Skip to main content

ดูเหมือนว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์เวชชาชีวะจะให้ความสำคัญกับการประชาสัมพันธ์-รณรงค์ทางอินเทอร์เน็ตเป็นพิเศษโดยที่ผ่านมามีการเปิดตัวเว็บไซต์หลายโครงการอาทิโครงการต้นกล้าอาชีพhttp://www.tonkla-archeep.com/ เว็บไซต์ช่วยชาติที่แสดงข้อมูลและความคืบหน้าของแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจของรััฐบาล http://www.chuaichart.com/ เว็บโครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชนhttp://www.chumchon.go.th/ โครงการคิดอย่างยั่งยืนตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของกอ.รมนหรือ MOSO http://mosothai.com และล่าสุดhttp://ilovethailand.org เว็บที่ชวนคนมาแสดงความรักประเทศไทยผ่านบล็อกคลิปวิดีโอรูปถ่ายและข้อความสั้น

 
แต่ขณะที่มีการส่งเสริมการให้ข้อมูลด้านหนึ่งข้อมูลอีกด้านกลับถูกปิดลงโดยใครก็ไม่รู้เพราะไม่เคยมีใครยอมรับและด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่มีคำตอบที่ดูจะมีเจ้าภาพในการปิดกั้นก็ตอนเหตุการณ์เมษาที่กระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศหรือไอซีทีส่งอีเมลอ้างคำสั่งคณะอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินให้บล็อคเว็บไซต์หรือ URL 66 แห่งซึ่งส่วนใหญ่เป็นของคนเสื้อแดง ส่วนกรณีอื่นเมื่อสอบถามไปยังผู้ให้บริการก็มักได้รับคำตอบว่าไม่มีคำสั่งให้บล็อคเว็บจากหน่วยงานใดรวมถึงตัวผู้ให้บริการเองก็ไม่ได้บล็อค (ขณะที่ มาตรา 15 ของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ระบุว่า “ผู้ให้บริการ” (ซึ่งถูกตีความอย่างกว้างมาก) ที่จงใจ สนับสนุน หรือยินยอมให้มีการกระทำความผิดตามมาตรา 14 ถูกกำหนดใ้ห้มีความผิดเท่ากับผู้ที่กระทำ)

 
ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้บริการTrue จำนวนหนึ่งจะไม่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ http://thaienews.blogspot.com ซึ่งมีสโลแกนว่า “ข่าวสารเกี่ยวกับประเทศไทยที่คุณไม่อาจหาอ่านได้จากสื่อ” ส่วนใหญ่มีเนื้อหาวิจารณ์รัฐบาลอภิสิทธิ์และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยจะถูกredirect ไปที่http://58.97.5.29/ict.html และพบภาพใบไม้ปรากฏบนจอ (ปีที่แล้วเป็นภูเขาปีหน้าคงเป็นทะเล?) ขณะที่เมื่อเข้าเว็บไซต์http://uddtoday.ning.com ซึ่งเป็นหน้าเครือข่ายทางสังคมของกลุ่มนปช. จะพบข้อความบอกว่าไม่มีหน้าดังกล่าวและถูกredirect ไปที่http://w3.mict.go.th แทน(อ่านเพิ่มเติมที่ http://poakpong.com/node/1253)
 
 
 
 
ด้านCS Loxinfo มีผู้พบว่ามีการบล็อคเว็บไซต์Mashable http://mashable.com/ ซึ่งเป็นบล็อกที่เสนอข่าวสารเกี่ยวกับเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตรวมถึงบล็อคหน้าเว็บทุกหน้าที่ตรง URL มีคำว่า‘lese-majeste’ หรือ‘lesemajeste’ โดยแสดงหน้า404 ปลอม (อ่านเพิ่มเติมที่
 
จะเห็นว่า ขณะที่คนที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตกลับเข้าไม่ถึงข้อมูลข่าวสารบางด้าน คนที่เข้าไม่ถึงก็ยังเป็นคนที่เข้าไม่ถึงต่อไป เพราะรัฐบาลก็ดูจะยังไม่มีนโยบายอย่างเป็นรูปธรรมใดๆเพื่อทำให้คนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นเช่นกันแม้ในวันแถลงนโยบายนายกฯจะพูดถึงนโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารว่าจะพัฒนาโครงข่ายสื่อสารโทรคมนาคมพื้นฐานให้ครอบคลุมทั่วประเทศและสร้างโอกาสในการเข้าถึงบริการสื่อสารอย่างเท่าเทียมกันก็ตาม
 
ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีทีเองก็เคยกล่าวหลังรับตำแหน่งว่างานที่จะให้ความสำคัญในลำดับแรกๆ  คือ การดำเนินการปิดกั้นเว็บไซต์ที่เผยแพร่ข้อความหรือภาพที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดยเฉพาะเว็บไซต์ที่จดทะเบียนจากต่างประเทศ รวมถึงดำเนินการกับเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมอื่นๆ เช่น เว็บที่เผยแพร่เกมออนไลน์ที่มีเนื้อหาลามกอนาจาร เป็นต้น
 
การมีเว็บไซต์ให้ข้อมูลหรือรณรงค์จากทางรัฐบาลนั้นไม่ได้เป็นปัญหา เพราะการพยายามเปิดเผยหรือทำอะไรให้เห็นต่อหน้านั้นย่อมดีกว่าการซ่อนเร้นปกปิด แต่ที่แย่ก็คือการไม่มีช่องทางสำหรับข้อมูลที่หลากหลายพอ ให้เอาไปชั่ง ตวง วัด  และตัดสินใจเอาเองต่างหาก
 

 

บล็อกของ Hit & Run

Hit & Run
  ตติกานต์ เดชชพงศ  เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ที่ผ่านมา เพิ่งมีโอกาสได้ไปดูฉากโหดๆ อาทิ หัวขาดกระเด็น เลือดสาดกระจาย กระสุนเจาะกระโหลกเลือดกระฉูด ในหนังไทย (ทุ่มทุนสร้างกว่า 80 ล้านบาท!) เรื่อง ‘โอปปาติก'  รู้สึกอัศจรรย์ใจเป็นอย่างยิ่งว่าหนังเรื่องนี้รอดพ้นเงื้อมมือกองเซ็นเซอร์ผู้เคร่งครัดมาได้ยังไง?เพราะด้วยการทำงานของหน่วยงานเดียวกันนี้ ทำให้หนังเรื่องหนึ่งถูกห้ามฉาย เพราะมีฉากพระสงฆ์เล่นกีตาร์, และฉากนายแพทย์บอกเล่าว่าตนก็มีึความรู้สึกทางเพศ แม้แต่ฉากเด็กผู้หญิงอาบน้ำ (ซึ่งเป็นเพียงตัวการ์ตูนญี่ปุ่น) ก็ยังถูกเซ็นเซอร์มาแล้ว ด้วยข้อหา ‘ทำให้เสื่อมเสียศีลธรรมอันดี'…
Hit & Run
วิทยากร บุญเรือง ผมไปเจอข่าวชิ้นหนึ่ง เหตุเกิดที่โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งไม่ว่าจะยังไง ข่าวชิ้นนี้ผมว่ามันสามารถสะท้อนอะไรได้หลายอย่าง สำหรับสังคมไทยที่เป็นอยู่ในปัจจุบันคือข่าวที่กลุ่มมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาก่ออาชญากรรมในโรงพยาบาลศิริราช มาหากินกับพสกนิกรผู้จงรักภักดีได้ลงคอ ... (กรุณาอ่านให้จบก่อนด่า)ท่านพงศพัศ พงษ์เจริญ ตำรวจหน้าหล่อ ได้กล่าวว่า ที่โรงพยาบาลศิริราช มีเรื่องซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้นนั่นคือมีกลุ่มมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาก่ออาชญากรรม และที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง คือเป็นการก่อเหตุในเขตพระราชฐาน โดยขณะนี้ตำรวจได้รวบรวมหลักฐานแล้วเตือนไปยังแก๊งมิจฉาชีพที่ตั้งใจมาก่ออาชญากรรมว่า…
Hit & Run
พงษ์พันธุ์ ชุ่มใจ 26 กันยายน 2550ย่านพระเจดีย์สุเล, กรุงย่างกุ้ง   ภาพที่เห็นคือ...ประชาชนหลายพันคนออกมายืนเต็มถนนย่านพระเจดีย์สุเล ซึ่งเป็นย่านกลางเมือง โดยไม่ไกลนักมีกองกำลังรักษาความมั่นคงพม่าตั้งแถวอยู่เบื้องหน้า ป้องกันไม่ให้ประชาชนเข้าใกล้พระเจดีย์แห่งนี้"เราต้องการประชาธิปไตย" ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งกล่าว"รัฐบาลนี้อันตรายโคตรๆ" ชายอีกคนหนึ่งกล่าวประชาชนส่วนหนึ่ง พยายามต่อสู้กับทหาร ทหารที่มีทั้งโล่ กระบอง แก๊สน้ำตา กระทั่งปืน โดยประชาชนพยายามขว้างอิฐ ขว้างหิน เข้าใส่แถวแนวของทหารพวกนั้นก้อนแล้ว ก้อนเล่า ... ถูกทุบเป็นก้อนย่อมๆก้อนแล้ว ก้อนเล่า ... ถูกขว้างสุดแรงเกิด…
Hit & Run
  อรพิณ ยิ่งยงพัฒนาดูเหมือนเรื่องน่าจะจบลงไปแล้ว กับความพยายามของ สนช.กว่า 60 คน ที่เข้าชื่อกันยื่นแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา (ป.อาญา) และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิอาญา) ในมาตราที่เกี่ยวข้องกับการทำผิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ก่อนที่สุดท้าย สนช.จะตัดสินใจถอนการแก้ไขออกไปก่อนแม้เรื่องนี้มีนัยยะที่น่าสนใจหลายประเด็น แต่สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือ กระแสความคิดที่เกิดขึ้น แม้ภายหลังการถอยและถอนการเสนอแก้กฎหมายแล้วก็ตามสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีจำนวน 242 คน โดย สนช. สามารถเข้าชื่อกันเพื่อเสนอหรือแก้ไขกฎหมายได้ ผ่านการเข้าชื่อเพียงจำนวนไม่น้อยกว่า 25 คน ยกเว้นกฎหมายที่เกี่ยวกับการเงิน…
Hit & Run
จิรนันท์ หาญธำรงวิทย์นอกจาก 24 มิถุนายน 2475 ซึ่งเป็นวันเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นประชาธิปไตย และ (อดีต) วันชาติแล้ว วันสำคัญที่เงียบเหงารองลงมา (อีกวัน) ก็คงหนีไม่พ้น 6 ตุลาคม 2519 ที่รับรู้กันว่า เกิดเหตุการณ์สังหารหมู่นักศึกษา ประชาชน เพราะเข้าใจว่าเป็นคอมมิวนิสต์ สำหรับปีที่แล้ว วันนี้อาจคึกคัก เพราะถึงวาระตัวเลขกลมๆ 30 ปี ซ้ำยังเพิ่งผ่านพ้นรัฐประหาร 19 กันยายน มาหมาดๆ กระแสเรื่องการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยจึงยังมีอยู่ แต่พอปีนี้กระแสกลับไปเงียบเหงาเหมือนปีก่อนๆ วันที่ 6 ตุลาในปีนี้ กลายเป็นวันเสาร์ธรรมดาๆเมื่อถามถึงเหตุการณ์ 6 ตุลา กับหลายๆ คน…
Hit & Run
ภาพันธ์ รักษ์ศรีทองเป็นข่าวคราวกันพักใหญ่ในรอบสัปดาห์จนผู้หลักผู้ใหญ่ต้องรีบออกมาเต้นเร่าร้อนกันทั่ว เมื่อคุณหนูสาวๆ มีแฟชั่นเทรนใหม่เป็นการนุ่งกระโปงสั้นจุ๊บจิมโดยไม่สวมใส่ ‘กุงเกงลิง’ ความนิยมนี้เล่นเอาหลายคนหน้าแดงผ่าวๆจนพากันอุทาน ต๊ายยย ตาย อกอีแป้นจะแตก อีหนูเอ๊ยย ทำกันไปได้อย่างไร ไม่อายผีสาง เทวดาฟ้าดินกันบ้างหรืออย่างไรจ๊ะ โอ๊ย..ย สังคมเป็นอะไรไปหมดแล้ว รับแต่วัฒนธรรมตะวันตกมาจนไม่ลืมหูลืมตา วัฒนธรรมไทยอันดีงามของไทยไปไหนโม๊ดดดดเรื่องนี้มองเล่นๆ เหมือนจะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่มันก็ไม่เล็ก จะว่าเป็นเรื่องใหญ่ก็ไม่ใหญ่ แต่ไปๆ มาๆ คล้ายกับว่ารอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ‘กุงเกงลิง’…