Skip to main content

ไม่กี่วันที่ผ่านมาเราคงได้เห็นกันแล้วว่าลัทธิพันธมิตรสามารถทำอะไรได้บ้าง ลัทธิพันธมิตรทำอะไรก็ได้ทั้งนั้นถ้าอยากทำ ตั้งแต่การปิดสี่แยกเพื่อให้การจราจรเป็นอัมพาต ยึดรถเมล์ ล้อมรัฐสภา ทำลายทรัพย์สินสาธารณะ ไปจนถึงการปิดสนามบินเพื่อทำให้ผู้อื่น-ชาวต่างชาติ เดือดร้อนอย่างจงใจ

บัดนี้ ใครที่ยังเชื่อว่าลัทธิพันธมิตรชุมนุมแบบอหิงสาอันหมายความว่าไม่เบียดเบียนผู้อื่นนั้นคงจะปัญญาอ่อนเต็มที ใครที่ยังเห็นว่าลัทธิพันธมิตรเป็นการเมืองภาคประชาชนในระบอบประชาธิปไตยคงจะเป็นคนโง่ดักดาน และดังนั้นเพื่อชีวิตจะได้กลับสู่ความปกติ จึงควรหยุดให้ท้ายลัทธิพันธมิตรในทุกทาง


เมื่อความขัดแย้งงวดขึ้นและการชุมนุมที่ยาวนานไร้ผล ลัทธิพันธมิตรได้เปิดเผยโฉมหน้าด้านมืดของระบอบอมาตยาธิปไตย ด้านที่เป็นความรุนแรงโหดร้าย ด้านที่ไม่ยอมฟังเสียงใคร ด้านที่ไร้เหตุผล ทุ่มทุนล้มกระดานอีกครั้งหนึ่ง


บางคนเรียกลัทธิพันธมิตรว่าเป็นกลุ่มฟาสซิสต์ แต่ฟาสซิสต์แบบพันธมิตรนั้นได้รับการหนุนหลังจากอำนาจนอกรัฐธรรมนูญที่แตะต้องไม่ได้ (เพราะถ้าแตะต้องได้ ลัทธิพันธมิตรก็จะถูกแตะต้องไปตั้งนานแล้ว) เป็นฟาสซิสต์รูปแบบใหม่ที่จับมือกับอำนาจศักดินากลายเป็นกลุ่มกองโจรก่อการร้าย


การที่ลัทธิพันธมิตรจับประเทศเป็นตัวประกันนับเป็นเกมที่เสี่ยงอย่างยิ่ง ห่างจากคำว่าอนาธิปไตยแต่เข้าใกล้การก่อการร้ายเข้าไปทุกที การปิดสนามบินสุวรรณภูมิเป็นการเล่นนอกเกมที่เหนือความคาดคิด ส่งผลกระทบกว้างไกลเป็นลูกโซ่ จึงไม่แปลกที่ไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศท็อปเท็นของความไม่ปลอดภัย


ลัทธิพันธมิตรคาดหวังง่ายๆ ว่ายิ่งทำให้ประเทศชาติฉิบหายมากเท่าไหร่รัฐบาลก็ยิ่งหมดความชอบธรรมลงไปเท่านั้น และเมื่อหมดความชอบธรรมรัฐบาลก็อยู่ไม่ได้ ลัทธิพันธมิตรเป็นผู้สร้างแต่หวังให้รัฐบาลเป็นผู้รับ


อันที่จริงหากลัทธิพันธมิตรไม่ใจร้อนเกินไป และมีความสุขุมรอบคอบกว่านี้อีกสักนิด พวกเขาก็จะได้ในสิ่งที่เรียกร้องนั่นคือการจากไปของรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์


รัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ต้องจบสิ้นลงในระยะเวลาอันใกล้จากคดียุบพรรค หรือแม้แต่ประเด็นปัญหาทางเศรษฐกิจ ซึ่งดูจากศักยภาพแล้วรัฐบาลชุดนี้ไม่สามารถรับมือได้อย่างแน่นอน เพียงสองประเด็นนี้ก็พอแล้วสำหรับรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ไม่จำเป็นที่พันธมิตรจะต้องชุมนุมเคลื่อนไหวทำลายและทำร้ายคนอื่น


