Skip to main content

มีนา


สวัสดี พันธกุมภา

รู้ว่าน้องสบายดี พี่ก็ยินดีไปด้วย การดำรงชีวิตอย่างมีสติไม่ใช่เรื่องง่าย พี่ก็ว่างบ้างไม่ว่างบ้าง เพียงแต่ช่วงเวลาที่น้องไม่ว่าง บังเอิญพี่ว่าง ซึ่งเป็นเรื่องดีที่เราจะมีจังหวะชีวิตที่แตกต่างกัน และทำให้การเขียนงานลงตัว พี่ยังคิดอยู่ว่า ถ้าไม่ว่างขึ้นมาพร้อมๆ กัน คงมีปัญหาแน่ๆ


สำหรับพี่ ความแตกต่างจึงน่าสนใจ เช่นเดียวกับฤดูที่แตกต่าง ชีวิตที่ขึ้นๆ ลงๆ


ช่วงสัปดาห์ที่น้องกำลังมีความสุขอยู่นั้น ชีวิตของพี่เหน็ดเหนื่อยและผจญกับความทุกข์ของคนอื่น แล้วยึดมาเป็นความทุกข์ของตนเอง ... บางทีพี่ก็คิดว่า ทำไมเราจึงเป็นคนอย่างนั้นไปได้ และทุกวันนี้ก็ยังเป็นอยู่


เพื่อนที่รักและปรารถนาดีคนหนึ่งของพี่เคยบอกว่า ...เธอคงกลัวว่าคนอื่นจะไม่รักเธอ ถ้าเธอไม่ดูแลเขา ไม่ฟังความทุกข์ของเขา...” ก็อาจจะจริง ไม่ว่าเขาคนนั้นจะเป็นใคร พี่ก็พร้อมจะฟังความทุกข์เสมอ เพื่อนคนนี้เคยแซวพี่ว่า ถ้าเธอฟังแล้วได้เงินค่าตอบแทน ไม่มากชั่วโมงละ 200-300 บาท เธอก็คงกลายเป็นเศรษฐีไปนานแล้ว


เพราะคนสมัยนี้ไม่มีใครมานั่งฟังใครโดยไม่ใช่อาชีพ หรือแม้ว่าจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดก็ตาม ก็จะไม่มาทำแบบนี้


เมื่อนึกถึงตรงนี้แล้ว พี่ก็กลับมามองตัวเองนะ... พี่เองก็ยินดีกับการได้แบ่งปัน เพราะตัวเองก็คิดว่า เมื่อยามที่เราทุกข์อย่างน้อยมีคนรับฟังเราบ้าง เมื่อยามสุขก็มีคนมาร่วมยินดี ไม่ว่าคนๆ นั้นจะเป็นพ่อ แม่ ญาติ พี่ น้อง เพื่อน ... ใครก็ตาม เราก็จะยินดีมาก


บางครั้งก็อดน้อยใจไม่ได้ว่า เอ! เรามีแต่เป็นเพื่อนร่วมทุกข์ให้กับคนอื่นๆ (ที่นอกเหนือจากตัวเอง) แต่เมื่อสุขไม่ค่อยมีใครสักกี่คนที่แบ่งปันกับเราเท่าไร


เรื่องราวความทุกข์ในใจมันบั่นทอนจิตใจในช่วงนั้นมาก แต่พี่เข้าใจว่า พี่ก็เหมือนมนุษย์เงินเดือนที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่หลายๆ ที่ ที่ทำงานเพื่อความสำเร็จ งานต้องเสร็จ และถูกคาดหวังให้ทำงานมากมายหลายอย่าง เราเองก็คาดหวังว่าเมื่องานสำเร็จระดับหนึ่งจะได้รับการชื่นชม ยินดี จากเจ้านาย เพื่อนร่วมงาน และลูกน้อง


