Skip to main content

 

โอ พระเจ้า !

ข้าสงสัยเหลือเกินว่า ทักษิณ ชินวัตร

ทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตร

ทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตร

ทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตร

ทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตร

 

และ

 

สนธิ ลิ้มทองกุล สนธิ ลิ้มทองกุล สนธิลิ้มทองกุล สนธิ ลิ้มทองกุล

สนธิ ลิ้มทองกุล สนธิ ลิ้ม ทองกุล สนธิ ลิ้มทองกุล สนธิ ลิ้มทองกุล

สนธิ ลิ้ม ทองกุล สนธิลิ้มทองกุล สนธิ ลิ้มทองกุล สนธิ ลิ้มทองกุล

สนธิ ลิ้มทองกุล สนธิ ลิ้มทองกุล สนธิ ลิ้มทองกุล สนธิ ลิ้มทองกุล

บุคคลที่เก่งกล้าทั้งสองท่านนี้

 

จะเดินลงจากยอดเขาสูง

ที่เขาปีนขึ้นไป

จนถึงยอดสูงสุดอันหนาวเย็นจับขั้วหัวใจ

คืนกลับลงมา - สู่ความเป็นปรกติสามัญโดยปลอดภัยได้อย่างไร

ในเมื่อสิ่งที่ทั้งสองท่านนี้ได้กระทำเอาไว้

ในการต่อสู้กันทุกวิธีการ

ทุกรูปแบบ

และทุกวิถีทาง - ทางการเมือง

เพื่อเอาชนะและทำลายกันให้พินาศไปข้างหนึ่ง

แต่กลับพินาศย่อยยับด้วยกันทั้งสองฝ่าย

และยังไม่มีฝ่ายใดเอาชนะกันได้อย่างเด็ดขาด

ได้กลายเป็นกับดักอันแหลมคม

และหลุมพรางอันล้ำลึก - มากมายเกลื่อนกลาด ตลอดเส้นทางเดิน

จากยอดเขาสูงลงมาสู่พื้นที่ราบ

และวิถีแห่งสามัญ...

 

ใช่

วิถีแห่งสามัญ

ที่บุคคลทั้งสองท่านนี้จะต้องคืนกลับลงมา

เพราะบนยอดเขาสูงนั้นไม่มีอะไร

นอกจากการมองเห็นทิวทัศน์ในมุมสูงและกว้าง

ดัง เช่น การมองลงมาจากเบื้องบน - จากนัยน์ตาของนก

และอากาศหนาวเย็นจับขั้วหัวใจ

และความโดดเดี่ยวเดียวดาย

ดั่งยอดแหลมสุดของปิรามิด - ที่ถูกลงโทษชั่วนิรันดร์

อยู่บนเวิ้งนภาอันเปล่าเปลี่ยว

 

โอ พระเจ้า

ข้าสงสัยเหลือเกินว่า

บุคคลที่เก่งกล้าทั้งท่านนี้

จะคืนกลับลงสู่สามัญด้วยความปลอดภัยได้อย่างไร

เมื่อถึงคราวที่ท่านทั้งสองต้องแพ้ภัยตัวเอง

ดังที่ชะตากรรมที่ไม่อาจต้านทานได้

กำลังกำหนดให้เป็นไป

อาเมน !

 

กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่

บล็อกของ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว

ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ชีวิตของผมเป็นชีวิตที่ประสบกับภาวะขึ้น ๆ ลง ๆ เหมือนเส้นกราฟมานับครั้งไม่ถ้วน หรือถ้าจะพูดให้ชัดเจนและเข้าใจกันได้ง่าย ๆ แบบภาษาชาวบ้านก็คือ เป็นชีวิตที่ประสบกับความรุ่งเรืองและตกต่ำตามวิถีทางและอัตภาพของตัวเองสลับกันไปมา...นับครั้งไม่ถ้วน นั่นเองแต่ก็แปลก...จนป่านนี้ ผมก็ยังไม่อาจทำใจยอมรับและรู้สึกว่า มันเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตที่ต้องมีขึ้นมีลง นั่นคือเวลาที่ชีวิตผมขึ้นหรือรุ่งเรือง ผมก็จะรู้สึกว่าตัวเองฟูฟ่องพองโต และมองดูโลกนี้สวยงามสดชื่นรื่นรมย์ น่าอยู่น่าอาศัย...ราวกับสวรรค์บนพื้นพิภพแต่พอถึงเวลาที่ชีวิตเริ่มลงหรือตกต่ำ ผมก็จะรู้สึกว่าตัวเองเริ่มห่อเหี่ยวฟุบแฟบ…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ผมเคยรู้จักคนบางจำพวกที่มีลักษณะต่างจากคนธรรมดาทั่วไปอย่างเรา ๆ ท่าน อยู่ประการหนึ่ง นั่นคือคน-คนพวกนี้ไม่ว่าจะประสบกับปัญหาชีวิตมากน้อยหรือหนักหนาสาหัสเพียงใด เมื่อถึงเวลานอนหลับ…เขาสามารถที่จะปล่อยวางปัญหานั้น ๆ ออกไปจากความคิดจิตใจ และนอนหลับได้สนิท ราวกับว่าไม่มีปัญหาใด ๆ มาแผ้วพาน ครั้นเมื่อตื่นขึ้นมาในยามเช้าวันใหม่ เขาก็จะหยิบยกปัญหาต่าง ๆ มาครุ่นคิดพิจารณาหาทางแก้ไข ปัญหาใดที่แก้ไขได้…ก็จัดการแก้ไขให้เรียบร้อย ส่วนปัญหาที่ยังแก้ไขไม่ได้เขาก็สามารถจะปล่อยวางปัญหานั้นเอาไว้ก่อน และหันไปทำธุระอื่น ๆ แทนที่จะเก็บมาหมกมุ่นครุ่นคิด เป็นทุกข์กังวลอยู่กับปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้…