Skip to main content

อำนาจ
ไม่ว่าอำนาจนั้น
จะเป็นอำนาจที่ชอบธรรมหรือไม่
ตราบใดที่อำนาจนั้นยังมีอำนาจอยู่
อำนาจนั้น
ย่อมมีอำนาจในการบังคับผู้อยู่ภายใต้อำนาจ
ให้เชื่อฟังและปฏิบัติตาม

อำนาจ
ไม่ว่าอำนาจนั้น
จะเป็นอำนาจที่ชอบธรรมหรือไม่
ตราบใดที่อำนาจนั้นยังมีอำนาจ
ผู้ครอบครองอำนาจนั้น
ย่อมหวงแหนและปกป้องอำนาจนั้นเอาไว้จนถึงที่สุด
เป็นธรรมดา...
เพราะการสูญเสียอำนาจมักจะติดตามมาด้วย
การสูญเสียแทบทุกอย่างในชีวิต
ที่เคยใช้อำนาจกอบโกยเอาไว้
หรือแม้กระทั่งชีวิตของตนเอง

อำนาจ
ไม่ว่าอำนาจนั้น
จะเป็นอำนาจที่ชอบธรรมหรือไม่
ตราบใดที่อำนาจนั้นยังมีอำนาจ
ผู้ครอบครองอำนาจนั้น
ย่อมกำจัดทุกผู้หมู่เหล่าที่มีทีท่าว่า
จะขึ้นมามีอำนาจทัดเทียมหรือล้ำหน้า
ทุกๆวิธีการเท่าที่จะทำได้...แม้กระทั่งการฆ่า...
ไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหน
ไม่มีข้อยกเว้น
แม้แต่คนที่เป็นพี่น้องเกิดจากท้องแม่เดียวกัน
เป็นธรรมดา

อำนาจ
ไม่ว่าอำนาจนั้น
จะเป็นอำนาจที่ชอบธรรมหรือไม่
ตราบใดที่อำนาจนั้นยังมีอำนาจ
และยิ่งเป็นอำนาจที่สามารถรักษาอำนาจของตนเอง
ดำรงอยู่ในสังคมมายาวนาน
ยิ่งยากนัก...หรือเป็นไปไม่ได้เลย
ที่พลังภายนอกใดๆเข้าไปโค่นล้มลงได้
เพราะอำนาจเตรียมพร้อมไว้หมดทุกอย่าง - ที่จะกำจัด
ผู้ที่ล่วงล้ำเข้าไปแตะต้อง
เอาไว้อย่างเชี่ยวชาญเด็ดขาด
และเต็มไปด้วยประสิทธิภาพที่น่าสะพรึงกลัว
อำนาจจึงแทบไม่เคยถูกโค่นล้ม
จากพลังใดๆที่มาจากภายนอก
ที่เป็นแค่เสียงนกเสียงกา
เสียงหมาเห่าหอนที่ไร้ความหมาย
แต่มักจะถูกโค่นล้มจากผู้ครอบครองอำนาจด้วยกัน
เหมือนเหล็กที่ถูกทำลายอย่างย่อยยับ
ด้วยสนิมที่เกิดจากเนื้อในตน

นักปฏิวัติสังคม
ที่ประสบความสำเร็จ
ในการเปลี่ยนแปลงสังคมทั้งระบบ
จึงมิใช่นักปฏิวัติที่ปลุกระดมประชาชนให้ลุกฮือขึ้น
แล้วพากันไปล้มลงตายเหมือนใบไม้ร่วง
เพื่อที่จะพบว่าทุกสิ่งทุกอย่างยังเหมือนเดิม
หรืออาจจะเลวร้ายยิ่งกว่า...
แต่คือนักปฏิวัติ
ที่สามารถใช้กลยุทธ์เข้าไปเกลี้ยกล่อมผู้คน
ที่ร่วมกันครอบครองอำนาจนั้นให้เป็นคนทรยศ
และลงมือทำลาย...

ประวัติศาสตร์สังคม
แทบทุกมุมโลก
แทบทุกยุคสมัย
บันทึกข้อเท็จจริง
เอาไว้ดังนี้แลนา.

10 เมษายน 2555
กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่

บล็อกของ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว

ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ชีวิตของผมเป็นชีวิตที่ประสบกับภาวะขึ้น ๆ ลง ๆ เหมือนเส้นกราฟมานับครั้งไม่ถ้วน หรือถ้าจะพูดให้ชัดเจนและเข้าใจกันได้ง่าย ๆ แบบภาษาชาวบ้านก็คือ เป็นชีวิตที่ประสบกับความรุ่งเรืองและตกต่ำตามวิถีทางและอัตภาพของตัวเองสลับกันไปมา...นับครั้งไม่ถ้วน นั่นเองแต่ก็แปลก...จนป่านนี้ ผมก็ยังไม่อาจทำใจยอมรับและรู้สึกว่า มันเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตที่ต้องมีขึ้นมีลง นั่นคือเวลาที่ชีวิตผมขึ้นหรือรุ่งเรือง ผมก็จะรู้สึกว่าตัวเองฟูฟ่องพองโต และมองดูโลกนี้สวยงามสดชื่นรื่นรมย์ น่าอยู่น่าอาศัย...ราวกับสวรรค์บนพื้นพิภพแต่พอถึงเวลาที่ชีวิตเริ่มลงหรือตกต่ำ ผมก็จะรู้สึกว่าตัวเองเริ่มห่อเหี่ยวฟุบแฟบ…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ผมเคยรู้จักคนบางจำพวกที่มีลักษณะต่างจากคนธรรมดาทั่วไปอย่างเรา ๆ ท่าน อยู่ประการหนึ่ง นั่นคือคน-คนพวกนี้ไม่ว่าจะประสบกับปัญหาชีวิตมากน้อยหรือหนักหนาสาหัสเพียงใด เมื่อถึงเวลานอนหลับ…เขาสามารถที่จะปล่อยวางปัญหานั้น ๆ ออกไปจากความคิดจิตใจ และนอนหลับได้สนิท ราวกับว่าไม่มีปัญหาใด ๆ มาแผ้วพาน ครั้นเมื่อตื่นขึ้นมาในยามเช้าวันใหม่ เขาก็จะหยิบยกปัญหาต่าง ๆ มาครุ่นคิดพิจารณาหาทางแก้ไข ปัญหาใดที่แก้ไขได้…ก็จัดการแก้ไขให้เรียบร้อย ส่วนปัญหาที่ยังแก้ไขไม่ได้เขาก็สามารถจะปล่อยวางปัญหานั้นเอาไว้ก่อน และหันไปทำธุระอื่น ๆ แทนที่จะเก็บมาหมกมุ่นครุ่นคิด เป็นทุกข์กังวลอยู่กับปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้…