆ  หลายคนเปรียบเปรยถึงความอ้างว้างว้าเหว่ ในช่วงฤดูหนาว  ช่างเข้ากันนัก  แต่ที่นี่ในต่างแดนเขตทะเลแคริบเบี้ยน สำหรับคนท้องถิ่นไม่รู้จักคำว่าหนาวเหน็บนอกจากอากาศเย็น ๆ  ณ วันนี้ที่เกาะท้องฟ้ามืดมน ตั้งเค้าฝนจะตก  บ่อยครั้งที่ฝนฟ้าและอากาศเป็นใจมักจะปล่อยใจฝัน แบบบิวด์อารมณ์ได้ไม่ยากนักสำหรับหัวโปกไร้นม อารมณ์เกินหญิงของเกย์อย่างเรา  ฉันนั่งอยู่บาร์เล็ก ๆ แห่งหนึ่งของเกาะ Antigua and Barbuda เขตทะเลแคริบเบี้ยน  หลังจากที่เราสามคนเกย์เพื่อนรัก พากันออกจาก รีสอร์ทหรูราคาสี่ร้อยล้านเหรียญ หรือที่รู้จักกันดี  “เรือสำราญ”  ซึ่งมาจอดเทียบท่าแต่ละเมืองที่พาผู้โดยสารท่องเที่ยวเราเดินช้อปปิ้ง สักพักเพื่อนสองคนขอตัวกลับไปพักผ่อนก่อนจะตะบี้ตะบันเสิร์ฟเดือนแสน ตามวิถีสาวเสิร์ฟอินเตอร์ ลูกเรือสำเริงสำราญทำงานระบมอย่างเรา ๆ  อารมณ์อยากนั่งคนเดียวจึงทำให้นึกถึงอะไร ๆ หลายอย่างในช่วงปลายปีเหมือนเป็นการสรุปและทบทวนชีวิตของตัวเองต่างๆ นานาในหนึ่งปีที่ผ่านไป ทำให้นึกถึงสองสามประโยคที่สนทนากับเพื่อนเมื่อก่อนหน้านี้
ชาน่า
สังคมที่เปิดกว้างและยอมรับโลกแห่งความเป็นจริงได้เกิดขึ้นอีกระดับหนึ่ง เมื่อได้เห็นหนังไทย หนังดี หนังเด่นแนวหน้าแห่งปีนี้  เรื่อง “รักแห่งสยาม” หนังที่สะท้อนให้เห็นถึงความรักหลากอารมณ์ ของสังคมเมืองไทย ในความเหมือนที่แตกต่างของสังคม(อีกแล้วครับท่าน) เป็นกระแสแรงได้จิต สั่นสะเทือนหลายริกเตอร์ เขย่าให้เห็นถึงภาพสะท้อนของสังคมไทยในยุคปัจจุบัน  เมื่อ  “รักแห่งสยาม”  ผ่านสายตามหาชน   ทั้งพลพรรคคนรักเกย์ แอนตี้เกย์ รักครอบครัว รักเพื่อน รักแฟน รักเพศไหนๆ ยังไงก็ตาม“คงเป็นหนังวัยรุ่นกุ๊กกิ๊ก ทั่ว ๆ ไป  สปอยหรือเปล่าน๊า”“แหวะ ... หนังเกย์ แน่ ๆ เลยเท้อออ !”“โอ้โห ... อยากไปดูแต่ กลัวคนอื่นคิดว่า เราเป็นเกย์  ไปดูหนังเกย์รึเปล่า”มากมายหลายเสียงของผู้บริโภคหนังก่อนเข้าชมเรื่องนี้..“รักแห่งสยาม” เป็นหนังรักดรามา แนวครอบครัวมากกว่าแค่เรื่องเกย์ (เท่านั้น)  ผลงานการกำกับของ “มะเดี่ยว”  ผู้ซึ่งไม่เคยทำให้อิชั้นผิดหวัง จากผลงานที่ผ่านมาหลาย ๆ เรื่องอย่างคนผีปีศาจ 12, 13 และงานเขียนบทในบอดี้ ศพ 19เรื่องนี้ยิ่งโดนอย่างหนักสำหรับชีวิต ความรักและสิ่งที่เกี่ยวข้องกับ เพศเกย์ของใครหลายคนในสังคม  ไม่ว่าจะเริ่มจากครอบครัวเป็นฐานแรก   การเริ่มเรื่องเป็นไปอย่างนิ่ม ๆ แต่ทำให้คิดตามตลอดและในใจก็ลุ้นว่าจะคลายแม็กซ์ อย่างไร    แค่เริ่มเรื่องก็ดรามา แสดงถึงความโศกเศร้าของครอบครัวที่สูญเสียคนรัก  เรียกได้ว่าจนไม่เป็นอันจะกินจะนอน  อิทธิพลของความรักนั้นบันดาลให้เราทำได้หลายอย่างแม้กระทั่ง ความต้องการตอบสนองทางใจ  ยังคิดว่า “คนที่จากไป” จะหวนกลับมาสักวันจงได้คุณนก สินจัย และคุณกบ นักแสดงรุ่นเดอะ ที่ฝีมือไม่เคยตก ซีนอารมณ์นี้กินขาด เริ่ดได้โล่ห์ฮ่ะพี่นก  ส่วนพี่กบใช่ย่อยไม่ทิ้งกันจริงๆ   นอกจากรุ่นเดอะแล้วก็ตามสมทบด้วยนักแสดงรุ่นกลางอย่าง พลอย  เฌอมาลย์ก็เล่นได้เนียน  และตัวชูโรงนำเรื่องคือสองหนุ่มน้อยหน้าใส วัยเยาว์ ที่รับบทโต้งกับมิว  แม้จะดูขัดๆ ในตอนเริ่มต้น แต่พอดูไปเรื่อยทั้งสองคนสามารถตีบทของตัวเองได้ดีเล่นได้เป็นธรรมชาติสามารถเห็นฝีมืออย่างพัฒนาในเรื่องได้เลย   มีฉาก “จูบสะท้านฟ้า โลกาสั่นสะเทือน”  เรียกเสียงกรี๊ดดดดดดดด จากชะนีโดยไม่ได้นัดหมาย  และเป็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์กระฉ่อน บอกแล้วเรื่องเกย์ๆ เดี๋ยวนี้มักจะโดนสังคมพิพากษา ตัดสิน ส่วนนักแสดงสาวที่รับบทหญิง ที่ดูงุ้งงิ้งแอ๊บแบ๊ว น่าประทับใจวัยใส วัยทีน รุ่นหลานเชียว   ฉากที่ทำให้เราเห็นถึงกิจกรรมในโรงเรียน ขาสั้นคอซอง  แม้จะผ่านมาร่วมสิบกว่าปี ยังคงประทับใจ ในความรู้สึก “ช่วงหนึ่งของวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ” ผู้กำกับถ่ายทอดได้ดีหลาย ๆ ฉากไม่ว่าจะเป็นฉากเด็กใส่ชุดพละนั่งเรียนด้านล่างตึก โดยมีครูเรียกนักเรียนออกมาสาธิต   ฉากเด็กผู้ชายแกล้งน้องมิววัยเด็กในห้องน้ำ  (ทำให้นึกถึงหนังเรื่อง  “แฟนฉัน” เอาซะมากและอยากกลับไปเป็นนักเรียนเหมือนเดิม) ฉากซ้อมดนตรี มีบทสนทนาเรียกได้ว่า แบบเด็กแนวเค้าล่ะ  “หยาม อะเพ่”    เอาล่ะฮ่ะ กลับเข้ามาที่ประเด็นอันเกี่ยวข้องของชาวเรากัน เนื้อเรื่องของหนังหากจะบอกว่าเป็น “Love Actually เวอร์ชั่นไทย” ก็คงไปเพี้ยนไปมาก ที่สะท้อนให้เห็นถึงความรักอันมีมากมายหลายคู่  หากแต่เรื่องนี้มีตัวเอกสองคนที่มีความรักแบบชายรักชายมาเป็นแกนหลักในการดำเนินเรื่อง(แบบธรรมดาพี่เดี่ยวไม่ นี่หละใช่เลย ให้สังคมได้มีเรื่องเม้าท์แตก และแฝงอยู่ในความเป็นจริงค๊า)  มันก็เลยถูกมองว่าเป็นหนังเกย์แบบช่วยไม่ได้   ส่วนตัวแล้วขอยกนิ้วปรบมือ พนมวันทา คารวะให้พี่มะเดี่ยวและทีมงานช่างกล้า  ที่กล้าทำหนังที่แตกต่างอย่างเป็นตัวของตัวเองแบบนี้  โดยไม่สนใจต่อคำตัดสินและข้อหา ครหา ประชาวิจารณ์เกย์ในสังคมไทยฉาก  “จูบใครคิดว่าไม่สำคัญแต่ถ้าคุณจูบฉันทำเอา คนดู ผู้ปกครอง น้องนี (หญิงจริง) สั่นสะท้านทั่วสยามประเทศ”  บ้างก็นั่งตีลังกา ปูเสื่อต่อต้านว่าแรงเกินรับได้  นั่นเค้าเป็นเด็กนักเรียน  แล้วจะทำให้เด็กที่ไม่ได้อยู่ในความดูแลของผู้ปกครองจะเคลิ้มตาม  หรือชักนำในทางที่ผิดหรือเปล่า (เสียงของกลุ่มผู้ไม่เห็นด้วย)  ส่วนบางคนก็บอกว่า  “เกิดฮ่า”  ถ้าไม่มีฉากนี้แล้ว จะทำให้ สุนีย์ กล้าที่จะไปเรียกมิวมาคุยได้เยี่ยงไรลือ  