แม้ว่าจะมีสติกับการทำงานมากเพียงใดก็ตาม แต่เมื่อพานพบกับช่วงเวลาหนักๆ ของชีวิต ก็ต้องพักบ้าง วันหยุดที่ผ่านมาพี่ไม่ได้พักเลย ถึงแม้ว่าจะเป็นวันหยุดจากการทำงาน แต่ครอบครัวก็คาดหวังให้เราต้องทำอะไรหลายอย่าง


พี่เริ่มเข้าใจคนสมัยนี้ที่อาจจะไม่ได้กลับไปดูแล พ่อ แม่ที่แก่เฒ่า และครอบครัว เพราะภาระจากการทำงานหนัก ในงานทั่วไปก็มากมายอยู่แล้ว วันหยุดก็อยากจะพักผ่อน ถ้าการพักหมายถึงการได้อยู่กับครอบครัว คนในครอบครัวก็อยากใช้เวลาร่วมกัน ก็ไม่เกิดปัญหาเพราะความคาดหวังในสิ่งที่ต้องการตรงกัน


แต่หากใครคิดว่าเป็น “หน้าที่” มันหมายถึงการจำใจต้องทำ ซึ่งตรงนี้อาจหมายถึงการฝืนใจ ไม่ได้พัก แต่ต้องทำในสิ่งที่อาจจะไม่อยากทำ พี่คิดว่า ไม่ใช่ทุกคนที่อยากจะอยู่ร่วมกับคนในครอบครัวตลอดเวลา อยู่ร่วมกับคนรักตลอดเวลา วันหยุดที่ผ่านมา หลายคนเลือกไปปฏิบัติธรรมตามสถานที่ที่พึงใจ หลายคนไปเที่ยวกับคนรัก ครอบครัว ทำบุญ กิจกรรมใดก็ตามที่เลือกจะก่อให้เกิดความสัมพันธ์กับคนอีกคนหนึ่งตลอด ต้องดูแลกัน ชอบตรงกันบ้าง ไม่ตรงกันบ้าง ถึงอย่างไรต่างก็ยอมรับในความต่างจึงจะอยู่ร่วมกันได้


ความรักและความสัมพันธ์ระหว่างน้องทั้งสอง แม้จะรักกันเพียงใด ชื่นมื่นกับความสุขปัจจุบันมากเพียงไหน ก็ยังมีความแตกต่างทั้งทางความคิด รูปแบบชีวิต


สิ่งที่เชื่อมร้อยและดึงทั้งสองคน ไม่เพียงการมีธรรมในใจ แต่เป็นความรู้สึกผูกพัน ความสัมพันธ์ที่ต่างรั้งและดึงกันไว้


หลายครั้งพี่มหัศจรรย์ใจกับความรักและความสัมพันธ์ของหลายคู่หลายคน ซึ่งพี่เองไม่ได้มีประสบการณ์ในการคบหากับใครที่ยาวนานพอจะตอบได้ แต่เรียนรู้จากคู่ของน้องอย่างหนึ่งว่า ไม่ว่าชีวิตของน้องจะยังหนุ่มสาว และยาวนานแค่ไหน การอยู่กับปัจจุบันขณะนั้นอาจจะสำคัญมากกว่าการคิดว่าจะก้าวต่อไปได้อย่างไร


การอยู่กับปัจจุบันสำหรับคนสมัยนี้เป็นเรื่องยาก ไม่ว่าจะทำงาน ความรัก การนัดหมาย ความสำคัญของความสัมพันธ์ทางสังคมไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใดๆ อยู่ที่การก้าวไปข้างหน้า คิดไปข้างหน้า มีแผนงาน แผนชีวิตอยู่เสมอ


เราถูกสินให้คิดถึงอนาคต ไม่อยู่กับปัจจุบัน ผ่านระบบต่างๆ ทางสังคมมากมาย...


เมื่อเราถูกตั้งคำถามหรือกลับมาอยู่กับลมหายใจ ปัจจุบันขณะ เราจึงเป็นคนประหลาด แปลก แตกต่าง


พี่เห็นจากการที่คนปัจจุบันจะแสวงหาการปฏิบัติธรรมทั้งการภาวนา วิปัสสนา และสนใจธรรมะ จะถูกมองว่าเป็นคนแปลก ทั้งๆ ที่การศึกษาธรรมและการปฏิบัติธรรมเป็นเรื่องของการพยายามรู้จักตัวเองอย่างง่าย ไม่ต้องผ่านระบบการศึกษาแบบที่เราพบเห็นอยู่ในปัจจุบัน


สิทธัตถะในฐานะพระพุทธเจ้าผู้เป็นครูที่ยิ่งใหญ่ ไม่ได้สอนอะไรมากมายกับผู้สำเร็จพระอรหันต์ และไม่ได้สอนทุกเรื่องให้กับทุกท่าน แต่รพพุทธองค์เปิดให้แต่ละท่านเรียนรู้ในสิ่งที่เหมาะกับ เพื่อทางที่ไปถึงสิ่งสิ้นสุดของแต่ละท่าน


พระอรหันต์แต่ละท่านมีความสามารถ ความรู้ และปัญญาญาณในแต่ละสิ่งแตกต่างกันไป เช่นเดียวกับเราที่มีความแตกต่างในเฉพาะบุคคล เราจะบอกไม่ได้ว่าต้องเดินทางนี้ ทำอย่างนี้จึงจะดีที่สุด


แต่ละคนน่าจะได้เลือกทางของตนเอง ทั้งความรัก ความชอบ ความเกลียด ความหลง ตัณหา กิเลสใดๆ สิ่งใดๆ ก็ตาม อย่าเพิ่งตัดสินว่าสิ่งนั้นถูกหรือผิด เพราะเราคงไม่ใช่คนที่ทำสิ่งถูกตลอดชีวิตหรือสิ่งผิดตลอดชีวิต


สิ่งหนึ่งถ้าทุกคนทำได้คือ “การปล่อยวาง” ส่วนวิธีการนั้น เลือกด้วยตนเองว่าทำอย่างไร เลือกให้เหมาะกับตน


วันนี้พี่ได้เรียนรู้ที่จะปล่อยวางความทุกข์ และแลตัวเอง หลายคนอาจจะไม่เข้าใจ พี่ก็เพียงรับรู้เท่านั้นว่าเขาไม่เข้าใจ เราจะคาดหวังให้คนอื่นเข้าใจเราทำไม เราเข้าใจตัวเองและเรียนรู้มันก็เพียงพอแล้ว


บล็อกของ พันธกุมภา

พันธกุมภา
พันธกุมภา ถึง มีนา เมื่อได้ยิน...... “ทำไมคุณโง่แบบนี้” “งานชุ่ยๆ แบบนี้เหรอที่ทำเต็มที่แล้ว” “มีหัวไว้ใส่หมวกเปล่าๆ” สารพัดมากมาย คำด่าทอที่เรามักไม่ชอบ – ในที่นี้ก็มีผมอยู่ด้วยแหละครับ เวลาที่มีใครมาต่อว่า มานินทาในทางร้ายๆ แล้วมักจะต้องเดือดร้อนเป็นฝืนเป็นไฟอยู่เสมอ อืม...คิดในใจ นี่ไม่ใช่ตัวเรา เราไม่ได้เป็นคนแบบนั้น เราไม่ใช่คนอย่างที่เขาว่านะ..... ขณะที่คำชม อาทิ “คุณทำงานเก่งจัง” “ทำได้แค่นี้ สุดยอดเลยทีเดียว ยอดเยี่ยมมากๆ๐ “คิดได้แค่นี้ ก็เจ๋งเลย” คำพูดชื่นชม เยินยอในทางบวกเหล่านี้ หลายคนไม่ปฏิเสธ หรือไม่ได้มีท่าทีต่อต้านเหมือนคำพูดร้ายๆ หรือลบๆ แต่กลับมองว่าใช่ๆ…
พันธกุมภา
มีนา ถึง พันธกุมภา มีเรื่องอยากเล่าให้พันธกุมภาฟัง... ช่วงที่ห่างหายกันไป พี่ยังติดตามข่าวคราวการทำงาน การเดินทาง และระลึกถึงเธออยู่เสมอ เพียงแค่รู้ว่าเธอสบายดี พี่ก็สบายใจ เมื่อไม่นานมานี้ พี่เดินทางไปเชียงใหม่ ไปกับกลุ่มคนที่คุ้นเคยบ้าง ไม่คุ้นเคยกันบ้าง หลายคนเคยรู้จักกันมาก่อน หลายคนไม่ได้รู้จัก แม้ว่าจะรู้จักก็ตาม ก็ไม่ได้ลึกซึ้งถึงเรื่องด้านในต่อกัน ไม่เหมือนเพื่อนบางคน แม้ว่าจะไม่ได้พบเจอกันมากนัก แต่เราก็ยังสนิทใจมากกว่า รู้สึกสัมผัสได้ถึงความอาทรที่มีต่อกัน...อย่างน้อง
พันธกุมภา
มีนา ถึง พันธกุมภา จดหมายฉบับก่อน พี่เล่าเรื่องความรักของแม่ที่มีต่อลูกคนหนึ่ง และยังติดใจในสาส์นของท่านดาไล ลามะ ผู้นำทางจิตวิญญาณ ชาวธิเบตอยู่ ... เมื่อพิจารณาอย่างลึกซึ่ง พี่อยากจะให้น้องและเพื่อน คนรู้จักหลายๆ คนได้อ่านมันอย่างพิจารณาหลายๆ ครั้ง หลายข้อของสาส์นฉบับนี้ เป็นความรักที่มีต่อตนเอง รักตนเอง แบบที่ไม่ได้ตามใจตนเอง ไม่ตามใจในสิ่งที่บำรุงบำเรอให้ตนเองให้ได้ทุกสิ่งที่ตนต้องการ โดยเฉพาะข้อแรกเป็นสิ่งที่ท่านลามะผู้ยิ่งใหญ่ได้ตักเตือนคนสมัยใหม่ได้อย่างเฉียบคม (ระลึกเสมอว่า การจะได้พบความรักและความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ก็ต้องประสบกับความเสี่ยงอันมหาศาลดุจกัน)…
พันธกุมภา
มีนาถึง พันธกุมภาพี่ได้รับจดหมายที่ส่งต่อๆ กันมา (Forward mail) ฉบับด้านล่างนี้ เป็นครั้งที่เท่าไรไม่รู้ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา (เพราะนี่เข้าเดือนที่ 6ของปีแล้ว...)“สาส์นจากท่าน Dalai Lama ที่ได้กล่าวไว้สำหรับปี 2008 นี้ แล้ว…คุณจะได้พบกับสิ่งประหลาดมหัศจรรย์ที่คุณจะยินดีมากข้อแนะนำในการดำเนินชีวิต
พันธกุมภา
มีนาถึง พันธกุมภาพี่ชอบจดหมายรักฉบับนี้มาก เมื่ออ่านแล้วรู้สึกได้ถึงความรักที่สดใส และความเป็นคน “ธรรมดา” ของน้องที่ผ่านมา พี่ออกจะห่วงใยอยู่ลึกๆ ว่าน้องจะรีบโตมากไปหรือเปล่า รีบที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต รีบมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปมากไปไหม...จนอาจจะทำให้พลาดความสดใส ความรัก หรือสิ่งต่างๆ ที่เราน่าจะได้เรียนรู้ และเดินผ่านมันมาด้วยความสง่างาม หรือเจ็บปวดไปบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ที่ต้องเรียนรู้พี่ก็ผ่านช่วงเวลา “หวาน” “ขมๆ” ของชีวิตมาบ้าง เช่นเดียวกับคนทั่วๆ ไป ที่มักจะมีความรักที่สมหวัง ผิดหวัง ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไป พี่มักเลือกที่จะจดจำสิ่งที่ดี …
พันธกุมภา
พันธกุมภาถึง มีนาอย่าเพิ่งตกใจนะครับพี่ที่ผมจะขอระบายเรื่องรัก ให้พี่รับรู้.....
พันธกุมภา
มีนาถึง พันธกุมภาอายุ...วัย หากเราเพียงแบ่งแค่ผู้ใหญ่กับเด็กเหมือนกับสังคมทั่วๆ ไปเขามองกัน เราอาจจะมองเห็นคนแค่ 3 กลุ่มในช่วงชีวิต คือเด็ก วัยทำงาน และผู้ใหญ่ ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงของชีวิต ทั้งการเข้าสู่การเรียน การทำงาน และการใช้ชีวิตทั่วไป เราต้องเคารพคนที่อายุมากกว่าเราหรืออาจจะต้องนับถือคนที่อายุน้อยกว่าเราแต่มีคุณสมบัติมากกว่าคุณสมบัติทั้งการศึกษา การใช้ภาษาอังกฤษ ครอบครัวมีฐานะดี พ่อแม่เลี้ยงดูมาอย่างดี ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ พี่ขอเรียกว่าเป็น “คุณสมบัติทางโลก” ซึ่งอาจจะไม่ใช่ “ความดี” ที่เมื่อก่อนได้รับการให้คุณค่าอย่างสูง ไม่ว่าเราจะอยู่ในวัยใด ความดีไม่มีอายุ หากแบ่งแยกกับความไม่ดี/…
พันธกุมภา
พันธกุมภาถึง มีนาช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรุ่นพี่คนหนึ่งมาหาผมที่บ้าน เราสองคนไม่ได้เจอกันมานานหลายปี พอมาเจอกันอีกหนจึงเป็นเรื่องที่ตื่นเต้นไม่น้อยที่ได้พบเจอกัน รุ่นพี่คนนี้ชื่อ “นนท์” พี่นนท์ เป็นรุ่นพี่ที่เคยสอนผมเต้นเชียลีดเดอร์ เมื่อตอนเรียนมัธยมต้น อายุของพี่นนท์ห่างจากผม 2 ปี พี่นนท์เป็นคนต่างหมู่บ้าน แต่เราอยู่ในตำบลเดียวกัน ผมค่อนข้างแปลกใจที่พี่นนท์เปลี่ยนแปลงไป ทั้งการพูด ท่าที การแสดงออก จากเมื่อก่อนที่ค่อนข้างกรี๊ดกร๊าด พูดไม่หยุด และชอบนินทาคนอื่นอยู่บ่อยๆ มาคราวนี้พี่นนท์ไม่เหมือนเดิม คือ นิ่งขึ้น ท่าทีสุขุมเยือกเย็น ไม่ทำท่ารุกรี้รุกรนตอนคุยกันเหมือนเมื่อก่อน…
พันธกุมภา