แต่การณ์กลับกลายเป็นว่าการชุมนุมเคลื่อนไหว อย่างไม่มีขอบเขตของลัทธิพันธมิตรกลายเป็นเหตุผลข้ออ้างและสร้างความชอบธรรมให้รัฐบาลอยู่ในอำนาจต่อไป ความไม่พอใจของประชาชนต่อลัทธิพันธมิตรหนุนส่งให้รัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เถลิงตำแหน่งต่อไป เพราะการก่อการร้ายของลัทธิพันธมิตรไม่มีเหตุผลสำหรับการลาออกหรือยุบสภา


อย่างไรก็ตาม ลัทธิพันธมิตร เป็นกลุ่มที่เอาแต่ใจมาแต่ไหนแต่ไร ไม่เคยเคารพกติกาหรือระเบียบปฏิบัติ ผู้นำลัทธิเพียงอยากเอาชนะโค่นล้มศัตรูทางการเมืองให้ได้ ดึงดันที่จะนำการเมืองไปให้สุดขั้วโดยที่ตนเองก็ไม่รู้ว่าผลลัพธ์สุดท้ายจะเป็นอย่างไร


"ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง" เป็นคาถาที่สนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำลัทธิพันธมิตร ท่องอยู่เสมอ เรื่องเจ๊งนั้น แน่นอน เขาเจ๊งไปแล้ว เครือผู้จัดการของเขาล้มละลายลงอย่างน่าอายเพราะเจ้าหนี้แทบไม่ได้อะไรคืนจากเขา ส่วนเรื่องตายนั้น คงมาถึงสักวันเพียงแต่ว่าเขาจะตายแบบไหนเท่านั้นเอง เขาจะยอมตายเดี่ยว หรือพาประชาชนไปตายด้วย แต่จากคำพูดของเขาเองนั้น ชัดเจนว่าเขาไม่ได้ปกป้องผู้ร่วมชุมนุมแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม เขาเรียกร้องการเสียสละชีวิตของผู้ชุมนุม


"เราเตรียมพร้อม พี่น้องไม่ต้องห่วง เห็นใจพี่น้องทุกจุดที่ต้องเผชิญสงคราม เราก็เผชิญสงคราม แต่เราจะรักษาฐานที่มั่นนี้เอาไว้ให้ถึงที่สุด ถ้าต้องตายก็จะยอมตาย พี่น้องไม่ต้องห่วง เพราะนี่คือการสู้เพื่อศักดิ์ศรีของคนไทยที่รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์


ไม่เป็นไรพี่น้อง ช่างมัน ถ้าตายแล้วชาติบ้านเมืองจะดีขึ้นก็ขอให้ตายในวันนี้ก็แล้วกัน ถ้าไม่อย่างนั้นแล้วก็อย่าอยู่มีชีวิตต่อไปอีกจะดีกว่า เพราะมันไม่มีความหมายในเมื่อมันอยู่กับความเป็นสัตว์นรก วันนี้ ทักษิณ ชินวัตร มาบัญชาการงานอยู่ที่ฮ่องกง ให้สัมภาษณ์ อยู่เบื้องหลังทุกสิ่งทุกอย่าง"

http://www.prachatai.com/05web/th/home/14681

 

สนธิ ลิ้มทองกุล ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในการทำให้ประเด็นปัญหาส่วนตัวกลายเป็นประเด็นปัญหาสาธารณะ และขยายเป็นปัญหาของประเทศชาติไปได้โดยอาศัยเงื่อนไขที่มีอยู่ก่อนแล้ว เขาสุดยอดมากที่ทำให้การล้มละลายของเครือผู้จัดการกลายเป็นการล้มละลายของประเทศชาติไปได้


ไม่ว่ารัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์จะอยู่หรือไป การเคลื่อนไหวของลัทธิพันธมิตรมีแต่เสียกับเสียและเป็นรอยด่างพร้อยไปอีกนาน แม้แต่นักวิชาการซึ่งโจมตีรัฐบาลไทยรักไทยและพลังประชาชนมาตลอดก็ยังโจมตีลัทธิพันธมิตรว่า


"การดำเนินงานแบบอนาธิปไตย และปิ่ม ๆ จะเป็นการก่อการร้าย (กระทำให้เกิดความสะพรึงกลัวด้านชื่อเสียงเกียรติยศ รวมทั้งการสร้างความเดือดร้อนแก่คนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องด้วย) ของกลุ่มการเมืองนี้กลับกลบเกลื่อนความไร้สมรรถภาพและความไม่โปร่งใสของรัฐบาลชุดนี้