ดีที่ไม่เป็นฉากเลิฟซีนอินดอร์  นอกดอร์ (indoor – outdoor sex) หากเป็นเช่นนั้น กระทรวงวัฒนธรรมคงหาได้ให้ผ่านไม่  (เช่นเคย)  แต่ฉากนี้หละที่สีหน้าของสุนีย์ตอนเห็นภาพนั้น อึ้งเหน็บหนาว ชา ไปทั้งตัวและหัวใจกับสิ่งที่คาดไม่ถึง มันสะท้อนถึงคนที่ใจสลาย  ชาน่าเข้าใจ (อย่างดีค่ะ) ถึงได้ไม่ยอมบอกทางบ้านให้รับรู้ว่า ตัวตนที่แท้จริงของชาน่า คือใคร  เห็นแล้วก็เข้าใจถึงความรู้สึกพ่อและแม่  จนขนลุกซู่ อินสุด ๆ โดนอย่างแรงเลยเจ้า       ส่วนตัวแล้ว  ความรักที่ขาดหายไป หรือความต้องการทางจิตหวั่นไหว เริ่มไขว้เขวของโต้ง กับมิว เด็กชายโรงเรียนมัธยมชายล้วน  บวกกับชีวิตทางครอบครัวที่ต้องการใครสักคนมาเติมเต็ม  ชาน่าว่ามีส่วนเกี่ยวกันได้เชียวหละค่ะ  ความรับผิดชอบต่อสังคม (ไทย)  ชาน่าว่า  “ชายไทย” คนที่ดูหนังเรื่องนี้แล้ว คงไม่ได้รับเชื้อเกย์สายพันธุ์ใหม่   ชนิดที่ออกจากโรงแล้ว แพร่ระบาด  “แต๋ว  เกย์ นะฮ๊ะ ติดโรคแล้วย่ะ”  เพราะคนจะเป็นยังไงก็เป็น คนไม่เป็นยังไงก็ไม่เป็นนอกจากจะอยากลองของ หลายคนคงพอจะทราบว่า  เกย์  แอบ แบบไทย ๆ ก็มีมาตั้งแต่บรรพบุรุษ หรือแม้แต่ สมัยกรีก กี่พันๆ ปีมาแล้วก็ยังมีหลักฐานมากมายหลงเหลือไว้ให้เห็นหากจะยอมรับและเปิดใจให้กว้างที่จะมองคนอื่นบ้าง   ถ้ามีเวลาว่างก็มองคนในครอบครัวก่อนละกัน  คนบางคนหัวโบ และแอนตี้สุดๆ ถึงขนาด ดูถูก เหยียดหยาม  ระวังบาปกรรมจะตกกับคนใกล้ตัวนะเจ้าค่ะ       ชาน่าอยากฝากถึงน้องๆ ชายไทยวัยทีนทั้งหลายว่า  หากจะลองรัก ลองเป็น หรือหวั่นไหว  หรืออยากกลับใจไปเป็นชายแม้ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์  แต่ถ้าคนเรามีทางเลือกได้ก็ขอให้น้อง ๆ เลือกทำในสิ่งที่ดี เหมือนกับการเลือกทางเดินของชีวิต  กากบาทข้อที่ถูกต้องที่สุดนะน้อง  ถ้ากลับใจไปเป็นชายได้ยินดียิ่ง หากมันฝืนหรือทำให้เป็นทุกข์ ทรมาน ชีวิตมันแสนสั้นจะเลือกทำตามใจต้องการขอให้เป็นคนดี มีศีลก็สุดแล้วแต่ใจจะไขว่คว้า  พูดยากค่ะลองฟังเสียงของคนที่ชอบหนังเรื่องนี้กันค่ะ  “ประทับใจจอร์จ  ไม่เคยคิดว่า จะซึ้งจนน้ำตาเกือบไหลกับตัวเอกที่เป็นเกย์สองคน”ดูเรื่องนี้จบแล้วย้อนมองวิถีและทางเลือกของตัวเอง มันใช่เลย กับความรู้สึกเหงา เศร้า อิ่ม อบอุ่น ซึ้ง มีความสุข จนแยกไม่ออก”“ตอนจบของเรื่องถึงจะเศร้าแต่เดี๊ยนว่า มันก็จบแบบไทยดีนะ ซึ่งสะท้อนว่า สังคมเราอาจจะยังไม่ยอมรับการคบกันแบบเปิดเผยของชายรักชาย   กลุ่มรักร่วมเพศ ไม้ป่าเดียวกันยังถูกประชาฟันธง พิพากษา ว่าคนนอกรีต  จิตเบี่ยงเบน  ชนกลุ่มน้อย”“รักและชอบหนังเรื่องนี้จริงๆ ในรอบหลายสิบปีที่ดูหนังไทย  แม้ตัวเองจะเป็นหญิงจริง  แต่เพื่อนที่เป็นชายก็คิดว่า  คนส่วนมากที่ชอบเป็นเกย์หรือเปล่า”ดูหนังดูละครแล้วย้อนดูตัวเอง แน่นอนค่ะ ว่าหนังเรื่องนี้ เกี่ยวข้องกับใครหลายคน  ไม่ว่าจะเป็นผู้ปกครอง  เพื่อนหญิงจริงที่รักชาย  ชายรักชาย  พี่รักน้อง น้องรักพี่ เพื่อนรักเพื่อน นี่ล่ะหนังไทยดรามา ที่แม้หนังจะจบแล้วแต่คนดู ยังไม่จบ เคยมั้ยคะ ที่พอหนังจบแล้วต้องกลับไปม้วนหน้าตีลังกา ครุ่นคิด สามวันเจ็ดวันว่า  มันเกี่ยวข้องกับตัวเองและตัวละครอย่างไร  เก็บเอาสิ่งที่ได้สาระแก่นสาร มาปรับให้เข้ากับชีวิตในโลกของความเป็นจริงให้มากที่สุด หรือแม้แต่จะดูเพื่อความบันเทิงแต่แฝงไว้ด้วยแง่คิดมากมายหลากหลาย  เหมือนดังตอนฉากสุดท้ายที่คอนเสิร์ต หลังจากหญิงปล่อยมือโต้งให้เดินจากไปหามิว หญิงกลับมาที่ลานจอดรถพร้อมกับร้องไห้และบอกเพื่อนโต้งที่ถามหาโต้งว่า “โต้งกลับบ้านไปแล้ว"แต่เพื่อนโต้งอีกคนบอกว่า "โต้งไปหาซานตาคลอสต่างหาก" ถ้าหากมิว คือซานตาคลอส ของโต้ง ย่อมเท่ากับโต้งไปหามิวอาจจะไม่ใช่วันนี้ หรือจะเป็นวันหน้า    อนาคตของเด็กสองคนนี้จะเป็นเช่นไร   ตัวละครยังคงดำเนินต่อไป และมีชีวิตอยู่ในสังคมไทย   ใน “สยาม”  โดยที่ไม่มีใครรู้นอกจาก ตัวตนที่แท้จริงของเค้าเองเท่านั้นค่ะใครคิดเห็นเช่นไรบอกกล่าวกันได้   เพราะเมืองไทย สยามเมืองยิ้มสุดแสนเสรี  ด้วยรักและห่วงสยาม  ชาน่า ทักทายจากประเทศอเมริกา รัฐฟลอริด้า  (กลับมาทำงานต่ออีกแล้วของชีวิตนางแบก)
ชาน่า
กลับมาตามหัวใจเรียกร้องอีกครั้งหลังจากพักร้อนเมืองไทย  กลับไปอ่านหนังสือของสาวสองเภท หรือสาวประเภทสองที่บุกตลาดเมืองไทยตามแผงหนังสือชั้นนำทั่วไป  อดไม่ไหวจึงขอหยิบมาฝากแนะนำเผื่อใครสนใจอยากอ่านเรื่องราวหลากหลาย มากมายมุมมอง สามารถอ่านได้จากหนังสือที่สาว ๆ เธอเขียนถ่ายทอดเพื่อเป็นสื่อสร้างสรรค์ผ่านตัวหนังสือ มีเล่มไหน ยังไงบ้างนั่งปูเสื่ออ่านได้ค่ะเกริ่นนำส่วนตัวก่อนว่า  สมัยก่อนตอนอยู่นอกเมือง ไม่ใช่เมืองนอก (บ้านนอก) เคยอ่านนิตยสารเล่มหนึ่ง จำไม่ได้ว่าเป็นสกุลไทย หรือขวัญเรือน  มีคอลัมน์ที่เค้าเขียนถึง “กะเทยไทยในต่างแดน” ตอนนั้นยังเป็นเด็กชาย อีแอบ ไม่แสดงออก ต้องแอบเอาไปอ่านคนเดียวด้วยหัวใจสั่นระรัว กลัวมีใครมาจับได้ว่าอ่านเรื่องราวของกะเทย เดี๋ยวความลับแตก นึกทีไรก็ขำทุกทีมาวันนี้ เมื่อโลกเปลี่ยนไป อะไร ๆ ก็เปลี่ยนไปได้เสมอ จึงกล้าที่จะขอพูดถึงตลาพ็อกเก็ตบุ๊คคึกคัก เมื่อสาวงาม (ประเภทสอง) ตบเท้ากันมาประชันลงหน้าปก และเขียนหนังสือ  วางแผงตามร้านทั่วไทยให้อ่านกันอย่างหนำใจฮ่ะเริ่มต้นด้วยสองเล่มล่าสุดวางแผงร้อนฉ่าตอนนี้ (คำว่า “ร้อนฉ่า”หนังสือพิมพ์บางเล่มเค้าบอก  หุหุ)  คือ  “เม้าท์แตก...