นุ่มนิ่มเหลือเกิน ลูกแม่เอ๋ย
นานวัน เนื้อตัวเจ้าอวบอิ่ม กอดได้แน่นเต็มกอด หอมแก้มเจ้าได้แรงๆ เสียงหัวเราะคิกๆ คักๆ ยามแม่เอาหน้าซุกพุงนิ่ม หรือสีข้างซี่โครงน้อย เจ้าร้องลั่น หัวเราะกรี๊ดๆ จั๊กจี้จั๊กกะเดียม แม่รู้ความลับของเจ้าแล้วสิ ว่าเจ้าเองก็บ้าจี้เหมือนแม่ แต่ยิ่งเจ้าเบี่ยงตัวหนีคิกๆ แม่ก็ยิ่งอยากแกล้ง เพราะอยากยินเสียงคักๆ คิกๆ กรี๊ดกร๊าดๆ
ถึง ลุงแสงดาว
เช้าวันนี้แม่ตื่นตั้งแต่ยังไม่ถึงตีห้าดี แม่ย่องมาเปิดคอมพิวเตอร์ เปิดอินเตอร์เน็ต (ยามเช้าๆ เน็ตแม่จะเดินได้เร็ว คงเพราะเป็นเวลาที่ไม่ค่อยมีใครใช้งาน คลื่นอากาศเลยเดินทางได้คล่อง) แม่คงคิดว่าจะแอบทำงานตอนหนูหลับล่ะสิ เรื่องอะไร หนูจะยอมให้แม่สนุกอยู่คนเดียวล่ะ หนูไหวตัวทันหรอกน่า เลยกลิ้งซะสองรอบแล้วยันขายันแขนลุกนั่ง ร้อง อื้อๆ แม่ก็หันขวับทันที
ตาน้ำอายุครบ ๗ เดือนในวันนี้แล้ว ลูกมีภาษาของลูก และรู้วิธีสื่อสารกับแม่
๐ ถ้าลูกเบื่อนอนเล่นหรือการนั่งอยู่กับที่ ลูกอยากให้แม่พาเดินเล่น ลูกจะเงยหน้าร้องอ้อนด้วยการทำเสียงฮือๆ หรือบางทีทำเสียงแงๆ แต่ว่าไม่มีน้ำตาหรอก ลูกแกล้งทำ พอแม่อุ้ม ลูกก็จะยิ้มร่า พร้อมกับตบบ่าแม่แปะๆ เมื่อไหร่ที่ลูกตบบ่าแม่แปะๆ นั่นแปลว่า ไป ไป เหมือนว่าแม่เป็นม้างั้นเหอะ ตบก้นแล้วไปได้
ตาน้ำ
ช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้นเองที่แม่หลบมารดน้ำให้หัวใจ
รินลมหายใจแผ่วๆ ช้าๆ
ตาน้ำ
ช่วงเวลาสั้นๆ เท่านี้เอง แต่มันทำให้แม่มีความสุข เพราะแม่สงบ ปลอดโปร่ง
ตาน้ำ
ยามเมื่อลูกนอนหลับ สิ่งที่แม่อยากทำที่สุดคืออะไรนะ
เขียนหนังสือ, นอน, อยู่เฉยๆ ว่างๆ เพราะการเลี้ยงลูกเองมันเหนื่อยใช่เล่นเหมือนที่ใครหลายคนว่า แทบไม่ได้หายใจหายคอ ทั้งที่ยามลูกตื่นเราก็เล่นสนุกด้วยกัน มีความสุขเมื่อลูกอยู่ในอ้อมกอด ขำบ้าง ดุบ้างยามลูกยื้อแย่งจะเอาทุกอย่างในมือแม่
ตาน้ำ ลูกรู้สึกอย่างไรบ้างไหมขณะที่ลูกบินอยู่บนฟ้า
ตาน้ำ ลูกดูดนมแม่แล้วหลับปุ๋ยขณะแม่กอดลูกไว้แนบอก แม่เหม่อมองท้องฟ้า เห็นเพียงปุยเมฆขาวฟูฟ่อง บนฟ้าช่างเวิ้งว้าง บ่อยครั้งที่แม่ไม่มั่นใจเลยว่าแม่จะเป็นแม่ที่ดีไหม แม่จะเลี้ยงลูกได้คู่ควรหรือไม่ แม่รู้สึกว่าแม่ต่ำต้อยเสมอเมื่อนึกถึงความไว้วางใจจากสวรรค์ให้ดูแลบุตรีน้อยๆ คนนี้
ตาน้ำ
แม่เพิ่งรู้ว่า ยามลมพายุพัดระหว่างมีบ้านอยู่กลางหุบเขากับที่ราบโล่ง เสียงสายลมจะหวีดดังไม่เหมือนกัน
แต่ก่อนฉันเคยใฝ่ฝันกับการมีบ้านมานาน แต่จนแล้วจนรอดก็มักจะรู้สึกว่ายังไม่ใช่เวลานั้น มันยังไม่ถึงเวลา ฉันยังอยากเดินทางท่องไปอยู่ ยังอยากพบเจออะไรใหม่ๆ อยู่ ดังนั้น หลายครั้งหลายหนเมื่อพบเจอปลอกหมอน ฟูกนอนพื้นบ้าน ผ้าพื้นเมืองลายคลาสสิก แก้ว จาน ชาม เซรามิกที่ถูกใจก็มักจะซื้อเก็บไว้ แต่ก็ไม่ค่อยได้นำเอาออกมาใช้
ฉันได้แต่อมยิ้มเมื่อได้ยินเสียงดุๆ ของคนขายของชำที่มีต่อเด็กหญิงตัวเล็กๆ คะเนอายุเธอน่าจะประมาณสามขวบคนขายของถามเด็กหญิงว่า "เอาอะไร"เด็กหญิงตอบอ้อมแอ้ม น้ำเสียงลังเล "เอา...เอา... เอานม!"
ช่วงปิดเทอม ดาวใจกับไพจิตรได้เข้ามาที่ศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้านเกือบทุกวันเพราะพ่อแม่ของเธอมารับจ้างสับมัน (มันสำปะหลัง) กับสหกรณ์ปากมูล (สหกรณ์ปากมูลและศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้านอยู่ติดกัน) บางครั้งดาวใจก็รับจ้างด้วย เพราะเธอโตแล้ว อายุสิบสี่ปีกว่า เธอทำงานแบบนี้ได้สบายมาก ส่วนไพจิตรยังคงเป็นเด็กหญิงซนๆ วิ่งไปวิ่งมา ทำงานตามแต่คำบัญชาการของพ่อแม่