Skip to main content

พาเม้าท์ชาวเกย์ (บันเทิง) สัปดาห์นี้ขอนำเสนอหนังเกย์สุดอลังการที่น่าสนใจเรื่องหนึ่งชื่อ Frozen Flower”

 

 

 

Frozen Flower” เป็นภาพยนตร์แนวมหากาพย์ฟอร์มยักษ์โดยสร้างจากเรื่องจริงในยุคของโครยอ (.. 918-1392) เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและการทรยศของกษัตริย์ เรียกได้ว่าเป็นหนังแนวสงครามย้อนยุค โดยมีนักรบจำนวน 36 ชีวิตที่มีชื่อเรียกว่า กอนรยงวี (건룡위) และมเหสีผู้เลอโฉมจากอาณาจักรหยวน ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้โจอินซอง รับบทเป็น ฮงริม ผู้บัญชาการของ กอนรยงวี ซึ่งเขาได้รับ "ความรักแบบลึกซึ้ง" จากกษัตริย์เป็นอย่างมาก ทางด้านคู่ขาของ โจอินซอง(Jo In Sung) อย่าง จูจินโม (Joo Jin Mo) นั้นได้รับบทเป็นกษัตริย์โครยอที่ตกหลุมรักกับ ฮงริม

Frozen Flower
เป็นภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของโจอินซอง ที่เค้ารับแสดงก่อนที่จะไปรับใช้ชาติด้วยการเป็นทหารซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีหลายเรื่องที่ส่งให้พระเอกคนนี้ได้พิจารณารับแสดง แต่สุดท้ายเค้าก็เลือกที่จะรับบทแนวเกย์ ให้กับผู้กำกับ ยูฮัน ซึ่งเค้าเคยร่วมงานกันมาก่อนจากเรื่อง A Dirty Carnival จนทำให้พ่อหนุ่มน้อยรูปงาม ขวัญใจแม่ยกได้รับรางวัลดารานำชายยอดเยี่ยมในงาน 2006 Korean Film Awards โดยก่อนเปิดกล้องพ่อหนุ่มรูปหล่อได้โล่ห์คนนี้ต้องเข้ารับการฝึกขี่ม้า รวมทั้งเข้าคอร์สเรียนศิลปะการต่อสู้เพื่อเตรียมตัวเป็นนักรบอย่างสมบทบาท


ส่วนผลงานของจูจินโม ดาราเจ้าบทบาทอีกคนนั้นที่ผ่านๆมาก็มีเรื่อง
"Musa: The Warrior", "200 Pounds Beauty" และ "Love/ซาราง" ซึ่งส่งผลให้เขาโด่งดังอยู่ทุกวันนี้


ทางด้านผู้กำกับฝีมือเอก อย่างยูฮัน ก็ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์เป็นอย่างมากว่าเขาเป็นคนที่นำเอาสัญชาติญาณดิบเถื่อนได้ใจ ยิ่งกว่าจำเลยรัก ถ่ายทอดออกมาได้อย่างถ่องแท้ อีกทั้งไอเดียที่ดิบและบ้าระห่ำล้ำเลิศที่หาดูได้ยาก จนบางครั้งทำให้ผู้ชมบางกลุ่มอาจดูงานที่เค้าสื่อออกมาอย่างไม่รู้เรื่อง สำหรับผลงานที่ผ่านมานั้นมีหลายเรื่องอาทิเช่น
"Crazy Marriage" ปี 2001, "Spirit of Jeet Keun Do: Once Upon a Time in High School" ปี 2004 และ "A Dirty Carnival" ปี 2006

 

 


Frozen Flower
จะเป็นภาพยนตร์รักร่วมเพศเรื่องแรกของเกาหลีที่เล่าเรื่องแบบตรงไปตรงมาไม่สลับซับซ้อน ซึ่งแตกต่างจากหนังเรื่องอื่น ๆ ที่เคยมีในประเทศเกาหลี อย่างเช่นเรื่อง King and the Clown นั้นจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรักระหว่างชายกับชายที่เกิดจากความสงสาร เห็นอกเห็นใจโดยไม่ได้เกิดจากความรักใคร่ชอบคอภายใต้จิตสำนึกกันตั้งแต่ต้น แต่สำหรับ Frozen Flower จะแสดงความรักโดยเล่าผ่านตัวละครของชายสองคนเท่านั้น


ชาวเกย์และหญิงหลายท่านอาจจะอดคิดไม่ได้ถึงฉากเซ็กส์ของหนังเรื่องนี้ แหม
..เรื่องราวความรักเกิดขึ้นแล้วจะไม่มีฉากนั้นเชียวหรือ ทางผู้กำกับเค้า...จัดให้ โดยไม่ทำให้คนดูผิดหวังรับรองว่าร้อนแรงแต่ไม่หวือหวา มีหวิว ๆ แต่ไม่วาบหวาม ทำให้คนดูได้จินตนาการต่อว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างชายรักชายสองชายอยู่ในที่ลับ เอาเป็นว่าละไว้ในฐานที่เข้าใจ ทำให้ได้ลุ้น.... แต่ก็จัดอยู่ในกลุ่ม เรต R เช่นกัน แค่หนังเรื่องนี้ออกมาเพียงตัวอย่างที่มีฉากบนเตียงของทั้งคู่นั้น ก็เป็นที่จับตามองของชาวเกาหลีและสื่อมวลชน สร้างความสนใจเป็นอย่างมากไม้แพ้กับ “รักแห่งสยาม”ของบ้านเรา


คุณจะเห็นได้ว่าความสัมพันธ์รักเพศเดียวกันของกษัตริย์ในสมัยก่อนของประเทศเกาหลีก็ยังบังเกิดขึ้น นับประสาอะไรกับคนอย่างเรา ๆ เป็นแค่ปุถุชนคนเดินถนนคนหนึ่งจักเกิดขึ้นไม่ได้เชียวลือ แม้แต่ประวัติศาสตร์ของไทยสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ก็ยังเคยปรากฏมาแล้วที่มีขุนนางชั้นผู้ใหญ่จัดเข้าข่ายรักร่วมเพศ แม้จะเป็นเรื่องที่สังคมประนามหยามดูหมิ่น แต่
...ขอโทษนะคะ ขอบอกว่า ... ห้ามกันได้ซะที่ไหนล่ะคะมันเป็นปัจเจกบุคคล และความต้องการที่ไม่มีใครมาห้ามได้ แม้แต่ห้ามใจตัวเอง

 

 


หากใครที่เป็นแฟนหนังเกาหลี ลองติดตามผลงานเรื่องนี้ อย่างน้อยคุณก็จะได้เปิดโลกทัศน์ให้กว้างยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้อย่างเข้าใจและเห็นใจพวกเรา
...ชาวรักร่วมเพศ อีกหนึ่งดอก...ที่อยู่ร่วมโลกกับคุณ

ขอบคุณภาพประกอบจาก http://upload.popcornfor2.com

 

 

บล็อกของ ชาน่า

ชาน่า
  หากใครเคยชมภาพยนตร์ไทยของจีทีเอช โดย บริษัท จอกว้าง ฟิล์ม จำกัด เมื่อปีที่แล้ว “หนีตามกาลิเลโอ” หลายคนคงจะประทับใจเรื่องราวและการต่อสู้ ความน่ารักและการใช้ชีวิตของสองสาวไทยที่ตัดสินใจไปเที่ยวและทำงานต่างประเทศ หนึ่งคนไปเพราะอกหัก อีกหนึ่งไปเพราะสอบตก อยากเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมใหม่  แต่สำหรับฉัน “ชาน่า” หนีไปเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ที่ตัดสินใจบินออกนอกประเทศ ความรู้สึกไม่ได้แตกต่างอะไรไปมากกว่านางเอกของหนังเรื่องนี้นักเลย  สุข เหงา เศร้า คละเคล้ากันไปยิ่งกว่าละครเสียอีก    แต่ชาน่าไม่ใช่นางเอกของเรื่อง แค่เกย์ที่หลายคนรู้จัก บ้างรู้จักฉันดี…
ชาน่า
หลายคนอาจจะเคยสงสัยเหมือนกับชาน่าว่าในสมัยก่อนวิถีชีวิตของเกย์เป็นเยี่ยงไร วันนี้จึงหาคำตอบและเป็นความต้องการทราบส่วนตัวด้วยค่ะ เพราะว่ามีโอกาสได้ดูละครเรื่องสาปภูษา จึงใคร่รู้เยี่ยงนักว่าประวัติความเป็นมาและสังคม กฎระเบียบบ้านเมืองเป็นเช่นใด ข้าใคร่รู้ ณ บัดเดี๋ยวนี้
ชาน่า
  เมื่อช่วงพักร้อนที่ผ่านมา ชาน่าและเพื่อน ๆ ได้พบปะสังสรรค์กันตามประสาเฮฮาปาร์ตี้ เพื่อนๆ ต่างไม่เจอกันมานาน มีทั้งเพื่อนชายจริง หญิงแท้และชาวหลากหลายทางเพศ
ชาน่า
"กระจกจ๋า บอกซาร่าหน่อยนะ ว่าผู้ชายคนเนี้ยะ...ใช่มะ ใช่มะ...." มาแล้ว มาแล้ว มาแล้ว จิ๋ม ซาร่า ท้าสัมผัส... มากับอัลบั้มชุดที่สอง "คนร่วมฝัน"   หากคุณได้ยินเพลงนี้ หลายคนอาจจะสงสัยว่าเป็นหญิงจริงหรือหญิงเทียม ไม่ว่าคุณจะมองผู้หญิงคนนี้อย่างไร ชาน่ามองเธอว่า เธอคือผู้ชายที่กลายเป็นผู้หญิงที่น่าค้นหาอีกคน ข้อความจากเพลง “เกินห้ามใจ” ของนักร้องสาวประเภทสองที่ชื่อจิ๋ม ซาร่า หรือชื่อที่ใช้ในวงการ “สุจินต์รัตน์ ประชาไทย” ผู้ชายทั้งแท่งที่ผันตัวเองให้เป็นผู้หญิงทั้งทิ่ม เธอผู้นี้เป็นคนไทยคนแรกที่กล้าไปผ่าตัดแปลงเพศไกลถึงดินแดนเมืองผู้ดี “อังกฤษ”
ชาน่า
  การมองโลกในแง่ร้าย การมีประสบการณ์ที่โหดร้าย หรืออยู่ในสังคมที่แย่ อาจจะทำให้คนในสังคมนั้นมีพฤติกรรมที่ไม่น่ารัก สังคมที่ไม่มีศีลธรรม สังคมทุนนิยมที่เอาแต่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยช่วยให้คนกลุ่มนั้นมีทัศนคติและพฤติกรรมที่กลุ่มคนดีเค้าไม่ทำกัน วันนี้อยากนำเสนอเหตุการณ์ และ ศัพท์ของเกย์ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับสังคมสีม่วงของเรา ถ้าหากหลีกเลี่ยงได้ สังคมเกย์ไทยจะน่าอยู่อีกเยอะเลยล่ะฮ่ะ
ชาน่า
  เกิดเป็นคนมีชื่อเสียง (.... อือ... อันที่จริงทุกคนล้วนมีชื่อเป็นของตัวเองทั้งน้านนน) ก็ลำบากทำอะไรก็เป็นเป้าสายตาของประชาชี จะกิน ดื่ม ขยับซ้ายก็เป็นข่าว ขยับขวาก็มองต่างมุม โดนรุมทำข่าวอีก เรียกได้ว่าสูญเสียความเป็นส่วนตัวมากทีเดียว เพราะนอกจากจะเป็นเครื่องมือของธุรกิจคนขายข่าว ขายเรื่องราวแล้วยังเป็นเหมือนสินค้าตัวหนึ่งทีเดียวฮ่ะ
ชาน่า
การมองโลกในแง่ดี(เกินไป) การทำดี การให้เพื่อคนที่เรารัก เคยรัก อยากรัก สุดท้ายคนนั้นกลายเป็นคนอื่นคนไกล คนไม่รู้จัก บางครั้งมันก็ยากที่จะสาธยายได้ว่า สิ่งที่เราทำไปนั้นมันเป็นไปทางทิศไหน หรือกว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ สะกดคำว่า ... สายเกินไป “โดน” กับตัวเองแล้วล่ะ
ชาน่า
  เคยคิดอยากเขียนนิยาย ที่ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริงเหมือนกัน แต่ฝีมือการเขียนยังไม่เข้าขั้น และที่สำคัญเวลายังไม่เอื้ออำนวย เพราะต้องทำงานเป็นนางแบกโกอินเตอร์ ทำงานทุกวันฮ่ะ (นางแบก คือทำงานอาชีพแบกถาด บนเรือสำราญเจ้าค่ะ) สัปดาห์นี้อยากเขียนเรื่องจริงจากประสบการณ์ของชายคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของชาน่า ที่เค้ากล้าเผยความเป็นเกย์ต่อครอบครัว ความจริงมันไม่เป็นเพียงแค่ความกล้า หากแต่เป็นสถานการณ์พาไป และอยากให้รับรู้ ยามเมื่อถึงเวลา เนื้อเรื่องและเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงจากครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีนครอบครัวหนึ่ง เรียบเรียงโดยชาน่า ล้านนา ค่ะ
ชาน่า
ปีใหม่ก้าวผ่านมาตามวันเวลาของปฎิทิน ที่ถูกกำหนดไว้ วันเดือนปี (ใหม่) เป็นแค่กาลเวลาที่คนเรากำหนด นับจากวันที่ผมลืมตาดูโลก จนถึงวันนี้ วัน เวลา และปีเป็นสิ่งที่กำหนดอายุของคนเรา ใช่มันผ่านไปแล้ว ...ผ่านไปเข้าสู่วัยกลางคน ของคน ๆ หนึ่งที่ยืนหยัดอยู่บนโลกที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปใบนี้ มีหลายสิ่งที่ดีเข้ามา มีหลายคราที่รู้สึกแย่ หลากอารมณ์ที่ตัวเองสัมผัสได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ค้นพบและรับรู้อยู่เสมอคือ... ความเป็นตัวตนที่แท้จริงภายใต้จิตสำนึก  
ชาน่า
หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับการรณรงค์ การกระทำที่ไม่รุนแรงต่อเพศหญิง แต่น้อยคนนักจะเข้าใจและเห็นด้วยกับการที่ได้ทราบข่าว การกระทำรุนแรงต่อเพศพิเศษนั่นคือเกย์ หรือกะเทย ที่เกี่ยวข้องกับผองเพื่อนชาวเรา ชาน่าได้อ่านจดหมายฉบับหนึ่งที่ส่งถึงเว็บเกย์โรมีโอ (เว็บไซต์สังคมเกย์ที่ขึ้นชื่อของโลก) โดยคนที่เขียนมาเล่าเป็นเกย์ ที่ออกค่ายอาสากับหมอ เกี่ยวกับโรคเอดส์ ซึ่งมีโอกาสได้ไปหลายประเทศต่าง ๆ ขอแปลจดหมายฉบับนี้เพื่อผู้อ่านค่ะ
ชาน่า
ชาน่าชอบอ่านทุกอย่างที่ขวางหน้าถ้าหากมีเวลา แต่ถ้าไม่มีเวลามากนักก็เลือกบางเรื่อง ที่สนใจและเกี่ยวข้อง อย่างเรื่องฮา ฮา แม้บางครั้งบอกกับตัวเองว่า “ไร้สาระน่าดู...” แต่ลึก ๆ แล้วเนื้อหาบางส่วนอาจจะให้ความบันเทิงแบบไม่ต้องคิดอะไรมากอย่างเสียไม่ได้ ลองอ่านเรื่องราวที่ชาน่าเรียบเรียงโดยได้พล๊อตเรื่องจาก เมล์ส่งต่อ แต่แต่งเติมเป็นภาษาง่าย ๆ ของชาน่านะฮะ (ดั่งเพื่อนหลายคนตั้งฉายาให้ว่า ชาน่า ปั้นน้ำเป็นตัวจนแข็ง....) ... ด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม น้อง ๆ อายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่อนุญาตให้อ่านนะคะ เป็นคอลัมน์เรต ฉ. เด็กควรอยู่ในความดูแลของผู้ปกครองด้วยค่ะ
ชาน่า
  ชีวิตความรักของเกย์น่ะหรือ... หลายคนผลักดัน ยิ่งดันยิ่งดัก ยิ่งผลักเหมือนยิ่งแบกโลก เคยมีเพื่อนของชาน่าหลายคน บอกว่า ... “ฉันเชื่อเรื่องความรักของเกย์ ...ว่าคือรักนิรันดร์” แต่ “ฉัน” กลับขอค้าน ที่ค้านในที่นี้คือ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล คนที่เชื่ออย่างนั้นหนึ่งในนั้นคือ “ฉันเอง” ชาน่า