Skip to main content

"อะไรเอ่ยมันโผล่ขึ้นมาจากดิน"
คำถามเล่น ๆ ของเด็ก ๆ สมัยก่อนเราจะตอบว่า ขอม เพราะเคยเรียนเรื่องพระร่วง  ตอนขอมดำดิน แต่ เดี๋ยวนี้ถ้าไปตอบว่า "ขอม" เด็กไม่เข้าใจ

คำตอบอะไรเอ่ยโผล่มาจากดินในวันนี้คือ
"เห็ดหล่มค่ะ"


ใช่แล้ว...วันนี้จะชวนไปกินน้ำพริกเห็ดหล่มกันค่ะ หากินหาอยู่กันไปตามสภาพ ภาษาเหนือมีคำเพราะที่ติดใจติดปากนั่นคือ คำว่า เสาะว่าหากิ๋น

วันนี้ทำน้ำพริกเห็ดหล่มสูตรบ้านทุ่งยาวนะคะ อาจจะมีคำถามว่าทำไมต้องเป็นบ้านทุ่งยาว ที่เป็นบ้านทุ่งยาวก็เพราะว่า ฉันรู้จักเห็ดหล่มครั้งแรกที่บ้านทุ่งยาว มันโผล่ขึ้นมาจากดินให้เห็น ๆ กันเลยแหละ และฉันก็เริ่มเข้าใจคำว่า เสาะว่าหากิ๋นของป่า ในป่าชุมชน


จำได้ว่าเราเข้าป่าไปสายมากแล้ว มีคนหิ้วเห็ดหล่มออกจากป่า เราก็คิดว่า เอ...เขาคงเก็บหมดแล้ว แต่ที่ไหนได้ ป่าชุมชนคือป่าที่เข้าไปหาของกินได้อย่างชนิดที่เรียกว่า ใครจะเข้าไปก่อนหลังก็มีของติดมือมากินได้ 

เพราะเข้าไปเก็บเอามาแค่พอกินพอฝากกันเท่านั้นไม่ได้เอาไปขายที่ไหน หรือถ้าขายก็ขายกันในหมู่บ้าน สำหรับคนที่ไม่อยากเข้าป่าในช่วงนั้น ๆ แต่อยากกิน  เช่นนี้แหละมันก็เลยเหลือให้กินกันได้ทั่วถึง

บ้านทุ่งยาวอยู่ที่ตำบลศรีบัวบาน อยู่ในเมืองลำพูน หมู่บ้านนี้ของกินในป่าของเขาเยอะจริง ๆ กินไปตามฤดูกาล และข้างบ้านของเขาก็มีผักอีกสารพัดแบบไม่เข้าป่าก็เก็บกินได้ 

ได้เวลาทำน้ำพริกเห็ดหล่มแล้วค่ะ แต่วันนี้เป็นเห็ดหล่มจากบ้านทุ่งเสี้ยว แม่ค้ารถถีบ (ปั่นจักรยานมาขาย)  วันนี้เห็ดบานแล้ว เหมาะสมที่จะทำเป็นน้ำพริกเห็ด มันจะได้เนื้อเยอะ ส่วนที่ตูม ๆเอาไปทำแกง 


แปลกใจไหมว่าทำไม ไม่ทำน้ำพริกเห็ดหล่มแบบทุ่งเสี้ยว เพราะเห็ดจากป่าบ้านทุ่งเสี้ยวไปถามมาแล้วค่ะ ขั้นตอนยุ่งยากกว่าที่บ้านทุ่งยาว  ที่บ้านทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่เขาบอกว่า ต้องเอาทุกอย่าง ตั้งแต่พริกชี้ฟ้า หอม กระเทียม กะปิ ปลาร้า และเห็ด ห่อใบกล้วยเป็นอย่าง ๆ แล้วย่างไฟให้สุกหอม แล้วเอามาตำรวมกัน อันนี้ครบสูตรของบ้านทุ่งเสี้ยว

แต่ของบ้านทุ่งยาว ลำพูน ย่างแค่พริกชี้ฟ้าเท่านั้น แล้วลอกเปลือกออก ฉันก็เอาใส่ลงไปในกระทะคั่วไปมาพอไหม้ก็ลอกเปลือกออก ตำรวมกับกระเทียม กะปิ และเห็ด จากนั้นก็เอาไปผัดใส่น้ำมันนิดหน่อยให้พอสุกได้แล้วน้ำพริกเห็ดหล่มกินกับผักตามแต่จะหาได้ ที่บ้านนี้กินผักแบบรวมเพื่อน เช่น ยอดหมุย  ผักชีลาว ผักไผ่ มะกอก พวกนี้ปลูกง่าย

คนที่บ้านทุ่งยาวนี้มั่นใจตัวเองขนาดพูดว่า ไม่มีเงินก็อยู่ได้ เพราะตลาดเราอยู่ในป่า
เขาว่าของเขาอย่างนั้นจริง ๆ ค่ะ แล้วเขาก็เล่ากันอย่างภาคภูมิใจว่า เขาดูแลป่าเอาไว้ด้วยชีวิต   เพราะว่า ครั้งหนึ่งชาวบ้านทุ่งยาว ไม่ยอมให้ผืนป่าแห่งนี้ เป็นพื้นที่อุทยาน หรือถูกประกาศเป็นพื้นที่อุทยาน และจัดการโดยอุทยาน

เพราะทันทีที่มีอุทยานจะต้องสร้างที่ทำการ สร้างบ้านพัก และสร้างให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวด้วย เขาไม่สนใจรายได้จากการท่องเที่ยวที่ถูกนำมาหลอก

เพราะเมื่อเป็นอุทยานเขาก็ไม่แน่ใจว่าจะเก็บของกินได้ไหม อาจจะถูกจับได้  แต่พวกเขาพิสูจน์ให้เห็นว่า ดูแลป่าได้โดยไม่รัฐไม่ต้องเสียงบประมาณใด ๆ

การต่อสู้กับอำนาจรัฐเหนื่อยหนักและต้องใช้เวลา  ที่บ้านทุ่งยาวใช้เวลาสามสิบปี เขาทำบัญชีอาหารจากป่า ผู้หญิงทุกบ้านจะต้องทำการจดบันทึกลงไปว่า...

วันนี้เอาอะไรออกมาจากป่าเพื่อกินบ้าง เทียบเท่ากับราคาเท่าไหร่...
เช่น วันนี้เก็บเห็ดหล่มมากิน 1 มื้อ 10 บาท เก็บผักหวานป่ามา 20 บาท เอาสมุนไพรออกมาทำยาแก้ปวด 10 บาท รวมอาหารในหนึ่งวันที่ออกมาจากป่าเท่าไร่ เดือนหนึ่งเท่าไหร่ ปีหนึ่งละเท่าไหร่

 

ทุกครัวเรือนทำแบบเดียวกัน รวมออกมาแล้วปีหนึ่งเก้าหลายแสนกว่าบาท (หรือจะพูดล้านบาท)
แม่บ้านคนหนึ่งเล่าให้ฉันฟังว่า  พวกพ่อบ้านว่า "ปีหนึ่งเป็นแสน ๆ พูดมาได้ ไหนอยู่ตรงไหน"
แม่บ้านว่า "ก็ในท้องเอ็งไง ที่กินเข้าไปทุกวัน"
"จริง" พ่อบ้านยอมรับ        

นี้เป็นงานของผู้หญิงเพราะผู้หญิงอยู่ในครัวต้องดูแลแหล่งอาหารเอาไว้
"ไม่มีเงินก็อยู่ได้" ชาวบ้านทุ่งยาวเขาว่าอย่างนั้น

นี่เป็นข้อยืนยันว่า ป่ามีไว้กิน ยิ่งเก็บกินยิ่งออกผล  ยิ่งดูแลยิ่งได้ และได้กับทุกคนด้วย ป่าดีน้ำก็ดี อากาศดี ไม่ต้องซื้อต้องหาป่ามีไว้ให้ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนอากาศก็ดีไปทั่วถึง

 

 

บล็อกของ แพร จารุ

แพร จารุ
  แล้วฉันก็คิดว่าทุกอย่างยังเหมือนเดิน ฉันเดินทางไปหาเพื่อนที่กรุงเทพฯ  และบอกเธอว่า ฉันอยากจะไปเยี่ยมนักเขียนผู้ใหญ่รุ่นพี่คนหนึ่ง  เพื่อนบอกว่า ไม่ได้ไปนานแล้ว ช่วงหลังๆ ไม่ค่อยมีใครไปหาใครกัน  เมื่อถามว่าทำไม
แพร จารุ
ป่าสนวัดจันทร์   หลังจากที่เขียนเรื่องป่าสนวัดจันทร์ถูกโฆษณาว่าเป็นผืนป่าสนแห่งเดียวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และมีชนเผ่าใช้วิถีชีวิตแบบเดิม ๆ
แพร จารุ
เมื่อเขียนเรื่อง “ป่าสนวัดจันทร์ถูกโฆษณาว่าเป็นที่สุด”  ฉันก็ได้รับจดหมายฉบับหนึ่ง เขียนถึงเรื่องอำเภอใหม่ส่งเข้ามา วันนี้จึงนำจดหมายฉบับนี้มาให้อ่านกันค่ะ  เธอเขียนมาว่า ลองเขียนเรื่องอำเภอใหม่มาให้อ่าน
แพร จารุ
ป่าสนผืนเดียวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มองขึ้นบนต้นสนเหมือนหนึ่งว่ามีนกเกาะอยู่บนนั้นเต็มไปหมด จนใครบางคนเผลอถามว่า นั่นนกอะไรเกาะอยู่เต็มไปหมด หลายคนหัวเราะ ไม่ใช่นกหรอกมันคือลูกสน ที่นี่มีชื่อว่า ป่าสนวัดจันทร์ เป็นครั้งที่สองที่ฉันเดินทางมาที่นี้ห่างจากครั้งแรกเกือบยี่สิบปี ฉันไม่กล้าเดินทางไปที่นั่นเพราะรู้สึกว่ามันลำบากยากเย็นเหลือเกิน เป็นการเดินทางที่โหด ๆ ในช่วงวัยเยาว์ เพราะต้องนั่งรถไฟชั้นสามมาจากกรุงเทพฯ นานกว่าสิบสองชั่วโมง ก็รู้กันอยู่ว่ารถไฟไทยเสียเวลาเสมอ ๆ ลงจากรถไฟมีนักเขียนจากเมืองเหนือรอรับอยู่
แพร จารุ
มุสโต๊ะ (มุส-สะ-โต๊ะ) อาหารมื้อไหน ๆ ก็ต้องมีมุสโต๊ะ มุสโต๊ะก็คือน้ำพริกนั่นเอง ฉันรู้จักมุสโต๊ะครั้งแรกเมื่อเที่ยวบ้านปกาเกอญอ และนับจากวันนั้นก็ชอบมุสโต๊ะแบบปกาเกอญอทันที่
แพร จารุ
คุณทำอะไรเมื่อเช้านี้  ส่วนฉันตื่นขึ้นมาพร้อมกับหยิบหนังสือเล่มเล็ก ๆ จากโต๊ะกินข้าวติดมือไปนอนอ่านในเปลใต้ต้นมะขามเล็ก  หนังสือชื่อ ไม่รักไม่บอก 5 เป็นของกลุ่มภาคีคนฮักเจียงใหม่  ฉันเป็นอาสาสมัครในกลุ่มนี้กับเขาด้วย แต่ฉันไม่ได้ทำหนังสือเล่มนี้ ดังนั้นฉันจึงเพิ่งได้อ่านจริง ๆ ครูโรงเรียนอนุบาลเพิ่งให้มาสิบเอ็ดเล่ม วันนั้นมีน้อง ๆ หนุ่ม ๆ จากไหนก็ไม่รู้มาช่วยกันขนหนังสือหลายกล่องที่นำมาขายในงานอำลา ‘รงค์ วงษ์สวรรค์  ฉันไม่มีของอะไรตอบแทนน้องจึงแจกพวกเขาไปคนละเล่มเหลือเก็บไว้เล่มหนึ่ง ภาพปกเป็นแม่มดหน้าตาน่ารักถือไม้เท้าวิเศษ มีข้อเขียนว่า จงสุภาพกับโลกใบนี้ (คำจากสาร…
แพร จารุ
