Skip to main content

เมธี สิงห์สู่ถ้ำ

กลุ่มปฏิบัติงานท้องถิ่นไร้พรมแดน

 


เมื่อวันที่ 1-2 พฤศจิกายน 2551 ที่ผ่านมา เครือข่ายองค์กรชุมชนรักเทือกเขาบรรทัด สมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านภาคใต้ ศูนย์กฎหมายและสิทธิชุมชนพื้นที่อันดามัน และเครือข่ายความร่วมมือฟื้นฟูชายฝั่นอันดามัน ได้จัดเวทีสัมมนาเรื่อง “ทางออกกรณียึดที่ดินชุมชนสัมปทานป่า-เลให้นายทุน” ที่ศูนย์การเรียนรู้ควนปริง ต.ควนปริง อ.เมือง จ.ตรัง มีผู้เข้าร่วมเวทีกว่า 150 คน


ดร.เพิ่มศักดิ์ มกราภิรมย์ อาจารย์จากศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้กล่าวถึงความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาที่ดินของหน่วยงานรัฐไว้อย่างน่าสนใจ เริ่มจากการพูดถึงภาพรวมสถานการณ์ที่ดินในประเทศไทยว่า


วิกฤติที่ดินเปลี่ยนมือจากชาวนาสู่นายทุน


ปัจจุบันปัญหาที่ดินอยู่ในสภาวะที่ค่อนข้างรุนแรงทั่วทุกภาค ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งในตอนนี้คือ ที่ดินส่วนใหญ่กำลังจะหลุดมือเกษตรกรผู้ผลิตรายย่อยไปอยู่ในมือของนายทุนทั้งในและนอกประเทศอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เมื่อที่ดินที่เคยเป็นของทุกคนในชุมชนในอดีต ที่ดินที่เคยถือกรรมสิทธิ์แบบรวมหมู่ ได้ค่อยๆ ถูกซอยเป็นแปลง แล้วเปลี่ยนมาเป็นการถือครองแบบปัจเจก


ต่อมาเมื่อกระแสโลกาภิวัตน์เริ่มเคลื่อนตัวเข้าสู่ชุมชน ประเทศไทยเริ่มดำเนินนโยบายในการพัฒนาประเทศตามตามแบบฉบับอเมริกา ไทยเริ่มใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ฉบับที่ 1 ในปี 2504 ส่งผลให้เกษตรกรโดยเฉพาะชาวนาภาคกลางต้องประสบกับภาวะล่มสลายจากการผลิตเพื่อตอบสนองกลไกตลาด ที่สุดชาวนาต้องกลายเป็นผู้ปลูกข้าวที่ต้องซื้อข้าวกิน และตกอยู่ในภาวะที่ต้องแบกรับภาระหนี้สิน ที่ดินจึงถูกทยอยขายเพื่อใช้หนี้ ดังนั้นจะเห็นว่า ณ ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่ที่ดินเริ่มเปลี่ยนมือไปอยู่กับนายทุนและเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในเวลาต่อมา


กระทั่งปัจจุบัน ที่ดินที่ยังเหลืออยู่ในมือเกษตรกรกำลังถูกรุกไล่อีกครั้งด้วยกระแสแห่งพืชพลังงาน นายทุนทั้งในและนอกประเทศเริ่มเข้าไปกว้านซื้อที่ดินเพื่อปลูกพืชพลังงาน ด้วยภาวะที่ราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ ประกอบกับที่ดินมีราคาที่สูงขึ้น เกษตรกรไม่มีทางเลือก ที่สุดก็ต้องทยอยขายที่ดินให้กับนายทุนอีกรอบ นี่คือบทสรุปคร่าวๆ ของสาเหตุที่ทำให้ที่ดินเปลี่ยนกรรมสิทธิ์การถือครองจากเกษตรกรสู่มือของนายทุน


ดร.เพิ่มศักดิ์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาจะเห็นว่านโยบายการจัดการที่ดินของภาครัฐได้ก่อให้เกิดปัญหาในหลายพื้นที่ของประเทศไทย กรณีที่เห็นได้อย่างชัดเจนที่ภาคอีสาน คือ กรณีการเปิดให้ต่างชาติสัมปทานทำ “โครงการเหมือนแร่โปแตซ” ที่จังหวัดอุดรธานี บทสรุปจากโครงการ ผู้ที่ได้รับประโยชน์เต็มๆ คือนายทุนต่างชาติ รองลงมาคือนายทุนไทยผู้เป็นเจ้าของบริษัทที่มีส่วนเกี่ยวข้องในโครงการ ขณะที่รัฐบาลไทยที่มุ่งหวังว่าจะได้รับผลประโยชน์อย่างมหาศาลจากการสัมปทานโครงการ กลับได้รับอานิสงฆ์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

 


สถานการณ์วิกฤตที่ดินของไทย ดร.เพิ่มศักดิ์ ได้สรุปว่ามีสาเหตุต่างๆ ดังนี้


1. รัฐมองที่ดินเป็นสินค้า ทำให้ที่ดิน-ป่า เป็นเรื่องของเศรษฐกิจ รัฐไม่ได้มีแนวคิดที่จะพัฒนาประเทศอย่างแท้จริง ดังจะเห็นได้จาก การเปิดสัมปทานในโครงการต่างๆ ให้กับนายทุน ที่ผ่านมา ถ้านายทุนบริษัทไหนจ่ายค่าตอบแทน หรือทำเงินเข้ากระเป๋าเจ้าหน้าที่รัฐมากที่สุด ก็จะเป็นผู้ที่ได้สัมปทานโครงการนั้นไป


2. นักการเมืองมีผลประโยชน์ทับซ้อนในที่ดิน หากมีการตรวจสอบข้อมูลจะเห็นว่า ทรัพย์สินของนักการเมืองส่วนใหญ่คือที่ดิน นักการเมืองบางคนมีที่ดินอยู่ในเขตเมืองย่านเศรษฐกิจที่สามารถปั่นราคาได้เป็นอย่างดี บางคนมีที่ดินตามที่ต่างๆ ทั่วประเทศถึง 60 – 70 แปลง บางคนมีที่ดินเป็น 100 แปลง ซึ่งส่วนใหญ่ที่ดินเหล่านี้นักการเมืองมักจะสะสมไว้สำหรับการดำเนินธุรกิจต่างๆ ผ่านการออกกฎหมายหรือนโยบายพัฒนาประเทศ


3. รัฐไม่ไว้วางใจในเรื่องการจัดการที่ดินโดยชุมชน โดยพยายามอ้างเหตุผลว่า ชาวบ้านต้องการกรรมสิทธิ์ในที่ดินเพื่อนำที่ดินไปขายทำกำไรเท่านั้น ด้วยทัศนะดังกล่าวจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมการผลักดันให้ชุมชนจัดการดูแลป่าหรือการผลักดันกฎหมายป่าชุมชนผ่านกลไกของรัฐจึงเป็นไปได้ยาก


4. กระแสอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่มองชุมชนแยกจากทรัพยากรท้องถิ่น เช่น กระแสสีเขียวที่มองชาวบ้านแยกจากป่า


5. กฎหมายที่ไม่เอื้อต่อชุมชน เช่น มติ ครม.30 มิถุนา ‘41 ที่ว่าด้วยเรื่องของการตรวจสอบพิสูจน์สิทธิ์ในที่ดินโดยใช้ภาพถ่ายทางอากาศจากหน่วยงานรัฐเป็นหลักโดยที่ชุมชนขาดการมีส่วนร่วม


ทางออกการแก้ไขปัญหาที่ดินระดับชุมชน


ดร
.เพิ่มศักดิ์ ได้เสนอ 4 แนวทางออกในการแก้ไขปัญหาที่ดินสำหรับชุมชนว่า 1. ต้องสลายอำนาจรัฐส่วนกลางลงให้ได้ แล้วเปลี่ยนมาใช้อำนาจ 3 หลักในการต่อสู้ คือ อย่างแรก ชุมชนต้องแสดงเจตจำนงค์ให้ชัดเจนโดยถือเอาเจตจำนงค์ของรัฐธรรมนูญเป็นหลัก อย่างที่สอง ใช้กฎเกณฑ์กติกาของชุมชนในการจัดการทรัพยากรเป็นตัวตั้ง อย่างที่สาม ใช้ข้อบัญญัติท้องถิ่นเป็นหลักในการต่อสู้


2.ผู้ที่ประสบปัญหาในที่ดิน ต้องไม่หนี ไม่ขาย หรือโยกย้ายออกจากที่ดินเดิม ผู้ที่อยู่ในเขตป่าต้องไม่รุกป่าใหม่ 3.เชื่อมประสานกับชุมชนหรือเครือข่ายอื่นๆ ให้เป็นเครือข่ายใหญ่เพื่อให้เกิดพลังในการต่อสู้ที่มากขึ้น 4.ชุมชนต้องมีการจัดการที่ดินในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อพิสูจน์ให้สาธารณะเห็นว่า ได้มีการใช้ประโยชน์จากผืนดินและที่ดินมีความสำคัญต่อชีวิตอย่างไร


ทางออกการแก้ไขปัญหาที่ดินระดับประเทศ

 
ดร
.เพิ่มศักดิ์ ได้ฉายภาพการจัดการที่ดินในเขตป่าในประเทศแถบยุโรปว่า ส่วนใหญ่ทุกประเทศมีแนวโน้มที่จะลดอำนาจรัฐการจัดการที่ดินลงเรื่อยๆ เช่น บางประเทศจะจัดการที่ดินแบบ 1:1:1 คือ รัฐจัดการประมาณ 33% ชุมชนจัดการประมาณ 33% ส่วนอีก 33% ให้เอกชนเป็นผู้จัดการ ในส่วนของประเทศไทย ดร.เพิ่มศักดิ์ เสนอให้มีการจัดการแบบ 40:40:20 คือ รัฐจัดการ 40% ชุมชนจัดการ 40% และเอกชน 20%


ในตอนท้าย ดร.เพิ่มศักดิ์ ได้สรุปประเด็นเรื่องทางออกในการจัดการที่ดินโดยชุมชนว่า ในปัจจุบันเกษตรกรในหลายพื้นที่ได้พยายามที่จะค้นหาวิธีการที่จะรักษาที่ดินไม่ให้หลุดมือ ที่ดินหลายแปลงได้ถูกปรับเปลี่ยนมาทำการผลิตเชิงบูรณาการ มีการทำการผลิตแบบผสมผสาน ปลูกพืชแบบหลากหลายในแปลงเดียว ทั้งนี้เพื่อเป็นความพยายามที่จะหาคำตอบให้ได้ว่า ทำอย่างไรจึงจะไม่ประสบปัญหาดังที่ผ่านมา ทำอย่างไรที่ดินที่ยังเหลืออยู่ในมือจะยังคงอยู่ในมือของตนเองต่อไป หลายชุมชนเริ่มพบทางออกและได้มีการขยายแนวคิดไปสู่ชุมชนอื่น นับว่าเป็นความสำเร็จอีกก้าวของการจัดการที่ดินอย่างยั่งยืนโดยชุมชนอย่างแท้จริง


บล็อกของ คนไร้ที่ดิน

คนไร้ที่ดิน
โดย...สุภาภรณ์ วรพรพรรณ, ระวี ถาวร และ สมศักดิ์ สุขวงศ์   เส้นทางเข้าสู่บ้านตระ 29 มกราคม 2553 เดือนเต็มดวงในค่ำคืนนี้ อยู่ใกล้แทบจะเอามือคว้าได้ ฉันเข้านอนก่อนเที่ยงคืนเล็กน้อย เมื่อหัวค่ำพี่น้องชาวบ้านตระได้เล่าประวัติความเป็นมาของหมู่บ้านและบรรพบุรุษของพวกเขา ฉันหลับตานอนเท่าไรก็ไม่ค่อยจะหลับ ด้วยจิตใจจินตนาการถึงหนังสือของบริก แฮม ยัง ที่เขียนเรื่องหมู่บ้านโบราณที่โลกลืมของอินเดียแดงเผ่าอินคาท่ามกลางป่าดงดิบบนเทือกเขาแอนดีส (The Lost City of Incas)
คนไร้ที่ดิน
กว่าจะปรากฏเป็นรูปการณ์การดำรงอยู่และการดำเนินไปของชีวิตแห่งมวลมนุษยชาติในยุคปัจจุบันได้นั้น... ได้ผ่านความยากลำบากมากด้วยกัน ด้วยการร่วมกันดิ้นรนและต่อสู้อย่างบากบั่น ผ่านห้วงเวลา ผ่านการเปลี่ยนแปลงแห่งยุคสมัยของสังคม จนผนึกแน่นเป็นสัญชาตญาณห่อหุ้มอยู่ด้วยจิตวิญญาณอันลึกซึ้ง ละเมียดละไมกว่าสรรพสัตว์ทั้งหลาย
คนไร้ที่ดิน
อารีวรรณ คูสันเทียะ กลุ่มปฏิบัติการท้องถิ่นไร้พรมแดน     นับตั้งแต่เกิดวิกฤติด้านการเงิน ประเด็นเรื่องความมั่นคงทางอาหาร ถูกทำให้ผิดเพี้ยนไป เมื่อพิจารณาจากรายงานข่าวของสื่อต่างๆที่ออกมา เช่น “เกาหลีใต้กำลังเช่าที่ดินครึ่งหนึ่งของมาดากัสการ์ เพื่อผลิตอาหาร” (อันที่จริงแล้วไม่ใช่รัฐบาลแต่เป็นของบริษัทแดวู) ในขณะที่ประชาชนจำนวนมากมักจะให้ความสนใจว่าผู้ที่มีบทบาทนำในการกว้านซื้อที่ดินเพื่อผลิตอาหารในระดับโลกนั้นเป็นประเทศ หรือรัฐบาลไหน ความสนใจส่วนใหญ่จะพุ่งเป้าไปที่การเกี่ยวพันของรัฐบาล เช่น ซาอุดิอาระเบีย จีน หรือเกาหลีใต้ แท้ที่จริงในขณะที่รัฐบาลเป็นผู้อำนวยการด้านการเจรจา…
คนไร้ที่ดิน
ศยามล ไกยูรวงศ์ โครงการเสริมสร้างจิตสำนึกนิเวศวิทยา     ประเด็น “โลกร้อน” เป็นเรื่องใหญ่ที่ใกล้ตัว ถ้าโลกร้อนขึ้นอีก 2 – 4 องศาเซลเซียส กล่าวกันว่ามนุษย์ทุกคนได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง แต่ที่แน่ๆคนจนและผู้ด้อยโอกาสได้รับผลกระทบมากที่สุด และไม่มีทางเลือกใดๆต่อการดำรงชีวิตบนโลกใบนี้ และประเด็นนี้เองที่ “คณะทำงานโลกเย็นที่เป็นธรรม” มีข้อเสนอต่อการเจรจาเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของภาคีสมาชิกอนุสัญญาสหประชาชาติ ในการประชุมที่กรุงเทพฯ และที่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ว่า
คนไร้ที่ดิน
รุ่งเช้าสายหมอกยังบ่จาง เด็กๆ จับกลุ่มเดินไปโรงเรียน หนุ่มสาวแบกตะกร้าหนักอึ้งกลับจากไร่ ผักกาดเขียวถูกเก็บมาสุมไว้ท้ายกระบะรถเตรียมส่งขายในเมือง ชีวิตของชาวกะเหรี่ยงในหมู่บ้านหนองเต่ายังดำเนินเช่นทุกวัน  เพียงแต่วันนี้เป็นวันพิเศษสำหรับชาวบ้านหลายคน เพราะบ้านอยู่อู่นอนกำลังจะได้เอกสารสิทธิ์หลังรอคอยมาเกือบ  30 ปี
คนไร้ที่ดิน
นักข่าวพลเมือง เทือกเขาบรรทัดหวัดดีจ้า, เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาได้ไปเที่ยวบ้านไร่เหนือ ต.ในเตา อ.ห้วยยอด จ.ตรัง หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ในเขตเทือกเขาบรรทัดรอยต่อระหว่างพัทลุงและนครศรีธรรมราช บ้านไร่เหนือก่อตั้งมาหลายร้อยปีแล้ว จากหลักฐานบ่งชี้คือ เครื่องใช้โบราณที่เป็นกระเบื้องและดินเผา โครงกระดูกที่ขุดพบ นอกจากนั้นยังมีสวนผลไม้โบราณ เช่น ทุเรียน มัดคุด มะปริง มะปราง ลางสาด เป็นต้น
คนไร้ที่ดิน
หวัดดีจ้า, 2-3 วันที่ผ่านมาได้พาทีมงานที่จะมาช่วยทำสารคดี หนังสั้น และพ็อคเก็ตบุค  ไปตะลอนทัวร์ชิมผลไม้ ในพื้นที่ทำงาน 3 หมู่บ้านของเครือข่ายองค์กรชุมชนรักเทือกเขาบรรทัด เลยเก็บมุมงามๆ และอิ่มอกอิ่มใจมาฝาก ตั้งใจยั่วน้ำลายทุกคน อยากชวนไปเก็บผลไม้กินด้วยตัวเองจ้า
คนไร้ที่ดิน
การที่สังคมถูกปล่อยปละละเลยให้ดำเนินไปตามกระแสโลกาภิวัฒน์ โดยคาดการณ์ว่าการพัฒนาดังกล่าวจะสร้างความมั่นคงและมั่งคั่งให้กับสังคม ผู้คนมีอาชีพที่หลากหลายมีรายได้สูง ก่อเกิดการสร้างงาน สร้างสังคม สร้างชาติ และหล่อเลี้ยงระบบให้เจริญรุ่งเรืองยาวนาน โดยเน้นการผลิตที่ตอบสนองความต้องการของตลาดเพื่อสร้างรายได้และชี้วัดความสุขความเข็มแข้งมั่นคงของสังคมด้วยเงินตราและมูลค่าสมมุติต่างๆ
คนไร้ที่ดิน
คณะทำงานศึกษาแนวทางการกระจายการถือครองที่ดินฯ ที่ดินเป็นต้นทุนทางสังคมที่มีความสำคัญขั้นพื้นฐานต่อสิทธิในที่อยู่อาศัยและสิทธิในการทำกินอันมั่นคงของประชาชนและเกษตรกร  ที่ดินเป็นฐานทรัพยากรที่สำคัญของการเป็นปัจจัยสี่ต่อการดำรงชีวิตของมนุษยชาติ เป็นฐานความมั่นคงทางอาหารที่สำคัญ  เมื่อที่ดินในประเทศไทยนั้นไม่สามารถงอกเงยขึ้นมาได้  หากไม่มีการกระจายการถือครองที่ดินให้กับประชาชนอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม   ก็จะนำไปสู่ความขัดแย้งและเป็นปัญหาความมั่นคงของชาติ 
คนไร้ที่ดิน
  นรัญกร กลวัชรกลุ่มปฏิบัติงานท้องถิ่นไร้พรมแดน  การหยิบยกประเด็นปัญหาที่ดินขึ้นมาพูดอีกครั้งของรัฐบาลคุณอภิสิทธิ์ โดยเฉพาะเรื่องโฉนดชุมชน และภาษีที่ดิน ได้จุดชนวนการถกเถียงในประเด็นปัญหาความเหลื่อมล้ำในการถือครองที่ดิน และการกระจายการถือครองที่ดินที่เป็นธรรมขึ้นมาอีกครั้งในสังคมไทย ไม่ว่าประเด็นปัญหาที่ดินจะเป็นประเด็นปัญหาที่รัฐบาลคุณอภิสิทธิ์ต้องการผลักดันแก้ไขอย่างต่อเนื่อง หรือเป็นเพียงการขายฝันสร้างภาพพจน์รัฐบาลที่เป็นธรรมก็ตาม นี่ก็ถือเป็นโอกาสอันดี ที่สังคมจะได้ทำความเข้าใจในประเด็นปัญหาที่ดินทำกินในภาคชนบท อันเป็นปัญหาพื้นฐานของสังคมไทย…
คนไร้ที่ดิน
โดย...ลูกสาวชาวเล  ถ้าเอ่ยถึงที่ดินริมทะเลแล้วหลายคนคงอยากมีและอยากได้ไว้ครอบครองสักผืนหนึ่ง พื้นที่ชายฝั่งภาคใต้ของประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นพื้นที่หมู่บ้านริมทะเลหรือบนเกาะแก่งน้อยใหญ่ของไทยที่เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวประมงพื้นบ้านถูกขายออกไปสู่มือนายทุนจำนวนมาก และส่วนใหญ่นายหน้าก็ไม่ใช่ใครที่ไหนมักจะเป็นคนในพื้นที่นั้นเอง ถ้าเราลองสอบถามผู้คนในหมู่บ้านริมทะเลว่ายังเหลือที่ดินเป็นกรรมสิทธิครอบครองอยู่อีกกี่ครอบครัว คำตอบที่ได้ทำให้รู้สึกหนักใจได้มากทีเดียว ส่วนใหญ่เหลืออยู่เพียงร้อยละ ๒๐ - ๓๐ เท่านั้นเอง ที่พอมีเหลืออยู่ก็เพียงแค่พื้นที่ปลูกบ้าน…
คนไร้ที่ดิน
เมธี สิงห์สู่ถ้ำ กองเลขาเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย(คปท.) นโยบายแจก 2 พันบาทเป็นมาตรการที่เชื่อว่าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศของรัฐบาล ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จากการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ โดยมีนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน หลังการประชุมได้ข้อสรุปว่า ผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับแจก 2 พันบาท ต้องมีคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่งใน 3 กลุ่มคนนี้ คือ กลุ่มแรก คือ ผู้ที่อยู่ในระบบประกันสังคม ซึ่งหมายถึง กลุ่มคนที่อยู่ในระบบประกันสังคมปกติ หรือออกจากงานแต่ยังจ่ายสมทบต่อเนื่องด้วยตัวเอง ตามมาตรา 39 มีประมาณ 8 ล้านคน กลุ่มที่สอง คือ ผู้ที่เป็นบุคลากรของภาครัฐ…