Skip to main content

มหาชนสีแดงยื่นบันไดแห่งการยุบสภาให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ปีนลงมาอย่างง่าย ๆ ชนิดที่บัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น แต่ไม่เป็นผลอะไร ด้วยโมหะจริต นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ ดึงดันจะอยู่ในตำแหน่งต่อไปแม้ว่าจะต้องทำอะไรที่เสียเกียรติความเป็นผู้นำไปมากก็ตาม


เป็นเรื่องน่าอายที่นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ ยอมลดศักดิ์ศรีของตนเองและของนักการเมืองด้วยการเข้าพึ่งพาอาศัยทหาร คนที่รู้จักสปิริตของประชาธิปไตยคงออกอาการรังเกียจกับการกระทำของผู้นำประเทศรายนี้ แต่นอกจากจะไม่สำนึกในเกียรติแห่งความเป็นผู้นำของตนเองแล้ว ยังหมิ่นเกียรติของรัฐสภาด้วยการนำกำลังทหารเข้าไปในรัฐสภา ปิดถนนโดยรอบราวเกิดสงครามกลางเมือง ปล่อยให้บรรดาผู้แทนเดินเท้าเข้าไป  ถ้าการประชุมสภาผู้แทนราษฎรลำบากลำบนถึงเพียงนี้ ทำไมไม่ยุบสภาหรือลาออกไป
?


นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ มืดบอดเสียจนไม่รู้แล้วว่าประเทศไทยปกครองด้วยระบบและระบอบอะไร
?


ในระบอบประชาธิปไตยนั้น ผู้นำการเมืองจะสง่างามได้ก็ด้วยการยอมรับนับถือจากมหาชน ผู้นำการเมืองจะอยู่หรือไปก็ด้วยการสนับสนุนหรือการเลิกสนับสนุนจากมหาชน ในเมื่อมหาชนส่งเสียงดัง ๆ แล้วว่าไม่ต้องการ   ก็ป่วยการที่อยู่ต่อไป


ลีลาแบบนักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะแย้งว่ามหาชนที่ไม่เอาเขาเป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น ยังมีคนอีกจำนวนมากที่สนับสนุนเขาอยู่ โวหารทำนองนี้จะกลับมาผูกมัดตนเองว่าหากเชื่อว่ายังมีคนจำนวนมากสนับสนุนตนเองอยู่แล้วกลัวอะไรกับการยุบสภา
? หากเชื่อว่ายังมีคนจำนวนมากสนับสนุนตนเองอยู่แล้วไปอยู่ในค่ายทหารทำไม? เพราะการปกป้องที่ดีที่สุดก็คือการปกป้องจากประชาชนที่ยังรักและศรัทธา


หากใครจะถามหาเหตุผลว่า
ทำไมต้องยุบสภา”? คำตอบมีมากมาย แต่คำตอบที่เป็นตัวอย่างง่าย ๆ และเข้าใจได้ก็คือในฐานะผู้นำทางการเมือง เพียงเรื่องการหนีการเกณฑ์ทหารเรื่องเดียวก็มีน้ำหนักมากพอแล้ว


แม้ไม่ยุบสภา รัฐบาลก็หมดปัญญาที่จะลากสังคมการเมืองไทยให้ขยับไปข้างหน้า ปัญหารุมเร้าจนไปต่อไม่ได้แล้ว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยเมื่อถูกต่อต้านจากมหาชนเมื่อเดินทางไปภาคอีสานและภาคเหนือ
? ไม่เกิดความรู้สึกแย่กับตนเองบ้างเลยหรือที่ไม่อาจตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ ?


การบริหารประเทศของรัฐบาลชุดนี้ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ยาเสพติดระบาดหนักเต็มบ้านเต็มเมือง ปัญหาชายแดนใต้ไม่มีปัญญาจะแก้ไข กระทรวงต่างประเทศทำสิ่งที่น่าขายหน้าและออกข่าวโกหกแทบไม่เว้นวัน เกิดการคอรัปชั่นอย่างกว้างขวางแทบจะทุกแวดวงโดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยงานของกองทัพ การโกงกินอย่างน่าเกลียดในนโยบายและโครงการต่าง ๆ  ฯลฯ   กล่าวได้ว่านอกจากจะไม่ประสีประสากับการบริหารบ้านเมืองแล้ว รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัตย์ยังบ่อนทำลายประเทศ โดยการกอบโกยหาประโยชน์ใส่ตนและพวกโดยไม่สนใจความเดือดร้อนของมหาชน


ดังนั้น การมาชุมนุมทั้งที่นัดหมายและไม่ได้นัดหมายของมหาชนเรือนล้านนั้นจึงเป็นเรื่องที่ไปพ้นจากอดีตนายกฯ ทักษิณ  ชินวัตร  ฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับมหาชนสีแดงจะไม่มีทางเข้าใจปรากฏการณ์นี้ได้เลยหากมัวแต่งมงายกับเรื่องอดีตนายก ฯ  พรรคประชาธิปัตย์และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะมองไม่เห็นข้อบกพร่องของตนเองเลยหากมัวแต่มองหาความผิดของอดีตนายก ฯ มาตอบโต้โจมตี


สิ่งที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะได้รับหากฝ่าฝืนมติมหาชน คือความรู้สึกเป็นศัตรู แน่นอนความผิดพลาดล้มเหลวทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องการทำงานถูกนำมาตีแผ่ เสียงสาปแช่งดังระงม คนข้างตัวพลอยเดือดร้อนเจ็บปวด ไม่อาจใช้ชีวิตอย่างปกติสุข   ยิ่งอยู่ ยิ่งสูญเสียภาวะผู้นำ ยิ่งอยู่ ยิ่งสูญเสียความงามสง่า


การจะอ้างอิงเอากฎหมายมาช่วยนั้นป่วยการ เพราะทุกอย่างจะย้อนกลับไปพันคอตนเองหมด นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  ปล่อยปละละเลยการบังคับใช้กฎหมายกับคนกลุ่มหนึ่งที่เป็นพวกตนเอง ดังนั้นจึงน่าหัวเราะเยาะมากกว่าหากคิดจะใช้กฎหมายเล่นงานมหาชนสีแดง ว่าที่จริงกฎหมายเป็นหมันไปแล้วตั้งแต่ยึดอำนาจ
19 กันยายน 2549


ที่จริงแล้ว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต้องขอบคุณคนเสื้อแดงที่ช่วยหาทางลงอย่างนุ่มนวลให้  ช่างโชคดีมากที่มหาชนเสื้อแดงพึงพอใจในเป้าหมายง่าย ๆ อย่างการยุบสภา  ไม่ได้เรียกร้องอะไรที่ถอนรากถอนโคน ไม่ไปไกลถึงขั้นให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะรับโทษทัณฑ์ตามกระบวนการยุติธรรมแม้ว่าจะสั่งการทำร้ายคนเสื้อแดงตอนเมษาเลือดก็ตาม


การยุบสภาตามข้อเรียกร้องของมหาชน จะเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก่อนที่คนทุกฝ่ายจะบอบช้ำเสียหายไปมากกว่านี้  มันจะช่วยให้นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ ได้รับเสียงปรบมือและคำชื่นชม โอกาสที่จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่สองนั้นยังเปิดกว้าง เพราะทุนทางสังคมได้เปรียบนักการเมืองอื่น ๆ สร้างแต้มสะสมไปเรื่อย ๆ รอคอยจังหวะที่เหมาะสมเพื่อที่จะกลับมาอย่างถูกต้องชอบธรรม 


แม้การเมืองจะเกี่ยวข้องกับอำนาจและผลประโยชน์   แต่การเล่นการเมืองจะต้องคำนึงถึงมหาชนเพราะเสียงของมหาชนคือเสียงสวรรค์ นักการเมืองที่เพิกเฉยต่อเสียงมหาชนไม่มีทางเป็นอะไรได้นอกจากเป็นทรราชย์เท่านั้น.

