Skip to main content

ปี 2540 สถานการณ์การต่อสู้ของชุมชนที่อยู่กับป่าร้อนระอุขึ้นมาอีกระลอก เมื่อรัฐบาลของนายหัว ชวน หลีกภัย ได้มีนโยบายอพยพคนออกจากป่า นั่นหมายถึงชะตากรรมวิถีของคนอยู่กับป่าจะถูกเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลวง ชุมชนเดิม ที่อยู่ ที่ทำกินเดิมนั้นจะกลายเป็นเพียงที่ที่เคยอยู่เคยกินเท่านั้น


ตัวแทนขบวนคนอยู่กับป่าจึงมีการขยับเคลื่อนสู่หน้าทำเนียบรัฐบาลอีกครั้ง โดยมีเครือข่ายกลุ่มสมัชชาคนจนจากภาคต่างๆมาสมทบอย่างครบครัน กลายเป็นชุมชนคนจนหน้าทำเนียบโดยปริยาย


ลูกหลานไปเรียกร้องสิทธิหลายครั้งแล้ว ไม่ได้สักที คราวนี้ฉันต้องไปเอง ถ้าเรียกร้องไม่สำเร็จฉันจะไม่กลับมาเด็ดขาด” เขาซึ่งเป็นผู้นำอาวุโสคนหนึ่งในชุมชนปกาเกอะญอบ้านแม่หอย อำเภอจอมทอง เชียงใหม่ พูดก่อนที่จะร่วมเดินทางไปเรียกร้องสิทธิ์ของคนอยู่กับป่า ซึ่งเป้าหมายของทุกที่ไปก็คล้ายกันคือครั้งนี้หาก เรียกร้องไม่สำเร็จก็จะไม่ยุติการชุมนุม


ต่าอี้ เออ นะแหล่ ลาลา”

โอ้ชะตา ชีวิต ช่างรันทดนัก ลาลา” ก่อนออกจากบ้าน เขาร้องขับขานบทเพลงอึธา ทำนองเศร้าสร้อยอย่างไม่ยอมหยุดทำให้ภรรยาต้องต่อว่า เพื่อให้หยุดร้องบทเพลงดังกล่าว


เช้าวันนั้น รัฐมนตรีเกษตรและสหกรณ์ในขณะนั้น นายชูชีพ หาญสวัสดิ์ ได้ยอมเจรจากับกลุ่มผู้ชุมชุม เขาจึงเข้าไปร่วมฟังการเจรจาด้วย

อย่างไรก็แล้วแต่ คนที่อยู่ในพื้นที่ป่าต้นน้ำของประเทศต้องย้ายออกสถานเดียว เพื่อเป็นการรักษาพื้นทีป่าของประเทศเอาไว้ มันไม่สามารถละเว้นได้ มันเป็นข้อกฎหมาย” รัฐมนตรีเกษตรฯ ยืนยันอย่างนั้น


เขาเดินออกมาจากห้องเจราจา พร้อมกับสีหน้าที่เปลี่ยนไป ขวัญและวิญาณของเขาหลุดลอยจากตัวของเขาไปเสียแล้ว แต่เขาก็พยายามรวบรวมสติกลับคืนมา


บอกผมมา!! จะให้ผมทำอะไร ทำอย่างไร เพื่อที่มัน(รมต.)จะยอมเข้าใจและคืนสิทธิในการอยู่กับป่าให้พวกเรา จะให้ผมไปแทงมันให้ตายไหม?? รีบบอกผมมา ผมไม่อยากรอให้เปลืองเวลากับคนพวกนี้อีกแล้ว” เขาเดินไปพูดกับ พาตี่จอนิ โอโดเชา แกนนำคนปกาเกอะญอคนหนึ่งในการมาชุมนุมครั้งนี้


ควา(สหาย)ใจเย็นๆ เรามีวิธี เราต้องสู้ด้วยสันติวิธี ต้องไม่ใช้ความรุนแรง ความรุนแรงไม่ใช่ทางไปสู่สิ่งที่เราต้องการ” พาตี่จอนิ บอกเขา ทำให้เขารู้สึกผิดหวังในคำตอบจากพาตี่จอนิ และผิดหวังกับการมาเรียกร้องต่อสู้ครั้งนี้อย่างแรง


สันติวิธี สันติวิธี สันติวิธี แล้วเมื่อไหร่มันจะยุติ??” เขาพร่ำบ่นและเดินไปเดินมาเหมือนคนเสียสติ คลองเปรมประชาข้างทำเนียบ คือจุดที่เขาคิดว่าเขาจะทำให้ทุกอย่างเป็นจุดจบของเรื่องราวทั้งหมด


มีคนโดดน้ำ ฆ่าตัวตายๆๆ” เสียงตะโกนจากหญิงชาวอีสานที่กลับมาจากการอาบน้ำ ผู้คนต่างไปดูเหตุการณ์ รวมทั้งคนปกาเกอะญอที่มาร่วมชุมนุม


พาตี่ปุนุ!!!” เสียงหนุ่มปกาเกอะญอคนหนึ่งอุทานออกมา พร้อมกับวิ่งโดดลงไปช่วยร่วมกับชายฉกรรจ์อีกหลายคน จนสามารถช่วยชีวิตออกมาได้ ทุกคนตะลึงเพราะนึกไม่ถึงว่าพาตี่ปุนุจะตัดสินใจเช่นนี้


ก่อนมาฉันบอกแล้ว หากเรียกร้องสิทธิกลับคืนไม่ได้ ฉันจะไม่กลับบ้าน” เขาไม่พูดประโยคอื่นนอกจากประโยคนี้ ทุกคนจึงลงความเห็นว่าควรนำเขากลับบ้านเกิด มิฉะนั้นเขาอาจทำในสิ่งที่ไม่คาดฝันมากกว่านี้อีก


เวลาส่งเขากลับบ้านไป ให้ไปช่วยดูแลเขาสามคน จะได้ช่วยผลัดกันดู ดูคนเดียวมันไม่ทั่วถึง” แกนนำในการชุมนุมวางแผนกันอย่างนั้น แล้วจึงส่งพาตี่ปุนุกลับบ้าน


คนหนึ่งหลับ อีกคนหนึ่งเฝ้า คนหนึ่งเฝ้า อีกคนหนึ่งดู สลับสับเปลี่ยนกันไปจนถึงแจ้งของเช้าวันที่ 5 เดือนมีนาคม ขบวนรถไฟได้กลับมาถึงดินแดนแห่งแผ่นดินล้านนา ย่างเข้าสู่เมืองรถม้า ผู้อารักขาเริ่มโล่งอกเพราะพาตี่ปุนุ ได้หลับลงอย่างสงบ และอีกเพียงไม่กี่อึดใจก็จะถึงจุดสิ้นสุดปลายทางรถไฟแล้ว พร้อมๆ กับความล้าเพลียเข้ามาเยือนผู้อารักขาทั้งสามคนเช่นกัน จึงเผลอหลับอย่างตายใจ


ในห้วงขณะที่คนอื่นหลับอยู่ เขาเริ่มลืมตา แลซ้ายแลขวาแล้วค่อยๆ ลุกขึ้นอย่างเงียบอย่างระแวดระวัง

เขาค่อยๆ ปีนหน้าต่างรถไฟ ก่อนผู้อารักขาจะทันคว้าไว้ทัน ร่างเขาได้ตกลงไปกระแทกกับรางรถไฟแล้ว เขาทำตามคำพูดก่อนที่เขาจะออกเดินทางจากบ้าน


ถ้าเรียกร้องไม่สำเร็จ ฉันจะไม่กลับมาเด็ดขาด” และเขาก็ไม่ยอมกลับจริงๆ

บทเพลงอึธา ลาลา ที่เขาขับขานออกจากบ้าน เป็นบทเพลงลาจากของเขาจริงๆ แต่จากการกระทำของเขาได้กลายเป็นกระแสการต่อสู้ของคนจนและคนที่อยู่กับป่า จนทำให้คณะรัฐมนตรีได้ทบทวนนโยบายอพยพคนออกจากป่าอีกครั้ง แต่กว่าที่จะทบทวนมติดังกล่าว เล่นเอาชาวบ้านต้องปักหลักชุมนุมหน้าทำเนียบนานถึง 99 วัน

 

 

บล็อกของ ชิ สุวิชาน

ชิ สุวิชาน
“ตั้งสายได้แล้ว วิธีการเล่นล่ะ?” ลูกชายกำลังไฟแรงอยากเรียนรู้ “ใจเย็นๆ ก่อนอื่นต้องฝึกร้องเพลงให้ได้ก่อน ถ้าร้องเพลงไม้ได้ จำทำนองเพลงไม่ได้ จะเล่นได้ไง” พ่อค่อยๆสอนลูกชาย “เอางี๊ เดี๋ยวพ่อจะสอนเพลงพื้นบ้านง่ายๆที่ผู้เฒ่าผู้แก่ชอบร้อง ชอบเล่นและชอบสอนเด็กบ่อยๆ ซักสองสามท่อนนะ” แล้วพ่อก็เริ่มเปล่งเสียงร้องและให้ลูกชายร้องตามที่ละวรรค
ชิ สุวิชาน
พ่อได้ดื่มชาในกระบอกไม้ไผ่จนหมดไปกว่าครึ่งหนึ่ง แล้วจึงวางลง“เดิมทีนั้น เตหน่ากูมีจำนวนสายเพียง 5-7สาย แต่ต่อมาได้มีการเพิ่มเติมสายในการเล่นเป็น 8-9สายหรือ 10-12หรือมากกว่านั้นก็ได้” พ่อหยิบเตหน่ากูและเล่าให้ลูกชายฟัง“ทำไมจำนวนสายไม่เท่ากันล่ะ?” ลูกชายถามผู้เป็นพ่อ“มันขึ้นอยู่กับความชอบและความถนัดของผู้เล่นแต่ละคน ชอบและถนัด 7 สายก็เล่น7 สายชอบน้อยกว่านั้นก็เล่นน้อยกว่าก็ได้ หรือชอบมากกว่านั้นก็เล่นมากกว่านั้นก็ได้” พ่อตอบสิ่งที่ลูกชายสงสัยในการตั้งสายเตหน่ากูแบบไมเนอร์สเกล (Minor scale) นั้นเริ่มจาก 5-7 สายโดยมีตัวโน๊ตหลักตามไมเนอร์สเกลอยู่ 5 โน้ต ได้แก่ โด (D) เร (R)  มี (M) โซ (S) ลา…
ชิ สุวิชาน
ความมืดกลับมาทำหน้าที่อีกครั้ง เช่นเดียวกับไม้เกี๊ยะที่มาจากแกนไม้สนสองใบต้องถูกเผาเพื่อผลิตแสงสว่างในครัวบ้านปวาเก่อญออีกครั้ง กาต้มน้ำที่ดำสนิทด้วยคราบเขม่าควันไฟถูกตั้งบนเหล่อฉอโข่อีกครั้ง กลิ่นชาป่าขั้วหอมทำให้โสตประสาทกระปรี่กระเปร่าขึ้นมาพร้อมเข้าสู่บรรยากาศการเรียนรู้ภายในบ้านไม้ไผ่หลังเดิมเตหน่ากู คืออุปกรณ์การเรียนรู้ถูกเตรียมไว้เพื่อใช้ในการเรียนรู้ ของพ่อซึ่งเป็นผู้สอนหนึ่งตัว ของลูกซึ่งเป็นผู้เรียนหนึ่งตัว รูปร่างลักษณะเตหน่ากูแม้ไม่เหมือนกันทั้งหมด แต่ก็มีรูปทรงที่คล้ายๆกัน  มีตัวท่อนไม้ใหญ่ และมีกิ่งไม้ที่โค้งงอเมื่อพ่อเห็นว่าลูกชายพร้อมที่จะเริ่มการรับความรู้แล้ว …
ชิ สุวิชาน
“พี่น้องครับ พี่ชายคนนี้ยังคงทำหน้าที่ต่อ ณ ตรงนี้ครับ ขอมอบเวทีต่อให้พี่ครับ” ผมพูดจบผมกลับไปที่นั่งของผมเพื่อเป็นคนดูต่อแม่น้ำสายนี้ยังคงไหลไปตามกาลเวลาฯ....................................................ฉันผ่านมา  ผ่านมาทางนี้ ผ่านมาดูสายน้ำ.............ได้รู้ได้ยิน..............ฯบทเพลงแรกผ่านไปต่อด้วยสาละวิน สายน้ำตาเสียงปืนดังที่กิ่วดอยลูกชายไปสงครามเด็กน้อยผวาตื่น(ทุกคืนๆ)
ชิ สุวิชาน
“ผมมีเพื่อนปกาเกอะญอมาด้วยคนหนึ่ง” ผมบอกกับคนดูผมได้ไปพบ และได้ไปฟัง เพลงที่เขาร้อง ณ ริมฝั่งสาละวิน ทำให้ผมเกิดความประทับใจในท่วงทำนองและความหมายของบทเพลงรวมทั้งตัวเขาด้วยผมทราบมาว่าตอนนี้เขาอยู่ที่เมืองเชียงใหม่  ผมจึงไม่พลาดโอกาสทีจะชักชวนเขามาร่วม บอกเล่าเรื่องราวของชนเผ่า ผ่านบทเพลงที่ผมประทับใจ ซึ่งแรก ๆ นั้น เขาแบ่งรับ แบ่งสู้  ที่จะตอบรับการชักชวนชองผม แต่ผมก็ชักแม่น้ำทั้งห้า จนเขาหมดหนทางปฏิเสธ“ผมไม่คุ้นเคยกับการร้องเพลงต่อหน้าคนมาก ๆ นะ” เขาออกตัวกับผมก่อนวันงาน แต่เมื่อถึงวันงานเขาก็ไม่ทำให้ผมผิดหวัง เขาเดินออกมาแบบเกร็งๆ และประหม่าอย่างเห็นได้ชัด เขาจะยืนตรงก็ไม่ใช่…
ชิ สุวิชาน
ณ ห้องเล็กๆ แถวสี่แยกกลางเวียง เมืองเชียงใหม่ เก้าอี้ถูกเรียงเป็นแถวหน้ากระดานประมาณร้อยกว่าตัว  ข้างหน้าถูกปล่อยว่างเล็กน้อยสำหรับเป็นพื้นที่ตั้งเครื่องเล่นดีวีดีและโปรเจคเตอร์เพื่อฉายสารคดี ใกล้เวลานัดหมายผู้คนเริ่มทยอยกันเข้ามาทีละคน ทีละคู่ ทีละกลุ่ม“เค้าไม่อยากให้เราพูดถึงเรื่องการเมือง แต่เราอาจพูดได้นิดหน่อย” เจ้าหน้าที่ FBR กระซิบมาบอกผมเกี่ยวกับความกังวลของเจ้าของสถานที่ ผมยิ้มแทนการสนทนาตอบ เพียงแต่คิดในใจว่า หากการเมืองคือความทุกข์ยากของประชาชน ของชาวบ้านคนรากหญ้าก็ต้องพูดให้สาธารณะได้รับรู้ เพื่อจะหาช่องทางในการช่วยบรรเทาทุกข์ของประชาชน…
ชิ สุวิชาน
หลังจากดูสารคดีด้วยกันจบ “ผมอยากฉายสารคดีชุดนี้สู่สาธารณะ เพื่อสร้างความเข้าใจแก่คนทั่วไปในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ผมอยากให้คุณมาร่วมเล่นดนตรีด้วย คุณ โอ เค มั้ย” เขาถามผมผมนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง เพราะผมไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร  ผมรู้สึกว่า มันเป็นสิ่งที่ต้องทำ  ผมบอกกับตัวเองว่า เพียงแค่เห็นใจและเข้าใจอาจไม่เพียงพอ   หากสามารถเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยสื่อสารเรื่องราวของผู้ทุกข์ยาก โดยเฉพาะคนชนเผ่าเดียวกันได้  มันก็ควรทำไม่ใช่หรือหลังจากผมตอบตกลงเขา เราทั้งสองได้พูดคุยประสานงานกันเกี่ยวกับงานอยู่เรื่อย ๆ จนเวลาลงตัวในวันที่ 21 ธันวาคม ศกนี้ ณ สมาคม AUA เชียงใหม่ ในหัวข้อ “…
ชิ สุวิชาน
ต่า หมื่อ แฮ ธ่อ เลอ โข่ โกละ         ตา ข่า แฮ ธ่อ เลอ โข่ โกละอะ เคอ กิ ดิ เค่อ มี โบ            มา ซี ปกา ซู โข่ อะ เจอผีร้ายโผล่มาทางริมฝั่งสาละวิน        แมงร้ายโผล่มาทางลำน้สาละวินเสื้อผ้าลายเหมือนดั่งต้นบุก        มาเข่นฆ่าทำลายล้างชีวิตคน(ธา บทกวีคนปกาเกอะญอ)“คุณเคยติดตามสถานการณ์ทางรัฐกะเหรี่ยงประเทศพม่าบ้างไหม” เสียงผู้ชายโทรศัพท์มาถามผมด้วยภาษาไทยสำเนียงฝรั่ง“ผมทำงานในองค์กรชื่อFree Burma Rangers ครับ”…
ชิ สุวิชาน
เขานั่งอยู่แถวหน้า และเขาโบกไม้โบกมือขณะที่ผมกำลังบรรเลงเพลงอยู่บนเวที  ในมหกรรมคอนเสิร์ตเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ซึ่งจัดโดยสำนักประชาสัมพันธ์ร่วมกับองค์กรยูเนสโก้  ในงานได้มีการเชิญศิลปินชนเผ่าหลักทั้ง 7 เผ่า ได้แก่ ม้ง อาข่า ลีซู ลาหู่ เมี่ยน ไทยใหญ่และกะเหรี่ยง รวมทั้งยังมีศิลปินล้านนา อาทิ ครูแอ๊ด  ภานุทัต  คำหล้า ธัญาภรณ์ น้อง ปฏิญญา และไม้เมืองนอกจากนี้มีทายาทของสุนทรี  เวชชานนท์ ราชินีเพลงล้านนา คือน้องลานนา มาร่วมร้องเพลง ธีบีโกบีกับทอดด์ ทองดี ศิลปินจากรัฐเพนโซเวเนีย…
ชิ สุวิชาน
เมื่อเข็มนาฬิกาเข็มที่สั้นที่สุด เลื่อนไปยังหมายเลขเก้า ทุกคนจึงขึ้นรถตู้ เคลื่อนขบวนไปยังศูนย์ศิลปและวัฒนธรรมแสงอรุณ  เมื่อถึงมีทีมงานเตรียมข้าวกล่องไว้รอให้ทาน พอทานข้าวเสร็จพี่อ้อย ชุมชนคนรักป่า ก็มาบอกผมว่า  งานจะเริ่มบ่ายโมง  พร้อมกับยื่นใบกำหนดการให้ผมดู  ผมตื่นเต้นนิดหน่อยพอบ่ายโมง งานก็เริ่มขึ้น โดยการฉายสไลด์เกี่ยวกับป่าชุมชนที่หมู่บ้านสบลาน อำเภอสะเมิงเชียงใหม่   "ถ้าถึงคิวแล้วจะมาเรียกนะ” ทีมงานบอกกับผมในระหว่างที่ผมรออยู่หน้างานนั้น ผมก็ได้เจอกับนักเขียน นักดนตรี นักกวี ที่ทยอยมา ได้มีโอกาสคุยกับคนที่ผมรู้จัก และกำลังรู้จัก และที่ไม่รู้จักด้วย …
ชิ สุวิชาน
บุ เต่อ โดะ นะ แล บุ เออบุ ลอ บ ะ เลอ ต่า อะ เออชะตา วาสนาช่างรันทดต้องเผชิญแต่สิ่งลำเค็ญ