มองโลก มองบ้านเมือง เห็นอะไรเน่า ๆ แล้วก็สะท้อนใจ บางทีการรักบ้านรักเมืองในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ก็ต้องพบกับความขัดแย้งทางความคิด หลายบ้านอยู่ร่วมกันได้ หลายคนทะเลาะกัน ยุคที่บ้านเราปิดปากประชาชนด้วยอำนาจเถื่อน ในวงวรรณกรรมก็หาทางออกด้วยการเขียนวรรณกรรมหวานเย็น หรือนิยายน้ำเน่าทั้งหลาย เพราะคนถูกปิดหูปิดตาบังคับให้เชื่อในสิ่งที่เขานำเสนอเท่านั้น ไหน ๆ ใจก็เน่าแล้ว นำเสนอเรื่องเน่า ๆ เสียเลยเป็นไง สมัยนั้นเรายังเด็ก มารู้มาเห็นสภาพบ้านเมืองที่สะท้อนออกมาในวรรณกรรมก็เมื่อเข้ามาเรียนหนังสือในฐานะนักเรียนวรรณคดี
มาถึงยุคนี้ ยุคที่คิดว่าต้นไม้ทางความคิดของคนไทยเริ่มเติบโต แว่นตาสำหรับมองโลกปรับเปลี่ยนไปตามสายตาสั้น ยาว เอียง และถูกปรับให้มองได้ในองศาที่ใกล้เคียงกัน ทำให้มองเห็นภาพได้ชัด ชัดจนไม่อยากเห็น ดูข่าวทีก็ใจขึ้น เห็นผู้ใหญ่ที่พยายามใส่แว่นผิดเบอร์ แล้วบอกลูกหลานว่าภาพที่เห็นนี่แหละชัดแจ๋ว ไอ้ที่ชัด ๆ น่ะ เบลอเบี้ยวไม่ได้เรื่อง
จนบางทีก็งงว่านี่เราสายตาเพี้ยนหรือเขาเพี้ยนกันแน่
ฟังไปบ่นไปค่ะ สัปดาห์นี้แนะนำเพลงของน้าจ๊อบ บรรจบ เจ้าของเพลงดังอย่าง ดูเธอทำ เพลงของน้าจ๊อบดีทุกเพลง เป็นเร้กเก้ เนื้อหาป๊อบ ที่หากซูเปอร์สตาร์นำไปร้องหลายเพลงดังได้ง่าย ๆ เพลงนี้ชื่อเพลงกอดฉันไว้ เนื้อเพลงปลอบประโลมคนอกหัก แต่เป็นการปลอบของคนผ่านโลก ผ่านพายุฝนมามาก ดนตรีใส เสียงไร้จริต จึงเป็นเพลงที่ฟังแล้วอบอุ่น จริงใจ อีกเพลงหนึ่ง
ลืมไปได้เลย เรื่องที่เคย ผ่านมา ให้แล้วไป
รู้ เธอไม่ตั้งใจ ให้มันพลั้ง พลาดไปอย่างวันนั้น
ฉันไม่เคยแคร์ และแม้ว่าใครจะคิดอะไรไม่สำคัญ
ขอเพียงเธอ อย่าไหวหวั่น
เรายังเริ่มกันได้ใหม่
สบตากับฉัน เชื่อในฉัน เรื่องของวันวาน ไม่ต้องมาใส่ใจ
ที่เคยเปียกฝน เดี๋ยวก็คงแห้งไป แค่กอดฉันไว้ ฮืม..
เขามองไม่เห็นค่า อย่าไปสนปล่อยเขาช่างเขาไป
เสียแล้วก็เสียไป ไม่ต้องคิดสิ่งใดให้หนักหนา
เพราะเรื่องวันวาน จะทำอย่างไร ก็ไม่มีทางเรียกคืนมา
คิดถึงวันพรุ่งนี้ดีกว่า วันเวลาที่โลกเป็นของเรา
สบตากับฉัน เชื่อในฉัน เรื่องของวันวาน ไม่ต้องมาใส่ใจ
ที่เคยเปียกฝน เดี๋ยวก็คงแห้งไป แค่กอดฉันไว้ วันนี้ฉันรักเธอ