Skip to main content

20080317 วิวของช้าง (1)

ผมไม่แน่ใจว่าจะวางคำว่า ‘ของ’ เอาไว้ตรงไหนดี ระหว่างคำว่าช้างกับวิว

ช้าง‘ของ’วิว หรือว่า วิว‘ของ’ช้าง กันแน่...

แม้ไม่แน่ใจแต่ผมรู้ดีว่าวิวชอบช้าง (ที่ไม่แน่ใจคือช้างจะชอบวิวด้วยหรือไม่) และเขียนรูปช้างมานานแล้ว

ช้างที่เกิดจากปลายพู่กันและปลายนิ้วของวิวที่ถูกเกลี่ยกลบถมทับวาดเส้นและลากสีจนเกิดเป็นภาพและเรื่องราวที่เกี่ยวพันกับช้างนั้น ถ้าหากว่ามีใครเคยนับช้างของวิวคงเป็นช้างแห่งสีสันโขลงใหญ่นับไม่ถ้วนเลยทีเดียว

วิวเขียนรูปช้างแค่ให้รู้หรือดูออกว่าเป็นช้าง แม้จะมีงวง มีหาง มีตา แต่รูปร่างก็อ้วนป้อม ซ้ำสีสันตัวช้างก็แตกต่างออกไปจากช้างที่เหมือนจริง ช้างของวิวจึงไม่เหมือนและไม่ใช่ช้างจริงๆ แค่หันข้าง ยืนนิ่งเฉย อาจจะชูงวง หมอบคลานซุกซ่อนตัวอยู่ใต้เงาไม้หรือยืนเล่นอยู่กับเพื่อนๆ สัตว์ตัวอื่นๆ

ช้างที่เห็น ใครๆ ดูก็รู้ว่าเป็นช้างของวิว เพราะรูปทรงที่มีเอกลักษณ์และสีสันอันสดใสแตกต่างไปของตัวช้าง คุณอาจจะไม่รู้ว่าเวลาช้างเป็นสีขาว สีฟ้าอ่อน สีชมพูสด แดงหรือม่วง มันให้อารมณ์น่ารักเพียงใด

วิววาดรูปช้างลงบนกระดาษเพื่อสเกตช์เป็นแนวทางก่อนเขียนลงบนเฟรมผ้าใบขนาดใหญ่แน่นหนา วันดีคืนดีก็นำโขลงช้างที่วาดเสร็จพร้อมกับเรื่องราวในรูปเขียนออกมาจัดแสดงนิทรรศการให้ได้ชมกัน    

 

20080317 วิวของช้าง (2)

หลายปีก่อนช้างหาหัวใจวิวปลิวว่อนไปกับอิสรภาพและการล่องลอยในนิทรรศการเดี่ยวที่ชื่อ “Fly with me” ที่โรทันดาแกลเลอรี่ ห้องสมุดเนลสันเฮย์ (2549) จากนั้นไม่นานวิวก็ได้รับการเชิญชวนให้ไปแสดงงานในฐานะศิลปินไทยคนเดียวในงานแสดงศิลปวัฒนธรรมและอาหารไทย ที่เมืองอานซี่ ฝรั่งเศส ช้างพาวิวข้ามน้ำข้ามทะเลไปได้ไกลขนาดนั้น

ด้วยความเป็นคนหนุ่มไฟแรง มีวินัยในการทำงานสูง วิวทำงานศิลปะที่ตัวเองรักทุกๆ วัน วันละหลายชั่วโมงแต่ก็ไม่เคยโหมทำงานจนปล่อยปละละเลยความรับผิดชอบด้านอื่นๆ ของชีวิต เขาเพียงแต่เคี่ยวเข็ญตัวเองให้ทำงานที่ตั้งใจไว้ให้สำเร็จแต่ไม่เคยบีบเค้นให้งานออกมากระด้างไร้อารมณ์    

กลับจากฝรั่งเศสมาพักใหญ่  วิวแบ่งเวลาจากการดูแลร้าน Things Called Art ของตัวเองที่เชียงใหม่ ดูแลบ้าน เล่นฟุตบอลกับมิตรสหาย ให้ข้าวปลาหมาแมวโขยงใหญ่ มาจัดนิทรรศการครั้งใหม่ที่กรุงเทพฯ อีกครั้ง คราวนี้ในชื่องานว่า “เสียงของช้าง” (The Elephant Voice)

20080317 วิวของช้าง (3)

นิทรรศการครั้งนี้มีภาพเขียนเล็กใหญ่ต่างขนาดกันนับสิบชิ้น เป็นภาพเรื่องราวของช้างตามรูปแบบที่วิวถนัด (“ช้างอาจจะดูเป็นแบรนด์ของผมไปแล้ว” -  วิวว่า) แต่มีนก วัว ควาย ดอกไม้ ต้นไม้มากกว่างานชุดที่แล้วๆ มา เหมือนช้างได้ก้าวนำพาวิวออกไปจากตัวตนของช้างเพื่อพบปะเรื่องราวและสิ่งต่างๆ ที่กว้างไกลและหลากหลายขึ้น

วิวเล่าว่าช้างที่ผมเขียนก็ยังดูเป็นช้างเหมือนเดิม แต่มีสัญลักษณ์ต่างๆ มากขึ้น เช่นในความจริงช้างตัวหนักบินไม่ได้ก็มีนกเข้ามาเป็นสัญลักษณ์ถึงความล่องลอยหรือสิ่งที่บินได้ นอกจากนี้ยังมีรูปช้างลอยอยู่บนกระทง แม้จะเป็นภาพเขียนกึ่งนามธรรม แต่ผู้ดูก็เดาหรือรับรู้เรื่องราวได้ไม่ยาก ผลงานที่นำมาจัดแสดงนิทรรศการครั้งนี้ส่วนหนึ่งผ่านการพิสูจน์จากผู้ชมชาวฝรั่งเศสมาแล้วว่าสามารถเข้าถึงหรือชื่นชอบภาพเขียนแนวนี้ได้ง่ายๆ ไม่ต่างจากผู้ชมศิลปะชาวไทย (วิวบอกว่าภาพชื่อ Flying with midnight blue ขนาด 150 x 150 cm. เป็นที่ชื่นชอบของคนฝรั่งเศสมาก)

20080317 วิวของช้าง (4)

งานชุดนี้นอกจากจะมีรายละเอียดที่มากขึ้นแล้วยังมีโครงสีที่แข็งแรงขึ้นด้วย...เป็นเรื่องราวของช้างที่วิวมั่นอกมั่นใจมากขึ้น ขณะที่ทำงานชุดนี้วิวเล่าว่ามันทำให้จิตใจสงบ สัมผัสได้ถึงความเป็นธรรมชาติ

เป็นเสียงของช้างที่เปล่งออกมาผ่านลายเส้นและสีสันอย่างเงียบๆ แต่บอกเล่าความเป็นไปของวิวในฐานะที่เป็น “วิวของช้าง” ได้อีกมุมหนึ่ง

---------------

นิทรรศการศิลปะ “The Elephant Voice” โดยศุภเชษฐ์ ภุมกาญจน์ (วิว) แสดงอยู่ที่ศาลาปันมี Banana Family Park อารีย์ซอย 1 ตั้งแต่วันนี้จนถึง 8 เมษายน (10.00 – 19.00 น.) โทร. 02- 279 7838