การเคลื่อนไหวทางการเมืองเช่นนี้จึงไม่ใช่ democratization อย่างแน่นอน เป็นการกระทำตรงกันข้ามด้วยซ้ำ (disdemocratization?) เพราะทำให้พลังของสังคมอ่อนลง" (นิธิ เอียวศรีวงศ์,มติชนรายวัน, 1 ธ. ค.51)

http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01act01011251&sectionid=0130&day=2008-12-01


ไม่ว่ารัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จะเลวร้ายไร้ประสิทธิภาพอย่างไร สิ่งที่สังคมต้องตระหนักก็คืออย่าอ่อนข้อให้กองกำลังติดอาวุธหรือกลุ่มก่อการร้ายอย่างลัทธิพันธมิตรโดยเด็ดขาด เพราะหากโจรชนะแล้ว อะไรก็เกิดขึ้นได้
.

บล็อกของ เมธัส บัวชุม

เมธัส บัวชุม
การประท้วงของกลุ่มสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) ภายใต้การนำของ สาวิทย์ แก้วหวาน ผู้ซึ่งเป็นแกนนำสหภาพแรงงาน ฯ เป็นการประท้วงในสไตล์เดียวกับการประท้วงของกลุ่มพันธมิตร นั่นคือเอาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นตัวประกันเพื่อให้ได้ตามความต้องการของตนเอง 
เมธัส บัวชุม
หลังจากอิดออดเพื่อรักษาท่าทีแต่พองามแล้ว “ผู้ร้าย” สองคนก็เปิดตัวเปิดใจกระโจนเข้าสู่วง ”การเมือง” เต็มตัว “ผู้ร้าย” คนแรก
เมธัส บัวชุม
ไม่กี่วันที่ผ่านมา ผมเดินทางไปเยี่ยมเพื่อนในอำเภอเล็ก ๆ แห่งหนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานี นานมาแล้วที่ผมไม่ได้ออกไปไหน เพื่อนพาไปเที่ยวป่าและแวะที่หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่แลดูลี้ลับ วังเวงและยากไร้
เมธัส บัวชุม
สังคมไทยเป็นสังคมที่อยู่กับความโง่ มีความโง่เป็นเจ้าเรือน นับวันความโง่ยิ่งแผ่ขยายแพร่กระจายไปราวเชื้อโรค หลายคนโง่โดยสุจริต  คนเหล่านี้น่าเห็นใจ ถูกครอบงำด้วยความไม่รู้  อคติ ความเกลียดชังทำให้ประสิทธิภาพในการคิดเสื่อมถอย สติปัญญาถูกบิดเบือนไป คนประเภทนี้โง่เพราะถูกอคติทำลายจนมืดบอด
เมธัส บัวชุม
  ในระหว่างที่รัฐบาลกำลังรวนเรเพราะความไร้ฝีมือและความเน่าจากภายใน แทนที่จะทุ่มสมองและแรงงานเพื่อกระหนาบกระหน่ำรัฐบาลโจร คนเสื้อแดงเฉดต่าง ๆ ก็กลับใช้โอกาสนี้วิพากษ์วิจารณ์กันรุนแรงกระทั่งแตกออกเป็นสาย
เมธัส บัวชุม
ในโลกโลกาภิวัฒน์ที่มนุษย์กำลังเดินทางไปในอวกาศเพื่อค้นหาสิ่งมีชีวิตนอกโลก และเตรียมหาที่อยู่บนดาวดวงอื่น ทั้งวิตกกังวลกับโรคระบาดชนิดใหม่ ๆ ซึ่งอาจทำให้มนุษย์ต้องสูญพันธุ์ ประเทศไทยยังคงสนุกสนานเหมือนเด็กเล่นขายของกับการกล่าวหาเรื่องหมิ่นพระบรมเดชานุภาพกระทั่งล้มสถาบันสนุกครับ สนุก
เมธัส บัวชุม
ตื่นเช้าขึ้นมา หากไม่มีอะไรเร่งด่วนต้องทำ ผมจะนั่งเขียนโน่น เขียนนี่พร้อม ๆ กับที่เข้าไปในบอร์ดประชาไท อ่านกระทู้ต่าง ๆ อยู่เงียบ ๆ มานานจนเกือบจะกลายเป็นกิจวัตร (ยกเว้นเสาร์-อาทิตย์) แต่หลังเช้าไปแล้ว ผมก็ทำอย่างอื่น ไม่ได้นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ จึงไม่อาจติดตามความเคลื่อนไหวในบอร์ดประชาไทได้อีก ดังนั้นจึงได้อ่านเพียงบางกระทู้เท่านั้นและล้วนแล้วแต่เป็นการอ่านผ่านๆ ทั้งสิ้น
