Skip to main content

            คงไม่มีอนิเมชั่นเรื่องใดในซีซั่นนี้ที่เรียกว่า สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับบรรดาคนดูอนิเมชั่น และ คนดูหนังหลายคนได้เท่ากับ อนิเมชั่นซีรีย์เรื่อง Oshi no Ko หรือ ชื่อไทยว่า เกิดใหม่เป็นลูกโอชิ ผลงานดัดแปลงจากมังงะขายดีของ อากะ อาคาซากะ ที่ได้ฤกษ์ออกฉายไปเมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมาในตอนแรกพร้อมกับความยาวถึงหนึ่งชั่วโมง และ กลายเป็นแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ เมื่อตอนแรกของเรื่องนี้ได้ถล่มเรตติ้งถล่มทลายทั้งใน Netflix ที่ขึ้นอันดับหนึงเพียงตอนแรก เรตติ้งในเว็บ MyAnimeList ก็ได้เรตติ้งสูงถึง 9.11 จาก 10 ทำลายสถิติที่ยืนยงของ Fullmetal Archmist : Brotherhood ลงไปสำเร็จ ไม่ใช่เพียงเท่านี้ทุกเว็บไซต์อนิเมชั่นก็ได้รับอันดับหนึ่งชนะตัวเต็งอย่าง ดาบพิฆาตอสูรซีซั่น 3 หมู่บ้านตีดาบ , Gundam : The Witch form mercury season 2 และ สุขาวดีอเวจีไปแบบไม่เห็นฝุ่น แถมเพลงเปิดของเรื่องที่ได้ Yoasobi มียอดวิวไปจนถึง 20 ล้านวิว (ในระหว่างเขียนนี้) จนเชื่อว่าน่าจะทะลุ 50 ล้านวิวได้ไม่นาน

                แถมมังงะที่พิมพ์แปลไทยโดย Luckpim ก็ขายดีจนหมดเกลี้ยง ทำเอาพวกรีเซลเอาไปขายปั่นราคากันจนถึงเล่มละ 1000 บาทก็ทำมาแล้วเรียกว่า กลายเป็นมังงะขายดีที่สุด ณ เวลานี้ไปเลย (แม้กระทั่ง Ebook ยังขายดีติด Bestseller ใน Meb แบบทันที)

OSHI NO KO Manga Comic Book Japanese Vol. 1 - 6 Set Mengo Yokoyari × Aka  Akasaka | eBay

                และที่น่าสนใจคือ ความนิยมอันน่าตกใจนี้มาจากอนิเมชั่นเพียงตอนแรกเท่านั้นเอง แค่ตอนแรกก็สร้างความสะเทือนชนิดเด็ดดอกไม้สะเทือนดวงดาวได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งที่หลายคนตั้งคำถามว่า เรื่องนี้จะไปได้แค่ไหน แม้จะมาจากมังงะยอดนิยมแต่ในซีซั่นที่อนิเมชั่นดัง ๆ มากมายจะไปได้แค่ไหน ?

                ผลปรากฏว่า ตอนแรกก็ทำให้ทุกคนบ้าคลั่งและกลายเป็นสาวกของเรื่องนี้ไปแบบไม่มีใครขัดเขินด้วยความรู้สึกว่า นี่ไม่ใช่เมะไอดอลธรรมดา แต่เราสามารถจัดเรื่องนี้ในฐานะอนิเมชั่นไอดอลที่เทียบเคียงกับ Zombieland Saga ในฐานะนาฏกรรมไอดอลที่ที่ทำให้เราเห็นภาพความมืดภายใต้แสงสปอร์ตไลท์ของดวงดาวได้อย่างชัดเจน

Sinopsis Oshi no Ko, Dokter yang Reinkarnasi Jadi Anak Idol Populer

                เกิดใหม่เป็นลูกโอชิเล่าเรื่อง โฮชิโนะ ไอ ไอดอลสาวชื่อดังอัจฉริยะที่มีแฟนคลับมากมาย และ เรียกว่า เป็นจุดสูงสุดของวงการ ทั้งถ่ายแบบ ร้องเพลง เต้นเองก็ดังแบบถล่มทลายทั้งที่อายุของเธอไม่ 20 ในระหว่างนั้นเองไอได้เผลอตั้งท้องขึ้นมาและคลอดลูกออกมาลับ ๆ เป็นฝาแฝดสองคนได้แก่ รูบี้ และ อควอ ที่ทั้งคู่คือ แฟนคลับระดับแฟนพันธุ์แท้ของไอที่เสียชีวิตไปแล้วแต่ได้มาเกิดเป็นลูกของเธอ ที่ที่ไอไม่เคยบอกว่า ใครคือพ่อของพวกเขา แต่ไอก็ยังคงใช้ชีวิตและเลี้ยงลูกทั้งสองคนอย่างดีด้วยความรักในฐานะแม่ และ ทำงานในฐานะไอดอลไปด้วย

