Skip to main content

เรื่องราวในชีวิตของคนเราสามารถนำมาเขียนแต่งเป็นนิยายได้ทั้งนั้น โดยการใส่พล็อตหรือท้องเรื่องเข้าไป ตีความให้ดูน่าสนใจ แล้วเสาะหา(สร้าง)ข้อมูลเพื่อยัดลงไปในพล็อตที่วางไว้โดยอาจหยิบเพียงบางช่วงบางตอนของชีวิตก็ได้


อย่างไรก็ตาม บางเรื่องราวอาจไม่ค่อยมีความน่าสนใจนักเพราะ “เนื้อหาชีวิต” มีให้เลือกน้อยเกินไป ไม่มีข้อมูลมากพอสำหรับเอาไปใส่ไว้ในพล็อต ขาดความโดดเด่นสำหรับที่จะเป็นนิยายชั้นดี อาทิเช่นชีวิตของเรา ๆ ท่าน ๆ คนเดินดินกินข้าวแกงทั่วไปที่อยู่กับความจำเจ หาเช้ากินค่ำ ขาดสีสัน ไม่มีที่ทางอะไรในประวัติศาสตร์


ในขณะที่บางเรื่องราวน่าสนใจเพราะมีเนื้อหามาก โลดโผน ตื่นเต้น อัดแน่นด้วยความน่าพิศวงและคาดไม่ถึง เช่นชีวิตของนักคิดนักเขียนอย่าง “จิตร ภูมิศักดิ์” ผู้ซึ่งระหกระเหินอยู่ในป่าดื่มกินอุดมการณ์แทนข้าว ชีวิตของผู้อภิวัฒน์อย่าง “ปรีดี พนมยงค์” ที่พลาดโอกาสในการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ อย่างถึงรากถึงโคนหรือแม้กระทั่งชีวิตของนักธุรกิจและนักการเมืองอย่าง ”ทักษิณ ชินวัตร” ที่พลิกผันเสียจนตนเองก็คงคาดไม่ถึง


แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าเรื่องราวของบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ แม้จะทำอะไรไว้มากพอสำหรับการกล่าวขานถึงของคนรุ่นหลังจะถูกตีความไปในทางดีเสมอไป (เป็นการยากที่จะตีความเรื่องราวของ “จิตร ภูมิศักดิ์” ให้เป็นบุคคลที่ยกย่องเชิดชูชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์โดยไม่กระอักกระอ่วนใจ ส่วน “ปรีดี พนมยงค์” นั้นมีความพยายามกันหลายฝ่ายจนประสบความสำเร็จในการแต่งแต้มตบแต่งเรื่องราวเรื่องเล่าให้กลายเป็นผู้ปกป้องสถาบัน)


คนบางคนสามารถบิดผันเรื่องราวและบทบาทเลวร้ายให้กลายเป็นเรื่องเล่าว่าด้วยความดีงามไปเสียได้ เช่นการฆาตกรรมนักศึกษาในเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 ซึ่งเป็นสิ่งเลวร้ายอย่างไม่ต้องสงสัย แต่กลับถูกสร้างให้กลายเป็นเรื่องของการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์จากภัยคุกคามคอมมิวนิสต์ และกระทั่งบัดนี้ ในการรับรู้กระแสหลักก็ยังคงเป็นเช่นเดิม นักศึกษาในเวลานั้นยังคงเป็น “ผู้ร้าย” เสมอมา


เราจึงเห็นได้ว่าการสร้างพล็อตให้ตนเองและฝ่ายตรงข้ามไม่ใช่เรื่องใหม่แต่ประการใด การสร้างข้อมูลเท็จ หลักฐานปลอม เป็นเรื่องที่ปกติอย่างยิ่งสำหรับสังคมและการเมืองไทยซึ่งอยู่ภายใต้เงาสลัวของจอมบงการตลอดมา

 

 

จะว่าไปแล้วเราสร้างพล็อตให้กับสิ่งต่าง ๆ ทั้งโดยรู้ตัวและไม่รู้ตัว การสร้างพล็อตเป็นสิ่งจำเป็นเพราะเป็นวิธีการในการจัดระเบียบเนื้อหาข้อมูล ช่วยให้เข้าใจได้ง่าย สะดวกในการจดจำและประเมินค่า


จึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ที่มีการสร้างพล็อตให้กลุ่มคนเสื้อแดง มีการสร้างพล็อตให้คนเสื้อเหลือง มีการสร้างพล็อตให้กับอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร แต่ออกจะเข้าใจได้ยากหรือทำใจยอมรับได้ยากอยู่บ้างที่ฝ่ายเสื้อแดงได้รับบทเป็นผู้ร้ายเสมอมา