เมธัส บัวชุม
พักหลัง ผมเข้าไปเยื่ยมชมเว็บไซต์ "ASTVผู้จัดการ" บ่อยครั้ง เพื่ออยากรู้ว่าชาวสีเหลืองหรือกลุ่มพันธมิตรคิดอ่านกันอย่างไร มีนวัตกรรมอะไรบ้างในการทำลายฝ่ายตรงข้าม ศึกษากลวิธีในการเต้าข่าว การใส่ไคล้ การใช้ภาษาของบรรดาคอลัมนิสต์ กระทั่งแวะเข้าไปอ่าน "เรื่องนินทาราวตาเห็น" ของ "ซ้อเจ็ด" ผู้โด่งดัง
เมธัส บัวชุม
หลายวันก่อน ได้อ่านบทความของ นิธิ เอียวศรีวงศ์ เรื่อง “ทางออกจากทักษิณ” (มติชนรายวัน, 20 ก.ค. 52.) บทความนี้มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนอย่างมากเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองของคนเสื้อเหลืองและแดง  เนื้อหาของบทความ นอกจากปัญญาชนรายนี้จะออกตัวให้กลุ่มพันธมิตรหรือเสื้อเหลืองโดยยกระดับความคิด และการกระทำของคนกลุ่มนี้ว่าเกิดจากทัศนะและความเข้าใจในประชาธิปไตยที่แตกต่างจากกลุ่มเสื้อแดงซึ่งทั้งสองกลุ่มล้วนแล้วแต่มีจุดอ่อน  
เมธัส บัวชุม
นานมาแล้ว ที่ผมไม่เคยเจ็บป่วยขนาดต้องไปโรงพยาบาลหรือหาหมอ อย่างมากก็แค่ซื้อยาแก้เจ็บคอมากิน แต่ครั้งนี้เจ็บคอหลายวัน บวกกับอาการมึนหัว เบื่ออาหาร เพลีย และปวดเมื่อยเนื้อตัวอย่างหนักขนาดทาถูสบู่ตามตัวยังรู้สึกปวดไปถึงกระดูก เวลานอนต้องนอนตะแคงอย่างเดียวจะนอนหงายหรือคว่ำไม่ได้เพราะปวดเมื่อย(ขนาดนั้น) ผมจึงตัดสินใจไปโรงพยาบาลแม้จะยังสงสัยอยู่ว่าคิดถูกหรือผิดกันแน่ น่าตกใจพอสมควรที่คนป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่เต็มล้นโรงพยาบาล (แต่แทบไม่มีคนที่อยู่วัยเดียวกับผม) ผมคิดในใจว่าถ้าตนเองเป็นเพียงโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ก็คงจะมารับเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่โรงพยาบาลนี่แหละ…
เมธัส บัวชุม
การล่า 1 ล้านรายชื่อของสามเกลอแห่ง "ความจริงวันนี้" เพื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่อดีตนายก ฯ ทักษิณ ชินวัตร เป็นประเด็นให้คนเสื้อแดงถกเถียงแก้เซ็งไปพลาง ๆ โหมโรงการเคลื่อนไหวครั้งต่อไป มีความคิดเห็นค่อนข้างหลากหลายในหมู่คนเสื้อแดงด้วยกัน ทั้งนี้เพราะคนเสื้อแดงนั้นมีความหลากหลายในตัวเองอยู่แล้ว คือมีตั้งแต่ "แดงอนุรักษ์" ไปจนถึง "แดงถอนรากถอนโคน" ซึ่งลักษณะที่ว่านี้ไม่มีในหมู่คนเสื้อเหลือง
เมธัส บัวชุม
เป็นความคิดที่ดีของกลุ่มคนเสื้อแดงที่มีความพยายามจะ “รื้อฟื้น” วันชาติขึ้น เพราะมันมีความหมายและนัยสำคัญต่อประชาธิปไตยและการเมืองไทยอย่างมาก วันชาติเป็นผลพวงของการยึดอำนาจของคณะราษฎรเพื่อเปลี่ยนประเทศไทยสู่ระบอบการปกครองแบบใหม่ที่ให้ความสำคัญกับเสียงและความคิดเห็นของประชาชน ภายใต้หลักนิติรัฐที่ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเสมอกัน