Skip to main content

 

 
 
ช่วงนี้จำศีลหลบลมร้อนที่บ้านด้วยการช็อปหนังราคาถูกจากฝั่งพม่าท่าขี้เหล็กมาดู เริ่มจากซีรี่หนังเรื่องเฟรนด์ ที่ดูเป็นครั้งที่ 2
 \\/--break--\>
เฟรนด์เป็นเรื่องของคนกลุ่มหนึ่งอยู่อพาร์ทเมนท์เดียวกัน มีความสัมพันธ์กันแบบเพื่อน บางคู่เป็นคู่รักกัน แต่ทุกคนมีพื้นฐานของความเป็นเพื่อน หนังสนุกด้วยมุกอารมณ์ดีแบบมองโลกในแง่บวก วันก่อนประทับฉากที่ฟีบี้ ตัวละครที่มีบุคลิกแปลกประหลาดออกแนวศิลปิน ฮิปปี้ เป็นตัวของตัวเอง เป็นมังสวิรัติ รักธรรมชาติและสัตว์
 
ฟีบี้มีพื้นฐานครอบครัวแตกร้าว พ่อแม่ตาย ยายเลี้ยงมา และถูกหลอกโดยผู้ใหญ่มาโดยตลอด เช่นยายหลอกว่าผู้ชายที่อยู่ในกรอบรูปนั้นคือพ่อของฟีบี้ (หมายถึงรูปตัวอย่างในกรอบรูปตามร้าน อาจเป็นดารา หรือใครก็ไม่รู้) ฟีบี้ก็เชื่อ จนกระทั่งเพื่อนซื้อกรอบรูปมาแล้วเธอถามเพื่อนว่า ทำไมมีรูปพ่อของเธออยู่ด้วย
 
จนอยู่มาวันหนึ่งฟีบี้อยากรู้เรื่องราวของพ่อจึงสืบไปถึงผู้หญิงที่เป็นเพื่อนบ้าน ปรากฏว่าผู้หญิงคนนั้นคือแม่แท้ ๆ ของเธอ เธอช็อค และรับไม่ได้กับการสูญเสียครั้งแล้วครั้งเล่า และครั้งนี้แม้ว่าเธอได้แม้แท้ ๆ กลับมาแต่ของแถมคือการหลอกลวงอันยาวนานของผู้ใหญ่
 
จนวันหนึ่งมีแมวตัวหนึ่งหลงมาหาเธอ ๆ บอกเพื่อน ๆ ว่า เธอคิดว่าแม่ที่ตายไปสิงอยู่ในร่างแมวตัวนี้ ทุกคนอ้ำอึ้ง แต่ก็จนใจกับความสุขของฟีบี้ และมีเด็กคนหนึ่งประกาศหาแมวที่หายไป คือแมวตัวที่เป็นแม่ของฟีบี้ตัวนี้ เพื่อนคนหนึ่ง คือ รอส เป็นนักวิทยาศาสตร์ เขายอมรับไม่ได้กับสมมุติฐานของฟีบี้ ทุกคนยื้อหลายวันไม่มีใครกล้าบอกฟีบี้ จนกระทั่งรอสมาพบอีกครั้ง เขาบอกความจริงกับฟีบี้ และขอให้นำแมวไปคืนเด็กคนนั้นซะ 
 
รอสจ้องตาฟีบี้
ฟีบี้จ้องตอบรอส แล้วถามว่า ในชีวิตของเธอเคยสูญเสียพ่อแม่ไปแล้วกี่ครั้ง !!!
 
…………….
 
ทุกคนมีมุมมองของตัวเอง ฟีบี้บอกว่าเธอคิดว่าแมวตัวนี้เป็นแม่ของเธอ เธอมีความสุข นอกจากแม่แล้ว แมวตัวนี้ยังเป็นเพื่อน เป็นรูมเมท เธอมีความสุขกับแมวตัวนี้ แต่ไม่เป็นไรเธอจะนำแมวตัวนี้ไปคืนเจ้าของ และฟีบี้ก็บอกแมวว่า ถ้าแม่คิดถึงลูกก็มาเยี่ยมได้ทุกเวลาเลยนะ
 
ดูไปเหมือนไร้สาระ แต่มุมมองโลกในแง่บวกของแม่ แมว และเพื่อน ทำให้ดูหนังเรื่องนี้แล้วอิ่มเอม เห็นโลกในมุมที่เรานึกไม่ถึง หนังบิ๊วอารมณ์เราให้ดูว่าฟีบี้ไร้สาระ งมงาย คิดว่าวิญญาณของแม่มาสิงสู่อยู่ในแมวได้ยังไง สงสารเด็กเจ้าของแมว แต่ตอนที่ฟีบี้ตอบคำถามเพื่อนนั้น คนดูก็ยังอึ้งเหมือนกัน
 
โลกไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด ไม่ได้ทุเรศอย่างที่เราเห็น บางครั้งดีอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ไอ้ที่ดี ๆ บางทีก็แย่จนนึกไม่ถึงเหมือนกัน
 
ใช่ไหม

 

บล็อกของ โอ ไม้จัตวา

โอ ไม้จัตวา
ได้มีโอกาสไปแอ่วเมืองน่านเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว หลังจากไม่ได้ไปมาเป็นสิบปี ไปคราวนี้คนที่ไปด้วยก็แทบไม่เคยไปเลย มีเราคนเดียวที่มาบ่อยที่สุด กระนั้นก็นับได้ประมาณสี่ครั้ง ความที่เมืองน่านเป็นเมืองที่จะว่าไกลก็ไกล จะว่าไม่ไกลก็ไม่ไกลนัก ขับรถจากเชียงใหม่ 5 ชั่วโมงรวมเวลาพักรถกินกาแฟที่เด่นชัย ขับรถเส้นทางนี้ขอแนะนำร้านกาแฟสดเด่นชัย ตรงริมแม่น้ำ เชิงสะพานทางไปลำปาง กาแฟเค้าดีจริงๆ หรือหากใครดื่มกาแฟไม่ได้ ถ้าได้ผ่านไปที่อ.ร้องกวาง จ.แพร่ แวะตลาดสด มีร้านหนึ่งขายเมี่ยง ใช้อมตอนขับรถง่วง ๆ ได้ผลดี เพราะเมี่ยงเป็นใบชาชนิดหนึ่งมีคาเฟอีนเหมือนกัน เราชอบกินเมี่ยงเพราะไม่ขับปัสสาวะเหมือนกาแฟ  
โอ ไม้จัตวา
  รูปนี้ก็ต้องจับกล้องนิ่ง ๆ เพราะถ่ายท้องฟ้าตอนเย็น
โอ ไม้จัตวา
 คำถามเดิม ถ่ายยังไงให้ดีให้สวย คำตอบแบบกำปั้นทุบกล้องเลยคือ มองให้เห็นความงาม ซึ่งตรงนี้ขอเน้นย้ำว่า “ความงามเป็นเรื่องปัจเจก” เป็นเรื่องของใครของมัน กล้องก็ของเรา เราถ่ายเราก็เอาไปดู และชื่นชมอย่างน้อยก็กับตัวเอง คนอื่นจะว่าอย่างไรก็ช่างไม่ต้องสนใจ ถ้าเราเห็นว่างาม...ถ่ายเลย
โอ ไม้จัตวา
  หลายคนถามว่าถ่ายรูปอย่างไรให้สวย ช่วยสอนหน่อยได้ไหม ความที่ไม่ได้ร่ำเรียนเรื่องการถ่ายภาพมาอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ทำให้เราสอนเป็นเรื่องเป็นราวไม่ได้เช่นกัน คำตอบที่บอกไปส่วนใหญ่จะบอกแบบโยนกล้องให้แล้วไปหาเอา
โอ ไม้จัตวา
  ไปกินปลาสะแงะมาแล้ว รสชาติและเนื้อคล้าย ๆ กับปลาคังน่ะ ร้านที่ไปกินเป็นร้านอาหารอร่อยด้วยรสมือคนปรุง ชื่อร้านน้องเบส ขอแนะนำ เป็นห้องแถวสองคูหา นอกจากปลาสะแงะที่น่าลิ้มรสแล้ว สิ่งที่พลาดไม่ได้อีกเมนูหนึ่งของร้านนี้คือ เห็ดหอมทอดซีอิ้ว ที่มีน้ำจิ้มสีเขียวสูตรของร้านนี้โดยเฉพาะ อร่อยจริง ๆ
โอ ไม้จัตวา
ภาพจาก www.thailandoutdoor.com ไปปายคราวที่แล้ว ได้ยินชื่อปลาสะแงะในเมนูร้านอาหารร้านอร่อย (ร้านน้องเบส เห็ดหอมทอดอร่อยด้วยน้ำจิ้มสีเขียว) แต่ก็ไม่ได้กิน ถามใครก็ตอบไม่ได้ว่าเป็นปลาอะไร ดียังไง ทำไมต้องปลาสะแงะ จนกระทั่งมาเจอข้อเขียนของคุณ’รงค์  วงษ์สวรรค์ ที่เคยเขียนไว้ถึงปลาชนิดหนึ่งชื่อปลาไหลหูดำ “ปลาไหลหูดำ  โอว  หี่  เหมา  ปรุงรสน้ำแดงกับเห็ดหอมและผักบุ้ง--เอ้งฉ่าย   ปลานี้อิมพอร์ทเข้ามาจากฮ่องกงราคาแพงและมีกินในฤดูเดือนเท่านั้น แต่บางคนบอกความลับว่า  พรานปลาแถบลุ่มน้ำตาปีภาคใต้นำมาส่งอย่างไม่เปิดเผยเพื่อการผดุงราคาเหนือกว่าปลาอื่น…
โอ ไม้จัตวา
http://blog.palungjit.com/uploads/s/saochiangmai/3152.mp3 เพลงน้องน้อยแพนด้า สำหรับดาวน์โหลดค่ะ แพนด้าไม่ใช่หมี แพนด้าคือแพนด้า
โอ ไม้จัตวา
  ความที่ปายเป็นเมืองโรแมนติก เมืองที่อยู่สบาย ล้อมรอบด้วยภูเขา มีแม่น้ำเล็ก ๆ ไหลผ่าน เหมือนภาพในฝัน ในนิทานยังไงยังงั้น จึงมีผู้คนจำนวนหนึ่งย้ายนิวาสสถานมาอาศัยอยู่ที่ปาย บางคนมานอนอ่านหนังสือ พักผ่อน เช่าบ้านอยู่นาน ๆ เป็นจุดแวะพักในซอกมุมหนึ่งของโลก ก่อนจะออกเดินทางต่อไป  
โอ ไม้จัตวา
ดอกไม้ริมทาง ใครจะนึกบ้างว่าเมืองที่ “อะไรก็ปาย” ในพ.ศ.นี้ เคยเป็นดินแดนสำหรับเนรเทศผู้กระทำความผิดมาก่อน ย้อนหลังไปไกลเจ็ดร้อยกว่าปี เมื่อเริ่มสร้างเมืองเชียงใหม่ขึ้นในพ.ศ. 1839 ในสมัยราชวงศ์มังรายปกครองเชียงใหม่นี้ ปายก็เป็นเมืองหน้าด่านเมืองหนึ่งของเชียงใหม่ ในชื่อว่า “เมืองน้อย” ซึ่งปัจจุบันบ้านเมืองน้อย (อยู่ระหว่างปายกับอ.เวียงแหง) เป็นหมู่บ้านของชาวปกากญอ อยู่ต้น ๆ ของแม่น้ำปาย
โอ ไม้จัตวา
  ได้เวลาพารถคันน้อย ๆ ไปออกกำลังกายอีกแล้ว คราวนี้ไปแบบไม่รู้อะไรเลย บ้านวัดจันทร์ ฉันรู้จักในนามป่าสนวัดจันทร์ ความที่ชอบต้นสนสองใบ สามใบ และไม่เคยแยกออกสักทีว่าอย่างไหนสองใบ หรือสามใบ แต่ที่ชอบคือใบฝอย ๆ เวลามองไกล ๆ แล้วดูเป็นฟู่ ๆ สวยดี ใบสนไม่มีน้ำ ยามหน้าแล้งจึงยังเขียวอยู่เนื่องจากมีน้ำมันอยู่ข้างใน
โอ ไม้จัตวา
คนปาย
โอ ไม้จัตวา
ตื่นเช้ามาด้วยอาการแฮ้งค์ดาวแดงอย่างสุดชีวิต ความที่เคมีในร่างการเริ่มปฏิเสธดาวดาวสีแดงดวงนี้ ทำให้ชีวิตฉันง่ายขึ้นเมื่อต้องชะตากับลีโอ จนเพื่อนร่วมทางบอกว่าเธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่กินลีโอ