 

บล็อกของ เมธัส บัวชุม

เมธัส บัวชุม
-1-พรรคประชาธิปัตย์หาเสียงเพื่อการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง โดยชูคำขวัญที่ฟังดูดัดจริตและกินไม่ได้ว่า “ประชาชนต้องมาก่อน”ผมได้ยินหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปล่งคำนี้ออกมาแล้วก็ให้นึกสงสัยว่าจะมีใครซักกี่คนในโลกนี้เชื่อในสิ่งที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ พูดออกมาพรรคประชาธิปัตย์ฉวยโอกาส เอาเปรียบพรรคการเมืองอื่น ๆ ตามสไตล์ถนัดด้วยการโฆษณาหาเสียงก่อนใครเพื่อน  ในขณะที่พรรคคู่แข่งอย่างพรรคพลังประชาชนนั้นต้องเจอกับอำนาจชั่วที่คอยการสกัดกั้นทุกรูปแบบ-2-ต้องรอดูกันต่อไปว่า พรรคพลังประชาชนจะฝ่าต้านแรงสกัดจากอำนาจชั่วได้มากน้อยแค่ไหน…
เมธัส บัวชุม
อันที่จริง ผมตั้งใจจะหยุดเขียนบทความการเมืองสักระยะด้วยรู้สึกระอากับความวิปริตทางปัญญาของสังคมไทย ผมยังรู้สึกหลอนไม่หายกับการยึดอำนาจของทหารท่ามกลางความดีอกดีใจของพวก “ทาสที่ปล่อยไม่ไป” และพวกที่กลุ้มรุมทึ้งแย่งผลประโยชน์ “แห่งชาติ” ที่ไม่ได้ “เหลือแต่กระดูก” หลังการจากไปของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตรกลุ่มคนเหล่านี้ที่เข้ามายึดกุมอำนาจหลังรัฐประหาร ไม่เกี่ยวข้องอะไรเลยกับการสร้างประชาธิปไตยหรือปฏิรูปการเมือง  รัฐบาลเถื่อนของนายกรัฐมนตรีสุรยุทธ์ จุลานนท์ กับ คมช. คตส. กกต. ที่ผ่านมาได้ทำอะไรบ้างที่เป็นสร้างเสริมประชาธิปไตย หรือปฏิรูปการเมืองไปสู่ครรลองประชาธิปไตยนอกจากสมคบคิดกันกวาดล้างกลุ่ม…
เมธัส บัวชุม
นิตยสาร “ราหูอมจันทร์” เกิดขึ้นท่ามกลางความซบเซาทั้งทางด้านการเขียน การอ่านและการวิจารณ์ของแวดวงเรื่องสั้นไทย ราหูอมจันทร์ เป็นนิตยสารรายครึ่งปีหรือที่ทางผู้จัดทำเรียกว่ารายฤดูกาล เป็นการคัดสรรเรื่องสั้นที่มีผู้ส่งไปจากทั่วสารทิศเพื่อรวมพิมพ์เป็นเล่มบรรดาคอเรื่องสั้น ต่างวาดหวังว่าการมาถึงของราหูอมจันทร์อาจช่วยให้วงการคึกคักขึ้นมาบ้างไม่มากก็น้อย   อย่างไรก็ตาม เมื่อได้อ่านแล้ว ต้องกล่าวตามตรงว่าราหูอมจันทร์ Vol. 3 “วันปลดปล่อยผีเสื้อ” นั้นมีระดับคุณภาพที่น่าผิดหวังไม่น้อย ทางผู้จัดทำนิตยสารนี้คือกองทุน “กนกพงศ์  สงสมพันธุ์” ก็ยอมรับว่า“ราหูอมจันทร์ Vol. 3…