Skip to main content
นายหัว ส.
 
 
 
ตลอดระยะเวลาที่ต่อสู้ยาวนาน ต้องสูญเสียชีวิตและเลือดเนื้อมากมาย ประเทศล้าหลังและยากจน มีผู้อพยพนอกประเทศนับล้านคน แรงกดดันทั้งภายในและภายนอกประเทศหนักหน่วงและรุนแรง ถึงขนาดต้องย้ายเมืองหลวงไปเมือง “เนปิดอร์” ใกล้ชายแดนสาธารณรัฐประชาชนจีน เพราะกลัวอเมริกาโจมตรีแบบประเทศอิรัก แต่รัฐบาลเผด็จการทหารของเมียนมาร์ก็ยังดำรงคงอยู่ไม่ถูกโค่นล้ม
 
แต่ครั้นมาถึงปัจจุบัน ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงในประเทศเมียนมาร์ที่สร้างความยินดีแก่ชาวพม่าและชาวโลก เมื่อรัฐบาลเผด็จการทหารของเมียนม่า เริ่มปล่อยมือจากการกุมอำนาจให้รัฐบาลพลเรือนที่นำโดยประธานาธิบดีเต็งเส่ง เป็นผู้บริหารประเทศ ค่อยๆ สร้างการเปลี่ยนผ่าน จากเผด็จการสู่ประชาธิปไตย ปล่อยตัวนักโทษการเมือง ยกเลิกบัญชีดำ อนุญาตให้นางออง ซาน ซูจี ลงเลือกตั้ง ได้รับเลือกเป็น ส.ส.และเป็นผู้นำฝ่ายค้าน และมีการเจรจาสันติภาพกับชนกลุ่มน้อย เปิดประเทศสู่ระดับสากล ทำให้เกิดการปรองดองภายในชาติ พวกเผด็จการทั้งหลายก็ไม่ต้องหลบหนีลี้ภัย ต่างจากผู้นำเผด็จการประเทศต่างๆ ที่ผ่านมาส่วนใหญ่  จึงเป็นตัวอย่างที่ประเทศไทยควรศึกษาในการสร้างการเปลี่ยนแปลงสังคมและการเมืองไทย ให้เป็น การปฏิวัติเปลี่ยนผ่านอย่างสันติ จนนำไปสู่การปรองดองของคนในชาติ อย่างประเทศเมียนมาร์
 
และจากตัวอย่างของประเทศเมียนมาร์ จึงมีความคิดเห็นว่าฝ่ายประชาธิปไตยของประเทศไทยก็จะต้องมีความชาญฉลาด มีศิลปะในการต่อสู้ ต้องไม่ใช้วิธีการต่อสู้กับเผด็จการแบบความคิดเก่าๆ ที่ว่า ต้องตายกันไปข้างหนึ่ง เพราะเป็นศัตรูที่ไม่อาจอยู่ร่วมแผ่นดิน โดยใช้ทฤษฎีโค่นล้มอย่างรุนแรง เพราะชัยชนะบนซากศพไม่ใช่ชัยชนะที่แท้จริง
 
 
 

เสียงจากคุก
 
28 สิงหาคม 2555
 
 
 

บล็อกของ นายหัว ส. และมิตรสหาย

นายหัว ส. และมิตรสหาย
นายหัว ส. และมิตรสหาย
นายหัว ส. และมิตรสหาย
 ติดตามการประชุมนัดแรกของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศไทยที่มีนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้าร่วมเปิดประชุมแล้ว มีความเห็นว่า ผู้ที่เสนอความคิดเห็นตรงกับปัญหาที่สุดคือ คุณครูประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ นอกนั้นล้วนแต่ “ขี่ม้าเลียบค่าย”
นายหัว ส. และมิตรสหาย
การประกาศยุติบทบาทของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เป็นเรื่องเข้าใจว่า เพราะตกอยู่ในสภาพจำยอมจากความพ่ายแพ้ทางยุทธศาสตร์ที่ต้องการให้สังคมไทยหยุดนิ่ง หรือก้าวถอยหลัง ตามอุดมการณ์ของกลุ่มอนุรักษ์นิยม ดังคำประกาศของกลุ่ม “พิทักษ์สยาม” ที่จะแช่แข็งประเทศไทย
นายหัว ส. และมิตรสหาย
 การที่แกนนำ นปช. อย่าง ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ และพรรคเพื่อไทย อภิปรายเกี่ยวกับ พรบ. นิรโทษกรรมว่าไม่คลุมถึงผู้ที่ถูกคดี ม.112 นั้นระวังจะหลงกลเดินไปตามแผนของพรรคประชาธิปัตย์
นายหัว ส. และมิตรสหาย
หมายเหตุ: เรื่องสั้นจากแดนตารางชิ้นนี้ based on true story เป็นคดีประหลาดของชายคนหนึ่งที่ถูกพี่ชายแท้ๆ แจ้งความในคดีร้ายแรงแห่งรัฐ เรื่องสั้นพูดถึงขั้นตอนหนึ่งก่อนที่คดีของเขาจะถูกสั่งฟ้อง เป็นเรื่องเล่าจากห้องสี่เหลี่ยมที่ไม่เคยมีใครล่วงรู้ 
นายหัว ส. และมิตรสหาย
หมายเหตุ: เรื่องสั้นจากแดนตารางชิ้นนี้ based on true story เป็นคดีประหลาดของชายคนหนึ่งที่ถูกพี่ชายแท้ๆ แจ้งความในคดีร้ายแรงแห่งรัฐ เรื่องสั้นพูดถึงขั้นตอนหนึ่งก่อนที่คดีของเขาจะถูกสั่งฟ้อง เป็นเรื่องเล่าจากห้องสี่เหลี่ยมที่ไม่เคยมีใครล่วงรู้ 
นายหัว ส. และมิตรสหาย
  
นายหัว ส. และมิตรสหาย
คำอวยพรที่ล่าช้าจากความขลาดกลัวของผู้หวังดีที่อยู่ในโลกกว้างว่า แม้แต่ความคิด ความรู้สึกและสภาพภายในจากคำบอกเล่าของพวกเขาก็อาจนำผลกระทบที่เลวร้ายยิ่งกว่ามาสู่พวกเขาได้