Skip to main content

เพื่อชาติ เพื่อประชาธิปไตย หลังจากเดินเล่นในสวนเขียว ๆ มาพักหนึ่ง ความเป็นจริงก็เริ่มปรากฏ เศรษฐกิจแย่ลง จากสองปีก่อนคนบอกว่าขาลง ปีที่แล้วเผาจริง ปีนี้เผาจริงกว่า บอกตัวเองว่าเอาเถอะ เป็นไงก็เป็นกัน เกิดเป็นคนไทยแล้วนี่นา คงไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่านี้อีกแล้ว

 

ชัยชนะที่ผลัดกันชมระหว่างผู้ขับไล่ และผู้อยู่ไกลบ้าน แล้วในที่สุดเขาก็รักกัน เป็นพี่น้องกัน คนที่แทบฆ่ากันตายกลับกลายเป็นนายกที่ดีที่สุด เกิดอะไรขึ้นกับชายชาติทหาร หลายคนเดินคอตกกับความผิดหวังที่รู้สึกว่าเราถูกหลอก หลายคนกุมหัวใจมั่นแล้วบอกตัวเองว่า ไม่เป็นไร ณ เวลานั้นเราทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว เราทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ เมื่อเหตุการณ์มันเปลี่ยนไปแบบนี้ก็อย่าหวังว่าจะลุกขึ้นมาทำอะไรอีก กลับบ้านใครบ้านมัน เซาะว่าหากินไปตามเรื่องดีกว่า

 

กระบอกปืนออกไป การเลือกตั้งกลับมา รอบแรกเลือกตั้งผู้แทนราษฎร ก่อนปีใหม่ ร้านรวงในเชียงใหม่เจอวิกฤติสปิริตไปห้าวัน คือ สัปดาห์เลือกตั้งล่วงหน้า ห้ามขายเหล้าไปสามวัน สัปดาห์เลือกจริงอีกสองวัน หลายร้านขายเหล้าเป็นหลัก จึงต้องปิดร้านไปในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งเป็นไฮซีซั่น หลายธุรกิจต้องเช็ดเหงื่อกันถ้วนหน้า เพื่อบ้านเมืองไม่ทำได้อย่างไร นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติบ่นกันอุบ

 

สัปดาห์นี้เลือกตั้ง ส.. แทบไม่รู้ตัว มาเหมือนเดิมห้าวันสุดสัปดาห์ ถัดจากเลือกตั้ง ส.. มีเลือกตั้ง ส..อีก เจออีกห้าวัน

 

ขายไปบ่นไปค่ะ เพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้ดีไปกว่านี้ ฟังเสียงบ่นว่าของนักท่องเที่ยวที่ไม่อาจดื่มกินได้ แม้ว่าจะหิ้วเหล้าเข้ามาเอง เพราะหนังสือจากสถานีตำรวจนั้นห้ามจำหน่ายจ่ายแจก ห้ามให้ใช้สถานที่สำหรับดื่มสุรา

 

แต่ก็มีเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เจอเข้ากับตัวเองเต็ม ๆ คราวเลือก สส. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจขอดื่มเบียร์ เราไม่ขาย เขาบอกว่าไม่เป็นไร เขาเป็นตำรวจ

 

คราวนี้มีผู้พิพากษา (ซึ่งไม่รู้ว่าจริงหรือปลอม) หิ้วเหล้าเข้ามา บอกว่าเหลือสามแก้ว อยากนั่งฟังเพลง เราบอกว่าขายไม่ได้ ให้ดื่มก็ไม่ได้ เป็นความผิด กฎหมายเลือกตั้งไม่เหมือนวันพระวันโกน ขายน่ะเราอยากขายใจจะขาด เขายังยื้อที่จะดื่มให้ได้ บอกว่าตะกี้มาจากอีกร้านหนึ่งเขาให้ดื่ม เนี่ยไม่สนุกเลยอุตส่าห์มาเชียงใหม่ เรายังยืนยันว่าไม่ได้ เราทำผิดไม่ขึ้น ค่าปรับสองหมื่น เขาบอกเขาจ่ายเอง เราบอกเราก็ผิดกฎหมายด้วย เขาบอกกฎหมายอะไร กฎหมายเขาห้ามจำหน่าย เขาเป็นผู้พิพากษา จะดูบัตรไหม แล้วทำท่าล้วงบัตร แต่ไม่ควักออกมา

 

ฉันมองนิ่ง ๆ แล้วส่ายหน้ายืนยันว่าไม่

 

บางภาวะเราก็ต้องกล้ำกลืนความรู้สึกให้มากที่สุด ในใจอยากบอกเขาว่าถ้าคุณเป็นผู้พิพากษาจริง คุณควรทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ประชาชนเพราะคุณเป็นผู้ใช้กฎหมายในการ “พิพาก” ณ เวลานั้นแม้แต่แมวในร้านก็ยังรู้สึกว่าถ้าเป็นผู้พิพากษาจริงเขาไม่อวดบัตรกันหรอก เราจึงไม่สนใจพูดกับเขา และยืนมองเขานิ่ง ๆ เมื่อเขาเดินผ่านหน้าไป

 

เขาหลบตา...

 

เมื่อไรบ้านเมืองเราจะมีพลเมืองที่เชื่อถือได้ในความซื่อสัตย์สุจริต โดยไม่ต้องมีข้อห้ามเพื่อป้องกันการดื่มกิน การซื้อเสียงในรูปแบบต่าง ๆ เพราะในความเป็นจริงแล้ว เมื่อรัฐห้ามดื่มกินในวันก่อนหน้าและวันเลือกตั้ง ก็ยังเหลือวันอื่น ๆ อีกมากมายให้คนเฉลิมฉลอง

 

อยากเที่ยวเชียงใหม่แบบย้อนยุค ขอเชิญสุดสัปดาห์นี้นะคะ บ้านเมืองเงียบเชียบ ดูเป็นเมืองศีลเมืองธรรม มีวัฒนธรรมของตัวเองยังไงไม่รู้ ถ้าใครมีโอกาสมาขอแนะนำโปรแกรมเที่ยวง่าย ๆ ช่วงนี้

 

เช้าใส่บาตรที่ลานครูบาศรีวิชัยมีพระเณรเดินเป็นเส้นเป็นสายไม่แพ้หลวงพระบาง สาย ๆ ก็เดินสายเที่ยววัดในเมืองเชียงใหม่ แนะนำวัดสวนดอก ไว้พระเจ้าเก้าตื้อ ชมกู่ของเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ วัดป่าแดง หลังม..เข้าซอยด้านประตูวิศวะ เป็นวัดที่พระสุมณเถระ พระสงฆ์รูปแรกที่นำพุทธศาสนาเข้ามาสู่อาณาจักรล้านนาได้มาจำพรรษาอยู่ที่นี่ (สมัยพระยากือนา) วัดพระสิงห์ชมวิหารลายคำ วัดเจดีหลวง ไหว้เสาหลักเมืองเชียงใหม่ วัดบุปพารามที่ถนนท่าแพ มีวิหารเก่าที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงสร้างไว้ตั้งแต่สมัยเสด็จผ่าน ยังเก่าแก่โบราณอยู่ท่ามกลางย่านธุรกิจของเมืองเชียงใหม่ วัดเจ็ดยอด เป็นวัดที่เคยสังคายนาพระไตรปิฎกในสมัยพระเจ้าติโลกราช วัดต้นเกว๋น วัดนี้ไม่มาไม่ได้ งามมากค่ะ อยู่แถวพืชสวนโลก ตรงแยกสะเมิงค่ะ และ The Must ของเชียงใหม่ วัดพระธาตุดอยสุเทพ ไปตอนเย็น ๆ รอจนตะวันลับฟ้า ชมเมืองเชียงใหม่ยามค่ำคืนมีแสงไฟระยิบระยับอย่างในรูป

 

ไม่ได้ดื่มกิน แต่ก็ดื่มด่ำกับเชียงใหม่แท้ ๆ ได้เจ้า++

 

 