                กระทั่งโชคชะตาก็เกิดขึ้นเมื่อ ไอได้ถูกชายลึกลับที่อาจจะเป็นสตอคเกอร์แทงเสียชีวิตโดยที่ปกป้องลูกของเธอเอาไว้ในอ้อมกอดและประตู นำมาสู่เรื่องราวของสองฝาแฝดที่ตัดสินใจที่จะตามหาว่า ใครคือพ่อของพวกเขาที่คาดว่าจะอยู่เบื้องหลังการสังหารไอ รวมทั้ง ทำความฝันของไอในฐานะไอดอลให้เป็นจริง

                โดยที่พวกเขาไม่รู้เลยว่า การก้าวย่างสู่โลกของไอดอลนั้นจะทำให้ชีวิตพวกเขาราวกับตกนรกหมกไหม้ท่ามกลางแสงสีอันสวยงามที่สาดส่องลงมาอย่างน่าสะพรึง

                ครับ คงไม่ต้องบอกว่า นี่คือแค่ตอนแรกของอนิเมชั่นที่หยิบเอามังงะเล่ม 1 มาแปลงได้อย่างลงตัวจนถึงขั้นสามารถเอาตอนนี้ตอนเดียวไปฉายโรงได้ในญี่ปุ่นและหลายประเทศ แน่นอนว่า รายได้ออกมาดีมาก ไม่พอยังได้เสียงชื่นชมจากอาจารย์ผู้เขียนว่า ทำออกมาได้อย่างมากทีเดียว

                โดยเฉพาะประเด็นเรื่องของไอดอลกับวงการบันเทิงนั้นดูจะเรียกว่า ออกมาได้อย่างเข้มข้นมาก ๆ เนื่องจากตัวเรื่องโฟกัสไปที่ไอที่เราได้พบว่า ตัวเธอที่เรียกว่าอัจฉริยะนั้นกลับเป็นคนที่โดดเดี่ยวเสียเหลือเกิน อย่างที่เราทราบไอดอลคือ กลุ่มวงนักร้องหญิงที่มารวมตัวกัน แต่ด้วยความยอดเยี่ยมของเธอนั้นทำให้เธอเป็นเหมือนดวงตะวันพราวแสงที่สาดส่องลงมาจนแผดเผาคนที่อยู่ข้าง ๆ จนหมด แม้จะได้รับเสียงชื่นชมจากแฟน ๆ แต่ไอก็ถูกเกลียดชังจากในวงการไม่ใช่น้อย โดยเฉพาะพวกไอดอลคนอื่นที่มองว่า ความอัจฉริยะของเธอทำลายทุกคนหมดสิ้น

                จึงไม่แปลกที่ ไอไม่มีใครที่รักอย่างจริงใจเลยสักคน

                พลังของไอมาจากความรักที่แฟน ๆ มอบให้ แล้ว ความรักที่ไอโหยหานั้นไซร้อยู่แห่งใดกันแน่ ?

                เราได้เห็นแง่มุมอ่อนแอของไอแทบตลอดเวลา แม้ว่าเธอจะยิ้มให้แฟน ๆ บนเวทีและงานเสมอ เธอกลับถูกคนบอกว่า รอยยิ้มของเธอมันประดิษฐ์ไม่ได้จริงใจอะไรเลย หากจะมองก็คือ มันเป็นรอยยิ้มที่มอบให้แฟน ๆ แม้ว่าในหัวใจของเธอจะหนักหนาและเจ็บปวดก็ตาม

                แน่ละว่า ไอเป็นแบบนั้นและการที่เธอโหยหาสิ่งนี้คงมาจากชีวิตรักที่ไม่สมหวัง ที่ที่เราพอเดาได้ว่า การที่มีลูกสองคนและต้องปิดบังสังคมเอาไว้เพื่อไม่ให้ใครรู้เนื่องจากอาชีพไอดอลนั้นจำเป็นต้องสร้างภาพให้บริสุทธิ์ไร้มนทิลประดุจมิโกะอันศักดิ์สิทธิ์นั้นเอง

                ความเจ็บปวดนี้ทำให้ไอแบกรับเอาไว้ แม้ผู้จัดการของเธอจะถามว่าใครคือ พ่อของลูกในท้องเธอ ตัวของไอก็ไม่บอก

                หรือว่า บอกไม่ได้กันแน่ ?