  เล่าเรื่องงาน อำลา ’รงค์ วงษ์สวรรค์ เปิดงานไปเมื่อวันที่ 9 มกราคม ยามแดดร่มลมตก หน้าที่ของฉันในงานนี้ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดูแลงานขายหนังสือ ฉันรับปากไปว่า “ได้ค่ะ” ทั้งที่ไม่มีความชำนาญเรื่องการขาย หรือเรียกว่าไม่มีทักษะสักนิดเดียว และมักจะคิดตัวเลขผิด วิชาคณิตศาสตร์ตั้งแต่บวกลบคูณหารไม่เก่งเลย ยิ่งวิชาเลขคณิตคิดในใจนี้ไม่ได้เลย แต่ เพราะว่าในช่วงที่เขาประชุมเรื่องการดำเนินการจัดงานฉันไมได้เข้าร่วมประชุม…
แพร จารุ
ฤดูร้อนในเมืองเชียงใหม่ค่อนข้างน่าสยองค่ะ เพราะนอกจากความแห้งแล้งที่เริ่มขึ้นในปลายฤดูหนาวนี้แล้ว เมื่อฤดูร้อนมาถึงเราก็จะพบกับกลุ่มหมอกควันที่มีทั่วเมือง สำหรับประชาชนในชนชั้นเรา ๆ นั้น เตรียมอะไรได้บ้างคะ
แพร จารุ
สวัสดีนักท่องเที่ยว ระหว่างทางนักท่องเที่ยวเจออะไรมาบ้าง ฉันมาอยู่เชียงใหม่สิบกว่าปี แต่บ่อยครั้งที่รู้สึกว่า ตัวเองเหมือนนักท่องเที่ยว
แพร จารุ
  หญิงสาวมักจะกลัวอ้วนเพราะอยากสวย เราถูกทำให้เชื่อกันว่าคนอ้วนจะไม่สวย เป็นสาวเป็นนางต้องผอมเข้าไว้ ใครไม่ผอมเหมือนนางแบบ หรือนักแสดงหน้าจอโทรทัศน์ก็จะไมได้มาตรฐาน ซึ่งความจริงแล้วบางคนผอมจนเกินไป เรียกว่าแห้งแรงน้อยไม่แข็งแรง ขาแขนมีแต่กระดูก คอโปน ไหปลาร้าลึกขนาดน้ำขังยามเมื่ออาบน้ำ
แพร จารุ
ชวนมากินกันต่อค่ะ เพื่อนนักเขียนรุ่นน้องที่เชียงดาว เล่าว่าเธอปลูกข้าวไร่ที่บ้านของเธอ แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเท่าที่ควร แต่ฉันคิดว่าแค่เธอเริ่มต้นปลูกข้าวความมั่นคงทางอาหารก็เริ่มมีแล้ว ต่อมาน้องนักเขียนที่เพิ่งรู้จักยังไม่ได้เห็นหน้ากันเลย เขียนมาบอกว่า เธอปลูกข้าวได้เจ็ดกระสอบ ฉันชื่นชมยินดีกับเธออย่างจริงจังและจริงใจยิ่ง เพราะฉันมีความฝันที่จะปลูกข้าวปลูกผักไว้กินเอง แต่ไม่ได้ทำ และคิดว่าคงไม่ได้ทำ เพราะอายุปูนนี้แล้ว กล้ามเนื้อเป็นไขมัน เรี่ยวแรงหมดไปแล้ว ที่ทำได้ก็คือปลูกกล้วย ซึ่งก็เหมาะสมอยู่เพราะกล้วยเป็นอาหารนิ่ม ๆ กินง่าย…
แพร จารุ
ชวนมากินกันต่อดีกว่า   คราวนี้กินถั่วงอกผัดเห็ดสามอย่างค่ะ ดูเป็นอาหารธรรมดา ๆ นะคะ แต่พิเศษก็ตรงที่ เป็นอาหารที่ประกอบด้วยเห็ดสามอย่างนะคะ ความจริงแล้วอาหารเห็ดสามอย่างที่กินเป็นยานี้ เขาว่าหลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันเป็นดีค่ะ แต่ไม่เป็นไรใช้น้อย ๆ เราเน้นความอร่อยด้วยค่ะ