Skip to main content




ข้าใส่เสื้อสีเหลือง

ใช่

เพราะข้าเชื่อในสีเหลืองแห่งความชอบธรรมของข้า

ใช่

เพราะข้าเชื่อในสีเหลืองแห่งความถูกต้องของข้า

ใช่

เพราะข้าเชื่อในสีเหลืองแห่งความดีงามของข้า

ใช่

เพราะข้าเชื่อในสีเหลืองแห่งข้อเท็จจริงของข้า

ใช่

เพราะข้าเชื่อในสีเหลืองแห่งความเป็นจริงของข้า

ใช่

เพราะข้าเชื่อในสีเหลืองแห่งเหตุผลของข้า

ใช่

เพราะข้าเชื่อสีเหลืองแห่งอุดมการณ์ของข้า

ใช่

เพราะข้าเชื่อในสีเหลืองแห่งพลังมวลชนอันยิ่งใหญ่ของข้า

และความเชื่อในสีเหลืองทั้งหมดของข้า

เป็นความเชื่อที่ข้าเชื่อว่า

เป็นความเชื่อที่ถูกต้องที่สุด

และดีที่สุดที่ข้ามี แต่เพียงผู้เดียวในโลกนี้

ข้าจึงไม่มีวันที่จะประนีประนอม

กับใครหน้าไหนในโลกนี้ทั้งสิ้น


ยกทัพเข้ามาสิ ไอ้พวกเสื้อสีแดง ไอ้พวกขี้ข้าทุนนิยมสามานย์

รีบๆยกทัพมาฆ่ากันให้ตายไปข้างหนึ่ง

เพื่อพิสูจน์ความเชื่อระหว่างสีของเรา

ว่าสีของใครจะเหนือชั้นกว่ากัน


ข้าใส่เสื้อแดง

ใช่

เพราะข้าเชื่อในสีแดงแห่งความชอบธรรมของข้า

ใช่

เพราะข้าเชื่อในสีแดงแห่งความถูกต้องของข้า

ใช่

เพราะข้าเชื่อในสีแดงแห่งความดีงามของข้า

ใช่

เพราะข้าเชื่อในสีแดงแห่งข้อเท็จจริงของข้า

ใช่

เพราะข้าเชื่อในสีแดงแห่งความเป็นจริงของข้า

ใช่

เพราะข้าเชื่อในสีแดงแห่งเหตุผลของข้า

ใช่

เพราะข้าเชื่อสีแดงแห่งอุดมการณ์ของข้า

ใช่

เพราะข้าเชื่อในสีแดงแห่งพลังมวลชนอันยิ่งใหญ่ของข้า

และความเชื่อในสีแดงทั้งหมดของข้า

เป็นความเชื่อที่ข้าเชื่อว่า

เป็นความเชื่อที่ถูกต้องที่สุด

และดีที่สุดที่ข้ามี แต่เพียงผู้เดียวในโลกนี้

ข้าจึงไม่มีวันที่จะประนีประนอม

กับใครหน้าไหนในโลกนี้ทั้งสิ้น


ยกทัพเข้ามาสิ ไอ้พวกเสื้อสีเหลือง ไอ้พวกขี้ข้าศักดินาอำมาตย์

รีบๆยกทัพเข้ามาฆ่ากันให้ตายไปข้างหนึ่ง

เพื่อพิสูจน์ความเชื่อระหว่างสีของเรา

ว่าสีของใครจะเหนือชั้นกว่ากัน


เร็วๆเข้าเถิด

รีบๆมาฆ่ากันให้ตายเร็วๆเข้าเถิด

เราเสียเวลาทะเลาะเบาะแว้งกันมานานหลายเดือนแล้ว

มัวโอ้เอ้เสียเวลา

ไปฟังคำทักท้วงโง่ๆ ของไอ้พวกรักสันติ ไอ้พวกขี้ขลาดตาขาวที่มุดหัวอยู่แต่ในรู

ให้เสียเวลาอันมีค่าในการฆ่ากันระหว่างเราทำไม


เร็วๆเข้าเถิด

รีบๆมาฆ่ากันให้ตายเร็วๆเข้าเถิด

เพื่อพิสูจน์ความเชื่อระหว่างสีของเรา

ว่าของใครจะเหนือชั้นกว่ากัน.


กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่

 

 

บล็อกของ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว

ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ชีวิตของผมเป็นชีวิตที่ประสบกับภาวะขึ้น ๆ ลง ๆ เหมือนเส้นกราฟมานับครั้งไม่ถ้วน หรือถ้าจะพูดให้ชัดเจนและเข้าใจกันได้ง่าย ๆ แบบภาษาชาวบ้านก็คือ เป็นชีวิตที่ประสบกับความรุ่งเรืองและตกต่ำตามวิถีทางและอัตภาพของตัวเองสลับกันไปมา...นับครั้งไม่ถ้วน นั่นเองแต่ก็แปลก...จนป่านนี้ ผมก็ยังไม่อาจทำใจยอมรับและรู้สึกว่า มันเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตที่ต้องมีขึ้นมีลง นั่นคือเวลาที่ชีวิตผมขึ้นหรือรุ่งเรือง ผมก็จะรู้สึกว่าตัวเองฟูฟ่องพองโต และมองดูโลกนี้สวยงามสดชื่นรื่นรมย์ น่าอยู่น่าอาศัย...ราวกับสวรรค์บนพื้นพิภพแต่พอถึงเวลาที่ชีวิตเริ่มลงหรือตกต่ำ ผมก็จะรู้สึกว่าตัวเองเริ่มห่อเหี่ยวฟุบแฟบ…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ผมเคยรู้จักคนบางจำพวกที่มีลักษณะต่างจากคนธรรมดาทั่วไปอย่างเรา ๆ ท่าน อยู่ประการหนึ่ง นั่นคือคน-คนพวกนี้ไม่ว่าจะประสบกับปัญหาชีวิตมากน้อยหรือหนักหนาสาหัสเพียงใด เมื่อถึงเวลานอนหลับ…เขาสามารถที่จะปล่อยวางปัญหานั้น ๆ ออกไปจากความคิดจิตใจ และนอนหลับได้สนิท ราวกับว่าไม่มีปัญหาใด ๆ มาแผ้วพาน ครั้นเมื่อตื่นขึ้นมาในยามเช้าวันใหม่ เขาก็จะหยิบยกปัญหาต่าง ๆ มาครุ่นคิดพิจารณาหาทางแก้ไข ปัญหาใดที่แก้ไขได้…ก็จัดการแก้ไขให้เรียบร้อย ส่วนปัญหาที่ยังแก้ไขไม่ได้เขาก็สามารถจะปล่อยวางปัญหานั้นเอาไว้ก่อน และหันไปทำธุระอื่น ๆ แทนที่จะเก็บมาหมกมุ่นครุ่นคิด เป็นทุกข์กังวลอยู่กับปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้…