                สิ่งที่ทำให้เราตีความตรงนี้ได้คือ หรือว่า ไอนั้นจะเป็นเหยื่ออะไรที่ใหญ่โตและทำให้เธอไม่สามารถเอ่ยชื่อออกมาได้กันแน่ ?

                หรือว่า ไอยังคาดหวังว่า เขาจะกลับมารักเธอและใช้ชีวิตในฐานะครอบครัวพ่อแม่ลูกกันแน่ ?

                ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ทั้งสิ้น

                ทว่า การมีลูกนั้นเองทำให้เราเห็นว่า ไอมีความสุขอย่างมาก

Oshi no Ko, Jadwal Anime Terbaru, Sinopsis dan Lagu Pembuka yang Dibawakan  YOASOBI

                ดวงตาของไอที่ไม่เคยเปล่งประกายสวยงามกลับสะท้อนออกมาเมื่อเห็นลูกตัวเองมาเชียร์ข้างเวที (แถมชูแท่งไฟโชว์สเต็ปเทพให้ซะอีก) ไม่เพียงเท่านี้ ไอยังยิ้มออกมาแบบบริสุทธิ์ แบบที่มันควรจะเป็นไม่ใช่การปั้นแต่งอีกต่อไป

                ทุกอย่างของเธอนอกจากแฟน ๆ แล้ว เธอยังมอบให้กับลูก ๆ ของเธอด้วย

                แม้ว่า เธอจะรู้ดีว่า การเป็นไอดอลนั้นไม่ยืนยงตลอดไป ตัวของไอก็เตรียมลู่ทางเอาไว้ว่า สักวันเธอจะทำอะไรต่อไปและทำอะไรให้กับลูก ๆ ของเธออีก

                มันจึงเป็นภาพของไอที่ได้รับความรักออกมาอย่างแท้จริง  สมกับชื่อของเธอนั้นแหละ

                ทว่า เรื่องนี้ก็มอบความโหดร้ายให้เมื่อไอต้องถูกฆ่าตายในช่วงท้านตอนหนึ่งชนิดแฟน ๆ ที่ไม่ได้อ่านมังงะถึงกับอ้าปากค้าง เมื่ออนิเมชั่นไอดอลที่สดใสเรื่องนี้กลายเป็นแนวฆาตกรรมขึ้นมา ขณะที่หลายคนสะเทือนใจกับความตายของไอดอลคนนี้ที่แม้จะใกล้สิ้นลม สิ่งที่เธอห่วงคือ ลูกทั้งสองคน

                แม้ว่า เธอจะไม่อยู่แล้ว สิ่งที่ปรารถนาต่อไปคือให้ลูกสองคนมีความสุขและไม่ต้องเจอเรื่องแบบนี้อีกต่อไป

                นั่นคือ ความปรารถนาสูงสุดของคนที่เป็นแม่

                และมนุษย์

                การเสียชีวิตของไอสร้างอิมแพ็ครุนแรงให้กับคนดูอย่างมากพร้อม ๆ กับที่ทำให้เรานึกย้อนไปว่า สังคมไอดอลนั้นเต็มไปด้วยความมืดมิดเพียงใด

                ในญี่ปุ่นนั้นเรานึกย้อนกลับไปถึงคดีการแทง มายู โทมิตะ ไอดอลสาว  "ซีเครต เกิร์ลส์" ในวันที่ 21 พฤษภาคม 2016 ที่คนร้ายทำการ แทงกว่า 20 ครั้งบริเวณหน้าอกและต้นคอ เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนขึ้นเวทีแสดงคอนเสิร์ตในเขตโคงาเนะ ที่กรุงโตเกียว โชคดีที่เธอรอดชีวิตมาได้ ขณะที่ผู้ทำการก่อเหตุอ้างว่า บันดาลโทสะหลังไอดอลสาวอธิบายเหตุผลไม่ชัดเจนกรณีที่นำของขวัญที่ตนมอบให้มาคืนก่อนหน้านั้น

                ขณะที่มีรายงานคนก่อเหตุนั้นทำการสตอคเกอร์ หรือ เฝ้าติดต่อและคุกคามเธอมาสักพักแล้ว ก่อนจะถูกจับกุมในข้อหาพยายามฆ่าและทำร้ายร่างกายเธอ

                นอกจากนี้ยังมีคดีทำร้ายสมาชิกวง AKB48 ด้วยเลื่อยในปี 2014 ระหว่างงานจับมือของวง เช่นเดียวกับ คดีการข่มขู่และพยายามฆ่านักร้องและนักพากษ์สาว นานะ มิซึกิ ในปี 2016 เองก็ด้วย นี่ยังไม่รวมถึงคดีสตอคเกอร์ที่โด่งดังที่สุดในญี่ปุ่นอย่าง คดีฆาตกรรม ชิโอริ อิโน หญิงสาวที่สตอคเกอร์แฟนเก่าติดตามก่อนถูกสังหารเสียชีวิตในวันที่ 26 ตุลาคม 1999 ที่กลายเป็นหนึ่งในคดีอื้อฉาวของญี่ปุ่น ณ เวลานั้น เนื่องจากตำรวจได้รับแจ้งถึงการข่มขู่ของสตอคเกอร์คนนี้หลายครั้ง และ มีการแจ้งตำรวจโดยหญิงสาวแต่ตำรวจกลับเพิกเฉยไม่สนใจอะไรจนนำมาสู่โศกนาฏกรรมในที่สุด

                ตรงนี้คือ ตัวอย่างที่ทำให้ทางญี่ปุ่นค่อนข้างเข้มงวดกันสิ่งที่เกิดขึ้นมากขึ้น แม้จะยังมีคดีเกิดขึ้นได้เรื่อย ๆ แต่ก็มีการระวังภัยสตอคเกอร์และดูแลคุ้มครองไอดอลหรือนักแสดงมากขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดเหตุฉาวซ้ำอีก

                แต่นั้นละ สังคมญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยความเครียดจัดและความรุนแรงกับป่วยจิตเป็นของคู่กันจึงยังมีเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นเรื่อย ๆ อยู่ดี

                ไม่ใช่แค่นั้นสังคมไอดอลของญี่ปุ่นก็ยังมีภาพของการข่มเหงรังแกกันในวงการ การใส่ร้ายป้ายสี กดดัน หรือกระทั่งวาทกรรมการดูถูกเหยียดหยาม หรือวัฒนธรรมที่ผู้ชายกดขี่ทางเพศเองก็รุนแรงมากเหมือนกัน

                ตัวอย่างที่ดังมากคือ การถอนตัวออกจากวงของ ฮิราเตะ ยูรินะ หรือ เทะจิ เซ็นเตอร์ของวง Keyakizaka46 วงไอดอลชื่อดังที่มาจากปัญหาทางสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจของตัวเองที่นำมาสู่การออกจากวง (ที่ไม่ใช่จบการศึกษา) ส่งผลให้เทะจิเป็นไอดอลสาวที่ออกจากวงด้วยเหตุผลบางอย่าง และ การออกจากวงของเธอทำให้วงนี้ล่มสลายต้องรีแบนด์ใหม่กันทีเดียว

                ไม่ใช่แค่ญี่ปุ่น วงการไอดอลของเกาหลีเองก็เหมือนกัน โดยเฉพาะการเสียชีวิตของ จงฮยอน จาก วง Shinee ที่ฆ่าตัวตายในบ้านพักตัวเอง ในปี 2017 ตัววงการไอดอลเกาหลีก็มีทั้งข่าวการฆ่าตัวตายของไอดอลและดารานักแสดงหลายคนอันมาจากความเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจของพวกเขาทั้งจากชีวิตส่วนตัว และ เรื่องในวงการไปด้วย

                แม้กระทั่งไทยเราเอง ไล่เลี่ยกับการออกฉายอนิเมชั่นเรื่องนี้นั้นได้เกิดเหตุการณ์สตอคเกอร์พยายามคุกคานักร้องและคอสเพลย์เยอร์สาว มินตัน ทาสกระดาน อีกครั้ง หลังจากเคยมีเรื่องเกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน แต่ตัวสตอคเกอร์คนนี้ยังไม่ยอมหยุดพฤติกรรมเดิมและยังคุกคามนักร้องสาวคนนี้ถึงขั้นจะติด GPS ที่รถยนต์ของนักร้องคนนี้ทีเดียว ทำเอาทั้งน้องมินตันต้องออกมาขอให้ทางตำรวจช่วยจัดการเรื่องนี้ เช่นเดียวกับโซเชี่ยลที่อยากให้ช่วยจัดการเรื่องนี้ ไม่เช่นนั้นจะเกิดกรณีเลวร้ายขึ้นก็ได้

                แต่ปัญหาคือ ตำรวจและฝ่ายกฎหมายยังไม่ทำอะไรเลย เนื่องจากยังไม่เกิดเรื่องขึ้นทำให้ สตอคเกอร์คนนี้ยังคงคุกคามนักร้องสาวคนนี้ต่อไปโดยไม่มีใครจะหยุดได้

                พร้อมกับวัฒนธรรมการโทษเหยื่อบนโซเชี่ยลที่ยิ่งส่งเสริมให้เหยื่อเหมือนถูกทำร้ายซ้ำสองอีกต่างหาก

                โดยเฉพาะกฎหมายที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับสตอคเกอร์แต่อย่างใด

                เนื่องจากกฎหมายของบ้านเราไม่ได้มีโทษตรงนี้ แถมถ้าไม่ได้ทำอะไรหรือเกิดเรื่องก่อนก็ทำอะไรไม่ได้ กลายเป็นเหยื่อเสียเองที่ต้องเผชิญหน้ากับการคุกคามนี้เพียงลำพังโดยที่ทำอะไรไม่ได้เลย

                หรือล่าสุดกับข่าวการเสียชีวิตของเน็ตไอดอลสาว จีจี้ ที่ถูกแฟนหนุ่มของเธอยิงเสียชีวิตในคอนโดตัวเอง ก่อนที่แฟนหนุ่มของเธอจะทำการฆ่าตัวตายพร้อมกัน ซึ่งมีการเปิดหลักฐานต่าง ๆ พบว่า มีทั้งการข่มขู่และทำร้ายร่างกายมาตลอดที่สำคัญคือ ญาติของผู้ทำการจะรู้เห็นเป็นใจอีกต่างหากก็ยิ่งสะท้อนให้ภาพของความมืดมิดนี้ได้อย่างชัดเจน

                ดั่งเช่นที่ ผู้จัดการส่วนตัวของ น.ส. สุพิชชา ว่า ก่อนหน้านี้ เธอโดนฝ่ายชายทำร้ายร่างกายอย่างหนักมาบ่อยครั้ง "เรื่องการโดนทำร้ายร่างกาย เคยโดน โดนบ่อย โดนหนัก จนเลิกรากันไป และเพิ่งมีการกลับมาเคลียร์ใจกันไม่นาน ก่อนเกิดเรื่อง" (ข้อความสัมภาษณ์จาก BBCthai)

                ขณะที่พ่อของจี้จี้ได้สัมภาษณ์ว่า

                “ลูกสาวกับฝ่ายชายเคยคบกันและเลิกรากันแล้ว จากนั้นเมื่อช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา จีจี้ บอกกับน้องสาวว่า “ถูกฝ่ายชายทำร้ายร่างกาย จึงย้ายคอนโดฯ หนี มาเช่าอยู่ที่คอนโดที่เกิดเหตุเดือนละ 20,000 บาทเศษ” (ข้อความสัมภาษณ์จาก BBCthai)

                การเสียชีวิตของเธอเป็นข่าวที่ทำให้หลายคนต้องหันมาตั้งคำถามถึงเรื่องราวความมืดมิดของความรัก

L O L A on Twitter:  "การตายของชิโอริได้กลายเป็นแผลใจของพ่อแม่เพราะนอกจากลูกสาวจะตายแล้วยังโดนคนทั้งประเทศด่าฟรี  คดีนี้เป็นจุดเปลี่ยนกฎหมายต่อต้านการคุกคามและสตอล์คเกอร์ของญี่ปุ่น  ซึ่งก่อนหน้าคดีนี้ไม่มีข้อกฎหมายนี้มาก่อนเลย (แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีหลายคน ...