ชาวเรา”  จีบปากจีบคอโดยอิชั้นเองฮ่ะ  "ชาน่า"  จากเมื่อก่อนแค่อ่านคอลัมน์เกย์ก็ต้องหลบๆ ซ่อน ๆ เหมือนไปลักขโมยใครกินซะงั้นหละ ใครจะรู้ว่า วันหนึ่งจับพลัดจับผลูหยิบปากกามาจิกเขียนเรื่องเกย์ กะเทยซะเอง  มิหนำซ้ำยังกล้าเอาใบหน้าที่งาม (หน้า) มาลงปก ไม่สวยไม่เริ่ดแต่เชิดไว้ก่อน  เล่มนี้เป็นเรื่องราวที่นำมารวมเล่มจากเว็บข่าวประชาไท กับคอลัมน์ “พาเม้าท์ชีวิตชาวเกย์”  เนื้อเรื่องสะท้อนเรื่องราวหลากหลายมุมมองของเกย์ไทยและเกย์ต่างแดน ไลฟ์สไตล์วิถีเกย์กล้าแสนฮา สุดขำ แสบสันต์ หรือเศร้าน้ำเน่าเอาเรื่องหลากหลายสาระและความมันบนพื้นฐานของชีวิตจริงที่ต้องเกี่ยวข้องกับชายจริงหญิงแท้  อ่านได้ไม่จำกัดเพศอีกเล่มที่ร้อนระอุ วางแผงไล่ล่ากัน เรื่อง "Helen แฉความลับดารา"  จัดจ้านได้ใจ เน้นแฉ ดารา คนในวงการมายา ฉีกหน้ากันเห็น ๆ โดย เฮเลน คนในวงการเบื้องหลังม่านมายาถือว่า ดุ เด็ด เผ็ด มัน ไม่แพ้กัน ใครที่ชอบติดขอบดาราคนโปรดคนไหน ติดตามอ่านได้เบื้องลึกเบื้องหลังใครเป็นยังไง ควักใส้ให้รู้กันถ้วนหน้า  เธอเข้าใจโผล่มาช่วง เรื่องฮอตร้อนร้าวของรักสามเศร้าน้ำเน่าอย่างดารา "เราสามคน" เป็นทอร์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ของคนเสพวงการบันเทิงหลายรายก่อนหน้านี้มีอีกหลายเล่มที่แรงพร้อมสาระ ถ่ายทอดจากเรื่องราวและประสบการณ์ที่น่าจับตามอง เริ่มที่เล่มแรกของกะเทยผู้ปลอมแปลงบัตร จากนายเป็นนางสาวเพื่อสิทธิหน้าที่คนหนึ่งที่มีใจรัก   ฉันอยากเป็นหญิง  อยากเข้าประกวดนางงาม  เธอตั้งชื่อหนังสือว่า  "กะเท๊ย  กะเทย"  โดย นก ยลดา โคมกลอง  ดีกรี มิสอัลคาซ่าร์ ปี 2005  และปัจจุบันเป็นนักศึกษาปริญญาเอก   เล่มนี้นก เธอทั้งเขียนและพิมพ์เอง  จัดจำหน่ายเองจนได้รับการตอบรับอย่างถ้วมท้น   ส่วน “กะเทย No.1” ของ “ป๊อบ ไฮโซ” หรือ“เกรียงศักดิ์ ศิริชาติไชย” เขียนตีแผ่ชีวิตตามสไตล์ ไฮโซของเธอ นำเสนอเรื่องราวความดังต่อสังคม นี่หละตัวตนที่แท้จริงของคนในวงการไฮโซ อย่างป๊อบ  ใครอยากรู้ว่าทำไมถึงได้ตำแหน่ง กะเทยหมายเลขหนึ่งลองอ่านดูค่ะ ด้านเจ๊เดย์ “เดชาวุฒิ ฉันทากะโร” ก็ไม่ยอมน้อยหน้าฉีกม่านนางโชว์โผล่เป็นพ็อกเก็ตบุ๊ค เมื่อก่อนฉายา  "เดย์ฟรีแมน"  เกย์กะเทยคนไหนไม่รู้จักถือว่า ยังไม่ถึงเจ้าสำนักอย่างแท้จริง เธอผลิตผลงานผ่านตัวหนังสือ “วันเดย์โชว์”  ล้วงลึกวงการชีวิตนางโชว์อาชีพที่เธอเกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริง ๆ เล้ย แล้วคุณจะรู้ว่า ทำไมเธอถึงได้ฉายา นางโชว์เบอร์หนึ่งของไทย  ใครที่คิดถึงเธอหาหนังสือเล่มนี้มาอ่านรับรองจะไม่ผิดหวัง เบื้องหน้าและเบื้องหลังของ ดรีมเกิร์ล  อุ๊ย ไม่ใช่สิ ดรีมเกย์นางโชว์เมืองไทยอีกเล่มเกี่ยวกับวิถีชีวีของ นางฟ้านิกกี้-กีรนันท์ สุวัณสิงห์ ส่งหนังสือเรื่อง  “น้ำตานางฟ้า”  มาวางแผงปีนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้เธอเคยเขียนเล่มแรก  เรื่อง  “ผมเป็นแอร์โฮสเตสครับ” ซึ่งรวมเรื่องราวของเธอผู้ซึ่งเป็นแอร์โฮสเตสสาวประเภทสองคนแรก   การกลับมาเล่มสองของเธอนั้นกรองเรื่องจริงทุกตัวอักษร ที่มาจากหัวใจที่ปวดร้าวและหยดน้ำตา ว่าทำไมแย่งสามีของชาวบ้านไปครอง จนถูกตราหน้าว่าเป็นเมียน้อยและกลายโศกนาฏกรรมของความรัก นอกจากนี้ “แซนดี้-เซ็น ดอกแสง” กลั้นไว้ไม่ไหว  สั่งสมประสบการณ์แสบๆ คันๆ มันๆ จี๊ดจ๊าดจาก ต่างแดน มานำเสนอเป็นพ็อกเกตบุ๊กชื่อ “กะเทยไทยแลนด์ แซนดี้ แซ่บ! แซ่บ!” โปรยหน้าปกว่า เปลือยชีวิตสุดแซ่บของกะเทยไทยหัวใจชะนีที่ถีบตัวเองจากจุดต่ำสุดกู่แล้วก็ขึ้นสู่จุดสมหวัง พร้อมเผยนาทีชีวิตที่รับอาชีพ น้องโส (โสเภณี)ในต่างแดน สุดแสนบัดซบขมขื่นเกินบรรยาย อ่านง่ายได้ข้อคิดเป็นอุทาหรณ์สอนใจสาวเทียม หรือใครที่เกี่ยวข้องได้อย่างดีทีเดียวเรียกได้ว่าหลายเล่มที่คุณจะวางไม่ลง  ที่กล่าวมายังไม่รวมเรื่องราวที่นักเขียนหลายท่านปั่นงานเขียนพ็อกเก็ตบุ๊ค เกี่ยวกับสาวประเภทสอง ไม่ว่าจะเป็นหญิงจริงหญิงเก่งอย่าง คุณอิ๋ง อิ๋ง ที่ตีแผ่เรื่องราวของเธอเกี่ยวกับความรักสุดเศร้ากับเขาที่เป็นเกย์เมื่อปีก่อน ๆ  หรือ อีกเล่มเขียนโดยคุณวารุณี แสงกาญจนวนิช  "ตัดทิ้ง" ชีวิตจริงของสาวประเภทสอง ที่เขียนจากสารคดีตีแผ่สาวประเภทสอง ซึ่งกลับก็ไม่ได้ ไปก็ไม่ถึงที่แนะนำวันนี้หาได้รวมถึง หนังสือเกย์ อีแอบ เก็กชงอีกมากมายไว้คราวหน้าจะนำมาแนะนำกันฮ่ะชาน่าเชื่อว่ากว่าจะเป็นพ็อกเก็ตบุ๊ค รวมเล่มเป็นรูปร่างขึ้นมา  นักเขียนทุกท่านแทบจะใช้ช่วงชีวิต  เกือบทั้งชีวิตหรือส่วนหนึ่งของเค้าถ่ายทอดเพื่อให้ผู้อ่านทุกท่านได้สาระและบันเทิงจากการอ่าน  หากพอจะเป็นข้อคิด สาระและอะไรหลายอย่างที่ผู้อ่านได้จากเล่มหนึ่งนั้น ชาน่าเชื่อว่านักเขียนเค้าก็บรรลุวัตถุประสงค์แล้วล่ะค่ะใครชอบอ่านเล่มไหน  แนว (กะเทย) ใด ไปหาตามแผงหนังสือได้  อ่านแล้วได้ความยังไงส่งเมล์มาคุยกันบ้างนะคะพบกันสัปดาห์หน้าค่ะ  ขอบคุณจ๊าดนักเจ้าชาน่า  (บ้างเข้าใจอ่านว่า  หน้าชา  (ฮา ฮา)... )เขียนจาก  เมือง  Nasau  ประเทศ Bahamas
ชาน่า
ห่างหายไปนานหลังจาก เปิดตัวหนังสือ “เม้าท์แตก...ชาวเรา” ได้สองวันก็ลัดฟ้า กลับไปทำงานต่อที่เรือสำราญ ณ อเมริกา  กว่าจะตั้งตัวได้เหนื่อยเอาการทีเดียวค่ะหมกมุ่นกับการทำงานและการปรับตัวสักระยะ จึงเริ่มออกไปพักผ่อนหย่อนใจ ตามประสาคนทำงาน ลอยล่องท่องไป ในโลกกว้าง  วันว่างหลังการทำงานหนักเป็นนางแบกอินเตอร์ (แบกถาดอาหารคาวหวาน)วันนี้หลังจากทำงานกลางวันรับจองห้องอาหารทางโทรศัพท์เสร็จจึงรีบออกไปเที่ยวหาดเกย์ ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนชาวเกย์อันเลื่องชื่อของพลเมืองชาวเกาะของประเทศอเมริกา ที่อยู่ทะเลแคริบเบี้ยน  นามว่า “ St.Thomas”  U.S.V.I ย่อมาจาก United State Virgin Island.ประเด็นที่จะพูดคุยกันวันนี้ ชาน่า ตั้งหัวข้อแบบเกิดขึ้นบนพื้นฐานของเรื่องจริงที่หลายคนอาจจะไม่รู้ แต่กล้าที่จะตีแผ่ เผื่อใครจะได้เรียนรู้โลกกว้าง เปิดหูเปิดตา  ว่าแท้จริงนั้นเป็นเช่นไรก็จะไม่ให้คิดได้ยังไงคะ  วันนี้ชาน่าตั้งหน้าตั้งตาไปเที่ยวชายหาด ซึ่งเป็นของเกย์โดยตรง จุดประสงค์ก็เพียงเพื่อไปในชุมชนของชาวเรา  จะใส่บิกินี่ หรือว่ายน้ำเป็นฉลาม หรือปลาพะยูนเกยตื้นก็จะได้ไม่ต้องอายน้องนี ชี ๆ ทั้งหลาย  รวมทั้งไม่อยากให้เด็กเล็ก เด็กแดงได้เลียนแบบพฤติกรรม “แต๋วแตก”  ของกลุ่มหลากหลายทางเพศ  (เป็นการรับผิดชอบต่อสังคม จะได้ไม่ต้องให้ผู้ปกครองรับภาระหนักในการดูแลเด็ก)“แหม ...ไปเที่ยวหาดเกย์คนเดียวไปหาคู่ร่วมเพศล่ะสิ”“ได้มะ  กี่ไม้คะเพื่อน วันนี้เกิดหรือเปล่า”คำถามของเพื่อนเกย์หลายคนที่ถามไถ่จึงทำให้ย้อนกลับมามองว่า  “ทำไมเกย์ ถึงต้องหมกมุ่นกับเรื่องทางเพศ”  จริงหรือจากการวิจัยเค้าบอกว่า  เพศชายนั้นมีความต้องการทางเพศไม่ได้มากไปกว่าเพศหญิงสักเท่าไหร่นัก แต่อาจจะเป็นเพราะว่า  ชายนั้นมีความกล้าแสดงออกมากกว่าหญิง  จึงทำให้หลายคนเข้าใจว่าเพศชายนั้นมีความต้องการทางเพศมากกว่านั่นเองแล้วถ้าเป็นเกย์ล่ะไม่แปลกที่เกย์ รักสนุกหลายคนจะนิยมเปลี่ยนคู่ หรือแสดงออกถึงความต้องการทางเพศมากและง่ายกว่าชายจริงหญิงแท้เป็นหลายเท่าสาเหตุน่าจะมาจาก  “ความเป็นอิสระเสรีไม่มีขีดจำกัด”ก็เพราะเกย์หลายคนที่ครองสถานภาพโสดสนิท โสดเป็นวัน  ๆ   จึงนิยมเปลี่ยนรสนิยมทางเพศกับคู่ขา แปลกหน้า หรือหน้าแปลกทั้งหลาย  โดยพบปะเพื่อนใหม่ตามสถานที่ต่าง ๆ อาทิเช่น  ซาวน่า บาร์ ผับ แหล่งสิงสถิตของเกย์ต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งหาดของเกย์หาดที่ชาน่าไปในวันนี้นั้นเป็นหาดที่เกย์อินเตอร์ ทั่วโลกรู้จักกันดี คือ Little Magens Bay ซี่งอยู่ทางสุดท้ายปลายทาง มุมสงบเงียบแห่งหนี่งที่ใกล้กับ Magens Bay ที่เค้าบอกชาวโลกว่า นี่คือหาดที่สวยงามหนึ่งในสิบของโลก  Magens Bay ,U.S.V.I  ตั้งใจจะไปเล่นน้ำทะเล พักผ่อน หรือจุดประสงค์รองอาจจะพบปะเพื่อนใหม่คลายเหงา สุดท้ายก็บรรลุวัตถุประสงค์ทั้งหลักและรองแต่ก็มีหลายคนที่ เกิดอาการหมกมุ่นทางเพศแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากว่าหาดแห่งนี้เป็นหาดเปลือยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย  และเป็นที่รู้กันคือแหล่งของชาวเรา  จนหาชะนีไม่ได้แม้สภาพโดยทั่วไปจะเต็มไปด้วยป่าชายเลน ต้นไม้ โขดหิน ชายหาด   สิ่งที่พบเห็นเต็มตา และแทบจะเรียกได้ว่าเป็นการรบกวนหรือละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวก็ว่าได้ นั่นคือ ชายพื้นเมือง  ซึ่งแทบจะออกแบบชาวสีผิวก็ว่าได้  ตามจิก (เกาะติด)  พอห่างจากคนหน่อยก็ช่วยตัวเอง ชวนร่วมรักกลางป่าชายเลน   บัดสีบัดเถลิง  ชาน่าบอกว่าไม่ก็คือไม่ เพราะไม่ได้ตั้งใจมาผสมพันธุ์ชายคนนี้ก็ตื้อ แล้วตื้ออีก  พอผ่านไปสักพักก็มีอีกคน ตามมาเสียบแทนชวนลงเอย เล่นรักอย่างว่า“อะไรกันเนี่ย”คำตอบที่ได้คือ ... (วันนี้) ชาน่าไม่ง่ายสำหรับคุณค่ะ  (ประเภทไม่สวยไม่หล่อ แต่หยิ่งเข้ากระดูกดำ )  (ฮา ฮา)นอกจากนั้นยังมีกลุ่มนักท่องเที่ยวเกย์ที่ควงแขนมากันเป็นคู่ ๆ นอนเป็นฮีเปลือย เปลือยฮี(เขาผู้ชาย) อย่างไม่อายฟ้าดิน เพียงเพื่อต้องการความเป็นธรรมชาติ และอาบผิวให้เป็นสีแทนทั่วเรือนร่าง รอบข้างมีถังน้ำแข็งและเครื่องดื่ม เรียกได้ว่า นอนคลุกเคล้า หิน ดินและทราย แล้วก็ยกซด ดื่มด่ำกำซ่า ท้าแดดท้าลม  “นี่ล่ะคือโลกของเรา แหล่งหาดเกย์กลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะ”ชาน่าพบเพื่อนใหม่คนหนึ่งที่เราคุยกันเค้ามาจากสิงค์โปร  แต่หน้าตาบ่งบอกว่าเป็นยิ่งกว่าอินเดีย  จึงใครรู้ว่า “ท่านไปมาเยี่ยงไร”   คำตอบที่ได้คือ เกย์อินเตอร์ที่รักการท่องเที่ยวจะรู้แหล่ง   ส่วนอีกคนมาคนเดียวแบบแบกเป้เที่ยวไป  แอบมองกันอยู่นานจนเกิดอาการส่งต่อมกล้า ถามไถ่ได้ความว่าบินมาจากสเปน มาพักร้อนโดยตรงฮ่า เพื่อนใหม่บางคนก็ถามชาน่าว่า มาจากที่ไหน  คำตอบที่บอกไปคือ  ญี่ปุ่นบ้าง จีนบ้างแล้วแต่อารมณ์  แต่ถ้าใครที่เราอยากจะผูกพันธมิตรก็จะตอบไปตามตรงว่า เมืองไทย เพราะไม่อยากเอาชื่อประเทศมาขายสุดท้ายจึงกลับมาคิดว่า  ทำไมชาวเกย์ถึงได้หมกมุ่นกับเรื่องเพศ แค่พบเห็นกันไม่กี่วินาทีก็จะต้องเล่นกลกามแห่งความรักกันเลยเหรอคงต้องตอบไปอย่างตามตรงว่า  คงจะใช่บางส่วนแต่บางส่วนก็ไม่ง่าย เหมือนที่ใครหลายคนคิดคนเราเลือกที่จะทำอะไรได้ตามอิสระก็จริงแต่ควรจะม้วนหน้าตีลังกาคิดว่าสิ่งที่ทำนั้นถูกผิด หรือเป็นภัย เสียหายหรือไม่เช่นไร   แล้วสิ่งที่เราเลือกทำในชีวิตก็จะถูกต้องนะคะคงเปรียบเสมือนกับคำแนะนำของทุกศาสนา หรือแม้แต่แพทย์หลายคนที่บอกว่า  อย่าหมกมุ่นกับเรื่องเพศมากนัก (ไม่ว่าจะเป็นเพศชายจริงหญิงแท้หรือ หญิงเทียม เกย์เก็กชง หรือเกย์จงใจออก)   หาทางออกอย่างอื่นเช่น ดูหนัง ฟังเพลง เล่นกีฬา  จะได้ไม่หมกมุ่นครุ่นคิดแต่เรื่องอย่างว่า  อะไรสิ่งไหนก็ตามหากมันมากไปก็ไม่ดี น้อยไปก็อาจเสียหายได้  เดินทางสายกลางได้จักดียิ่ง หรือคุณคิดเห็นเช่นไร
ชาน่า


“เม้าท์แตก...ชาวเรา” วางแผงแล้ววันนี้... Behind the scene of come out the closet !ออกพรรษาแล้วนะคะแต่เชื่อว่าหากหลายคนยังรักษาศีลไม่ว่าจะอยู่ในหรือออกนอกพรรษาก็จะได้กุศลอย่างใหญ่หลวง  และเป็นสุขกันถ้วนหน้าค่ะสัปดาห์นี้ ชาน่ายังอยู่เมืองไทยก่อนจะบินไปทำงานประจำที่อเมริกา และยุโรปต้นเดือนหน้า  หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจในการรวมเล่ม ... “เม้าท์แตก...ชาวเรา”  จึงอยากจะเล่าเรื่องราวความเป็นมา “กว่าจะเป็นพ็อกเก็ตบุ๊คออกสู่สายตามหาชน”ตอนแรกก็เกิดอาการสองจิตสองใจ ว่าจะรวมเล่มดีมั้ย ผลกระทบจะเป็นเยี่ยงไร หลากหลายความคิด  แต่สุดท้าย แรงสั่นสะเทือนและเจตนาอย่างแรงกล้านั้นได้เข้าสิงสถิตย์ในวิญญาณ  เคยทำงานประจำพอได้พักร้อน หยุดทำงานแล้วมันเกิดอาการว่างจัด   โดยเฉพาะการกลับมาพักร้อนในฤดูฝน ช่วงพรรษา ฝนตกน้ำท่วม  ออกไปไหน ทำอะไรไม่ได้มาก จึงได้ไอเดียในการเผยแพร่ เรื่องราวหลากหลาย มากมายต่างมุมมองของวิถีเกย์กล้า เกย์บ้านนา เกย์เด็กแนว(ตะเข็บชายแดน)  เกย์โกอินเตอร์ เพราะเชื่อแน่ว่า อย่างน้อยก็คงพอจะเป็นสาระ (แน) และบันเทิงผ่านตัวอักษร เป็นหนังสือสื่อสร้างสรรค์เนื้อหาบางตอนได้ตัดต่อ เพิ่มเติมเพื่อความเหมาะสมและให้ผู้อ่านได้รับประโยชน์สูงสุดชาน่าลงทุนร่วมแรง ร่วมใจกับผองเพื่อน จัดทำเล่มนี้ขึ้นมาด้วยใจรัก  แม้จะได้รับกระแสหลากหลาย  ทั้งคนที่หวั่นไหว เกรง กลัว เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย  เพราะเป็นเรื่องราว “แรงได้จิต” แต่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นบนโลกกลมๆ ใบนี้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับคนหลายเพศ (เดี๊ยนรับรอง)  มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะให้ใครหลายคนยอมรับ และไม่ใช่เรื่องยากที่จะผลักดัน ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ตามความต้องการของใครหลายคน"เม้าท์แตก...ชาวเรา" เป็นการรวมเล่มจากคอลัมน์ พาเม้าท์ชีวิตชาวเกย์ ในเว็บหนังสือพิมพ์ประชาไท   จีบปากจีบคอโดย เกย์(สาว)เปรี้ยว ชาน่า ผู้ซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวหลากหลายมุมมองของเกย์ไทยและต่างแดน ไลฟสไตล์ วิถีเกย์กล้า  แสนฮา สุดขำ แสบสันต์ หรือเศร้า น้ำเน่าเอาเรื่อง หลากหลายสาระและความมันส์  บนพื้นฐานของชีวิตจริงที่ต้องเกี่ยวข้องกับ ชายจริง หญิงแท้ อ่านได้ทุกเพศไม่จำกัด รับรองคุณจะวางไม่ลง"“Coming out the closet!” The Gay Living Tips, Travel, and Safe Sex Experiences. 
National Book Fair 2007, Bangkok – A new pocket book called “Coming Out the Closet!” was released officially at Anit Publishing Booth on 23rd October, 2007 during the National Book Fair 2007. 

The author “Chana”, a popular columnist in http://www.prachatai.com, told the true stories of herself and her gay gangs by using fun languages and slangs which specifically use among gays. The stories are about gay life style, relationship, social & family issues, travel, and knowledge of safe sex. “Human beings should love each other without barriers in caste or genders. If we are fulfilled with love we will protect each other from their pain and save people’s lives. Because of love, we care for each other, and encourage each other when someone is down. We provide a chance for someone to go on with their lives and give our hands to support them. I wish gays would share love and compassion with each other forever.” Introduction provided by Udomprachathorn, Wat Prabath Num Phoo. “This book is the most real book I have ever! Chana - I cannot believe what stories you have and as for myself they are all Real because I was there as well! The Gay Life.... Two Thumbs UP for You!” Stefan Engl, Asst. Food & Beverage Manager, Queen Mary 2, Cunard Line The partial of sales will be donated to the charity and HIV patient at Wat Prabaht Num Phoo, Saraburi.อ่านง่าย...ถ่ายคล่อง รับรอง แสบสันต์แสนฮา เนื้อหาแรงได้จิต แต่โดน..เจ้าค่ะตัวอย่าง....สาระ(บาน)   - สารบัญ    “เม้าท์แตก...ชาวเรา"

ชวนเม้าท์...ชีวิตชาวเรา 
1. พาเม้าท์ชีวิตชาวเกย์ Gay’s talk and Lifestyle 
2. รักเอย ...ของชีวิตเกย์ What love got to 
do ! 
3. ไซเบอร์เซ็กส์ ...เอ็กซ์ผ่านจอ Cyber Sex …XXX through screen. 

ชวนเม้าท์...โลกของเรา 
4. ฟิตเนสเพื่อสุขภาพของเกย์ For healthy life .Let’s go to Gay Fitness. 
5. ซาวน่า 
ไลฟ์สไตล์ของชาวเรา Sauna… another gay lifestyle . 
6. เป็นเกย์หรือไบ จะแสดงออกดีหรือไม่ ควรบอกใครดี Coming out ? 
7. 25 ข้อดีที่แสนประเสิร์ฐของคนที่เกิดเป็นเกย์ กะเทย คุณเห็นด้วยหรือไม่ 25 advantages for being gay. 
8. Hot line สายร้อน สายด่วนของเกย์ Gay hot line…Line is getting hotter !! 
9. เกย์สาวออฟฟิศ เคยจีบใครในที่ทำงานหรือเปล่า Are gays Flirt @ work ? 
10. วิธีสังเกตุชายคนไหนที่เป็นเกย์ How to observe gay characteristics. 
11. คิดยังไงกับการมีลูกบุญธรรมของเกย์ Adopted Child by gay . 

เม้าท์หนัง...ฟังเพลง 
12. “ Brokeback Mountain “ แตกหลังเขา เราสามเพศที่เกี่ยวข้อง Brokeback mountain..the secret love ..makes me alive.! 
13. เพื่อนกูรัก(มรึง)ว่ะ Bangkok Love story is it true love ? 
14. ความรักที่เป็นเพลงความลับ กับชู้ทางใจของมัม ลาโคนิค “Secret lover” Is a secret forever ! 

เที่ยวไป...เม้าท์ไป 
15. คัมภีร์พาเที่ยวทั่วโลกของเกย์ “Gay Guide book” a gay planet . 
16. ท่องราตรี ที่กรุงเทพ ๑ one night in Bangkok 1 
17. ท่องราตรี ที่กรุงเทพ ๒ one night in 
Bangkok 2 
18. พาเที่ยวเกาะเกย์ที่ดังของโลก The gay friendly Island,Mykonos - Greece 
19. หาดเปลือย ทำไมคนชอบไปจัง Oh my gosh !... Nude Beach
20. เกย์สัญจร พาเที่ยว เวนิสเมืองที่โรแม๊นติกมากที่สุดในโลก 
The most romantic city in the world. 
21. มหึมา Gay Cruise พาท่องล่องนาวากับเรือสำราญ wow !! Homo Titanic cruise ! 

ขอเม้าท์...เตือนใจ 
22. เตือนใจ เม้าท์เตือนภัยรายวันสำหรับชาวสีม่วงและทุกเพศ Daily warning for purple chicks ! 
23. วิธีแชทอย่างไรให้ปลอดภัย Being safe for Chatters ! 
24. ใครบอกว่า ออรัลไม่ติดโรค Oral Sex may get infected . 
25. ช่องทางโกอินเตอร์ ขายเนื้อ ค้าน้ำกามข้ามชาติ Prostitute…goes inter ! 
26. พาไปรู้จักถุงยางอนามัยสิ่งที่เกย์รักสนุกต้องใช้ Condom …a tool for having fun. 
27. ป๊อบเปอร์ สิ่งเสพติดหรือแค่สารที่ทำให้เคลิ้มยามร่วมเพศ Poppers it’s drug or just arousing sex ! 
28. เตือนเพศทั้งหลายเรือนหลังสุดท้ายของผู้ป่วยเอดส์ -วัดพระบาทน้ำพุ The last resident of HIV patients.เวลาในการทำหนังสือเล่มนี้ ...วันที่ 12 ตุลาคม 50 ตัดสินใจเข้าออฟฟิศเพื่อน (บริษัท อีดีที กรุ๊ฟ เอ็กเพรส) เพื่อเปิดเป็นฐานปฎิบัติการอำนวยการ   ระดมเรียก ตีฆ้อง ร้องป่าว ชาวเพื่อนรัก ร่วมกันทำวันที่ 13 ตุลาคม 50  ได้รับคำนิยมจากท่านเจ้าคุณประชาทร วัดพระบาทน้ำพุ  ตอนเช้าเข้าสตูดิโอ  เดอะ ไฮนิส สตูดิโอ ทองหล่อ 55 ตอนเย็นเลือกรูปและออกแบบหน้าปก วันที่ 14-16 ตุลาคม 50 สามวัน สามคืน กิน นอน ทำงานในออฟฟิศ ทั้งอาร์ตเวิร์คและ จัดหน้า โดยได้ลุย (เพื่อนวงการทีวี ) มาช่วยเต็มพลัง วันที่ 17 ตุลาคม 50  ส่งต้นฉบับเข้าสู่ โรงพิมพ์ “ภาพพิมพ์”  ซึ่งมีคุณปอ ดูแลและเอาใจใส่เป็นอย่างดี   รวมทั้งได้รับอาร์ตเวิร์คหน้าปก ซึ่งมีน้องชายคนหนึ่งที่ทำรีทัชภาพชาน่า ออกมาไม่ให้หน้าชา  ขอบอกว่าคนเดียวกันที่ทำรีทัชภาพพี่มาช่าในโฆษณาล่าสุดเจ้าวันที่ 18 ตุลาคม 50  ตรวจทาน ต้นฉบับ สองสามครั้ง ไปกลับโรงพิมพ์และออฟฟิศทองหล่อวันที่ 19 -22 ตุลาคม 50  ปฎิบัติการพิมพ์พ็อกเก็ตบุ๊ค  ในระหว่างนั้นได้ติดต่อผับ บาร์ ต่าง ๆ เพื่อโปรโมทหนังสือ  ตอนเย็นได้รับหนังสือส่งตรงถึงออฟฟิศ และบริษัทจัดจำหน่าย โดย อนิศ ดิสทริบิวชั่น จำกัดวันที่ 23 ตุลาคม 50  ตื่นแต่เช้า เสื้อผ้า แต่งหน้าทำผม (วิกปลอม)  โดย เดอะ ไฮนิส สตูดิโอ   เที่ยงถึงบ่ายโมง ที่งานหนังสือแห่งชาติ ไปแจกลายเซ็ง .. พิมพ์ผิด ค่ะ ลายเซ็นต์ ซึ่งได้พบปะเพื่อนพ้อง น้องพี่ คนอ่านหนังสือใหม่และเก่ามากมายสรุปเบ็ดเสร็จ 10 วัน “ฉันทำได้ “  “chana she can”ด้วยเจตนารมย์ของชาน่า และเพื่อนพ้องน้องพี่ ที่ร่วมกันทำ รายได้ส่วนหนึ่งเราจะมอบให้กับการกุศลต่าง ๆตามสมควรและวัดพระบาทน้ำพุ  นั่นคือจุดประสงค์หลัก “เรารักสังคม”  เพราะไม่ได้ให้สำนักพิมพ์ไหนทำเพื่อธุรกิจการค้า หวังผลกำไร แต่สิ่งที่เราได้คือความสุข อันพึงมีที่เราอยากจะหยิบยื่นเพื่อสังคมของเราสมัยเรียนชาน่าเคยได้รับทุนการศึกษา จากสังคมตั้งแต่ยังเด็ก จนกระทั่งล่าสุดระดับปริญญาตรีเคยได้รับทุนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพ  ในรั้วรามคำแหง  จึงได้รับการปลูกฝัง ว่าหากเรามีโอกาสเราจะตอบแทนสังคมหลายครั้งหลายครา ที่ชาน่าผ่านจังหวะวิกฤติของชีวิตที่เกือบเอาตัวไม่รอด เกือบจะไม่ได้กลับมาแผ่นดินเกิด  พอการกลับมาพักร้อนปีนี้จึงได้คิดและทำในสิ่งที่ตัวเองฝัน  เพราะชีวิตของคนเรา ไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น  หากมีโอกาสคิดที่จะทำอะไรก็จงทำเสียเถิด จักเกิดผล อย่างน้อยสุดแม้อะไรจะเกิดขึ้นตอนนี้ก็ถือว่า ...เราทำดีที่สุดแล้ว  
อันดับแรกต้องขอขอบพระคุณ ประชาไท เว็บไซต์ข่าวคุณภาพเพื่อสังคมและประชาชน  ที่ให้โอกาสชาน่าได้ถ่ายทอดเรื่องราว แม้บางครั้งอาจจะมีใครหลายคนเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับการเขียน แต่ถือว่านั่นคือกำลังใจในทุกความรู้สึกที่ได้   ขอบคุณ คุณ ภู เชียงดาว ผู้ชักนำเข้าสู่วงการ และพี่ น้องผองเพื่อน ประชาไททุกคนขอขอบพระคุณทุกท่านที่เกี่ยวข้อง ทุกความคิดเห็นและทุกข้อความสนับสนุนในการเขียนหนังสือเล่มนี้ เพื่อนเว็บไซต์ พันทิป ประชาไท และเว็บของชาวเราทั้งหลายมากมายค่ะมากกว่าคำขอบคุณเพื่อนนักอ่าน เพื่อนใหม่ เพื่อนเก่าที่ติดตามกันมาโดยตลอด กราบขอบพระคุณ พี่ ๆ สื่อมวลชน และสื่อทีวี วิทยุ วารสาร หนังสือพิมพ์ เว็บไซด์ต่าง ๆ ที่ช่วยแนะนำหนังสือเล่มนี้ฮ่ะ
ฝากถึงทุกท่าน...หากคิดว่า หนังสือเล่มนี้...  “เม้าท์แตก...ชาวเรา”  จะเป็นประโยชน์ต่อสังคม ร่วมด้วยช่วยชาน่า โปรโมทเพื่อเข้าถึงกลุ่มได้อย่างทั่วถึงนะคะ  และหากผิดพลาดประการใด ชาน่าขอน้อมรับไว้แต่เพียงผู้เดียวนะคะชาน่าไม่หวังอะไรมาก แค่อยากจะแปลเป็นเก้าภาษาทั่วโลก และมีใครนำเรื่องไปสร้างเป็นหนังดังระดับฮอลลี่วู๊ด   ว๊ายยยยย  ล้อเล่น ฮ่ะ ...(นี่ขนาดไม่หวังอะไรมากนะคะ)หาซื้อได้ที่ไหน...สิ้นเดือน ตุลาคมนี้ ติดตามได้ทุกร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป ทั่วไทย อาทิเช่น ร้านบีทูเอส  นายอินทร์ ซีเอ็ด บุ๊คสไมล์เซเว่น อีเลฟเว่น ทุกสาขา ราคาเล่มละ 159 บาทค่า
ชาน่า
นางโชว์เป็นอาชีพที่หลายคนสนใจ ส่วนมากเกิดขึ้นจากใจรักและรักที่จะเป็นนักแสดง  หลายคนเคยได้ดูหนังเรื่อง Show Girl ที่ Beyonce นำแสดงต่างชื่นชมถึงความหรูเริ่ดอลังการ แล้วนางโชว์ของไทยล่ะคะ  ...ไม่น้อยหน้าทีเดียวล่ะค่ะคืนก่อนชาน่าได้มีโอกาสไปเที่ยว สีลม ซอย2 ซึ่งเป็นแหล่งพบปะ สังสรรค์ของชาวเราทั้งไทยและเทศ ย่านแสงสีราตรีที่มีเกย์จากหลายทิศทั่วไทย หลากหลายเกย์นานาชาติทั่วโลกเดินทางมาโดยมิได้นัดหมาย เพียงเพื่อผ่อนคลาย ปาร์ตี้ เต้นรำ พบปะ รู้จักเพื่อนใหม่และอีกมากมายเหตุผลของคนที่มาที่นี่...แหล่งบันเทิงหลากหลายต้อนรับผู้มาเยือนอย่างเป็นมิตร พร้อมมีการแสดงของชาวเราเพื่อสีสันและบันเทิงในค่ำคืนที่มีเพื่อนพ้องชาวเกย์มากมาย   การแสดงที่ขาดไม่ได้นั่นคือ  “นางโชว์” “นางโชว์” เป็นอาชีพของนักแสดงอย่างหนึ่งที่ถูกต้องตามกฎหมายและศีลธรรม  พวกเค้าหรือเธอทำหน้าที่เป็นเอ็นเตอร์เทนเนอร์เพื่อลูกค้าที่มาเยือนจะได้ประทับจิต ติดใจกลับมาใช้บริการอย่างหนาแน่น    ผ่านไปหลายเดือนที่ชาน่าไม่ได้ไปเที่ยวสีลม ซอย 2 เพราะหน้าที่การงานต้องเร่ร่อน รอนแรมไปต่างแดน  คืนนี้มีเพื่อนสนิทชักชวนไปเปิดหูเปิดตาในราตรีที่มีแสงสี นีออน พอช่วงเวลาโชว์เริ่มขึ้น“ชาน่า ไปดูโชว์ที่เอ็กเพรสโซ่กันเหอะ นางโชว์ที่นี่เค้าเริ่ดอย่าบอกใครเชียว”  โส เพื่อนสนิทกล่าว“ไปสิ นังโส ช้านหวังว่าคงจะได้ดูโชว์อย่างสวยงาม ไม่ใช่โชว์เหมือนหล่อน โสโครก หรือโสน้าหน้า” ชาน่าหยิกแกมหยอกเพื่อนแสงสีเสียงของการแสดงลิปซิ้งค์ ได้เริ่มขึ้นท่ามกลางแขกผู้มาเยือนอย่างแน่นเต็มผับ เพลงที่ดังขึ้นมาพร้อมกับการแสดงของนางโชว์ สะกดจิตคนดูทั้งหลายเหมือนกับทุกคนอยู่ในสมาธิ ทึ่ง อึ้ง ชื่นชมมีอารมณ์ร่วมโดยไม่ต้องถูกบังคับหลังจากพวกเธอโชว์เสร็จจึงติดต่อ ขอสัมภาษณ์อย่างเสียไม่ได้  โดยส่วนตัวแล้วไม่เคยรู้จักนางโชว์มาก่อนแต่พวกเธอ น่ารักและเป็นกันเองกับชาน่าอย่างมาก น่าชื่นชมค่ะคนแรกที่ได้พูดคุยถึงแม้เธอจะเป็นน้องใหม่ในวงการนางโชว์แต่ขอบอก ว่าฝีมือนั้นมือโปรเรียกพี่เชียวค่ะ  นั่นคือ...  น้องแช้มป์  ก่อเกียรติ กระจายศรี  อายุ 24 ปี เธอรับงานโชว์ ที่ DJ Station, Expresso  Silom soi 2แชมป์อยู่วงการนางโชว์นานหรือยังคะแชมป์ :    เป็นนางโชว์ สามปีค่ะ แต่ว่าก่อนหน้านี้เป็นแดนเซอร์มาก่อนค่ะเข้ามาอยู่ในวงการตรงนี้ได้อย่างไรคะแชมป์ :  เพื่อนแนะนำ ให้มาเป็นแดนเซอร์ที่ฟรีแมนก่อน เต้นได้สองปีหลังจากนั้น พอเรารู้ว่าหุ่นสรีระของเราเริ่มกลายเป็นผู้หญิงแล้วนะ  ทางพี่ ๆ เค้าก็เลยบอกให้ลองเป็นนางโชว์มั้ยที่แต่งเป็นหญิงเลย จึงตกลงลองทำดู (แช้มป์พูดอย่างจริงจัง)ต้องซ้อมนานมั้ยกว่าจะแสดงได้เนี๊ยบขนาดนี้แช้มป์  : ต้องทำการบ้านเป็นอย่างดีน่ะค่ะ เพราะว่าลูกค้าของเราเป็นชาวต่างชาติด้วย ซึ่งเค้ารู้แค่อ้าปากต้องเห็นลิ้นไก่แล้ว หรือริมฝีปากจะต้องตรงกับเนื้อเพลง เพราะฉะนั้นต้องฟังเพลงเยอะ ๆ เขียนเนื้อเพลง ท่อง จำ แต่ไม่จำเป็นต้องเก่งภาษาอังกฤษมากมายนักก็ทำได้ค่ะ ดีที่แช้มป์พูดภาษาอังกฤษได้จึงช่วยได้เยอะเลยล่ะค่ะเมื่อกี้เห็นน้องแชมป์ลิปซิ้งค์เพลง One moment in time ซึ่งเป็นไลฟ์คอนเสิร์ต ของ Whitney Houston  พี่ชอบมากเลยหาที่ติไม่ได้เลยล่ะแชมป์ ขนาดพี่ไปเห็นนางโชว์ต่างๆ ทั่วโลกมาแล้วนะ ยอมรับจริงๆ ว่าแชมป์ไม่ด้อยเลยค่ะแชมป์ : ขอบคุณค่ะ  เราต้องเปลี่ยนเพลงและเปลี่ยนคาแรกเตอร์ไปเรื่อย ๆ เพื่อคนดูจะไม่เบื่อ บางทีจบเพลงนึง ต้องรีบไปแต่งเป็นนักร้องอีกคนหนึ่ง ด้วยความไว และสวยค่ะ ทุกครั้งที่มีการแสดงใครเป็นคนคิดคอนเซปต์ หรือแต่งหน้าให้คะแชมป์ : เราต้องดูแลทุกอย่างด้วยตัวเราเองค่ะ ต้องแต่งหน้าเป็น เลือกชุดให้เหมาะสมต่าง ๆ เคยท้อมั้ยคะแชมป์กับการอยู่ตรงนี้แช้มป์  : แรกๆ ก็ท้อนะคะ  หลังๆ มาคนเริ่มรู้จัก คนชอบการโชว์ของเราทำให้เริ่มมีพลัง กำลังใจมากยิ่งขึ้น และชีวิตก็ต้องมีการแข่งขันกันเราจะต้องทำให้ได้ไปสู่จุดนัดฝัน เดี๋ยวนี้ได้กำลังใจจากแฟนๆ จึงทำให้สนุกกับการทำงานค่ะ  (แชมป์ยิ้ม อย่างสวยงามมาดนางง้าม นางงามเลยล่ะค่ะ)น้องแช้มป์อยากทำงานตรงนี้อีกนานมั้ยแชมป์  : ก็ทำไปเรื่อย ๆ ค่ะ  ซึ่งเราอาจจะยังไม่ถึงจุดสูงสุด แต่ก็จะก้าวต่อไปให้มีชื่อเสียงเป้าหมายของการทำงานคืออะไรคะแชมป์ : ก็อยากจะเป็นนางโชว์โกอินเตอร์ พร้อมที่จะไปรับงานแสดงต่างประเทศ  ซึ่งชีวิตของนางโชว์นั้น ไม่จำเป็นต้องแปลงเพศ  อย่างแชมป์ ๆ ก็มีครบทุกอย่างนะคะ เครื่องสำอางและการแต่งตัวช่วยได้ค่ะค่าจ้างเป็นยังไงบ้างคะแชมป์ : ก็โอเคนะคะ และอีกอย่างหลังเลิกงาน หรือเวลาว่างเราก็รับงานนอกได้ ทำให้มีงานเสริมค่ะมีอะไรจะฝากบอกแฟน ๆ แชมป์มั้ยแชมป์ : ก็ต้องขอขอบคุณสำหรับการติดตามและให้กำลังใจแชมป์มาตลอด ซึ่งแชมป์จะทำการบ้านและทำหน้าที่อย่างดีที่สุดค่ะ ขอบคุณค่ะแม้จะเป็นการพูดคุยกันอย่างสั้น ๆ แต่แชมป์เธอก็น่ารักและเป็นกันเองอย่างมาก สำหรับใครที่สนใจจะติดต่อเธอไปแสดงงานโชว์ที่ไหน ติดต่อเธอได้โดยตรงที่ เมล์นี้ค่ะ  pallmall2325@hotmail.com  ส่วนอีกคนเรียกได้ว่า มือโปรเจ้าแม่วงการโชว์ของสีลมเลยก็ว่าได้  หลังจากเธอเปลี่ยนเสื้อผ้า ล้างหน้าเสร็จจึงได้มานั่งพูดคุยกันอย่างสบาย ๆ ที่ในบาร์ จึงได้ความว่าหวัดดีค่ะ ชื่ออะไรคะชาญ  : ชื่อ ชาญณรงค์ คำมุก ชื่อเล่น ชาญค่ะ อายุ 34 ปีแสดงโชว์ที่ไหนบ้างคะชาญชาญ : ก็มีที่ DJ Station และก็ที่นี่ Expresso สีลมซอย 2 ค่ะทำงานเข้าวงการกี่ปีละคะชาญ  : อื่ออ ...ทำมาได้ 13 ปีแล้วค่ะ (ชาญพูดอย่างมั่นใจ)ความรู้สึกครั้งแรกเป็นไงบ้างคะ ถึงอาชีพตรงนี้ชาญ  : ตอนแรกจะรู้สึกประหม่ามาก เพราะคนดูเยอะและมาจากหลากหลายประเทศ แต่พอทำนาน ๆ เข้าก็ชินค่ะได้แรงบันดาลใจ หรือเข้าสู่วงการได้ยังไงคะชาญ  : เคยไปดูโชว์ที่โรม คลับ รู้สึกชอบความงาม  และก็คิดว่าสักวันหนึ่ง ฉันจะต้องเป็นอย่างนั้นให้ได้  แหม ตอนเป็นเด็กก็อยากเป็นนางนพมาศ ถามชีวิตส่วนตัวนิ๊ดส์ นึง ว่าความเป็นสาวอย่างเราเนี่ยต่อสังคมเป็นไงบ้างชาญ  : อย่างชาญนี่ แม่รู้ตั้งแต่แรกเกิด แม่จับแต่งตัวเลย ซึ่งชาญจะมีพี่สาวที่เป็นอย่างนี้ด้วย แม่เคยขออย่างเดียวคืออย่าทะเลาะกัน และเวลาที่ทะเลาะกันอย่าว่าเป็นกะเทย  แล้วพ่อก็จะบอกกับทุกคนว่า “ลูกฉันเป็นคนพิเศษนะ”  ซึ่งจะหลีกเลี่ยงคำว่ากะเทยตอนเป็นเด็กกับชีวิตชาวเราเป็นไงบ้างชาญ  : เป็นคนที่แคร์สังคมมาก เข้ามาอยู่ กทม พอกลับไปบ้านต่างจังหวัดก็จะแต่งสวยไป แต่ก็กลัวชาวบ้านจะนินทา ไม่ยอมออกไปไหนเลย  มีอยู่วันหนึ่งพ่อให้ไปซื้อรองเท้า จนต้องบอกกับพ่อว่า “หนูเอาเงินให้พ่อไปซื้อเองได้มั้ย”  พ่อจึงต้องพาเราไปด้วยและบอกกับเพื่อน ๆ ว่านี่ล่ะลูกสาวฉัน  ซึ่งทำให้ได้ข้อคิดว่า บางครั้งการที่เราแคร์คนอื่นมากไปนั้นก็ไม่ดี ขนาดพ่อของเราเค้ายังรับได้ และรักเรา แคร์เรามากน่ารักจังเลยค่ะ  ชาน่าเห็นด้วย เพราะการเป็นอย่างเรา ๆ ก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนนี่เน๊าะ เอาล่ะ กลับมาถามเรื่องโชว์ของชาญต่อว่า ต้องเตรียมตัวอย่างไรชาญ : ก็ต้องศึกษานักร้องคนนั้นๆ คาแรกเตอร์ กิริยา ท่าทาง  ซึ่งชาญว่า เมื่อก่อนเราจะต้องแสดงอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ปัจจุบันนั้นเราก็จะเอาบุคลิกของเราร่วมด้วย ซึ่งเป็นการแสดงสดๆ ขายสมอง ทำให้คนดูฮา ฮา และสนุกกับการดูโชว์ฟีดแบ็คเป็นไงบ้างชาญ  : ฝรั่งจะชอบ ชื่นชมมาก ซึ่งเราจะสังเกตได้แล้วชาญชอบแสดงเป็นนักร้องคนไหนมากที่สุดคะชาญ  : ชอบแสดงเป็น Ciline Dion  อาจจะเป็นเพราะชอบแนวเพลงนั้นและเป็นคาแรกเตอร์ของเค้าแล้วรู้สึกเหมือนมาก แต่หลายคนก็ชอบที่ชาญแต่งเป็น Cher พวกเค้าบอกว่าเหมือนมาก แต่ชาญก็ต้องแสดงเป็นหลาย ๆ คนค่ะเคยท้อบ้างมั้ยคะชาญ  : ก็เคยแต่ก็สู้เต็มที่ ตอนแรกมีปัญหาแต่งหน้าไม่เป็น ชุดไม่ให้ หลายอย่างค่ะ แต่ตอนนี้ก็ชินแล้วแล้วในอนาคตล่ะคะชาญ : ก็คงแสดงไปเรื่อย ๆ แต่สักวันนึงก็คงต้องหยุดน่ะค่ะอยากโกอินเตอร์มั้ยคะชาญชาญ  : ก็อยากถ้าหากมีโอกาส ซึ่งชาญก็เคยไปแสดงที่ญี่ปุ่น ฮ่องกง หรือบางทีก็ไปแสดงบนเรือสำราญที่มาจอดชลบุรีบ้าง  ก็สนุกดีแต่ก็อยากไปเวทีใหญ่ ๆ ซึ่งเป็นตัวของตัวเองฝากบอกอะไร ถึงคนดูบ้างชาญ  : มีความสุขกับการทำงานตรงนี้ ได้รู้จักผู้คนเยอะแยะ และคนที่ยอมรับก็ขอบคุณ  อยากจะฝากว่า  อะไรที่ดี ๆ ก็รับไว้ อะไร ที่ไม่ดีก็ไม่ควร บางครั้งโชว์บางอย่างอาจจะทะลึ่งตึงตัง ลามกนิดหน่อย ก็ขออภัย ขอบคุณสำหรับคำติชม และชาญก็จะทำให้ดีที่สุดค่ะคืนนี้ต้องขอขอบคุณชาญมากเลยนะคะ ไม่ได้เตรียมบทสัมภาษณ์แต่คิดว่าเป็นการพูดคุยกันสด ๆ ในคืนที่ชาน่ามาเที่ยวอย่าว่ากันนะคะสำหรับใครที่เป็นแฟนคลับของชาญ ตามไปชมการโชว์ของเธอได้ที่ดีเจ สีลมซอยสองได้ทุกวันเว้นวันจันทร์ค่ะ  หรืออยากจะติดต่องานโชว์ของเธอ สามารถติดต่อได้ที่  chanydj@hotmail.com   หากคุณจะให้ทิปเป็นสินน้ำใจ ชื่นชมเป็นพิเศษสามารถหยิบยื่นแบงค์สีแดงสีม่วง มอบให้นางโชว์ หรือนักแสดงถือว่าเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมพวกเค้าจะอัปปรีย์  ต๊ายยย ชาน่าสะกดผิดอีกแล้วค่ะ (ช่วยชันสูตรด้วย)  เอาใหม่ค่ะ พวกเค้าจะ appreciate เป็นที่สุดชาน่าได้สัมผัสชีวิตนางโชว์จากหลายมุมโลก ต้องขอย้ำอีกสักครั้งว่า นางโชว์ของไทยเรา สะกดคำว่าแพ้ไม่ได้ค่ะ  พวกเธอทำได้เนียนและมืออาชีพ อยากจะยกนิ้วให้มากกว่าสองนิ้วว่า นางโชว์ของไทยเป็นหน้าเป็นตาให้กับประเทศชาติ ลูกค้าทั้งไทยและเทศ ไม่ว่าจะเป็นเกย์ท้องที่ ชะนีต่างถิ่น ชายจริงสามศอกก็ต้องยอมรับ หากไม่เชื่อลองไปสัมผัสฝีมือของพวกเธอได้ที่สีลม ซอย 2 สิค๊ะ แล้วคุณจะต้องบอกว่า  Amazing Gay Thailand! เดี๊ยนรับรองเจ้าค่ะ