20080226 1

20080226 2

20080226 3

20080226 4

20080226a

บล็อกของ โอ ไม้จัตวา

โอ ไม้จัตวา
เริ่มต้นฤดูกาลใหม่รับลมหนาวด้วยความรู้สึกถึงวันอันล่วงเลยผ่านไปโดยไม่ได้ทำอะไรกับร่างกาย  หนึ่งปีที่หมกมุ่นอยู่กับงาน ห่างหายกับการยืดเส้นยืดสายออกกำลังกาย  มีโยคะบ้างบางครั้งแล้วก็มาเจออุบัติเหตุทำให้ต้องหยุดอยู่กับที่ ลากยาวมาจึงถึงวันนี้กับอาการปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดคอ โรคประจำตัวของคนนั่งหน้าคอม และขับรถจี๊บแคริบเบียนที่เกียร์แข็งจนเส้นเอ็นที่แขนเคล็ดไปหมดกลิ่นดอกปีบหอมอบอวลไปทั้งเมือง  ลมหนาวไม่มากเริ่มพัดมาเยือน ได้เวลาออกไปดูโลกยามเช้าเสียที  วันนี้ตื่นแต่ตีห้า เตรียมตัวออกจากบ้าน บอกเพื่อนร่วมบ้านว่าจะไปด้วยรถมอเตอร์ไซด์  จุดมุ่งหมายคือห้วยตึงเฒ่า ที่เก่าเวลาเดิม…
โอ ไม้จัตวา
วันนี้พาไปเดินเล่นในดอยกับพญาช้างสารอันแสนน่ารัก ด้วยการทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวไปกับแพ็คเก็จทัวร์ของปางช้างแม่ตะมาน สนนราคา 1000 บาทสำหรับคนไทย และ 1500 บาทสำหรับชาวต่างชาติ ออกจากเมืองเชียงใหม่แปดโมงครึ่ง ไปถึงที่นั่นราวเก้าโมงกว่า ๆ ไปเล่นกับช้างน้อยใหญ่ พาช้างไปอาบน้ำ ช้างเป็นสัตว์ขี้ร้อน แต่ช้างที่นี่ดูมีความสุข เพราะมีลำน้ำแม่ตะมานที่กว้างพอสมควรให้ช้างอาบน้ำทุกวัน ดูเหล่าช้างเล่นน้ำกันสนุกสนาน มีพ่นน้ำใส่คนที่ยืนเชียร์อยู่บนฝั่งด้วย ก่อนจะพากันขึ้นจากน้ำมาตีระฆัง เชิญธงชาติ ทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเป่าเม้าท์ออแกน เตะฟุตบอล นวดให้ควาญ และเดินสวนสนามดูไปดูมาฉันเห็นช้างยิ้ม…
โอ ไม้จัตวา
พาไปเดินเล่นข้างเครือกล้วยดีกว่า ที่ร้านจะมีกล้วยน้ำว้าเป็นเครือแขวนไว้หน้าร้านตรงประตูทางเข้า เดินเข้ามาจะเห็นกล้วยก่อนอื่น เจ้าของร้านเธอเห็นกล้วยลูกอวบอ้วนเป็นเครือดูงามนัก เธอก็เลยซื้อมาแขวนไว้ เผื่อให้แขกที่มา หรือเด็ก ๆ ในร้านได้กินกันกล้วยน้ำว้าเป็นผลไม้บ้าน ๆ ให้ความรู้สึกเป็นบ้าน เป็นความธรรมดา แต่เมื่อนำมาแขวนไว้หน้าร้านอาหารก็ไม่ค่อยจะธรรมดา คำถามเกิดขึ้นจนเบื่อจะตอบ และจนตอบเป็นความเคยชิน ว่ากล้วยมีไว้ให้กิน ไม่ได้ขาย พอมีไว้ให้กิน เราก็เว้นวรรคไว้โดยไม่บอกว่ากินแต่พออิ่ม พอคนเท่านั้น กินข้าวเสร็จเดินออกมาเจอกล้วยน้ำว้าล้างปากช่วยท้องเป็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ…
โอ ไม้จัตวา
กลับมาเดินเล่นในเรื่องคนต่อค่ะ กำลังสนุกกับการเล่าเรื่องคนรอบข้าง มีอีกคนหนึ่งที่อยู่กันมานาน ตั้งแต่เขายังเด็ก พ่อเขาทำงานในบาร์น้ำ เมื่อพ่อลากลับบ้านที่ท่าสองยาง และจะไม่กลับมาอีก จึงส่งสันติมาทำงานต่อ  เหมือนเป็นวัฒนธรรมของคนทำงานในร้าน ถ้าใครคนใดคนหนึ่งลาพัก หรือลากลับบ้าน พวกเขาจะหาคนมาทำงานแทนในหน้าที่ของเขา เพราะการลาของพวกเขานั้นต้องใช้เวลาเดินทางนาน ๆ อย่างสันตินั้น เป็นปกากญอ บ้านอยู่ในเขต อ.ท่าสองยาง จ.ตาก การเดินทางจากเชียงใหม่ไปท่าสองยางนั้น ต้องนั่งรถไปลงที่อ.แม่สะเรียง แล้วต่อมอเตอร์ไซด์ แล้วเดินอีกครึ่งวัน เมื่อกลับบ้านทีจึงต้องไปเป็นเดือน หรืออย่างน้อยก็ครึ่งเดือน…
โอ ไม้จัตวา
เริ่มคอลัมน์ใหม่หัวใจดวงเดิม ขอประเดิมด้วยการพาไปเดินเล่นตามประสาคนถ่ายภาพ เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2550 ที่ผ่านมามีโอกาสนั่งเครื่องบินไปเกาะสมุย และช่วงเวลาที่อยู่บนเครื่องนั้น เป็นเวลาที่ข่าวเครื่องบินวันทูโกตกกำลังสร้างความตื่นตระหนกให้กับคนไทย เครื่องลงปุ๊บเปิดโทรศัพท์ได้ก็มีสายเข้าและ miss call เต็มไปหมด กว่าจะไปถึงสมุยได้ในวันนั้นก็ทุลักทุเล เพราะน้องสาวเป็นคนจองตั๋วคืนก่อนที่จะมาหนึ่งวัน นัยว่าเป็นงานด่วนของเธอ ขอให้ฉันมาเป็นเพื่อน ตอนจองตั๋วฉันถามว่าขึ้นเครื่องที่ไหน ดอนเมืองหรือสุวรรณภูมิ เธอตอบว่ากำลังหาอยู่ น่าจะดอนเมือง พรุ่งนี้เธอจะโทรถามอีกครั้ง เราบินจากเชียงใหม่ไปลงดอนเมือง…