Skip to main content

โดย Chotisak Onsoong

 

 

1. จีนเป็นประเทศ "ทุนนิยมโดยรัฐ" ไม่ใช่ประเทศ "สังคมนิยม" เพราะจีนมีการสะสมทุน มีการขูดรีดมูลค่าส่วนเกินไม่ต่างจากทุนนิยมทั่วไป เพียงแต่ทำโดยรัฐไม่ใช่เอกชน (แต่ในระยะหลังมีการเพิ่มบทบาทของเอกชนมากขึ้น)


 

2. การที่จีนเรียกตัวเองว่าประเทศสังคมนิยมไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าจีนเป็นประเทศสังคมนิยมจริงๆ เพราะจอมพลสฤษดิ์ก็บอกว่าตัวเองเป็นฝ่ายเสรีประชาธิปไตย พันธมิตรฯก็เรียกตัวเองว่า "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย"

 

การเคลมว่าตัวเองเป็นนั่นเป็นนี่มันไม่มากพอที่จะบอกว่าเขาเป็นอย่างนั้นจริงๆ เราต้องไม่ใสซื่อไร้เดียงสาเชื่อใครง่ายๆเพียงเพราะเขาบอกว่าเขาเป็นนั่นเป็นนี่ครับ

 

 

3. ระยะแรกหลัง พคจ.ปฏิวัติยึดอำนาจรัฐ การใช้แรงงานเป็นแบบแรงงานบังคับ/การเกณฑ์แรงงาน ไม่ใช่การจ้างงานแบบทุนนิยมที่เราคุ้นเคย ซึ่งบางคนตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเหมือนระบบศักดินา แต่ความจริงแล้วนั่นคือขั้นตอนหนึ่งของการสะสมทุนที่เรียกว่า "การสะสมทุนบุพกาล" ซึ่งเป็นการสะสมทุนในระยะเริ่มต้นที่จะนำเอาลักษณะการขูดรีดแรงงานก่อนหน้านี้มาใช้

 

การที่สังคมอเมริกาในช่วงแรกมีการใช้แรงงานทาสก็คือขั้นตอนเดียวกันนี้ เพียงแต่ต่างรูปแบบกัน (อันนึงเกณฑ์แรงงาน อันนึงใช้แรงงานทาส) และในกรณีจีนทำโดยรัฐ ขณะที่อเมริกาทำโดยเอกชน

 

 

4. เหมาอิสต์ไทยบางคนอ้างว่าเหตุที่หลังการปฏิวัติจีนต้องใช้แรงงานบังคับในข้อ 3.นั้นเพราะทุนนิยมในจีนยังไม่พัฒนาพอ (หรือบางคนบอกว่าจีนยังไม่เคยเป็นทุนนิยม) ดังนั้นเมื่อ พคจ.ปฏิวัติสำเร็จ พคจ.ก็เลยต้องพัฒนาทุนนิยม/ทำให้สังคมจีนเป็นทุนนิยมเต็มที่ซะก่อน (พูดอีกแบบนึงก็คือ ต้องพัฒนา "พลังการผลิต" ซะก่อน) แล้วค่อยไปสู่สังคมนิยม

 

ความจริงข้ออ้างนี้มีจุดให้โต้แย้งถกเถียงหลายจุด เพียงแต่ผมไม่อยากโต้แย้งประเด็นเหล่านั้นในบันทึกนี้ แต่ที่ยกข้ออ้างนี้มาเล่าก็เพราะอยากจะบอกว่า คนที่อ้างแบบนี้, จะโดยรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม, ก็ได้ยอมรับแล้วว่าจีนยังไม่เป็นสังคมนิยม

 

 

5. ความตลกอย่างหนึ่งของพวกเหมาอิสต์ก็คือ ดูเหมือนพวกเขาจะกลัว/ไม่อยาก/หรือพยายามเหลือเกินที่จะไม่สร้างสังคมนิยม

 

ในด้านหนึ่งพวกนี้เชื่อว่าสังคมต้องพัฒนาตามขั้นตอน ถ้ายังไม่เป็นทุนนิยมก็ต้องพัฒนาทุนนิยมให้มันเต็มที่ซะก่อน ขณะเดียวกันพวกเขาก็พยายามเหลือเกินที่จะชี้ว่าสังคมที่เขาพยายามปฏิวัติ, ซึ่งรวมถึงสังคมไทยปัจจุบัน, นั้นยังไม่เป็นทุนนิยม สรุปก็คือถ้าปฏิวัติสำเร็จก็ต้องเป็น "ทุนนิยมโดยรัฐ" ภายใต้ "การชี้นำ" ของพวกเขาแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

 

 

6. ดังนั้นเวลาพวกโปรทุนนิยมคุยโม้ว่า "ทุนนิยมชนะแล้วเพราะใครๆก็ล้วนแต่เลือกใช้ทุนนิยม และแม้แต่สังคมนิยมก็หันมาเปลี่ยนเป็นทุนนิยมมากขึ้น" ความจริงแล้วมันไม่ใช่ชัยชนะอะไรเลย แต่มันเป็นเพราะพวกโปรทุนนิยมโดยรัฐหันมายอมรับทุนนิยมกลไกตลาดเท่านั้นเอง

 

คือถ้ามันจะมีชัยชนะ-ความพ่ายแพ้ มันก็แค่เป็นชัยชนะ-ความพ่ายแพ้ระหว่างพวกโปรทุนนิยม 2 กลุ่มเท่านั้นเอง

 

 

7. จีนในปัจจุบันมีลักษณะ "ทุนนิยมกลไกตลาด" มากขึ้น คือลดบทบาทรัฐในทางเศรษฐกิจ แล้วให้บทบาทเอกชนเข้ามาแทนที่ส่วนนั้น

 

 

8. ดังนั้นเราอาจจะแบ่งทุนนิยมจีนหลังการปฏิวัติของ พคจ.แบบหยาบๆได้เป็น 3 ช่วง คือ

 

ก. ช่วง "การสะสมทุนบุพกาล" หลังการปฏิวัติใหม่ๆ ที่เอารูปแบบแรงงานบังคับคล้ายๆศักดินามาใช้

 

ข. ช่วง "ทุนนิยมโดยรัฐ"

 

ค. ช่วง "กึ่งทุนนิยมโดยรัฐกึ่งทุนเอกชน" ในปัจจุบัน

 

ซึ่งต้องย้ำว่าทั้ง 3 ช่วง (คือตั้งแต่หลังปฏิวัติมาจนถึงวินาทีปัจจุบัน) จีนเป็นทุนนิยมตลอด

 

 

9. ลาวและเวียดนามก็มีลักษณะไม่ต่างกันนี้ (อาจจะยกเว้นรูปแบบของการสะสมทุนบุพกาล), ทั้ง 2 ประเทศเคยผ่านช่วง "ทุนนิยมโดยรัฐ" มาแล้ว และปัจจุบันก็เปลี่ยนเป็น "กึ่งทุนนิยมโดยรัฐกึ่งทุนเอกชน"

 

ส่วนเกาหลีเหนือน่าจะยังอยู่ในขั้น "การสะสมทุนบุพกาล" อยู่

 

ทั้งหมดนี้ไม่มีประเทศไหนเป็นหรือเคยเป็น "สังคมนิยม" เลยแม้แต่ประเทศเดียว

 

 

10. ที่เขียนมานี้ไม่ใช่เพราะประเทศเหล่านี้ปฏิวัติแล้วผลงานออกมาแย่ แล้วผมก็เลยต้องพยามแก้ต่างให้ "สังคมนิยม" ด้วยการ "ถีบหัวส่ง" ปฏิเสธว่าประเทศพวกนี้ไม่ใช่สังคมนิยม เพราะในความเป็นจริงข้อถกเถียงที่ผมยกมามันมีมาก่อนที่จะเกิดการปฏิวัติในประเทศเหล่านี้ซะอีก

 

ที่เขียนมานี่คนอื่นเขาอธิบายไว้แล้วทั้งนั้น (จริงๆไม่ได้แค่อธิบาย แต่พวกเขาได้พยายามโต้แย้ง/คัดค้านแนวทางพวกนี้มานานแล้ว) ผมไม่ได้(เพิ่งมา)คิดเองหรอกครับ ....

บล็อกของ ประกายไฟ

ประกายไฟ
 "...ถ้ารัฐไม่มีหน้าที่บริการประชาชน มหาวิทยาลัยก็จะทำให้เป็นของเอกชน โรงพยาบาลก็จะเป็นเอกชน รถเมล์ น้าประปา ไฟฟ้า ก็จะต้องเป็นของเอกชน แล้วเราจะมีรัฐไปทำไม” เก่งกิจ กิติเรียงลาภ กล่าว  
ประกายไฟ
จริงอยู่ที่ทางกลุ่มแอดมินไทย อาจจะมีความคิดเห็นทางการเมืองที่อยู่คนละข้าง คนละสี....(บอกมาเถอะว่าสีอะไรปิดไม่มิดหรอก) กับสมาชิกในเพจที่เป็นเพื่อนร่วมชาติชาวไทย แต่นี้มันเพจระหว่างประเทศ ที่ผู้เขียนในฐานะสมาชิกคนหนึ่งในเพจมีสิทธิที่จะบอกความเป็นจริง....(รับได้ไหมท่านแอดมิน???)...  
ประกายไฟ
..นักสหภาพหลายๆคนมักมาสอบถามกับผู้เขียนบ่อยๆว่า ทำไมฝ่ายบุคคลมักมีทัศนะคติที่เลวร้ายกับสหภาพหรือที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะมหาวิทยาลัยสั่งสอนให้มองสหภาพในแง่ไม่ดีรึเปล่า แล้วถ้าไม่ใช่พวกนักศึกษาที่จบไปเป็นฝ่ายบุคคลในโรงงานนั้น เขามองสหภาพแรงงานอย่างไร เราจึงจัดทำบทสัมภาษณ์สั้นๆชิ้นนี้ขึ้นมาเพื่อให้รู้ว่าเขา (ว่าที่ฝ่ายบุคคล) คิดยังไงกับเรา(สหภาพแรงงาน)..
ประกายไฟ
..ทำไมคนส่วนใหญ่มักชอบพูดว่าประเทศสหรัฐอเมริกาทีระบบสวัสดิการที่ดีเยี่ยม จนเป็นประเทศในฝันของทุกคน เมื่อได้อ่านความเป็นจริงจากบทความชิ้นนี้แล้วคงทำให้เรามองสหรัฐอเมริกาในแง่ความเป็นจริงมากขึ้น และเลิกพูดมั่วๆซะที ว่าอเมริกามีสวัสดิการดีกว่าไทย
ประกายไฟ
...การที่รัฐบาลหลายชุดที่ผ่านมา รวมถึงรัฐบาลชุดนี้กำลังจะขึ้นภาษีทางอ้อมจาก 7 เป็น 10% นั้นถือว่าเป็นการเปิดศึกทางชนชั้นกับชนชั้นกรรมกรและคนระดับล่างของสังคมโดยตรง คือ โยนภาระก้อนโตให้คนระดับล่างเป็นผู้จ่าย โดยที่คนร่่ำรวยลอยตัว...
ประกายไฟ
...ดูๆไปแล้วดันไปสะดุดตรงเหตุการณ์ทางการเมืองในเวลานั้นที่ดันตรงกับช่วงของการเปลี่ยนแปลงการปกครองพอดี แหมมมมมมมมมมมม เล่นเล่าซะ คณะผู้ก่อการดูเป็นตัวร้ายไปถนัดตา แถม ร.7 ยังดูน่าสงสารจนเกินเหตุ “ตั้งแต่เกิดมาไอ้เคนยังไม่เห็นว่าในหลวงท่านจะทำอะไรไม่ดีเลย” “เหาจะกินกระบาล” 5555 เอาละวะ ...  
ประกายไฟ
อธิการ.มทส. ค้านนศ.แต่งกายข้ามเพศ เข้ารับปริญญาฯ อ้างเป็นบัณฑิตต้องมีคุณธรรม จริยธรรม รู้ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล โต้ประเทศนี้อ้างอะไรไม่ได้ ก็อ้างคุณธรรมจริยธรรมปลอมๆ กลวงๆ ย้ำคุณธรรมของบัณฑิตต้องมีจิตใจที่วิพากษ์วิจารณ์ต่อสิ่งที่เป็นอยู่
ประกายไฟ
ผมท้าเลยครับ หลังจากเผาอากง อากงจะถูกลืม..เว้นแต่เรียก กม. "ม.112" ว่า "อากง" เราจะไม่มีทางลืมอากง เพราะมันก็จะอยู่อย่างนี้อีกนานเท่านาน - ด้านเกษียร ตอบ ความทรงจำของสังคมไม่ได้เป็นเรื่องอัตโนมัติ หากต้องสร้างและผลิตซ้ำขึ้น แม้แต่การเอาชื่อไปวางไว้เป็นสมญาของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ก็ไม่ใช่หลักประกันว่าจะได้รับการจดจำจากสังคมหรือจำอย่างถูกต้องครบถ้วนแม่นยำ  
ประกายไฟ
 ..สิ่งที่เรียกว่า "ตลาดไม้โบราณ" ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่เกิดใหม่ในยุค ร.4 - ร.6 เป็นยุคที่ พ่อค้าจีน (โดยเฉพาะจีนแต้จิ๋ว) ที่ ได้เป็นเจ้าภาษีสินค้าต่างๆ เช่น มะพร้าว น้ำตาล อ้อย เป็นต้น จนเกิดชุมทางการค้ามากมายตามลุ่มแม่น้ำต่างๆ ทั้งนครชัยศรี ราชบุรี แม่กลอง มหาชัย สามชุก ฯลฯ (ดูดีๆ ทุกๆที่ๆเป็นตลาดไม้โบราณล้วนมีสถานที่ๆเรียกว่า “โรงเจ” และ “ศาลเจ้าทรงเก๋งจีน” แทบทุกๆแห่ง) ที่เรียกว่าสิ่งใหม่ๆสำหรับคววามเป็นไทยในยุคนั้น..
ประกายไฟ
สาระหลักที่น่าสนใจของเรื่องแม่นั้นอยู่ที่จิตสำนึกของปัจเจกชนที่ต่างจากปัจเจกชนในวรรณกรรมรัสเซียเล่มดังๆที่ส่วนใหญ่มุ่งเสนอการดิ้นรนเอาชีวิตของตัวเองให้รอดไปวันๆ เป็นปัจเจกชนที่กำหนดชะตาชีวิตของตัวเองเข้าเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง
ประกายไฟ
แนะสภาฯเดินหน้าวาระ3 มั่นใจผ่านฉลุย พร้อมด้วยสนทนากับนายซิม ไฮแอท เยาวชนผู้อดข้าวหน้าพรรคเพื่อขอให้นายอภิสิทธิ์ถอนคำพูดเหยียดคนเสื้อแดง
ประกายไฟ
"..คุณอาจจะคิดเอาง่ายๆว่าขอแค่เพียงคุณเป็นคนรักเจ้า คุณก็จะไม่ต้องเผชิญกับความบ้าคลั่งของพวกคลั่งเจ้า (ชี้แจงเพิ่มเติมไว้หน่อยว่าสำรับผม "รักเจ้า" กับ "คลั่งเจ้า" นี่ไม่เหมือนกัน) แต่จากกรณีคุณโกวิทก็เป็นอีกตัวอย่างรูปธรรมหนึ่งที่ทำให้เราเห็นได้ว่าไม่ว่าคุณจะเป็นใคร รักหรือไม่รักเจ้า คุณจะมีโอกาส/มีความเสี่ยงที่จะต้องเผชิญความบ้าคลั่งแบบนี้ได้ทั้งนั้น"