Skip to main content

บ่ายวันหนึ่งขณะที่กำลังออกไปธุระนอกมหาวิทยาลัย เห็นอีกาตัวใหญ่กำลังถอนขนนกพิราบอยู่ มันบรรจงถอนขนทีละกระจุก โดยที่นกพิราบยังไม่ตาย แม้ว่านกพิราบที่น่าสงสารจะหลุดจากกรงเล็บมันได้ เจ้ากาตามไปติดๆ สยบพิราบด้วยการจิกที่คอและใช้กรงเล็บขย้ำให้แน่นิ่งกับพื้น มันบรรจงแหวกอกพิราบ ได้เนื้อส่วนหัวใจและปอดมาจิกกิน ปล่อยร่างพิราบให้ดิ้นจนหมดลมหายใจสุดท้าย

 

อาจมีคนสงสัยทำไมผมปล่อยให้อีกา "สังหาร" เจ้านกพิราบตัวนี้ ต่อหน้าต่อตา 

 

เมื่อผมเห็นนกพิราบที่น่าสงสารนี้ มันอยู่ในกรงเล็บของอีกาแล้ว และอีกากำลังถอนขนมันอย่างบรรจง ไม่เร่งร้อน แต่เสียงถอนขนทำเอาผมสะดุ้ง เพราะเสียงถอนขนนกสดๆ มันสยองไม่น้อย

 

แม้จะมีคนผ่านมาทำให้อีกาตกใจ ปล่อยให้นกพิราบหลุดมือ แต่มันหนีไม่พ้น เพราะเจ้าอีกาจ้องมันอย่างใจเย็น และตามไปที่แนวรั้วต้นไม้ข้างๆ

 

ภาพสุดท้ายที่ผมเห็นคือคำบรรยายในย่อหน้าแรก

 

ผมคิดว่านี่คือธรรมชาติของสัตว์โลก เป็นวัฏจักรชีวิตของโลก เจ้าอีกาตัวนี้มันคงหิวและล่าเหยื่อด้วยตัวเอง ผมจึงไม่ไปขัดขวาง และปล่อยให้ธรรมชาติทำงาน

 

สมัยก่อน ผมเคยเข้าไปขัดวัฏจักรแบบนี้หลายครั้ง เท่าที่จำได้มีสามเรื่อง

 

เรื่องแรก สมัยเรียนธรรมศาสตร์ เจ้าแมวจรแถวโรงยิมฯ ท่าพระจันทร์จับนกพิราบได้ เจ้านกอ่อนแรงโผมาทางผม ด้วยความไม่รู้ฉุกคิด จึงไล่แมวไป เจ้าแมวออกอาการเคือง แต่สะบัดหางเดินจากไป ทิ้งนกที่หายใจรวยรินอยู่ข้างหน้า ผมเอานกใส่ถัง กันแมวจากกัดมัน แต่ก็สายไป กรงเล็บแมวกรีดผ่านขนถึงชั้นผิวหนังของนก แผลมันเปิดจนเห็นเนื้อใน และมันตายไม่นานหลังแมวจากไป และมันก็ไม่กลับมา "กินอาหาร" ของมัน

 

เรื่องที่สอง ที่สวนสัตว์แห่งหนึ่งในชลบุรี มีกรงนกแบบที่ให้คนเข้าไปชมได้ ที่นั่นมีนกเงือกวัยรุ่นที่คุ้นกับคนมากๆ แต่ในกรงเดียวกันก็มีเต้าตัวน้อยอาศัยอยู่ด้วย วันที่ผมแวะเข้าไป เจ้านกเงือกพยายามไล่เต่าและเอาจงอยปากแข็งแรงจิกเต่าอย่างเต็มแรง เจ้าเต่าพยายามหนี ผมเลยเดินตัดหน้าเจ้านก แต่เจ้านกอาฆาต มาไล่จิกผมแทน

 

เรื่องที่สาม มีนกโชคร้ายที่ถูกแมวไล่ หนีตายมาที่บ้าน ผมพามันไปหาสัตวแพทย์แถวบ้าน หลังจากฉีดยา ก็วางมันในกล่องที่มันพอหายใจได้ หมอบอกว่าถ้าผ่านคืนนี้ได้ มันคงรอด แต่ถ้าไม่ผ่านก็ไม่รอด 

เมื่อตื่นมาตอนเช้า ผมพบร่างแข็งทื่อของมันในกล่อง จึงเอาไปฝัง

 

ผมเคยอ่านนิทานจีน จำได้ว่าเขาเล่าถึงแรงอาฆาตของสัตว์ที่กำลังหาอาหารและสอนว่าอย่าไปขัดวัฏจักรของธรรมชาติ ผมไม่แน่ใจว่านั่นสอนให้คนยอมให้คนที่อ่อนแอกว่าถูกรังแกหรือไม่ แต่เรื่องล่าเพื่อความอยู่รอดของมันเป็นสิ่งที่ผมยอมรับได้มากกว่าคนเข้มแข็งรังแกคนอ่อนแอกว่าแน่ๆ

 

ในทางใดทางหนึ่ง ประสบการณ์ทั้งสามเรื่องบอกว่า บางครั้งเราทำได้แค่เฝ้ามองและยอมรับกฎธรรมชาติ

บล็อกของ บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ

บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
ตรุษจีนปีนี้ผมไม่ได้กลับบ้าน คงอยู่เงียบๆ เหมือนเคย แต่บรรยากาศของตรุษจีนของชาวจีนโพ้นทะเลไม่ว่าที่ไหนๆ ก็จะต้องมีเสียงของเติ้งน้อยเป็นเพลงประกอบราวกับเพลงบังคับของเทศกาล อดไม่ได้ที่จะหวนคิดถึงความเก่าความหลังที่ชีวิตวกวนพาไปเดินเล่นไกลถึงนิวยอร์ค
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
ผมเคยเขียนงานชุด จริยธรรมของการพบพาน (The Ethics of Encounter) เอาไว้เมื่อหลายปีก่อน เพื่อนำเสนอสิ่งที่เป็นไปได้ในสถานการณ์ของการเชิญหน้า ว่าในการปะทะสังสรรค์กันของมนุษย์กับคนแปลกหน้าย่อมเกิดภาวะพิเศษ ซึ่งอาจนำไปสู่สงครามหรือสันติภาพก็ได้ หลายปีมานี้ผมพบว่าปัญหาหนึ่งของสังคมไทยก็คือการปะทะกั
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
v\:* {behavior:url(#default#VML);} o\:* {behavior:url(#default#VML);} w\:* {behavior:url(#default#VML);} .shape {behavior:url(#default#VML);}
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
ผมได้รับชวนจากมิตรสหายท่านหนึ่งให้เข้ามาเขียนบล็อกที่นี่ หลังจากไปโพสต์ต่อท้ายข่าวซุปเปอร์แมนลาออกจากเดลี่เทเลกราฟไปเขียนบล็อก ผมบ่นไปทำนองว่า อยากออกไปทำงานอย่างอื่นบ้าง มิตรสหายท่านนั้นเลยยื่นข้อเสนอที่ยากปฏิเสธ เพราะผมอ่านข่าวในประชาไทอยู่นานแล้ว ก็อยากมีส่วนร่วมด้วย ประการหนึ่ง