คนเสื้อแดงถูกจัดให้เป็นผู้ร้ายเสมอ ไม่ว่าสิ่งที่ทำนั้นถูกหรือผิดก็ตามทั้งนี้เพราะพล็อตของคนเสื้อแดงนั้นไปด้วยกันไม่ได้กับพล็อตใหญ่ซึ่งเป็นพล็อตหลัก (เพราะฉะนั้นคนเสื้อแดงทำความดีให้ตายก็ไม่มีประโยชน์ พล็อตของคนเสื้อแดงเป็นการเพิ่มพลังอำนาจของประชาชนซึ่งไม่มากก็น้อยย่อมกระทบกับอำนาจที่มีอยู่เดิมของจอมบงการ) ในขณะที่ฝ่ายเสื้อเหลืองซึ่งยึดทำเนียบ ปิดสนามบิน ทำสิ่งสามานย์ร้อยสิ่งพันอย่างกลับกลายเป็นผู้ก่อการดี

 


ไปไกลกว่านั้น คือการสร้าง “พล็อตซ้อนพล็อต” ซึ่งปรากฏเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาสาธารณชนในกรณีของคุณ “ศิวรักษ์ ชุติพงษ์” วิศวกรชาวไทยที่ถูกจับกุมคุมขังในคุกกัมพูชาเพราะ “รับงาน” เป็น “ตัวละคร” ตามพล็อตที่ฝั่งรัฐบาลเขียนให้ แต่เมื่อเหตุการณ์กลับตาลปัตร ไม่เป็นไปตามที่วางไว้ ก็มีการสร้างพล็อตขึ้นมาใหม่คลุมทับให้กลายเป็นตัวละครของฝั่งตรงข้ามไป การตกระกำลำบากอยู่ในคุกเขมรถูกลดค่าให้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของพล็อตหรือนิยายแหกตา ความเจ็บปวดรวดร้าวซึ่งเกิดขึ้นจริงกลายเป็นละครฉากหนึ่งเท่านั้น

คำถามคือเมื่อไหร่ที่คนอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ จะเขียนพล็อตหรือสร้างพล็อตได้เอง
? เมื่อไหร่ที่คนเสื้อแดงจะเขียนพล็อตให้ตนเองกล้าหาญพอที่จะหักกับพล็อตหลักของจอมบงการได้หากว่ามันจำเป็น?

 

 