บล็อกของ อิทธิฤทธิ์ ประคำทอง

อิทธิฤทธิ์ ประคำทอง
หากเลือกได้เราอยากจะให้ในพื้นที่ของชีวิตเติมเต็มด้วยสิ่งใด? เสื้อผ้าอาภรณ์สวยๆ งามๆ เงินทอง ความสมบูรณ์พูนสุขทางวัตถุหรือการอิ่มเต็มในจิตใจ... มีเพียงคำถามแต่ไม่มีปลายทางของคำตอบ เพราะว่าการแสวงหาความหมายในชีวิต ว่าในชีวิตหนึ่งหนึ่งคนเราเกิดมาเพื่อค้นหาหรือเสาะแสวงหาสิ่งใดมาเติมเต็มให้กับชีวิตตัวเอง ล้วนเป็นปรัชญาและเป้าหมายสูงสุดประการหนึ่งในการเกิดมามีชีวิตของคนเราทุกคน
อิทธิฤทธิ์ ประคำทอง
ผู้หญิง งูและลวดลายแห่งพรรณพฤกษา จะก่อเกิดเป็นเรื่องราวใดบ้างนอกเหนือจากความฝันรัญจวนถึงสิ่งที่ลี้ลับน่าหลงใหลดั่งคำบอกเล่าถึงนางไม้ที่อาจจะมีตัวตนจริงๆ หรือเป็นเพียงเงาร่ายลายลวงท่ามกลางพงตึกและป่าคอนกรีตอันร้อนระอุแห่งเมืองกรุง บ่ายวันหนึ่งเราจงใจเดินทางไปกลางซอยทองหล่อ ย่านที่มีร้านอาหารมีระดับ ร้านค้าหรูหรา และย่านการค้าในบรรยากาศที่ไม่คล้ายเดินอยู่ในเมืองไทยเท่าใดนัก เพื่อไปชมนิทรรศการภาพเขียนของนวลตอง ประสานทอง ในชื่องานสั้นๆ ว่า ‘NYMPH’
อิทธิฤทธิ์ ประคำทอง
วันหนึ่งปลายฤดูหนาวของลอนดอน ณ Natural History Museum ย่าน South Kensington เมื่อหลายปีมาแล้ว ผมมีโอกาสได้ไปเดินชมนิทรรศการภาพถ่ายทางอากาศนิทรรศการหนึ่ง จำความรู้สึกของตัวเองขณะนั่งรถไฟใต้ดินไปที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้ว่าตื่นเต้นอยู่ไม่น้อยที่กำลังจะได้ชมภาพถ่ายเหล่านี้ที่กำลังแสดงอยู่อย่างใกล้ชิด “Earth From Above” By Yann Arthus-Bertrand…สาเหตุก็คือเมื่อหลายปีก่อนหน้านั้นไปอีก ผมได้เห็นหนังสือชื่อเดียวกันนี้เป็นหนังสือปกแข็งขนาดเขื่องวางขายอยู่ในร้านหนังสือต่างประเทศในกรุงเทพฯ…
อิทธิฤทธิ์ ประคำทอง
นาฏกรรมชีวิตและเรื่องราวแห่งการกินของผู้คนที่ ‘นครปฐม’ เป็นสิ่งที่น่าสนใจ ไม่น่าเชื่อว่าภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ติดๆ กัน ผมจะมีโอกาสแวะเที่ยวชมและเที่ยวชิมขนม ข้าวปลาอาหารและเมียงมองชีวิตของผู้คนในเมืองส้มโอหวาน ข้าวสารขาวถึงสองครั้งสองครา ซึ่งแต่ละครั้งคราเป็นต้องอดสงสัยไม่ได้ว่าในเมืองแห่งนี้ทำไมจึงมีการขายอาหารกันเป็นล่ำเป็นสัน ที่สำคัญยังมีรสชาติดีถูกปากถูกใจคนบ้านใกล้บ้านไกล ชนิดที่ว่าไม่ต้องรู้จักชื่อเสียงหรือมีป้ายโฆษณาชวนเชื่อ แค่ลองแวะชิมอาหารรถเข็นหรือตามสองข้างทางสักร้านในเมืองนครปฐมเป็นต้องอร่อยติดใจเกือบจะทุกรายไปหลายครั้งก่อนที่ได้แวะไปชิมข้าวหมูแดงกลางเมืองนครปฐม (…
