Skip to main content


ผลงานน้องจูนี่


ไฟ

ไฟ ไฟ ไฟ

ไฟ กำลังลุกไหม้บ้านเมืองของเรา

เร้ว เร็วเข้าเถิด

รีบมาช่วยกันดับไฟเร็วๆเข้า

 

บ้า

บ้า บ้า บ้า

บ้าบอคอแตกที่สุดในโลก

มัวไปสนใจ

มัวไปทะเลาะเบาะแว้ง

มัวไปทุ่มเถียงกันให้เสียเวลาทำไม

ว่าพวกรัฐบาลหรือว่าพวกพันธมิตร

ใครเป็นคนลงมือจุดไฟเผา

ใช้น้ำมันเบนซินยี่ห้ออะไร

บริษัทอะไรเป็นผู้ผลิต

ใครเป็นคนคิดวางแผน

ใครเป็นคนสั่งการ


ไฟ

ไฟ ไฟ ไฟ

ไฟ กำลังลุกไหม้บ้านเมืองของเรา

เร้ว เร็วเข้าเถิด

รีบมาช่วยกันดับไฟเร็วๆเข้า

 

ณ ขณะเวลานี้

ขณะที่ไฟกำลังลุกไหม้บ้านเมืองของเรา

เรื่องที่สำคัญที่สุดในโลก

เรื่องที่ด่วนที่สุดในโลก

ที่เราจะต้องช่วยกันทำเป็นสิ่งแรก

คือ ช่วยกันดับไฟที่กำลังลุกไหม้ที่อยู่อาศัยของเรา

มิใช่มัวมาทะเลาะและทุ่มเถียงกัน ว่าใครเป็นผู้ร้าย

 

ไฟ

ไฟ ไฟ ไฟ

ไฟ กำลังลุกไหม้บ้านเมืองของเรา

เร้ว เร็วเข้าเถิด

รีบมาช่วยกันดับไฟเร็วๆเข้า

 

โอ้ ถ้าหากพวกเรา

ยังขืนมัวมาทะเลาะและทุ่มเถียงกัน ว่าใครเป็นผู้ร้าย

ระหว่างรัฐบาลกับพันธมิตร

ที่ต่างฝ่ายต่างก็ถือว่าตัวเองถูกต้องและชอบธรรม

และต่างฝ่ายต่างก็ยังคงประณามกัน ว่าพวกคุณเป็นคนผิดและเป็นผู้ร้าย ไม่ยอมยุติ

บางที...เพียงแค่วันนี้ - ก็คงสายไปเสียแล้ว

สำหรับการรักษาสิ่งที่สำคัญที่สุดเอาไว้

 

ไฟ

ไฟ ไฟ ไฟ

ไฟ กำลังลุกไหม้บ้านเมืองของเรา.

 

กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่


บล็อกของ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว

ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ชีวิตของผมเป็นชีวิตที่ประสบกับภาวะขึ้น ๆ ลง ๆ เหมือนเส้นกราฟมานับครั้งไม่ถ้วน หรือถ้าจะพูดให้ชัดเจนและเข้าใจกันได้ง่าย ๆ แบบภาษาชาวบ้านก็คือ เป็นชีวิตที่ประสบกับความรุ่งเรืองและตกต่ำตามวิถีทางและอัตภาพของตัวเองสลับกันไปมา...นับครั้งไม่ถ้วน นั่นเองแต่ก็แปลก...จนป่านนี้ ผมก็ยังไม่อาจทำใจยอมรับและรู้สึกว่า มันเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตที่ต้องมีขึ้นมีลง นั่นคือเวลาที่ชีวิตผมขึ้นหรือรุ่งเรือง ผมก็จะรู้สึกว่าตัวเองฟูฟ่องพองโต และมองดูโลกนี้สวยงามสดชื่นรื่นรมย์ น่าอยู่น่าอาศัย...ราวกับสวรรค์บนพื้นพิภพแต่พอถึงเวลาที่ชีวิตเริ่มลงหรือตกต่ำ ผมก็จะรู้สึกว่าตัวเองเริ่มห่อเหี่ยวฟุบแฟบ…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ผมเคยรู้จักคนบางจำพวกที่มีลักษณะต่างจากคนธรรมดาทั่วไปอย่างเรา ๆ ท่าน อยู่ประการหนึ่ง นั่นคือคน-คนพวกนี้ไม่ว่าจะประสบกับปัญหาชีวิตมากน้อยหรือหนักหนาสาหัสเพียงใด เมื่อถึงเวลานอนหลับ…เขาสามารถที่จะปล่อยวางปัญหานั้น ๆ ออกไปจากความคิดจิตใจ และนอนหลับได้สนิท ราวกับว่าไม่มีปัญหาใด ๆ มาแผ้วพาน ครั้นเมื่อตื่นขึ้นมาในยามเช้าวันใหม่ เขาก็จะหยิบยกปัญหาต่าง ๆ มาครุ่นคิดพิจารณาหาทางแก้ไข ปัญหาใดที่แก้ไขได้…ก็จัดการแก้ไขให้เรียบร้อย ส่วนปัญหาที่ยังแก้ไขไม่ได้เขาก็สามารถจะปล่อยวางปัญหานั้นเอาไว้ก่อน และหันไปทำธุระอื่น ๆ แทนที่จะเก็บมาหมกมุ่นครุ่นคิด เป็นทุกข์กังวลอยู่กับปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้…