                เหมือนเช่น หลังการเสียชีวิตในคดีฆาตกรรม ชิโอริ อิโน ในปี 1999 แล้ว ทั้งตำรวจและสื่อมวลชนญี่ปุ่นถูกตำหนิอย่างมากในคดีนี้

                เนื่องจากตำรวจได้ทำการปล่อยข่าวไปว่า ชิโอริ อิโน เป็นผู้หญิงส่ำส่อน เป็นคนหิวเงิน หลอกลวงผู้ชายทำให้สื่อมวลชนจำนวนมากออกข่าวแบบนี้เพื่อให้เห็นว่า เธอทำตัวเองนี่สมควรตายแล้ว หรือ เห็นใจผู้ร้ายอีกต่างหาก แต่โชคดีที่มีสื่อจำนวนหนึ่งไม่เชื่อแล้วสืบเรื่องนี้ก่อนจะช่วยแก้ไข เธอเป็นแค่นักศึกษาธรรมดาและมีอนาคตไกลมากส่งผลให้ตำรวจถูกดดันซ้ำจนจับกุมคนแทงเธอได้ ส่วนแฟนเก่าที่อยู่เบื้องหลังนั้นกระโดดน้ำฆ่าตัวตายพร้อมจดหมายสารภาพผิด

                ไม่ใช่เพียงแค่นี้ตัวน้องชายของคนร้ายที่ร่วมวางแผนก็ถูกจับในข้อหาวางแผนฆาตกรรมและยังติดคุกพร้อมกับบรรดามือสังหารที่ฆ่าชิโอริ อิโน ด้วย

                ส่วนตำรวจที่เลิ่นเล่อได้รับโทษเพียงเล็กน้อยแค่ตัดเงินเดือนเท่านั้นเองทั้งที่ถ้าพวกเขาใส่ใจหน่อยก็คงไม่ให้เธอคนนี้ต้องตายแล้ว

(หนังสือจากคดีฆาตกรรมชิโอริ อิโน)

                จนปี 2000 ญี่ปุ่นได้ออกกฎหมายใหม่มาในชื่อ กฎหมายต่อต้านสตอล์กเกอร์ให้อำนาจเจ้าหน้าที่จัดการดำเนินคดีบุคคลที่มีพฤติกรรมติดตามคุกคามคนอื่นแบบที่ชิโอริเจอได้เลย โดยในปี ค.ศ.2017 มีการปรับแก้ขยายความกินรวมไปถึงการคุกคามในโลกออนไลน์ด้วย พร้อมเพิ่มโทษสตอล์กเกอร์จากจำคุก 6 เดือนเป็นจำคุก 1 ปี ซึ่งตำรวจสามารถดำเนินการได้เลย แม้จะไม่มีผู้เสียหายแจ้งความก็ตาม (ขอบคุณข้อมูลจาก The matte) แม้จะยังมีคดีพวกนี้บ้างก็ยังป้องไม่ให้เกิดขึ้นได้มากขึ้นกว่าเมื่อก่อน

                ซึ่งเราได้แต่หวังว่า การเสียชีวิตจะไม่มีเกิดขึ้น หรือ อย่างน้อยให้มันน้อยลงและป้องกันได้มากกว่านี้เถอะ

                แบบที่โฮชิโนะ ไอ เจอนั้นขอให้เป็นคนสุดท้ายเถอะ

                ดังนั่น อนิเมชั่นเกิดใหม่เป็นลูกโอชิจึงเป็นภาพสะท้อนที่น่ากลัวภายใต้แสงสปอร์ตไลท์สีสันสวยงามอันนี้ ภายใต้ความสวยงามย่อมมีความมืดมิดซ่อนอยู่เสมอ

                ทั้งวงการบันเทิงที่เต็มไปด้วยกิเลศ ตัณหา มายาอันลึกล้ำราวกับทะเลอันกว้างใหญ่ แน่ละว่า อาจารย์คนเขียนท่านนี้คือ คนเขียนเรื่อง สารภาพรักกับท่านคางุยะซะดี ๆ ที่พึ่งจบไป แม้ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเลิฟคอมเมดี้ตลกก็ตาม แต่กลับแฝงไปด้วยภาพโลกของคนรวยที่เต็มไปด้วยความสกปรก เลวร้ายที่แฝงเข้ามาได้อย่างถึงพริกถึงขิง การหลอกลวงการปลิ้นปลอกที่ทำให้เรื่องนี้เคยเป็นหนึ่งในอนิเมชั่นดังมาแล้ว และ ครั้งนี้เขาพาเรามาสำรวจเรื่องนี้อีกรอบในประเด็นที่ใหญ่ขึ้น

(ภาพโปรโมทจากเรื่อง เกิดใหม่เป็นลูกโอชิกับ สารภาพรักกับคุณคางุยะซะดี ๆ)

                ทั้งความรักที่ทำให้คนมีความสุขมีความทุกข์หรือกระทั่งกลายเป็นปีศาจได้

                เช่นเดียวกับมนุษย์ที่ยากจะดำดิ่งและคาดเดาได้

                รัก โลภ โกรธ หลง หล่อหลอมให้เป็นมนุษย์

                ไม่แปลกที่เพียงแค่ตอนแรกทุกคนก็รับรู้ได้ว่า อนิเมชั่นเรื่องคือ เรื่องราวของมนุษย์ อย่างแท้จริง และ ทำให้เราติดตามเรื่องราวต่อว่า บทสรุปของสองพี่น้องฝาแฝดนี้จะจบลงอย่างไร ?

Oshi no Ko เกิดใหม่เป็นลูกโอชิ ตอนที่ 1-2 ซับไทย | Anime-Kimuchi  ดูอนิเมะซับไทย อนิเมะพากย์ไทย ดูการ์ตูนออนไลน์

                ติดตามได้ใน Netflix และบรรดาแอปอนิเมชั่นทั้งหลายได้ในทุกวันพุธนะครับ

 

ป.ล. บทความประกอบการเขียน

https://thematter.co/thinkers/murder-of-shiori-ino/138531

https://workpointtoday.com/%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%87%E0%B8%AE%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%99-%E0%B8%86%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%83/

https://www.bbc.com/thai/articles/cqqzlkz32r9o

 

 

บล็อกของ Mister American

Mister American
ถ้าเอ่ยชื่อของไมเคิ่ล ฮานาเก้ ถ้าไม่ใช่แฟนหนังจริงๆหลายคนอาจจะไม่รู้จักเขาเท่ากับผู้กำกับคนอื่นๆอย่าง ไมเคิ่ล เบย์ สปีลเบิร์กหรือคาเมร่อนก็ตาม แต่ถ้าพูดถึงสิ่งที่หลายคนมารู้จักผู้กำกับจากยุโรปได้ก็คงไม่พ้นนิยามหนังของเขาที่หลายให้คำว่า โหดเหี้ยม เลือดเย็น และน่าขนลุก โดยหนังที่หลายคนมักจะ
Mister American
(เนื้อหาบทความนี้อาจะเปิดเผยความลับของภาพยนตร์)  ผมเชื่อว่าทุกคนเคยมีความฝัน ครั้งหนึ่งเมื่อสมัยที่ฮีโร่ของญี่ปุ่นอย่าง อุลตร้าแมน ไอ้มดแดง ขบวนการห้าสีบุกจอโทรทัศน์ หลายคนในตอนนั้นยังเป็นเด็กตัวน้อยๆที่เฝ้ารอคอยหน้าจอที่สัปดาห์เพื่อจะได้ชมฮีโร่ของตัวเองปราบปรามเหล่าร้ายในหน้าจอที่หวังยึดครองโลก เราได้สนุกสนานกับการผจญภัยของพวกเขา บางคนอาจจะถึงขั้นอยากเป็นฮีโร่กับเขาบ้างเลยทีเดียว หรือบางคนอาจจะใฝ่ฝันที่จะได้เห็นฮีโร่ตัวจริงด้วยสายตาของตัวเอง  ซึ่งเด็กชายที่ชื่อ ฟิล โคลสัน คือหนึ่งในนั้น
Mister American
ครั้งหนึ่งเมื่อภาพยนตร์เรื่อง เฉือน ของผู้กำกับก้องเกียรติ โขมศิริ ได้ลงโรงฉายชนกับภาพยนตร์รัก Feel Good อย่างรถไฟฟ้ามาหานะเธอนั้นหลายคนที่ไปชมเรื่องนี้ต่างอึ้งกับภาพความโหดร้าย ของฆาตกรต่อเนื่องของไทยที่คาดว่าจะเป็นภาพยนตร์ฆาตกรต่อเนื่องที่น่าสนใจ เรื่องหนึ่ง และมีคำถามขึ้นมาว่า