อิทธิฤทธิ์ ประคำทอง
‘ทุ่งแสงตะวัน’ เป็นรายการโทรทัศน์เพื่อเด็กและเยาวชนที่รู้จักกันดีทั้งในแง่ฝีไม้ลายมือผู้ผลิตและความคิดสร้างสรรค์ ออกเดินโลดแล่นผ่านสายตาผู้ชมทีวีมาเมื่อสิบหกปีที่แล้วและยังคงเดินหน้าทำรายการทีวีที่น่ารักและมีแรงบันดาลใจให้กับผู้ชมต่อไป แม้ไม่ได้อยู่หน้ากล้องในฐานะพิธีกรเดินเรื่อง แต่ สุริยนต์ จองลีพันธ์ หนึ่งในผู้บริหารบริษัท ป่าใหญ่ ครีเอชั่นฯ กลับมีความสำคัญในฐานะผู้อยู่เบื้องหลังรายการเล็กๆ ที่งดงามนี้ด้วยการเป็นครีเอทีฟและผู้ดูแลการผลิตมาอย่างต่อเนื่อง
อิทธิฤทธิ์ ประคำทอง
เด็กสาวทำงานแต่งกายในชุดส่าหรีสีสดเทินกิ่งไม้ไว้บนศีรษะกำลังเดินกลับบ้าน ลูกลิงแสนซนที่ปีนป่ายลูกกรง หญิงชราผู้ค่อยๆ ต่อยก้อนหินให้แตกออกจนเป็นกรวดด้วยมือเปล่า รถสามล้อเก่าผุพังในสีขาวดำ สวามีผู้เร้นกายขึ้นไปปลีกวิเวกอยู่ในถ้ำเล็กๆ เหนือบันไดเจ็ดร้อยขั้น หนุ่มช้ำรักผู้ทำท่าเบื่อโลกนั่งอยู่หน้าโรงหนัง...
อิทธิฤทธิ์ ประคำทอง
...โอ๊ตเกิดที่ฉะเชิงเทรา จังหวัดหนึ่งในไทย ได้บวชเป็นพระสามอาทิตย์ในปี 2548 ที่วัดสามกอ นอกจากมีงานประจำแล้ว โอ๊ตยังทำงาน อาสาหน่วยแพทย์กู้ชีวิตวชิระพยาบาลในกรุงเทพฯ และย่านแหล่งท่องเที่ยว เป็นอาสาสายตรวจตำรวจจักรยานที่อยุธยาเพื่อดูแลความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวด้วย ที่ ‘สปินน์ คาเฟ่’ มีค็อกเทลให้เลือกมากมาย นอกจากเขาทำค็อกเทล พิงค์เลดี้ หรือพุซซีแค็ทแล้ว เขายังสามารถบอกแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับจักรยานได้อีกด้วย สามารถสอนคุณนานกว่าชั่วโมงก็ยังได้ และตอนนี้เขากำลังเรียนภาษาจีนอยู่ แต่เขาพูดตลก เก่งมาก…     ข้างความข้างต้นปรากฏอยู่ในหน้า About Us ของเว็บไซต์ www.spinn.cn…
อิทธิฤทธิ์ ประคำทอง
หน้าร้อนกับการไปทะเลเป็นของคู่กัน เปรียบแล้วก็เหมือนข้าวเหนียวมูลกับมะม่วงสุกรสอร่อยที่กำลังนิยมในช่วงยามนี้ แต่การนั่งอยู่กับบ้านวันดีคืนดีก็ยังอาจจะมีผู้หวังดีหิ้วเอาข้าวเหนียมมะม่วงมาฝากเราได้ ไม่เหมือนกับการออกไปค้นหาหรือเดินทางไปหา “ทะเลดีๆ” ที่จะช่วยคลายร้อนทั้งกายและใจ ซึ่งแน่นอนว่าเราจะต้องพาตัวเองฝ่าความร้อนของสภาพอากาศออกไปจนกว่าจะถึงจุดหมาย 
อิทธิฤทธิ์ ประคำทอง
‘ตั้ม’ อาจจะเป็นชื่อเล่นของใครก็ได้ แต่คงมีคนเดียวเท่านั้นที่ชื่อจริงว่า ‘วิศุทธิ์ พรนิมิตร’ตั้มเป็นนักเขียน เจ้าของผลงานหนังสือหลายเล่ม เช่น hesheit, ควันใต้หมวก หรือประสบการณ์ส่วนตัวตอนที่ไปอยู่ญี่ปุ่นในชื่อ “ตั้มกับญี่ปุ่น” ฯลฯ แต่คุณอาจจะแปลกใจเมื่อรู้ว่าเขาเป็นนักเขียนเพราะพลิกดูผลงานของเขาแล้วล้วนแต่เป็นการ์ตูนตั้มเป็นนักเขียน...เขียนการ์ตูน ใครบางคนอาจจะสรุปอย่างนั้น..........................................
อิทธิฤทธิ์ ประคำทอง
สำรวจลงไปในกระเป๋าหรือย่ามของความฝัน พบสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ก้นย่ามคือการทำร้านกาแฟเล็กๆ ที่มีมุมหนังสือวางเอาไว้ให้คนจิบกาแฟละเมียดตัวอักษร
อิทธิฤทธิ์ ประคำทอง
ผมไม่แน่ใจว่าจะวางคำว่า ‘ของ’ เอาไว้ตรงไหนดี ระหว่างคำว่าช้างกับวิวช้าง‘ของ’วิว หรือว่า วิว‘ของ’ช้าง กันแน่...แม้ไม่แน่ใจแต่ผมรู้ดีว่าวิวชอบช้าง (ที่ไม่แน่ใจคือช้างจะชอบวิวด้วยหรือไม่) และเขียนรูปช้างมานานแล้วช้างที่เกิดจากปลายพู่กันและปลายนิ้วของวิวที่ถูกเกลี่ยกลบถมทับวาดเส้นและลากสีจนเกิดเป็นภาพและเรื่องราวที่เกี่ยวพันกับช้างนั้น ถ้าหากว่ามีใครเคยนับช้างของวิวคงเป็นช้างแห่งสีสันโขลงใหญ่นับไม่ถ้วนเลยทีเดียววิวเขียนรูปช้างแค่ให้รู้หรือดูออกว่าเป็นช้าง แม้จะมีงวง มีหาง มีตา แต่รูปร่างก็อ้วนป้อม ซ้ำสีสันตัวช้างก็แตกต่างออกไปจากช้างที่เหมือนจริง ช้างของวิวจึงไม่เหมือนและไม่ใช่ช้างจริงๆ…
อิทธิฤทธิ์ ประคำทอง
ฉากแรก เธอเป็นหญิงสาวหน้าตาสะสวย มีแววตาเป็นประกาย ด้วยอิริยาบถที่สบายๆ และการพูดคุยที่ดูเป็นธรรมชาติ เราได้เห็นว่าเธอกำลังเตรียมเครื่องดื่มอะไรสักอย่างที่มีสีเขียวเข้ม โดยมีชายอีกคนหนึ่งคอยจดจ้องดูสิ่งที่เธอทำ พร้อมกับถามว่าเธอใส่อะไรลงไปในเครื่องปั่นเพื่อทำเครื่องดื่มชนิดนี้บ้าง... “ฉันก็เอาผักที่มีในตู้เย็นทุกอย่างใส่เข้าไป...คะน้า แตงกวา...ผักทุกอย่างที่มีสีเขียว แล้วก็ดื่มมัน” เธอว่า เสร็จแล้วเธอก็บรรจงเทเครื่องดื่มที่ทำอยู่ลงในแก้วที่มีก้านทรงสวย แล้วยื่นให้กับชายคนนั้น ตอนนี้เครื่องดื่มที่เธอทำแลดูเป็นเครื่องดื่มสำหรับวาระพิเศษ มิใช่น้ำผักปั่นที่เธอทำดื่มเองอยู่เป็นประจำ “…