บล็อกของ เมธัส บัวชุม

เมธัส บัวชุม
มหาชนสีแดงยื่นบันไดแห่งการยุบสภาให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ปีนลงมาอย่างง่าย ๆ ชนิดที่บัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น แต่ไม่เป็นผลอะไร ด้วยโมหะจริต นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ ดึงดันจะอยู่ในตำแหน่งต่อไปแม้ว่าจะต้องทำอะไรที่เสียเกียรติความเป็นผู้นำไปมากก็ตาม
เมธัส บัวชุม
การเคลื่อนพลของคนเสื้อแดงทั้งแผ่นดินน่าตื่นตาตื่นใจและอลังการสมการรอคอย แม้ว่าการมาทางเรือจะผิดจากความคาดหวังอยู่มากก็ตาม ผมยืนรอชมขบวนเรือของคนเสื้อแดงบนสะพานกรุงธนนานกว่า 3 ชั่วโมงพร้อมกับแดงคนอื่น ๆ เต็มสะพาน โบกไม้โบกมือ ไชโยโห่ร้องกับคนเสื้อแดงที่ขับรถผ่านไปมา
เมธัส บัวชุม
แม้ผลการตัดสินคดียึดทรัพย์เป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้อยู่แล้ว แต่คนเสื้อแดงหลายคนยังรู้สึกเจ็บปวด บางคนถึงขั้นหลั่งน้ำตาทั้งที่เงินนั้นไม่ใช่เงินของตนเอง พวกอำมาตย์ พรรคประชาธิปัตย์และคนเสื้อเหลืองไม่มีทางเข้าใจได้เลยว่าที่คนเสื้อแดงหลั่งน้ำตานั้นไม่ใช่เพราะเสียดายเงินของอดีตนายก ฯ ทักษิณ  ชินวัตร ที่ถูกยึดไปอย่างไม่เป็นธรรม แต่เป็นเพราะรู้สึกเจ็บปวดที่ตนเองทำอะไรไม่ได้เมื่อเห็นความอยุติธรรมบังเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาครั้งแล้วครั้งเล่า
เมธัส บัวชุม
ไม่ว่าผลการตัดสินคดียึดทรัพย์ (ปล้นทรัพย์อย่างถูกกฎหมาย) ที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ของอดีตนายก ฯ ทักษิณ ชินวัตร จะออกมาเป็นอย่างไร การลุกฮือของคนเสื้อแดงก็ยังคงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เสื้อแดงจำนวนไม่น้อยอาจไม่ได้ยี่หระเลยกับทรัพย์สินของอดีตนายก ฯ ทักษิณ ชินวัตรเพราะนั่นเป็นราคาที่อดีตนายก ฯ ต้องจ่ายสำหรับการต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย หลายคนจะได้เรียนรู้ว่าประชาธิปไตยนั้นถ้าไม่จ่ายด้วยเลือดและชีวิตก็ต้องจ่ายด้วยทรัพย์สินแสนแพง
เมธัส บัวชุม
 เมื่อความขัดแย้งระหว่างฝักฝ่ายต่าง ๆ เขม็งเกลียวแน่นใกล้ถึงจุดวิกฤติ ข่าวเกี่ยวกับการทำรัฐประหารก็ลอยมาจากทางโน้นทางนี้เป็นระยะ น่าเชื่อบ้าง ไม่น่าเชื่อบ้าง ราวกับว่ารัฐประหารเป็นทางออกเดียวในการจัดการปัญหา
เมธัส บัวชุม
การเข้าครอบครองที่ดินบนเขายายเที่ยงอย่างผิดกฏหมายขององคมนตรีคุณธรรมสูงอย่างสุรยุทธ์ จุลานนท์ นั้นไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดแม้แต่น้อย ไม่ใช่ข้อค้นพบที่น่าตื่นเต้น ไม่ใช่ความลับที่น้อยคนรู้ ชาวบ้านร้านตลาดในบริเวณนั้นต่างก็รู้กันเป็นอย่างดีว่าวิลล่าสวยงามบนเขายายเที่ยงนั้นเป็นของใคร
เมธัส บัวชุม
ผมค่อนข้างแปลกใจที่สังคมไทยยังไม่เกิดสงครามกลางเมืองขึ้น ว่าที่จริงสงกรานต์เลือดเมื่อปีกลายที่ผ่านมา เป็นโอกาสเหมาะไม่น้อยสำหรับการเกิดสงครามกลางเมืองซึ่งอาจจะจบลงด้วยการทำลายพลังประชาชนรากหญ้าและคนชั้นกลางฝ่ายก้าวหน้าลงอย่างย่อยยับ จนยากที่จะฟื้นกลับคืนมาใหม่ หรืออาจเป็นไปในทางกลับกันก็ได้หากประชาชนได้รับชัยชนะคือระบอบประชาธิปไตยจะขยับไปข้างหน้าอย่างก้าวกระโดด อำนาจของอำมาตย์จะถูกจำกัดวง พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด?
เมธัส บัวชุม
-1- ฉันมีวิธีเผชิญหน้ากับอาการนอนไม่หลับด้วยการนอนลืมตาอยู่ในความมืด พยายามไม่คิดอะไร แต่ดวงความคิดของฉันก็ไหลลอยไปสู่เรื่องนั้นเรื่องนี้ หวนรำลึกไปถึงสถานที่และผู้คนที่ฉันเคยพานพบประหนึ่งว่าฉันเพิ่งจากผู้คนและสถานที่เหล่านั้นมา
เมธัส บัวชุม
เรื่องราวในชีวิตของคนเราสามารถนำมาเขียนแต่งเป็นนิยายได้ทั้งนั้น โดยการใส่พล็อตหรือท้องเรื่องเข้าไป ตีความให้ดูน่าสนใจ แล้วเสาะหา(สร้าง)ข้อมูลเพื่อยัดลงไปในพล็อตที่วางไว้โดยอาจหยิบเพียงบางช่วงบางตอนของชีวิตก็ได้
เมธัส บัวชุม
คงไม่เป็นเรื่องน่าประหลาดใจแต่ประการใดที่เราได้เห็นปัญญาชนสยาม ปัญญาชนสาธารณะอย่างสุลักษณ์ ศิวรักษ์ ไปออกโทรทัศน์ของทาง ASTV “รายการรู้ทันประเทศไทย” ที่มีเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง นักวิชาการผู้หากินกับวาทกรรม “ชาวบ้าน” มายาวนาน งนี้เพราะหลายคนซึ้งแน่แก่ใจแล้วว่าบั้นปลายชีวิตของสุลักษณ์ ศิวรักษ์ ผู้หลงตนนั้นโน้มเอียงไปทางเผด็จการ หรือไปทางศักดินามากเสียยิ่งกว่าจะยืนข้างชาวบ้านอย่างที่เขาพร่ำพูดถึงเสมอ
เมธัส บัวชุม
หากผมบอกว่าชาตินิยมเป็นแนวคิดที่ใช้ไม่ได้แล้ว บางคนคงโต้แย้ง ผมจึงต้องเปลี่ยนคำพูดเสียใหม่ให้กว้าง ๆ ว่า ชาตินิยมเป็นแนวคิดที่ไม่เพียงพอสำหรับการทำความเข้าใจความเป็นไปของสังคมการเมืองในโลกปัจจุบัน ไม่เพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าความหมายและรู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลง
เมธัส บัวชุม
รถไฟไทยเป็นอย่างที่เป็นอยู่มานาน โดยแทบไม่มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอะไรเลยตั้งแต่เริ่มสร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 ทั้งนี้เพราะความเสื่อมโทรมของรถไฟให้ประโยชน์แก่คนหลายกลุ่ม รวมทั้งสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย ดังนั้นแนวคิดใด ๆ ก็ตามที่จะทำให้รถไฟเปลี่ยนไปจึงถูกต่อต้านแม้จะมีผลการวิเคราะห์วิจัยรองรับอยู่จำนวนมาก