Skip to main content


ศรายุธ ตั้งประเสริฐ



ผมคิดว่าการรัฐประหาร 19 กันยา 49 จะโทษ สนธิ บุญฯ , คมช. หรือ กลุ่ม พธม.และลูกหาบแต่เพียงฝ่ายเดียวก็ไม่น่าจะถูกต้อง  ผมคิดว่าส่วนหนึ่งแล้วผมคงต้องพิจารณาที่ตัวผมเองด้วย

ตัวตนของผมนั้นบอกผมว่าผมเป็นคนดีกว่านักการเมือง ฉลาดกว่านักการเมือง ผมไม่กระหายอำนาจและผลประโยชน์เหมือนนักการเมืองผนวกกับเมื่อผมยึดกุมอุดมคตินามธรรมนานาประเภทไว้กับตัว

มันได้ทำให้ผมผลิต ทัศนะคติ รูปแบบสีสันต่างๆ ที่มีลักษณะลดทอนคุณค่าทั้งในฐานะของความเป็นมนุษย์และในบทบาทของนักการเมืองลง ทั้งโดยที่ผมรู้ตัวและไม่รู้ตัว 

ผมก็คืออิฐอีกก้อนที่นักรัฐประหารใช้รองรับเท้าขึ้นสู่อำนาจเช่นกัน
 
คิดเล่นๆว่าคนที่อยู่เบื้องหลังการรัฐประหารตามที่สนธิ บุญฯ พูดถึงก็คือพวกเรานี่แหละ ...
 
ปัจจุบัน ผมยังคิดว่าการวิพากษ์วิจารณ์ตรวจสอบระบบกลไกทางสังคมทั้งหมดซึ่งรวมถึงนักการเมืองด้วยเป็นเรื่องที่ดี ควรให้ความสำคัญ แต่ผมคิดว่าผมจะการวิพากษ์วิจารณ์หรือตั้งคำถามกับนักการเมืองเป็นรายบุคคลและเป็นรายกรณีไป 
 
ผมจะไม่ด่าคำใหญ่ๆแรงๆมีลักษณะเหมารวม เช่น “เหยียบศพคนเสื้อแดงขึ้นมามีอำนาจ “
 
เพราะเมื่อผมนึกถึงภาพความยากลำบากของคนเสื้อแดงที่ต่อสู้ฝ่าฟันในหลายรูปแบบ 
 
ผมเห็นพวกเขาทิ้งงานในไร่นา เข้าเมืองกรุงมาเรียกร้องประชาธิปไตย จนสุดท้ายพวกเขาก็ต้องกลับไปพร้อมกับความอับอายคับแค้น หลายคนได้รับข้อหาต่างๆติดตัวกลับไป ขณะที่อีกหลายคนไม่ได้กลับ....
 
ผมเห็นพวกเขาแออัดยัดเยียดบนรถโดยสารเดินทางกลับถิ่นฐานเพื่อใช้สิทธิเลือกตั้งและเย็นวันเดียวกันพวกเขาก็เดินทางด้วยรถโดยสารคันเดิมกลับเข้ามาทำงานในเมืองกรุง
 
ทุกๆการเคลื่อนไหวของพวกเขามีเสียงเสียดเย้ยก่นด่าตามดังขรม” เอากฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย “”เห็นแก่ได้ไม่คิดถึงประเทศชาติ “ บลา บลา บลา...
 
พวกเขามีต้นทุนอย่างจำกัดจำเขี่ยเมื่อเทียบกับคนอย่างเรา-ท่าน แต่พวกเขาก็พยายามใช้มันเพื่อปกป้องเจตนารมณ์ของพวกเขาและเลือกตัวแทนของพวกเขาเข้ามา ตลอดมา ก่อนที่เรา-ท่านจะกระโดดเข้าร่วมสู้กับพวกเขา ด้วยซ้ำ
 
และด้วยเหตุนี้ทำให้ผมไม่สามารถที่จะเปล่งเสียงแสดงทัศนคติต่อนักการเมืองที่ฝังหัวผมมาแต่เดิมได้ให้มันดังออกมาได้  
 
ท้ายสุดผมเชื่อในวิจารณญาณของพวกเขาว่า หากพวกเขาเห็นว่านักการเมืองของพรรคเพื่อไทย "เหยียบศพคนเสื้อแดงขึ้นมามีอำนาจ" จริง!   การเลือกตั้งครั้งหน้าพวกเขาคงจะไม่เลือกพรรคเพื่อไทย และหากมีการแทรกแซงจากอำนาจนอกระบบพวกเขาจะไม่ออกมาปกป้องตัวแทนของพวกเขาอีก
 
เพราะผมเคารพในเจตนารมณ์ของพวกเขา ผมเชื่อมั่นในตัวพวกเขา
 
แล้วคุณล่ะ... "คุณเชื่อมั่นพวกเขาไหม.. "

 

 
 

 

บล็อกของ Hit & Run

Hit & Run
  ตติกานต์ เดชชพงศ  เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ที่ผ่านมา เพิ่งมีโอกาสได้ไปดูฉากโหดๆ อาทิ หัวขาดกระเด็น เลือดสาดกระจาย กระสุนเจาะกระโหลกเลือดกระฉูด ในหนังไทย (ทุ่มทุนสร้างกว่า 80 ล้านบาท!) เรื่อง ‘โอปปาติก'  รู้สึกอัศจรรย์ใจเป็นอย่างยิ่งว่าหนังเรื่องนี้รอดพ้นเงื้อมมือกองเซ็นเซอร์ผู้เคร่งครัดมาได้ยังไง?เพราะด้วยการทำงานของหน่วยงานเดียวกันนี้ ทำให้หนังเรื่องหนึ่งถูกห้ามฉาย เพราะมีฉากพระสงฆ์เล่นกีตาร์, และฉากนายแพทย์บอกเล่าว่าตนก็มีึความรู้สึกทางเพศ แม้แต่ฉากเด็กผู้หญิงอาบน้ำ (ซึ่งเป็นเพียงตัวการ์ตูนญี่ปุ่น) ก็ยังถูกเซ็นเซอร์มาแล้ว ด้วยข้อหา ‘ทำให้เสื่อมเสียศีลธรรมอันดี'…
Hit & Run
วิทยากร บุญเรือง ผมไปเจอข่าวชิ้นหนึ่ง เหตุเกิดที่โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งไม่ว่าจะยังไง ข่าวชิ้นนี้ผมว่ามันสามารถสะท้อนอะไรได้หลายอย่าง สำหรับสังคมไทยที่เป็นอยู่ในปัจจุบันคือข่าวที่กลุ่มมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาก่ออาชญากรรมในโรงพยาบาลศิริราช มาหากินกับพสกนิกรผู้จงรักภักดีได้ลงคอ ... (กรุณาอ่านให้จบก่อนด่า)ท่านพงศพัศ พงษ์เจริญ ตำรวจหน้าหล่อ ได้กล่าวว่า ที่โรงพยาบาลศิริราช มีเรื่องซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้นนั่นคือมีกลุ่มมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาก่ออาชญากรรม และที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง คือเป็นการก่อเหตุในเขตพระราชฐาน โดยขณะนี้ตำรวจได้รวบรวมหลักฐานแล้วเตือนไปยังแก๊งมิจฉาชีพที่ตั้งใจมาก่ออาชญากรรมว่า…
Hit & Run
พงษ์พันธุ์ ชุ่มใจ 26 กันยายน 2550ย่านพระเจดีย์สุเล, กรุงย่างกุ้ง   ภาพที่เห็นคือ...ประชาชนหลายพันคนออกมายืนเต็มถนนย่านพระเจดีย์สุเล ซึ่งเป็นย่านกลางเมือง โดยไม่ไกลนักมีกองกำลังรักษาความมั่นคงพม่าตั้งแถวอยู่เบื้องหน้า ป้องกันไม่ให้ประชาชนเข้าใกล้พระเจดีย์แห่งนี้"เราต้องการประชาธิปไตย" ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งกล่าว"รัฐบาลนี้อันตรายโคตรๆ" ชายอีกคนหนึ่งกล่าวประชาชนส่วนหนึ่ง พยายามต่อสู้กับทหาร ทหารที่มีทั้งโล่ กระบอง แก๊สน้ำตา กระทั่งปืน โดยประชาชนพยายามขว้างอิฐ ขว้างหิน เข้าใส่แถวแนวของทหารพวกนั้นก้อนแล้ว ก้อนเล่า ... ถูกทุบเป็นก้อนย่อมๆก้อนแล้ว ก้อนเล่า ... ถูกขว้างสุดแรงเกิด…
Hit & Run
  อรพิณ ยิ่งยงพัฒนาดูเหมือนเรื่องน่าจะจบลงไปแล้ว กับความพยายามของ สนช.กว่า 60 คน ที่เข้าชื่อกันยื่นแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา (ป.อาญา) และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิอาญา) ในมาตราที่เกี่ยวข้องกับการทำผิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ก่อนที่สุดท้าย สนช.จะตัดสินใจถอนการแก้ไขออกไปก่อนแม้เรื่องนี้มีนัยยะที่น่าสนใจหลายประเด็น แต่สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือ กระแสความคิดที่เกิดขึ้น แม้ภายหลังการถอยและถอนการเสนอแก้กฎหมายแล้วก็ตามสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีจำนวน 242 คน โดย สนช. สามารถเข้าชื่อกันเพื่อเสนอหรือแก้ไขกฎหมายได้ ผ่านการเข้าชื่อเพียงจำนวนไม่น้อยกว่า 25 คน ยกเว้นกฎหมายที่เกี่ยวกับการเงิน…
Hit & Run
จิรนันท์ หาญธำรงวิทย์นอกจาก 24 มิถุนายน 2475 ซึ่งเป็นวันเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นประชาธิปไตย และ (อดีต) วันชาติแล้ว วันสำคัญที่เงียบเหงารองลงมา (อีกวัน) ก็คงหนีไม่พ้น 6 ตุลาคม 2519 ที่รับรู้กันว่า เกิดเหตุการณ์สังหารหมู่นักศึกษา ประชาชน เพราะเข้าใจว่าเป็นคอมมิวนิสต์ สำหรับปีที่แล้ว วันนี้อาจคึกคัก เพราะถึงวาระตัวเลขกลมๆ 30 ปี ซ้ำยังเพิ่งผ่านพ้นรัฐประหาร 19 กันยายน มาหมาดๆ กระแสเรื่องการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยจึงยังมีอยู่ แต่พอปีนี้กระแสกลับไปเงียบเหงาเหมือนปีก่อนๆ วันที่ 6 ตุลาในปีนี้ กลายเป็นวันเสาร์ธรรมดาๆเมื่อถามถึงเหตุการณ์ 6 ตุลา กับหลายๆ คน…
Hit & Run
ภาพันธ์ รักษ์ศรีทองเป็นข่าวคราวกันพักใหญ่ในรอบสัปดาห์จนผู้หลักผู้ใหญ่ต้องรีบออกมาเต้นเร่าร้อนกันทั่ว เมื่อคุณหนูสาวๆ มีแฟชั่นเทรนใหม่เป็นการนุ่งกระโปงสั้นจุ๊บจิมโดยไม่สวมใส่ ‘กุงเกงลิง’ ความนิยมนี้เล่นเอาหลายคนหน้าแดงผ่าวๆจนพากันอุทาน ต๊ายยย ตาย อกอีแป้นจะแตก อีหนูเอ๊ยย ทำกันไปได้อย่างไร ไม่อายผีสาง เทวดาฟ้าดินกันบ้างหรืออย่างไรจ๊ะ โอ๊ย..ย สังคมเป็นอะไรไปหมดแล้ว รับแต่วัฒนธรรมตะวันตกมาจนไม่ลืมหูลืมตา วัฒนธรรมไทยอันดีงามของไทยไปไหนโม๊ดดดดเรื่องนี้มองเล่นๆ เหมือนจะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่มันก็ไม่เล็ก จะว่าเป็นเรื่องใหญ่ก็ไม่ใหญ่ แต่ไปๆ มาๆ คล้ายกับว่ารอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ‘กุงเกงลิง’…