Skip to main content
แสงสีแดงพาดผ่านท้องฟ้าสีดำ

เหนือดินแดนปาเลสไตน์

เหนือหมู่ตึกอันแออัดและทรุดโทรม

 

ลูกเหล็กบรรทุกดินระเบิดพุ่งปะทะคอนกรีต

หนึ่งลูก สองลูก สิบลูก ร้อยลูก
พันลูก หมื่นลูก แสนลูก ล้านลูก

กัมปนาทสะท้านสะเทือน

ราวกับโลกกำลังพังทลาย

ราวกับโลกหยุดหมุน

วันพรุ่งนี้ ไม่มีอีกแล้ว


นี่คือลำแสงแห่งการชำระล้าง

นี่คือของขวัญ

 

ของขวัญจากดินแดนแห่งพันธสัญญาของพระเจ้า

พระเจ้าแห่งการล้างแค้น

 

----------

 

ชายชราตาบอดกอดเด็กหญิงผู้เหลือร่างเพียงซีกเดียว

หญิงม่ายกับลูกชายสามคนยังอยู่ใต้ซากตึก

คู่แต่งงานใหม่เหลือเพียงมือที่ยึดกุมกันแน่น

นักสีไวโอลินไม่เหลือมืออีกแล้ว

เด็ก เด็ก เดินร้องไห้ตามหาพ่อแม่

พ่อแม่ แทบเสียสติเมื่อเห็นศพลูก ลูก

เหล่าคนชราสวดส่งวิญญาณให้ลูกหลาน

เสียงร้องไห้ กองเลือด

ซากศพเกลื่อนกลาดเต็มท้องถนน

ผู้สูญเสียวิงวอนขอความเมตตา

 

ในนามแห่งพระเจ้า

ในนามแห่งพระเจ้า ...

 

ผู้บัญชาการออกคำสั่งว่า

โจมตีต่อไป

 

----------

 

พวกเขากล่าวว่า

วันพิพากษามาถึงแล้ว

ด้วยปากกระบอกปืนและขีปนาวุธทรงอานุภาพ

 

พวกเขากล่าวว่า

เหล่าคนนอกศาสนาต้องถูกทำลายสิ้น

 

ความชิงชังอันในในชนชาติอิสราเอล

ความชิงชังอันใดในชนชาติปาเลสไตน์

 

โอ...พระบิดาผู้ทรงฤทธิ์

พวกเขาเอ่ยนามพระองค์ก่อนสังหารเหล่าศัตรูผู้ไร้ทางต่อกร

พวกเขาสวดอ้อนวอนเพื่อขอชัยชนะหลังการบดขยี้

 

โอ...พระบิดาผู้ทรงฤทธิ์

หรือสิ่งนี้คือบทเรียนอันทรงคุณค่าของมนุษยชาติที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง

 

ก็เหตุใดเล่า ความรักอันศักสิทธิ์จึงไม่อาจชำระดวงวิญญาณของพวกเขาให้บริสุทธิ์

แล้วเหตุใดเล่า คุณค่าของชีวิตจึงถูกเหยียดหยามถึงเพียงนี้

 

หรือพระเจ้าของพวกเขา

มิใช่พระเจ้าแห่งความรัก ? ...

 

----------


ในโบสถ์ที่ปราศจากหลังคา

บรรดาหญิงสาวสวดวิงวอนต่อพระผู้เป็นเจ้า

 

ขอสันติภาพจงมีแด่โลก

ขอสันติภาพจงมีแด่โลก

ขอสันติภาพจงมีแด่โลก

 

ฝูงเครื่องบินรบรุ่นล่าสุดบินผ่านไป

เสียงดังสะท้านสะเทือนบนท้องฟ้าเหนือดินแดนปาเลสไตน์

กลบเสียงสวดของหญิงสาวชั่วกาลนาน

 

พระองค์...

ได้ยินคำสวดวิงวอนบ้างไหม

 

----------

 

เสียงสวดขอความเมตตา

 

ได้ยินบ้างไหมเล่า

 

ได้ยินบ้างไหมเล่า

 

พระเจ้าแห่งการล้างแค้น ? ...

 

----------


บล็อกของ ฐาปนา

ฐาปนา
“...พูดอย่างกว้างที่สุดคือ สิ่งเลวร้ายทั้งหมดเกิดจากการเลือกของเธอเอง ความผิดพลาดไม่ได้อยู่ที่การเลือกนั้นแต่อยู่ที่การเรียกว่าเลวร้าย เพราะเมื่อเธอบอกว่ามันเลวร้ายก็เท่ากับบอกว่าตัวเธอเองเลวร้ายด้วย เพราะเธอเป็นคนสร้างขึ้นมาเอง เธอไม่อาจยอมรับการตราหน้านี้ได้ ดังนั้น แทนที่จะตราหน้าตัวเองว่าเป็นคนเลวร้าย เธอกลับปฏิเสธสิ่งต่างๆ ที่ตนสร้างขึ้นมาเสียเลย อสัตย์ทางสติปัญญาและจิตวิญญาณนี้เองที่ทำให้เธอยอมรับโลกอันมีสภาพอย่างนี้ หากเธอจะยอมรับหรือแม้เพียงรู้สึกลึกๆ ข้างในว่าตนมีส่วนต้องรับผิดชอบต่อโลกใบนี้บ้าง โลกจะต่างออกไปกว่านี้มาก มันจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ หากทุกคนรู้สึกถึงความรับผิดชอบ…
ฐาปนา
“...เราจะต้องดำรงชีวิตที่เป็นของเราเอง การงานเป็นเพียงส่วนหนึ่งของชีวิตเท่านั้น และงานคือชีวิตก็ต่อเมื่อเราทำงานนั้นด้วยสติเท่านั้น มิฉะนั้นเราก็จะเหมือนกับคนตายที่มีชีวิตอยู่ เราแต่ละคนจะต้องจุดคบเพลิงของชีวิตด้วยตนเอง แต่ชีวิตของเราแต่ละคนเกี่ยวพันกับชีวิตของบุคคลรอบๆ เราด้วย หากเรารู้จักวิธีปกปักรักษา และระวังจิตใจและหฤทัยของเราเอง นั่นแหละจะช่วยให้พี่น้องเพื่อนมนุษย์รอบข้างเรา รู้จักการมีชีวิตอยู่อย่างมีสติ...”(ติช นัท ฮันห์,ปาฏิหาริย์แห่งการตื่นอยู่เสมอ: มูลนิธิโกมลคีมทอง พิมพ์ครั้งที่ 17,กันยายน 49) ความเปลี่ยนแปลง คือสัจธรรม ไม่มีสิ่งใดที่จะคงทนถาวรโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง…