Skip to main content

20080403 ต้นไม้

ยิ่งชูก้านกิ่งใบไปสู่ฟ้า
ราวจักคว้าดวงตะวันอันสุกใส
ลงจากฟ้ามาเล่นเป็นโคมไฟ
ส่องดวงใจตกอับคนคับแค้น

และยิ่งสูงขึ้นไปจนไกลลิบ
ราวจักหยิบดวงดาวพร่างพราวแสน
มาเรียงร้อยสร้อยดาววับวาวแทน
สร้อยใส่แขนเจ้าสาวผู้หนาวรัก

ยิ่งต้องหยั่งรากลึกลงสู่ดิน
ดูดดื่มกินโลกธาตุอย่างหน่วงหนัก
ทุกเส้นสายชอนไชลงไกลนัก
เพื่อที่จักเติบใหญ่ให้ร่มเงา

เพื่อผลิดอกออกผลจนสุกงอม
เพื่อโน้มน้อมกิ่งลงดำรงเผ่า
เพื่อสืบเนื่องชีวิตนี้แนบเนา
เพื่อกล่อมเกลาโลกขมขื่นให้ชื่นบาน

เพื่อที่จักตายไปในวันหนึ่ง
เมื่อยามถึงกาลเวลามาเรียกขาน
ทอดกายลงพักผ่อนนอนนิ่งนาน
อยู่ในกาลนิรันดร์สงบเงียบ.

27 มีนาคม 2551
กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่

บล็อกของ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว

ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ชีวิตของผมเป็นชีวิตที่ประสบกับภาวะขึ้น ๆ ลง ๆ เหมือนเส้นกราฟมานับครั้งไม่ถ้วน หรือถ้าจะพูดให้ชัดเจนและเข้าใจกันได้ง่าย ๆ แบบภาษาชาวบ้านก็คือ เป็นชีวิตที่ประสบกับความรุ่งเรืองและตกต่ำตามวิถีทางและอัตภาพของตัวเองสลับกันไปมา...นับครั้งไม่ถ้วน นั่นเองแต่ก็แปลก...จนป่านนี้ ผมก็ยังไม่อาจทำใจยอมรับและรู้สึกว่า มันเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตที่ต้องมีขึ้นมีลง นั่นคือเวลาที่ชีวิตผมขึ้นหรือรุ่งเรือง ผมก็จะรู้สึกว่าตัวเองฟูฟ่องพองโต และมองดูโลกนี้สวยงามสดชื่นรื่นรมย์ น่าอยู่น่าอาศัย...ราวกับสวรรค์บนพื้นพิภพแต่พอถึงเวลาที่ชีวิตเริ่มลงหรือตกต่ำ ผมก็จะรู้สึกว่าตัวเองเริ่มห่อเหี่ยวฟุบแฟบ…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ผมเคยรู้จักคนบางจำพวกที่มีลักษณะต่างจากคนธรรมดาทั่วไปอย่างเรา ๆ ท่าน อยู่ประการหนึ่ง นั่นคือคน-คนพวกนี้ไม่ว่าจะประสบกับปัญหาชีวิตมากน้อยหรือหนักหนาสาหัสเพียงใด เมื่อถึงเวลานอนหลับ…เขาสามารถที่จะปล่อยวางปัญหานั้น ๆ ออกไปจากความคิดจิตใจ และนอนหลับได้สนิท ราวกับว่าไม่มีปัญหาใด ๆ มาแผ้วพาน ครั้นเมื่อตื่นขึ้นมาในยามเช้าวันใหม่ เขาก็จะหยิบยกปัญหาต่าง ๆ มาครุ่นคิดพิจารณาหาทางแก้ไข ปัญหาใดที่แก้ไขได้…ก็จัดการแก้ไขให้เรียบร้อย ส่วนปัญหาที่ยังแก้ไขไม่ได้เขาก็สามารถจะปล่อยวางปัญหานั้นเอาไว้ก่อน และหันไปทำธุระอื่น ๆ แทนที่จะเก็บมาหมกมุ่นครุ่นคิด เป็นทุกข์กังวลอยู่กับปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้…