มีนาถึง...ลูกปัดไข่มุกและพันธกุมภาความระลึกถึงวัยเยาว์เมื่อครั้งยังเป็นเด็กสาวสดใสอย่างลูกปัดไข่มุก อดรู้สึกไม่ได้ว่าน้องช่างมี “ทาง” ที่ดีเสียจริง น้องได้เติบโตจากครอบครัวที่หล่อหลอมสิ่งที่ดีงามให้ ทั้งการทำบุญ ทาน และเสริมให้สร้างบารมี ต้องขอบคุณแม่และพ่อที่ปูทางที่ดีให้กับลูก หากมีธรรมแล้ว ไม่ต้องกลัวเลยว่าเด็กสาวและคนรุ่นใหม่จะไม่เติบโตอย่างมีรากเหง้า รู้คิด เพราะกระบวนการเรียนรู้เหล่านี้ไม่ใช่แค่ได้ “ความรู้” หากยังได้ “สติ” และ “ปัญญา” ซึ่งความรู้สมัยใหม่ไม่มีความลึกซึ้งพอเมื่อเราปฏิบัติหรือยังไม่ปฏิบัติก็ตาม เรามักยึดติดกับตัวตน (Ego) และเราไม่ได้พยายามลดมัน…
พันธกุมภา
พันธกุมภาถึง มีนาผมได้อ่านเรื่องราวของ “ลูกปัดไข่มุก” แล้ว ขออนุโมทนากับน้องอย่างยิ่ง และยังรู้สึกยินดีกับสิ่งที่น้องได้กระทำลงไป และได้พบการหนทางที่จะนำพาความสุข สงบมาให้กับตนเอง เป็นการเรียนรู้จากตัวเอง มากกว่าการเรียนรู้จากคนอื่นๆ ที่เล่าให้ฟังสู่กันมาการได้ทำสมาธินั้นได้ช่วยให้น้องได้พบกับจิตที่สงบ และเป็นจิตที่นิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเป็นสิ่งที่จะทำให้จิตใจเริ่มปรับความละเอียดเพิ่มขึ้น สู่การเจริญสติในระดับต่างๆ ต่อไป....จะว่าไปแล้ว เดี๋ยวนี้ วัยรุ่นรุ่นเดียวกับเราๆ ก็หันมาสนใจเรื่องทางธรรมเยอะเหมือนกันนะ, ช่วงหนึ่งก็มีคนมาถามผมว่า วัยรุ่นสนใจธรรมะเพิ่มขึ้น เป็นกระแสที่ดีแบบนี้ คิดยังไง?…
พันธกุมภา
ลูกปัดไข่มุก ถึง พี่พันธกุมภา และ พี่มีนา....   “เส้นทางที่เรากำลังพยายามจะมุ่งไปอยู่นี้ มันคือหนทางแห่งความสุขและความสำเร็จที่แท้จริงของเราจริงๆหรอ” ....นั่นคือความคิดที่ฉันคิดมาตลอด ฉันโชคดีที่ได้เกิดมาท่ามกลางครอบครัวที่มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนา ในวันว่างๆ เรามักจะได้ไปวัดแทนการไปเที่ยวเสมอๆ ซึ่งด้วยความเป็นเด็ก ฉันจึงไม่คิดว่ามันดีนัก.....จะว่าไปฉันทำบุญมาตั้งแต่จำความได้ เพราะถูกสั่งสอนมาให้ทำแบบนั้น ว่าถ้าทำบุญเยอะๆ จะได้ไปสวรรค์ ถ้าทำบาปก็จะตกนรก รวมถึงนิทานต่างๆที่แม่ได้เล่าให้ฟังมาตลอด ฉันจึงพูดได้เต็มปากว่า ฉันเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี…
พันธกุมภา
มีนาถึง พันธกุมภาจุดหมายปลายทาง การเดินทางธรรมของเธอครั้งนี้อยู่ที่วัดป่าสุคะโต ที่...ซึ่งฉันไม่เคยไป หากหลายคนอยากไป ก็คงไม่ได้คิดถึงเรื่องการเดินทาง หากมักนึกถึงปลายทาง และในที่สุด...แม้รู้ว่าเธออาจจะเดินทางถึงวัดป่าสุคะโตแน่นอน เธอก็น่าจะเรียนรู้ระหว่างทางดังที่เธอเล่าให้เราฟังฉันเคยพูดถึงเรื่องความกลัวระหว่างการเดินทาง “ในความกลัว” มาก่อนแล้ว ด้านหนึ่งฉันนึกเสมอว่า คนธรรมดาทั่วไปอย่างฉัน ร่ำเรียนมาด้วยวิธีคิดแบบมีเป้าหมาย โดยไม่สนใจระหว่างทาง หรือกระบวนการเรียนรู้ก่อนที่จะถึงเป้าหมาย ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว “ระหว่างทาง” เป็นสิ่งสำคัญมาก…